เราจะวางชีวิตเราไว้กับคนแบบนี้จริงๆหรือ เราควรทำยังไงดี

ออกตัวไว้ก่อนว่าเรื่องอาจจะยาวนะคะ ใครขี้เกียจอ่านข้ามไปได้เลยค่ะ
เราคบกับแฟนมา 1ปี อายุเราห่างกัน 7ปี เขา 32 เรา 26 เขารับราชการ เราทำงานบ. ซื้อเรือนแถมชานค่ะ เขามีลูกแล้ว 8ขวบกับแฟนคนแรกและเลิกไปนานแล้ว แม่เขาเป็นคนเลี้ยงให้ เคยจดทะเบียนมาแล้วกับแฟนคนที่2 แต่เราก็ไม่ได้ติดใจอะไร สมัยนี้แล้ว แค่นี้คงเป็นเรื่องธรรมดาแล้ว แรกๆดีทุกอย่างเพราะเรายังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของเขา บอกตรงๆว่าเขาเป็นคนเอาใจผู้หญิงเก่ง และเหมือนจะสปอร์ต วันวาเลนไทน์ปีที่แล้วเราเริ่มคบกัน เขาเซอร์ไพรส์ด้วยการเอาดอกไม้ไปให้ถึงที่ทำงาน เราก็ตัดสินใจคบกับเขา บอกตรงๆว่าเราดูเขาไม่นานก่อนจะตัดสินใจคบเป็นแฟน เพราะตอนนั้นไม่ได้มีใครและคิดว่าลองคบดูคงไม่เสียหายอะไร เขาไปรับเราตอนเลิกงานทุกวัน อย่างที่บอกค่ะแรกๆเขาสปอร์ตมาก คบไม่ถึง 3เดือนเขาก็ซื้อสร้อยและแหวนให้ และพูด(เหมือนเพ้อ)ว่าอยากแต่งงานกับเรา เราไม่ได้อยากได้นะคะสิ่งที่เขาให้แต่ในเมื่อเขาให้เราก็เก็บไว้ เป็นคนไม่ชอบใส่สร้อย ตอนนั้นที่ดูๆเขาเป็นคนใช้เงินเก่ง เราก็ถามตรงๆว่าเอาเงินมาจากไหนอ่ะ เขาก็บอกว่าเงินเก็บเขาอ่ะแหละที่เอามาซื้อไม่ต้องห่วงหรอก แต่เขาก็เคยเล่าให้ฟังว่านายเขาทำบัตรเสริมให้แต่เขาก็จ่ายตรงตลอด

ที่นี่ขอเบรคเรื่องบัตรเครดิตไว้ตรงนี้แปป จะขอเล่าเรื่องหนี้สินของเขาก่อนก่อนที่จะมาคบกับเรา...เวลาคนอื่นยืมเงินแล้วไม่ค่อยปฏิเสธ เหตุผลคือ ให้ยืมเพราะหวังผลค่ะ คิดดอกเบี้ย เคยให้เพื่อนที่งานยืม 12,000 แต่พอจะทวงเขากลับไม่มีคืน ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย อีกรายก็เพื่อนที่ทำงานยืมไป 8000 ไม่มีไม่หนี้และบอกจะจ่ายให้ตอนเงินปันผลออมสินออก (ตอนนั้นนับไปอีกครึ่งปีค่ะ) อีกรายเป็นแฟนเพื่อน เอาบีบีกะนาฬิกาลาคอสมาจำไว้เอาตังไป 10,000 พอทวงคืนมา6,000ส่วนที่เหลือไม่จ่ายค่ะ นัดเป็น100ครั้งไม่เคยมา จนทนไม่ไหวส่งsmsไปด่า และเรานี่แหละค่ะที่เป็นคนออกโรงและเจ็บใจแทน สุดท้าย4,000ได้แค่นาฬิกาที่เธอบอกว่ามีคุณค่าทางจิตใจและบีบีเน่าๆ1เครื่อง

เรื่องต่อมาอยากเล่าคือแฟนค่ะ แฟนคนแรกมีลูกด้วยกันแบบไม่ได้ตั้งใจ และเลิกเพราะผู้หญิงมีคนอื่นตั้งแต่ลูกได้ไม่ถึง 2ขวบ และหนีไปทิ้งลูกไว้ให้เขาเลี้ยง เลี้ยงได้ถึงสามสี่ขวบก็ให้แม่ช่วยเลี้ยงเพราะไม่มีเวลาดูแลลูก ต้องไปสอนเปียโนตอนเย็นทุกวัน ส่วนแฟนคนที่ 2 จดทะเบียนสมรสด้วย เธอก็มีลูกติดมาเหมือนกัน เขาก็ไปกู้สหกรณ์ตามสิทธิ์ข้าราชการและเอารถยนต์ไปเข้ารีไฟแนนต์เพื่อนำเงินไปสร้างบ้านให้แฟนคนที่2 แต่ก็อยู่กันได้แค่5ปีและเลิกกันเพราะหลายเรื่อง และแบ่งสินสมรส สรุปสินสมรสผู้หญิงต้องคืนให้เขา 3แสน ภายในเวลา3 ปี ด้วยความเป็นข้าราชการเก่าแม่เขาก็ให้ไปเซ็นเอกสารที่สนง.เขตเป็นหลักฐานเลย แต่จนป่านนี้ผ่านไปเกือบ2ปี ยังได้ไม่ถึง 2หมื่น

บอกตรงๆว่าตอนแรกที่คบกับแรกๆเราไม่เคยรู้รายรับรายจ่ายของเขา ไม่กล้าถามว่าหนี้สินเท่าไหร่ รายจ่ายอะไรบ้างใน1 เดือน จนรู้ 2อย่างข้างต้นที่เล่ามาละเรื่องเงินที่คนอื่นยืมกับเรื่องเงินสินสมรสแฟนเก่า แต่ก็ยังไม่กล้าถามว่าเดือนนึงมีรายได้เท่าไหร่ รู้แต่ว่ารายได้หลักเขามาจากทำงานราชการ แต่หักกู้สหกรณ์ที่ไปทำบ้านแฟนคนที่2 และนั่นนี่โน่นก็เหลือเดือนละไม่กี่พัน รายได้ส่วนที่ 2 มาจากการเป็นครูสอนเปียโนที่รร.สอนดนตรีมีชื่อแห่งนึงแถววัชรพล รายได้ส่วนที่3 คือเล่นดนตรีตามโอกาสต่างๆไปแทนเพื่อนบ้าง งานแต่ง งานเลี้ยงแล้วแต่เขาจะติดต่อมาจ้างมา ส่วนรายจ่ายที่หนักๆเลยก็คือผ่อนคอนโด และรถยนต์ที่เอาไปรีไฟแนนต์เพื่อสร้างบ้านให้แฟนคนที่2 นอกนั้นก็บัตรเครดิต... ทีนี้พอเริ่มคบไปได้ 4-5เดือน ด้วยความที่ว่าเราเริ่มไว้ใจเขาละ เราก็บอกเขาว่าเราไม่อยากให้เขาใช้บัตรนายเขาแล้ว เด่วเราจะทำบัตรเสริมจากบัตรเครดิตเราให้ จะได้ไม่ต้องไปวุ่นวายกับบัตรนายเขาอีก ยอดค้างในบัตรนายเขาเท่าไหร่เราไม่เคยถาม เขาบอกแต่ว่าจ่ายเกือบหมดแล้ว แต่นี่คงเป็นการตัดสินใจผิดของเราเอง

ก่อนที่จะเกิดเรื่องกับบัตรเครดิตของเรานี้ เขาบอกเราว่าเขาจะเอาสร้อยกับแหวนที่ซื้อให้เราไปให้แม่เขา แม่เขาบอกว่าจะเพิ่มให้ แม่รู้จักเจ้าของร้านทองที่เยาวราช ได้ราคาถูกกว่าร้านอื่น เราก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร เพราะไม่ค่อยได้ใส่อยู่แล้ว และเวลาก็ผ่านไปจนเราเกือบจะลืมแต่ก็ยังไม่ได้ถามเขาว่าแม่เอาไปเพิ่มให้ยัง เมื่อไหร่จะเอามาคืน

ทีนี้เราทำบัตรเสริมให้เขาใช้ ภายใต้วงเงินในบัตรเท่าๆกับเราคือบัตรหลัก แรกๆเขาจะใช้อะไรก็ขอเราก่อนทุกครั้ง เค้าซื้ออันนั้น อันนี้นะ บางทีเราก็ไม่อยากให้ซื้อนะแต่เขาก็บอกจำเป็น ทั้งๆที่บางทีซื้อมาเห็นใช้ไม่ถึง 3ครั้งเราก็ไม่อยากขัด จนเวลาผ่านไปเราจะใช้บ้างเพื่อจ่ายค่าโทรศัพท์เรา ปรากฎมันไม่อนุมัติ เลยโทรถามทางแบงค์ว่าทำไมถึงใช้ไม่ได้ทั้งๆที่ใช้ไปไม่เท่าไหร่ และขอทราบว่าแต่ละรายการอะไรบ้าง ถึงกับงงค่ะตอนแรก เพราะแบงค์บอกมีกดเงินสดจากเอทีเอ็มด้วย 2,000 2ครั้ง(ถ้าจำไม่ผิด) และถอนที่เคาเตอร์ธ.อีกจำนวนหนึ่งรวมทั้งสิ้น 12,000 เวลา6โมงเช้า งงค่ะ 6โมงเช้าเราจะไปกดที่ไหน ยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ แบงค์ก็บอกว่าลองเช็คคนใกล้ตัวดูก่อนไหมคะ เราก็ยังแอบฉุนทางแบงค์ว่าจะเป็นไปได้ไง และส่งเรื่องขอให้เขาตรวจสอบ ก่อนโทรไปแบงค์เราก็โทรไปถามแฟน เขาปฏิเสธบอกว่าไม่มีนะ จนที่สุดแล้วกว่าเขาจะยอมเราว่าเอาบัตรเอาไปกดเงินมา ง่ายๆคือขโมยบัตรเอาไปกดเงินสดมาค่ะ เราเสียใจมากตอนนั้น ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้ ตอนนั้นในใจคือจะเลิกกับเขาอย่างเดียวค่ะ เขาก็ได้แต่ขอโทษร้องไห้เสียใจ แต่เราอยู่ที่ทำงานเขาโทรมาก็ไม่อยากรับ และเราเลยตัดสินใจโทรไปหาแม่เขา เล่าให้แม่เขาฟังและเลยถามเรื่องสร้อยกับแหวนที่เขาบอกว่าเอาไปให้แม่เขาเพิ่ม ปรากฎว่าเสียใจรอบ2 ค่ะ แม่เขาถามเรากลับมาว่าเพิ่มให้เนื่องในโอกาสอะไร ถึงบางอ้อเลยค่ะว่าคงไม่พ้นโรงรับจำนำเสียแล้ว และแม่เขาก็เหมือนอัดอั้นดันใจพูดทุกอย่างเกี่ยวกับลูกชายของเขาให้เราฟัง ว่าลูกชาย8ขวบของเราเขาก็แทบจะไม่เคยมาดูแล เลี้ยงมาถึงแค่3ขวบถ้าไม่มีแม่ลูกเขาก็ไม่รู้จะเป็นยังไง (แม่เขาเกษียณราชการแล้ว และพอมีบำนาญที่จะเลี้ยงหลานได้) เราฟังไปก็ผิดหวังในใจไปเรื่ิอยๆ จนกลับมาที่ห้องก็ตัดสินใจว่ายังไงก็ต้องเลิก เราไม่คุยกับเขาเขาก็ขอนอนกอดเราเป็นคืนสุดท้าย เรานอนไม่หลับนะ และรู้ว่าเขาก็นอนไม่หลับได้ยินเสียงเขานอนร้องไห้ทั้งคืนตื่นเช้ามาปากเป็นร้อนในเต็มไปหมด ไม่รู้เหมือนกันว่าผีห่าซาตานตัวไหนดลใจให้เราใจอ่อนสงสารเขา สุดท้ายก็ไม่ได้้เลิก เขาก็สัญญาว่าจะไม่มีอีกแล้ว เรายังไม่อยากเชื่อก็บอกเลยว่าให้เวลา 6เดือน ใช้หนี้ให้หมด....


หลังจากนั้นไม่ถึง 2เดือน มีเพื่อนของหัวหน้าที่ทำงานเรา มาขอให้เราทำบัตรเครดิต SCB ช่วยเขาทำยอด ตอนแรกไม่อยากจะทำเพราะไม่จำเป็น แต่เขาขอแค่ทำเฉพาะจะใช้ไม่ใช้ก็ได้ ปรากฎว่าอนุมัติ แต่คราวนี้มันก็มากับปัญหาครั้งใหม่ เมื่อบัตรเครดิตมาพร้อมกับบัตร speedy cash หรือบัตรกดเงินสดพร้อมโอน ทั้งๆที่ตอนสมัครไม่ได้อยากจะให้มันโอนมาเลย เงิน 35,000 เข้ามาอยู่ในบัญชีธ.เราทันใด เราสงสัยอยู่เกือบ 2อาทิตย์จนตรวจสอบรู้ว่าเป็นเงินจากบัตรกดเงินสดพร้อมโอน ก็เลยคิดว่าไม่ได้ใช้อยู่แล้วจะกดไปจ่ายคืนอาจจะเสียค่าธรรมเนียมแค่ 10 20บาท แต่เรื่องมันก็เกิดขึ้นซะก่อนแฟนเรามาขอยืมเพื่อเอาไปหมุนซื้อเปียโนให้ลูกศิษย์ 18000 และจะเอาไปถอนสร้อยกับแหวนออกมา ไม่อยากให้เลยค่ะ และจุดประสงค์เขาเหมือนเดิมค่ะ บอกว่าจะได้กำไรอีก 6000 จะได้เอาไปจ่ายหนี้บัตรเครดิตใบแรกของเราไง เราเลยบอกว่าสร้อยกับแหวนเราไม่ใส่หรอก เอาออกมาแล้วเอาไปขายใช้หนี้ซะ และที่สุดแล้วเราก็ต้องยอมให้เขายืมไปอีก 18,000 ค่ะ ไม่รู้ว่าไปหมุนซื้อเปียโนจริงไหม เคยถามหาใบกำกับภาษีก็บอกเด่วเอามาให้ดูละก็เงียบไปไม่เคยเห็นคงคิดว่าเราลืม เราก็ไม่สบายใจนะก็ถามเขาตลอดว่า 18,000จะคืนเมื่อไหร่ เขาก็บอกวันที่นี้ๆ เขาก็หาว่าเราไม่สบายใจจะให้เขาแบบนี้วันหลังเขาก็จะไม่พึ่งพาเราอีกแล้ว เห็นว่าเป็นแฟนมีอะไรก็บอกแล้ว เราก็ถามทุกวันค่ะ18,000 จนวันที่เขาบอกว่าจะคืนเขาก็เอามาก็ยังไม่คืนค่ะ บอกว่าเงิน18,000ที่บอกว่าจะเอาไปหมุนซื้อเปียโนให้เด็ก น้องสาวเขายืมไปก่อน อ่าว แล้วยังไงอ่ะทำไมพึ่งมาบอก ก็บอกว่าเด่วจะตามที่น้องสาวให้ เราก็ยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไหร่ เพราะน้องสาวเขามีทั้งรร.สอนดนตรีเล็กๆของตนเอง ไม่น่าจะต้องยืมเงินเขา มาถึงตรงนี้คงรู้นะคะว่าความไว้ใจมันลางเลือนมาก หลังจากนั้นเขาก็เอ่ยปากบอกว่าบัตรกดเงินสดนี้เขาขอรับผิดชอบได้ไหม จะเป็นหนี้เท่าไหร่เด่วเขารับผิดชอบเอง เราก็บอกเลยว่านี่มันบัตรชื่อเรานะ ไอ่เรื่องที่ว่ากลัวเขาจะไม่จ่ายชิ่งหนีไม่มีค่ะ แต่กลัวว่าหนี้จะยิ่งมากกว่าเดิมและเมื่อไหร่จะจ่ายหมด เราก็ไม่ให้ค่ะ

เวลาผ่านไปเขาก็เหมือนจะพยายามจ่ายแต่อาจจะจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆ บางครั้งก็ฝากเงินให้เราเป็นคนไปจ่ายให้จะได้รู้ว่าเขาจ่ายจริง ยังไม่จบแต่เพียงเท่านั้น ในบัตรเสริมบัตรเครดิตใบแรกของเรา หลังจากนั้นอีกประมาณ 2-3-เดือน มีบิลส่งมา ยอดใช้จ่ายแปลกๆ 5300 5300 สองครั้ง เราก็ถามเขาอีก เขาก็อึกอักตอบไม่เคลียร์ บอกว่าเป็นหนี้ที่ไปค้ำประกันรุ่นน้องซื้อรถยนต์ละมันไม่ยอมผ่อนเขา เขาก็มาถามที่คนค้ำ เขาจะยึดรถคืน แต่ที่รูดไป 5300 2ครั้งเป็นค่าอะไรก็ไม่รู้เราก็ฟังเขาพูดไม่เคลียร์ โอเค อันนี้เหมือนจะมีมูลความจริง เพราะเคยได้ยินมีคนโทรมาทวงหนี้ละเขาคุย เราพอจะฟังรู้เรื่องบ้าง แต่ก็อดเหนื่อยใจไม่ได้ว่าทำไมต้องมาเป็นหนี้เพราะคนอื่นขนาดนี้

เล่ามายาว ขอยอมรับว่าเรามีบางครั้งที่เหนื่อยใจมากๆว่าทำไมแฟนเราถึงเป็นแบบนี้ ถามว่ารักเขาไหม รักค่ะ แต่ทำยังไงดีไม่ให้เขาต้องเป็นหนี้บัตรเครดิตอีก ส่วนนึงเป็นเพราะเราค่ะเรายอมรับ ปัจจุบันในบัตรหลักเราบางครั้งเราก็รูดน้ำมันให้เขาบ้าง ค่าโทรศัพท์บ้างแต่จะบังคับให้เขาจ่ายเราทุกๆเดือนและจ่ายให้ครบค่ะประมาณ 3-4พัน. ส่วนบัตรเสริมนั้นหักทิ้งไปแล้วเพราะโมโหว่าทำไมยิ่งมียอดขึ้นเรื่อยๆถ้าเขาบังคับตัวเองไม่ได้เราบังคับเอง หักทิ้งเลย แต่ยังมียอดอยู่ประมาณ 15,XXX ให้เขาทะยอยจ่ายเรื่อยๆ ส่วน speedy cash 12,XXX ค่ะ เราก็พยายามบังคับให้เขาจ่ายอาจจะจ่าย2พัน 3พันแต่ขอให้จ่าย ยังไม่หมดค่ะ SCB First Choice มีหนี้ทุกบัตรค่ะ ผ่อนของบ้าง แต่ทุกอย่างล้วนของเขาทั้งนั้น แต่บัตรชื่อเราทั้งนั้น เหนื่อยใจมากค่ะ

เรื่องที่เราเสียความรู้สึกกับเขามันยังมีอีกเรื่องค่ะ อันนี้ยอมรับความเสียใจไม่แพ้เรื่องอื่น คือตั้งใจเปิดบัญชีฝากประจำไว้คนละเล่ม เขาจะเก็บน้อยกว่าเราเพราะเราเข้าใจว่ารายจ่ายเขาเยอะ เพราะมีผ่อนรถยนต์ที่เอาไปรีไฟแนนต์สร้างบ้านให้แฟนเก่าด้วย แต่พอฝากไปได้ประมาณ 6-7เดิอน เดือนต่อมาเขาบอกว่าเขาจะเอาเงินไปฝากเอง ผ่านไปจนถึงเดือนใหม่เราถามหาสมุดบัญชีเอามาดูซิ เขาบอกว่าหาไม่เจอ หาย เราก็บอกว่าหายได้ไง งั้นไปขอทำใหม่เลย ก็บอกว่าติดวันหยุด ธ.หยุด ก็บอกให้ไปแจ้งความก่อน เขาก็โกหกเราว่าแจ้งความแล้วใบแจ้งความลืมไว้รร. ตอนนั้นเราก็เดาเลยว่าคงไม่มีแล้วเบิกไปแล้วแน่ๆ เราเลยบอกเขาว่าถ้าเบิกก็บอกมาตรงๆ อย่ามาโกหก ขนาดเราพูดขนาดนี้เขาก็ยังยืนยันคำโกหกว่ายังอยู่ แค่สมุดบัญชีหาย บอกว่างั้นพรุ่งนี้เช้าไปทำเลย ถ้าไม่มีเลิกกัน สุดท้ายแล้วคืนนั้นก็รู้เรื่องเลยค่ะ เพราะเขาก็พรรณาอยู่นั่นว่าพรุ่งนี้เขาคงไม่ได้อยู่กับตัวเองแล้ว เสียความรู้สึกจนไม่รู้จะเอาที่ไหนมาเสียละคะ ขอเลิก100ครั้งแล้วแต่ก็ไม่เคยเลิกได้ เหมือนมีเวรมีกรรมอะไรนักหนา

สิ่งที่ทำให้เราเสียความรู้สึกเรื่อยๆกับเขาคือเขาโกหกค่ะ โกหกแม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ขนาดเมื่อ2วันก่อนบอกจะไปจ่ายบัตรเครดิต ซึ่งดิววันที่ 1 เขาก็บอกว่าจ่ายแล้วๆ ขอดูบิลก็บอกว่าลืมไว้ในรถ สุดท้ายก็ยังไม่ได้จ่าย ดอกเบี้ยก็งอก พอเราทำหน้าซีเรียสว่าเราไม่ชอบคนโกหกนะเคยคุยกันแล้ว เขากลับทำหน้าตาล้อเล่นค่ะ หัวเราะเหมือนเป็นเรื่องตลก พูดว่าจะเครียดทำไม เขาก็แค่ยังไม่ได้ไปจ่าย ใช่ค่ะยังไม่ได้จ่ายก็บอกมาตรงๆซิ จะโกหกทำไม ถ้าบอกว่าเงินยังไม่พร้อมนะ กำลังรวบรวมอยู่ เราก็ยังจะเห็นใจนะคะ ยังไงก็แฟนเรา แต่มาโกหกแบบนี้มันไม่รู้จะพูดยังไงอีกแล้วค่ะ

เราควรจะทำยังไงดี เรื่องหนี้เรื่องโกหกนี่มันบางทีทนแล้วก็ทนอีกค่ะ
แรกๆสปอร์ตมาก ไปไหนเราไม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่