คนไทยถือได้ว่ามีสัดส่วนของผู้ที่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์เป็นจำนวนมาก จากการสำรวจของกรุงเทพโพลล์ 2543 เมื่อสอบถามถึงความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์มีมากน้อยเพียงใด กลุ่มตัวอย่างมีความเชื่อในเรื่องนี้ร้อยละ 10.9 เชื่อบ้างในบางเรื่อง ร้อยละ 73.9 ไม่เชื่อเลย ร้อยละ 15.2
ผมคิดว่าการที่เราปลูกฝังให้เด็กตั้งแต่ ๆ เล็ก ๆ ทำความดีด้วยการทำบุญนั้น เป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้เกิดความงมงายในไสยศาสตร์หรือไม่ ตั้งแต่เด็ก ๆ ผมก็ได้รับการสั่งสอนมาจากที่โรงเรียนว่า ทำบุญ ปล่อยนก ปล่อยปลาสิ เพื่อที่จะทำอะไรแล้วเจริญ ชีวิตมีแต่สิ่งดี ๆ ชาติหน้าเกิดมาอยู่บนสวรรค์ เด็กจะถูกฝังแนวคิดที่ว่านี้มาจนโตขึ้น ก็กลายเป็นผู้ใหญ่ที่งมงาย คอยกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขูดต้นไม้ขอหวย ไหว้ตุ๊กแกหกขา สองหัว อะไรต่อมิอะไรบ้าง กลายเป็นว่า การทำบุญนั้นทำเพื่อหวังผลที่ไม่สามารถเป็นได้จริงได้โดยการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ และความเชื่อนั้นก็ถูกสืบทอดรุ่นต่อรุ่นมาเรื่อย ๆ จนประเทศไทยกลายเป็นสังคมแห่งความงมงายในที่สุด
ผมสนับสนุนให้มีการส่งเสริมการทำบุญ ในกรณีที่ผู้ทำบุญทำไปเพื่อทำนุบำรุงศาสนา เพื่อให้จิตใจมีความเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่ อันนี้จุดประสงค์ชัดเจน แต่ถ้าจะทำบุญเพื่อหวังให้ชาตินี้มีชีวิตดี ชาติหน้าเกิดบนสวรรค์ อันนี้ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมลัทธิธรรมกายถึงได้หากินเป็นล่ำเป็นสันในประเทศไทย การทำความดีอะไรก็ตาม (เช่นการทำบุญ ปล่อยนกปล่อยปลา) ผมคิดว่าจะมีประโยชน์เมื่อผู้ทำความดีนั้นรู้ว่าทำความดีเพื่ออะไร เช่นทำบุญเพื่อสืบทอดศาสนา แต่การทำดีเพื่อหวัง secondary gain เช่นทำบุญเพื่อขึ้นสวรรค์นั้นไม่เกิดประโยชน์ และเป็นบ่อเกิดของความงมงาย
ผมเชื่อว่าการทำบุญในประเทศไทยส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นเพื่อ secondary gain ไม่ใช่สืบทอดศาสนาครับ
การทำบุญในศาสนาพุทธ เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมความงมงายของคนไทยหรือเปล่าครับ ?
ผมคิดว่าการที่เราปลูกฝังให้เด็กตั้งแต่ ๆ เล็ก ๆ ทำความดีด้วยการทำบุญนั้น เป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้เกิดความงมงายในไสยศาสตร์หรือไม่ ตั้งแต่เด็ก ๆ ผมก็ได้รับการสั่งสอนมาจากที่โรงเรียนว่า ทำบุญ ปล่อยนก ปล่อยปลาสิ เพื่อที่จะทำอะไรแล้วเจริญ ชีวิตมีแต่สิ่งดี ๆ ชาติหน้าเกิดมาอยู่บนสวรรค์ เด็กจะถูกฝังแนวคิดที่ว่านี้มาจนโตขึ้น ก็กลายเป็นผู้ใหญ่ที่งมงาย คอยกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขูดต้นไม้ขอหวย ไหว้ตุ๊กแกหกขา สองหัว อะไรต่อมิอะไรบ้าง กลายเป็นว่า การทำบุญนั้นทำเพื่อหวังผลที่ไม่สามารถเป็นได้จริงได้โดยการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ และความเชื่อนั้นก็ถูกสืบทอดรุ่นต่อรุ่นมาเรื่อย ๆ จนประเทศไทยกลายเป็นสังคมแห่งความงมงายในที่สุด
ผมสนับสนุนให้มีการส่งเสริมการทำบุญ ในกรณีที่ผู้ทำบุญทำไปเพื่อทำนุบำรุงศาสนา เพื่อให้จิตใจมีความเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่ อันนี้จุดประสงค์ชัดเจน แต่ถ้าจะทำบุญเพื่อหวังให้ชาตินี้มีชีวิตดี ชาติหน้าเกิดบนสวรรค์ อันนี้ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมลัทธิธรรมกายถึงได้หากินเป็นล่ำเป็นสันในประเทศไทย การทำความดีอะไรก็ตาม (เช่นการทำบุญ ปล่อยนกปล่อยปลา) ผมคิดว่าจะมีประโยชน์เมื่อผู้ทำความดีนั้นรู้ว่าทำความดีเพื่ออะไร เช่นทำบุญเพื่อสืบทอดศาสนา แต่การทำดีเพื่อหวัง secondary gain เช่นทำบุญเพื่อขึ้นสวรรค์นั้นไม่เกิดประโยชน์ และเป็นบ่อเกิดของความงมงาย
ผมเชื่อว่าการทำบุญในประเทศไทยส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นเพื่อ secondary gain ไม่ใช่สืบทอดศาสนาครับ