กลับมาแล้วคร๊าบ เมื่อคืนจขกท.มีภารกิจต้องไปงานแต่งงานเพพื่อนมาเลยไม่ได้เขียนกระทู้ต่อ แต่วันนี้กลับมาเขียนต่อแล้วครับ
ความเดิมตอนที่แล้วนิสนึงฮะ
ตอนที่1 นั่งรถยังไง จากไทยไปฮานอย
http://pantip.com/topic/30098880
ตอนที่2 ฮานอย ฮาหน่อย
http://pantip.com/topic/30102588
ตอนที่3 วันที่2 ในฮานอย
http://pantip.com/topic/30105992
ตุ่ง ตุง ตุ้ง ตุ๊งงงง ท่านผู้มีอุปการะคุณโปรดทราบ ขณะนี้ รถไฟขบวน Tulico Sp1 ได้นำท่านเข้าสู่ จังหวัดเลาไก ประเทศเวียดนามเรียบร้อยแล้ว
ขณะนี้ เป็นเวลา 6 นาฬิกา อุณหภูมิ 10องศา กว่าๆ
เวลา6โมงเช้า รถไฟก็ได้พาเรามาถึง สถานีรถไฟ Ga LaoCaiเรียบร้อยครับ
จากการที่จองรถจากเจ๊หงา ทำให้เราต้องหารถของ SapaSummit Hotel
ก่อนจะมาเจ๊หงาได้บอกผมว่า ถึงแม้ผมจะจองโรงแรม "ออลแบร์ ดังจุง" เอาไว้ แล้วมีรถของโรงแรมมารับคน ก็อย่าขึ้นไป
ให้ขึ้นรถที่เค้าได้จองไว้ให้ครับ ทำให้ผมต้องเดินตามหาคนที่ถือป้ายชื่อผมไว้
ทำไมเค้าไม่ถือป้ายชื่อโรงแรมตัวใหญ่ๆไปเลยฟระ แบบนี้รถมี10คน แล้วเขียนชื่อ10คนลงบนกระดาษA4 มันก็เหลือตัวกระต๊อยน่ะสิ
เดินตามหาสักพักก็ไม่มีครับ เอาไงดีเนี่ย ระหว่างนั้นก็มีคนมาถามว่้าจะไปรถเค้ามั้ย
คือตรงนี้เค้าจะมีรถมินิบัสครับ จากเลาไก ไปซาปา ซึ่งผมไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่ ลืมถาม แต่ปฏิเสธไว้ก่อน เพราะเราจองรถไว้แล้ว
ทำไงได้เสียตังค์แล้วนิ - -"
ในที่สุดก็ตัดสินใจโทรไปหาคนขับรถ จากเบอร์ที่เจ๊หงาให้ไว้ครับ ปรากฎว่าพี่แกฟัง พูดอังกฤษไม่ได้ เอ๊าาาา เอาแล้วไง
ถ้าหาไม่เจอจริงๆผมก็กะว่าคงต้องนั่งรถมินิบัสไปแล้วล่ะครับ แต่ก็ยังดีที่อยู่ๆก็มีคนยื่นกระดาษมาถามว่านี่ใช่ชื่อคุณมั้ย
โอ้วววววว นั่นมันชื่อโผมมมมมม อยากจะกระโดดเข้าไปกอดคนถือป้ายชื่อ
แล้วพี่คนถือป้ายชื่อก็พาเรา(ผมและผู้โดยสารคนอื่นๆ) เดินไปยังจุดจอดรถครับ แล้วก็บอกเราว่า มีเวลา45นาทีก่อนรถจะออก
ผมก็เดินๆเล่นแถวนั้น ซึ่งมีร้านขายกาแฟอยู่ เลยสั่งกาแฟมา1แก้วครับ (จริงๆแล้วกะว่าสั่งกาแฟแล้วขอแกเข้าห้องน้ำ)
คุณป้าเจ้าของร้านใจดีครับ (แต่ของที่ขายอยู่แอบแพง)
กาแฟยามเช้า
พอรถพร้อมเราก็เดินทางสู่ซาปากันครับ ระหว่างทางขึ้นไปซาปาผมหลับครับ
เลยไม่ได้ถ่ายวิวมาให้ชมกัน
และแล้ว รถก็พาเรามาจอดใกล้ๆโรงแรม Sapa Summit Hotelครับ แต่ผมต้องเดินจากโรงแรมซาปาซัมมิท เพื่อตามหาโรงแรมที่จองไว้
"ออลแบร์ ดังจุง ซาปา โฮเทล" แหม่ ชื่ออย่างกะเกาหลี อิอิ
เดินวนไปวนมาสักพักครับ หายังไงก็ไม่เจอ เปิดGPSหา ก็ยังงงๆ เลยตัดสินใจเดินไปถามคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างครับ
เค้าก็พูดอังกฤษได้ครับ สื่อสารได้ (เท่าที่ดูๆมาพวกชาวบ้านที่ซาปาจะพูดอังกฤษได้ส่วนใหญ่ครับ)
จากคำแนะนำของพี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ในที่่สุดเราก็หาโรงแรมเจอ ที่แท้มันต้องเดินเข้าไปข้างในคล้ายๆซอยนั่นเอง
ทางเข้าครับ
พอเข้าไปข้างในโรงแรม ผมก็นึกขึ้นได้ว่า ตอนนี้8โมงนี่หว่า แล้วถ้าไม่มีห้องล่ะ จะเช็คอินได้หรอ อยากอาบน้ำอุ่นๆแล้วก็ล้างหน้าอ่ะ
ยังดีครับ ที่เช็คอินไ้ด้ เลยได้เข้าไปในห้องอุ่นๆ ซาปา ณ เวลานั้น อุณหภูมิ ประมาณ10องศาครับ
ห้องที่ผมได้ มีเตียงขนาดควีนไซส์ 1 เตียง และ เตียงเล็ก1เตียงครับ
รองเท้า ให้มา2คู่ กับ1ข้าง ทำไม...
ที่นี่เค้ามีบริการฟืน สำหรับเตาผิงด้วยครับ
บรรยากาศของโรงแรม ถ่ายจากหน้าห้อง
เมืองในหมอกมากๆเลยครับ
อากาศเย็นมาก พอเข้าห้องถ่ายรูปอะไรเรียบร้อย ผมก็จัดแจงอาบน้ำอุ่นๆให้สบายตัว
[CR] ฮานอย-ซาปา นั่งรถไปไม่ง้อทัวร์ มั่วเอาเอง # ตอนที่4
ความเดิมตอนที่แล้วนิสนึงฮะ
ตอนที่1 นั่งรถยังไง จากไทยไปฮานอย
http://pantip.com/topic/30098880
ตอนที่2 ฮานอย ฮาหน่อย
http://pantip.com/topic/30102588
ตอนที่3 วันที่2 ในฮานอย
http://pantip.com/topic/30105992
ตุ่ง ตุง ตุ้ง ตุ๊งงงง ท่านผู้มีอุปการะคุณโปรดทราบ ขณะนี้ รถไฟขบวน Tulico Sp1 ได้นำท่านเข้าสู่ จังหวัดเลาไก ประเทศเวียดนามเรียบร้อยแล้ว
ขณะนี้ เป็นเวลา 6 นาฬิกา อุณหภูมิ 10องศา กว่าๆ
เวลา6โมงเช้า รถไฟก็ได้พาเรามาถึง สถานีรถไฟ Ga LaoCaiเรียบร้อยครับ
จากการที่จองรถจากเจ๊หงา ทำให้เราต้องหารถของ SapaSummit Hotel
ก่อนจะมาเจ๊หงาได้บอกผมว่า ถึงแม้ผมจะจองโรงแรม "ออลแบร์ ดังจุง" เอาไว้ แล้วมีรถของโรงแรมมารับคน ก็อย่าขึ้นไป
ให้ขึ้นรถที่เค้าได้จองไว้ให้ครับ ทำให้ผมต้องเดินตามหาคนที่ถือป้ายชื่อผมไว้
ทำไมเค้าไม่ถือป้ายชื่อโรงแรมตัวใหญ่ๆไปเลยฟระ แบบนี้รถมี10คน แล้วเขียนชื่อ10คนลงบนกระดาษA4 มันก็เหลือตัวกระต๊อยน่ะสิ
เดินตามหาสักพักก็ไม่มีครับ เอาไงดีเนี่ย ระหว่างนั้นก็มีคนมาถามว่้าจะไปรถเค้ามั้ย
คือตรงนี้เค้าจะมีรถมินิบัสครับ จากเลาไก ไปซาปา ซึ่งผมไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่ ลืมถาม แต่ปฏิเสธไว้ก่อน เพราะเราจองรถไว้แล้ว
ทำไงได้เสียตังค์แล้วนิ - -"
ในที่สุดก็ตัดสินใจโทรไปหาคนขับรถ จากเบอร์ที่เจ๊หงาให้ไว้ครับ ปรากฎว่าพี่แกฟัง พูดอังกฤษไม่ได้ เอ๊าาาา เอาแล้วไง
ถ้าหาไม่เจอจริงๆผมก็กะว่าคงต้องนั่งรถมินิบัสไปแล้วล่ะครับ แต่ก็ยังดีที่อยู่ๆก็มีคนยื่นกระดาษมาถามว่านี่ใช่ชื่อคุณมั้ย
โอ้วววววว นั่นมันชื่อโผมมมมมม อยากจะกระโดดเข้าไปกอดคนถือป้ายชื่อ
แล้วพี่คนถือป้ายชื่อก็พาเรา(ผมและผู้โดยสารคนอื่นๆ) เดินไปยังจุดจอดรถครับ แล้วก็บอกเราว่า มีเวลา45นาทีก่อนรถจะออก
ผมก็เดินๆเล่นแถวนั้น ซึ่งมีร้านขายกาแฟอยู่ เลยสั่งกาแฟมา1แก้วครับ (จริงๆแล้วกะว่าสั่งกาแฟแล้วขอแกเข้าห้องน้ำ)
คุณป้าเจ้าของร้านใจดีครับ (แต่ของที่ขายอยู่แอบแพง)
กาแฟยามเช้า
พอรถพร้อมเราก็เดินทางสู่ซาปากันครับ ระหว่างทางขึ้นไปซาปาผมหลับครับ
และแล้ว รถก็พาเรามาจอดใกล้ๆโรงแรม Sapa Summit Hotelครับ แต่ผมต้องเดินจากโรงแรมซาปาซัมมิท เพื่อตามหาโรงแรมที่จองไว้
"ออลแบร์ ดังจุง ซาปา โฮเทล" แหม่ ชื่ออย่างกะเกาหลี อิอิ
เดินวนไปวนมาสักพักครับ หายังไงก็ไม่เจอ เปิดGPSหา ก็ยังงงๆ เลยตัดสินใจเดินไปถามคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างครับ
เค้าก็พูดอังกฤษได้ครับ สื่อสารได้ (เท่าที่ดูๆมาพวกชาวบ้านที่ซาปาจะพูดอังกฤษได้ส่วนใหญ่ครับ)
จากคำแนะนำของพี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ในที่่สุดเราก็หาโรงแรมเจอ ที่แท้มันต้องเดินเข้าไปข้างในคล้ายๆซอยนั่นเอง
ทางเข้าครับ
พอเข้าไปข้างในโรงแรม ผมก็นึกขึ้นได้ว่า ตอนนี้8โมงนี่หว่า แล้วถ้าไม่มีห้องล่ะ จะเช็คอินได้หรอ อยากอาบน้ำอุ่นๆแล้วก็ล้างหน้าอ่ะ
ยังดีครับ ที่เช็คอินไ้ด้ เลยได้เข้าไปในห้องอุ่นๆ ซาปา ณ เวลานั้น อุณหภูมิ ประมาณ10องศาครับ
ห้องที่ผมได้ มีเตียงขนาดควีนไซส์ 1 เตียง และ เตียงเล็ก1เตียงครับ
รองเท้า ให้มา2คู่ กับ1ข้าง ทำไม...
ที่นี่เค้ามีบริการฟืน สำหรับเตาผิงด้วยครับ
บรรยากาศของโรงแรม ถ่ายจากหน้าห้อง
เมืองในหมอกมากๆเลยครับ
อากาศเย็นมาก พอเข้าห้องถ่ายรูปอะไรเรียบร้อย ผมก็จัดแจงอาบน้ำอุ่นๆให้สบายตัว