ก่อนอื่นผมกราบขออภัยต่อผู้ที่เชื่อคำเชิญชวนของผมให้ซื้อ “สตาร์ซ็อคเกอร์” เพื่ออ่านเรื่องมุ้ย ซึ่งนับจากวันนั้นเจมส์ ลา ลีกา เขียนเรื่องที่เป็นประโยชน์แค่สองวันเอง
รู้สึกผิดนะที่ทำชาวบ้านเสียเงินโดยใช่เหตุ
ถ้าอยากอ่านสาระให้ไปที่ความเห็น 2 เลย อันนี้ขอย้อนความไปดูเรื่องที่สโมสรเมืองทองก่อเรื่องไว้อีกแล้ว
การที่เมืองทองนำ “มุ้ย” ไปทดสอบฝีเท้า (หรือร่วมซ้อม) นั้นเป็นเรื่องดีแก่วงการฟุตบอลไทยอย่างมาก และสมควรได้รับคำชม ถ้าสุดท้ายเมืองทองไม่ดีแตกในตอนจบ
เรื่องที่เมืองทองทำไม่ถูกมีอยู่สามเรื่องจากสองเหตุการณ์
เรื่องที่ 1 กั๊กตัวมุ้ยอยู่สเปน ไม่ยอมให้กลับเพราะจะให้สื่อชื่อดังสัมภาษณ์
ข่าวจากโกลดอทคอม
เดิมที "มุ้ย" จะเดินทางถึงประเทศไทยวันนี้ (29 ม.ค.56) เพื่อช่วยทัพ "ช้างศึก" เตรียมทีมสำหรับลงแข่งขันฟุตบอลเอเชียน คัพ 2015 รอบคัดเลือก นัดแรกกับ ทีมชาติคูเวต วันที่ 6 ก.พ.นี้ อย่างไรก็ตาม ประสิทธิ์ แดงดา พ่อของดาวยิงหมายเลขหนึ่งของไทยเปิดเผยว่าลูกชายของเขาจะอยู่ซ้อมกับ "ตราหมี"อีก 2-3 วัน
"เดิมทีผมอยู่ที่กรุงเทพฯ และก็เตรียมที่จะไปรับลูกชายที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ ทางสโมสร เอสซีจี เมืองทองฯ ได้โทรมาบอกว่า ทางยอดทีมจากสเปน ต้องการให้ “มุ้ย” อยู่ต่ออีก"
คำอธิบาย
มุ้ยซ้อมเสร็จตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2556 แล้ว และสมควรกลับมาถึงเมืองไทยตั้งแต่วันที่ 29 หรือ 30 มกราคม 2556 เพื่อพักผ่อนสัก 1-2 วัน ก่อนเข้าไปซ้อมกับทีมชาติเพื่อลงเล่นในเกมที่เจอกับคูเวต
แต่นี้ดันโทรไปโกหกพ่อมุ้ยว่าตราหมีขอให้อยู่ต่อ เพียงแค่ให้สื่อมาทำข่าวมุ้ยต่ออีกสองวัน สุดท้ายเลยต้องกลับมาถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 แล้วเข้าแค้มป์ทีมชาติต่อเลยโดยไม่ได้พักจริงๆจังๆจากการเดินทางไกล
ตรงนี้มันสมควรไหม? เกมทีมชาตินัดสำคัญรออยู่นะยังจะห่วงการตลาดอีก
เรื่องที่ 2 โกหกพ่อมุ้ย
จากข่าวข้างบน ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่นะครับ ทำไมต้องโกหกท่านด้วย บอกท่านไปอย่างอื่นก็ได้ เช่น กลับช้าเพราะหาตั๋วไม่ได้ตามที่เขียนไว้ในข่าวของเจมส์ ลาลีกาที่บอกว่ารอการยืนยันตั๋วอยู่ หรือบอกไปตรงๆเลยก็ได้ว่ามุ้ยต้องไปออกสื่อก่อน เดึ๋ยวค่อยกลับ
ข่าววันต่อมาที่ความจริงปรากฏว่ามุ้ยไม่ได้ลงซ้อมแล้ว มันก็กลายเป็นพ่อมุ้ยพูดปดไปแทน ดีที่ไม่กลายเป็นเหยื่อของพวกปากหอยปากปู
การโกหกแบบนี้เหมือนกับหลอกใช้พ่อมุ้ยขายข่าวเลยนะครับ เพราะยังไงนักข่าวต้องโทรไปถามว่ามุ้ยจะกลับถึงกี่โมง แล้วจะไปรับไหมจากคุณพ่อของมุ้ยนะครับ
เรื่องนี้มันมากเกินไปแล้ว จะทำการตลาดขายข่าวก็ให้มันมีขอบเขตบ้าง
[พิเศษ] สิ่งที่ได้จากการที่ “มุ้ย” ไปฝึกร่วมกับทีมแอตเลติโก มาดริด
รู้สึกผิดนะที่ทำชาวบ้านเสียเงินโดยใช่เหตุ
ถ้าอยากอ่านสาระให้ไปที่ความเห็น 2 เลย อันนี้ขอย้อนความไปดูเรื่องที่สโมสรเมืองทองก่อเรื่องไว้อีกแล้ว
การที่เมืองทองนำ “มุ้ย” ไปทดสอบฝีเท้า (หรือร่วมซ้อม) นั้นเป็นเรื่องดีแก่วงการฟุตบอลไทยอย่างมาก และสมควรได้รับคำชม ถ้าสุดท้ายเมืองทองไม่ดีแตกในตอนจบ
เรื่องที่เมืองทองทำไม่ถูกมีอยู่สามเรื่องจากสองเหตุการณ์
เรื่องที่ 1 กั๊กตัวมุ้ยอยู่สเปน ไม่ยอมให้กลับเพราะจะให้สื่อชื่อดังสัมภาษณ์
ข่าวจากโกลดอทคอม
เดิมที "มุ้ย" จะเดินทางถึงประเทศไทยวันนี้ (29 ม.ค.56) เพื่อช่วยทัพ "ช้างศึก" เตรียมทีมสำหรับลงแข่งขันฟุตบอลเอเชียน คัพ 2015 รอบคัดเลือก นัดแรกกับ ทีมชาติคูเวต วันที่ 6 ก.พ.นี้ อย่างไรก็ตาม ประสิทธิ์ แดงดา พ่อของดาวยิงหมายเลขหนึ่งของไทยเปิดเผยว่าลูกชายของเขาจะอยู่ซ้อมกับ "ตราหมี"อีก 2-3 วัน
"เดิมทีผมอยู่ที่กรุงเทพฯ และก็เตรียมที่จะไปรับลูกชายที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ ทางสโมสร เอสซีจี เมืองทองฯ ได้โทรมาบอกว่า ทางยอดทีมจากสเปน ต้องการให้ “มุ้ย” อยู่ต่ออีก"
คำอธิบาย
มุ้ยซ้อมเสร็จตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2556 แล้ว และสมควรกลับมาถึงเมืองไทยตั้งแต่วันที่ 29 หรือ 30 มกราคม 2556 เพื่อพักผ่อนสัก 1-2 วัน ก่อนเข้าไปซ้อมกับทีมชาติเพื่อลงเล่นในเกมที่เจอกับคูเวต
แต่นี้ดันโทรไปโกหกพ่อมุ้ยว่าตราหมีขอให้อยู่ต่อ เพียงแค่ให้สื่อมาทำข่าวมุ้ยต่ออีกสองวัน สุดท้ายเลยต้องกลับมาถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 แล้วเข้าแค้มป์ทีมชาติต่อเลยโดยไม่ได้พักจริงๆจังๆจากการเดินทางไกล
ตรงนี้มันสมควรไหม? เกมทีมชาตินัดสำคัญรออยู่นะยังจะห่วงการตลาดอีก
เรื่องที่ 2 โกหกพ่อมุ้ย
จากข่าวข้างบน ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่นะครับ ทำไมต้องโกหกท่านด้วย บอกท่านไปอย่างอื่นก็ได้ เช่น กลับช้าเพราะหาตั๋วไม่ได้ตามที่เขียนไว้ในข่าวของเจมส์ ลาลีกาที่บอกว่ารอการยืนยันตั๋วอยู่ หรือบอกไปตรงๆเลยก็ได้ว่ามุ้ยต้องไปออกสื่อก่อน เดึ๋ยวค่อยกลับ
ข่าววันต่อมาที่ความจริงปรากฏว่ามุ้ยไม่ได้ลงซ้อมแล้ว มันก็กลายเป็นพ่อมุ้ยพูดปดไปแทน ดีที่ไม่กลายเป็นเหยื่อของพวกปากหอยปากปู
การโกหกแบบนี้เหมือนกับหลอกใช้พ่อมุ้ยขายข่าวเลยนะครับ เพราะยังไงนักข่าวต้องโทรไปถามว่ามุ้ยจะกลับถึงกี่โมง แล้วจะไปรับไหมจากคุณพ่อของมุ้ยนะครับ
เรื่องนี้มันมากเกินไปแล้ว จะทำการตลาดขายข่าวก็ให้มันมีขอบเขตบ้าง