มาแล้วครับ ตอนที่2ของการลุยเดี่ยวเที่ยวมั่ว แบกเป้นั่งรถทรหดข้าม2ประเทศ
ใครอยากรู้ว่าเป็นยังไง ความเดิมตอนที่แล้วครับ
http://pantip.com/topic/30098880
เช้าวันใหม่ผมตื่นมาประมาณ8โมง ด้วยเสียงโหวกเหวกของเด็กๆ และเสียงแตรรถที่ดังอยู่เรื่อยๆ อะไรฟระเนี่ย
มารู้ทีหลังว่าข้างๆโรงแรมเป็นโรงเรียนครับ
โรงแรมฮานอยฮาโมนี มีอาหารเช้าให้นะครับ อยู่ที่ชั้น7
เข้าลิฟท์ไปเลย สู่สวรรค์ชั้น7 แต่เอ๊ะ อ่าวลิฟท์มีแค่6ชั้น ต้องเดินขึ้นบันได้ไปเองอีกชั้นนึง
ไลน์อาหารมีประมาณนี้ครับ แต่ผมกิน2วันก็ไม่ซ้ำกัน แถมขอไข่ดาวเพิ่มได้อีก2ฟอง
บรรยากาศหลังคาฮานอยยามเช้าจากชั้น7ครับ
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นครับ ผมเลยเช่ารถมอเตอร์ไซค์กับทางโรงแรม
ซึ่งปกติแล้วเนี่ย เวลาเค้าเอารถมาให้เรา มันจะมีน้ำมันอยู่น้อยยมาก คือติดก้นถังอยู่นิดหน่อย
ไอ้เราก็ลืมเอะใจ ขี่เล่นเพลินๆดูเมือง ไม่เป็นไร มีแผนที่ซะอย่าง ที่ไหนได้ครับ
หลงทางสิฮะ!!!!

ประกอบกับน้ำมันจะหมดอีก แล้วหาที่จอดมันจะจอดตรงไหนครับ
เอาไงดี วนไปสักพัก ก็มาเจอฮว่านเกี๊ยมครับ

ใช่แล้ว ข้างๆฮว่านเกี๊ยมมีรถจอดเยอะ น่าจะเอาไปเนียนๆจอดได้ นั่นไงมีช่องว่าง
จอดปั๊บ มีคนเดินมา จะมาเก็บตังค์ ไอ้เราก็เอาวะ นิดหน่อย ถามไปเลย How much?
พี่แกฟังไม่ออกครับ พูดอะไรไม่รู้ดำเดื๊อกดำเดื๊อก ???!!!!!! แล้วก็ทำท่าว่าให้ขับรถออกไป ไม่ให้จอด อ่าววววว!!!
ไม่จอดก็ได้ฟระ พลันผมก็นึกขึ้นได้ว่าเรามีsim ของเวียดนามอยู่นี่นา เปิดGPSหาปั๊มเอาเองก็ได้
และนั่นแหละครับ ถ้าท่านมาฮานอยวันเดียวกันกับผม จะเห็นชาวไทยหน้าตี๋ใส่แว่น
มือนึงจับแฮนด์มอเตอร์ไซค์ ดูGPSไปพลาง ขี่รถหลบรถ หลบคน หลบฯลฯ ตามหาปั๊มน้ำมันอยู่ในฮานอย
ด้วยความที่จำนวนรถมอเตอร์ไซค์เยอะกว่าปั๊มน้ำมัน นั่นทำให้เวลาเติมน้ำมันชาวเวียดนามต้องต่อคิวกันครับ
ปั๊มที่ผมเติม มี2หัวจ่าย แล้วแถวที่ต่อก็ยาว ประมาณ7-8คน นั่นนับว่าเป็นข้อดีครับ
ดียังไง มันทำให้ผมมีเวลาสังเกตุครับ ว่าเค้าเติมน้ำมันกันทีละเท่าไหร่ (ก็กลัวอ่ะ เดี๋ยวเติมเยอะเกิน เหลือใช้อีก เติมน้อยก็ไม่พอ)
สรุปว่า ผมเติมไป 30,000 ครับ (โดยการยกน้วขึ้น3นิ้ว เค้าก็เข้าใจแล้ว แฮร่)
อากาศวันนั้นค่อนข้างดีเลยครับ ไม่ร้อนเกินไป ไม่หนาวเกินไป
พอเติมน้ำมันเสร็จ ก็ขี่มอเตอร์ไซค์เลย วนไปเรื่อย อ่าว หลงทางอีกแล้วนี่หว่า เอาไงดีเนี่ย
สรุปก็วนกลับไปตั้งหลักที่โรงแรมครับ ฮ่าาาาาา
ไหนๆก็กลับมาที่โรงแรมแล้ว ก็หาจองตั๋วรถไฟไปซาปาเลยแล้วกัน
[CR] ฮานอย-ซาปา นั่งรถไปไม่ง้อทัวร์ มั่วเอาเอง # ตอนที่2
ใครอยากรู้ว่าเป็นยังไง ความเดิมตอนที่แล้วครับ
http://pantip.com/topic/30098880
เช้าวันใหม่ผมตื่นมาประมาณ8โมง ด้วยเสียงโหวกเหวกของเด็กๆ และเสียงแตรรถที่ดังอยู่เรื่อยๆ อะไรฟระเนี่ย
มารู้ทีหลังว่าข้างๆโรงแรมเป็นโรงเรียนครับ
โรงแรมฮานอยฮาโมนี มีอาหารเช้าให้นะครับ อยู่ที่ชั้น7
เข้าลิฟท์ไปเลย สู่สวรรค์ชั้น7 แต่เอ๊ะ อ่าวลิฟท์มีแค่6ชั้น ต้องเดินขึ้นบันได้ไปเองอีกชั้นนึง
ไลน์อาหารมีประมาณนี้ครับ แต่ผมกิน2วันก็ไม่ซ้ำกัน แถมขอไข่ดาวเพิ่มได้อีก2ฟอง
บรรยากาศหลังคาฮานอยยามเช้าจากชั้น7ครับ
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นครับ ผมเลยเช่ารถมอเตอร์ไซค์กับทางโรงแรม
ซึ่งปกติแล้วเนี่ย เวลาเค้าเอารถมาให้เรา มันจะมีน้ำมันอยู่น้อยยมาก คือติดก้นถังอยู่นิดหน่อย
ไอ้เราก็ลืมเอะใจ ขี่เล่นเพลินๆดูเมือง ไม่เป็นไร มีแผนที่ซะอย่าง ที่ไหนได้ครับ
หลงทางสิฮะ!!!!
เอาไงดี วนไปสักพัก ก็มาเจอฮว่านเกี๊ยมครับ
ใช่แล้ว ข้างๆฮว่านเกี๊ยมมีรถจอดเยอะ น่าจะเอาไปเนียนๆจอดได้ นั่นไงมีช่องว่าง
จอดปั๊บ มีคนเดินมา จะมาเก็บตังค์ ไอ้เราก็เอาวะ นิดหน่อย ถามไปเลย How much?
พี่แกฟังไม่ออกครับ พูดอะไรไม่รู้ดำเดื๊อกดำเดื๊อก ???!!!!!! แล้วก็ทำท่าว่าให้ขับรถออกไป ไม่ให้จอด อ่าววววว!!!
ไม่จอดก็ได้ฟระ พลันผมก็นึกขึ้นได้ว่าเรามีsim ของเวียดนามอยู่นี่นา เปิดGPSหาปั๊มเอาเองก็ได้
และนั่นแหละครับ ถ้าท่านมาฮานอยวันเดียวกันกับผม จะเห็นชาวไทยหน้าตี๋ใส่แว่น
มือนึงจับแฮนด์มอเตอร์ไซค์ ดูGPSไปพลาง ขี่รถหลบรถ หลบคน หลบฯลฯ ตามหาปั๊มน้ำมันอยู่ในฮานอย
ด้วยความที่จำนวนรถมอเตอร์ไซค์เยอะกว่าปั๊มน้ำมัน นั่นทำให้เวลาเติมน้ำมันชาวเวียดนามต้องต่อคิวกันครับ
ปั๊มที่ผมเติม มี2หัวจ่าย แล้วแถวที่ต่อก็ยาว ประมาณ7-8คน นั่นนับว่าเป็นข้อดีครับ
ดียังไง มันทำให้ผมมีเวลาสังเกตุครับ ว่าเค้าเติมน้ำมันกันทีละเท่าไหร่ (ก็กลัวอ่ะ เดี๋ยวเติมเยอะเกิน เหลือใช้อีก เติมน้อยก็ไม่พอ)
สรุปว่า ผมเติมไป 30,000 ครับ (โดยการยกน้วขึ้น3นิ้ว เค้าก็เข้าใจแล้ว แฮร่)
อากาศวันนั้นค่อนข้างดีเลยครับ ไม่ร้อนเกินไป ไม่หนาวเกินไป
พอเติมน้ำมันเสร็จ ก็ขี่มอเตอร์ไซค์เลย วนไปเรื่อย อ่าว หลงทางอีกแล้วนี่หว่า เอาไงดีเนี่ย
สรุปก็วนกลับไปตั้งหลักที่โรงแรมครับ ฮ่าาาาาา
ไหนๆก็กลับมาที่โรงแรมแล้ว ก็หาจองตั๋วรถไฟไปซาปาเลยแล้วกัน