ประชาชนที่ได้รับโทษทัณฑ์อันเนื่องมาจากการชุมนุม หนักบ้าง เบาบ้าง ตามเหตุและกรณี
ตั้งแต่ปี 2548 ถึงปี 2553 หรือก่อนหน้าและหลังจากนี้
ควรครับ ควรได้รับการนิรโทษกรรมลบล้างความผิดทั้งหมด
เพราะแต่ละคนนั้น ไม่ว่าจะสีอะไร ล้วนกระทำความผิดไปเพราะแรงจูงใจทางการเมือง
ไม่ใช่อาชญากรโดนสันดาน ที่ก่ออาชญากรรมเพื่อบรรลุเป้าประสงค์ทางการเมือง
การนิรโทษกรรม และการเยียวยา จะเป็นทางออกให้บ้านเมืองครับ
อย่าไปคิดในแง่ร้ายว่า จะเป็นการเสริมแรงให้ประชาชนกล้ากระทำผิดเมื่อมีการชุมนุม
รับรองไม่เหมือนกันครับ
ตั้งใจกระทำผิด เจตนาสร้างความรุนแรง กับความผิดอันเกิดจากแรงจูงใจทางการเมืองมันต่างกันครับ
ขี้เกียจยกตัวอย่าง
ก็ขอให้คิดถึงเรื่องรถจี๊ประเบิด กับเรื่องเผาศาลากลางเปรียบเทียบดูเอาเองครับ
แต่แปลก ที่คนบางพวกไม่อยากให้มีการนิรโทษกรรม อยากให้ติดคุกให้หมด เพื่อความสะใจ
ด้วยการบอกว่า คนผิดต้องได้รับผิด ต้องได้รับการลงโทษ ไม่ควรละเว้น
และแปลกยิ่งกว่านั้นก็คือ
แหลตนหนึ่ง ทั้งหนีทหาร ทั้งเ้ข้ารับราชการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทั้งใช้เอกสารปลอมในการประดับยศนายทหาร
ซึ่งอย่างนี้ มันชัดครับ ว่าเป็นอาชญากรโดยสันดาน
คือเจตนาโกง และก่ออาชญากรรมอย่างตั้งใจ แสดงให้เห็นถึงสันดานโจรอย่างชัดเจน
หากคดีความไม่ขาดอายุความไปก่อน ติดคุกครับ
แ่ต่คนบางพวกนั้น กลับเห็นว่าไม่ผิด ไม่ควรได้รับการประนามหรือกล่าวถึงด้วยซ้ำ
คืออยากให้ลืม ๆ กันไป แล้วกันไป ไม่ถือสาหาความ
แปลกไหมครับ ?
ไม่ใช่อาชญากรโดยสันดาน แต่อยากให้ติดคุก ติดคุกจนตายได้ยิ่งดี
แต่กับอาชญากรโดยสันดาน กลับบอกว่า อย่าเอ่ยถึงเลย เรื่องมันแล้วไปแล้ว ลืมซะเหอะ
บ้านเมืองมันถึงวุ่นไม่จบไงครับ
คืออาศัยอคติเป็นตัวนำ
เมื่อมีอคติ มันก็ขาดเหตุผล เมื่อขาดเหตุผล หลักคิด มุมมอง การกระทำมันจึงผิดเพี้ยนไปหมด
น่าจับมาตบกะโหลกนะครับคนพวกนี้
เมื่อย จบ
นิรโทษกรรมประชาชนผู้กระทำความผิดระหว่างการชุมนุม (กระทู้นี้มอบให้แก่กองเชียร์อภิสิทธิ์เป็นพิเศษครับ)
ตั้งแต่ปี 2548 ถึงปี 2553 หรือก่อนหน้าและหลังจากนี้
ควรครับ ควรได้รับการนิรโทษกรรมลบล้างความผิดทั้งหมด
เพราะแต่ละคนนั้น ไม่ว่าจะสีอะไร ล้วนกระทำความผิดไปเพราะแรงจูงใจทางการเมือง
ไม่ใช่อาชญากรโดนสันดาน ที่ก่ออาชญากรรมเพื่อบรรลุเป้าประสงค์ทางการเมือง
การนิรโทษกรรม และการเยียวยา จะเป็นทางออกให้บ้านเมืองครับ
อย่าไปคิดในแง่ร้ายว่า จะเป็นการเสริมแรงให้ประชาชนกล้ากระทำผิดเมื่อมีการชุมนุม
รับรองไม่เหมือนกันครับ
ตั้งใจกระทำผิด เจตนาสร้างความรุนแรง กับความผิดอันเกิดจากแรงจูงใจทางการเมืองมันต่างกันครับ
ขี้เกียจยกตัวอย่าง
ก็ขอให้คิดถึงเรื่องรถจี๊ประเบิด กับเรื่องเผาศาลากลางเปรียบเทียบดูเอาเองครับ
แต่แปลก ที่คนบางพวกไม่อยากให้มีการนิรโทษกรรม อยากให้ติดคุกให้หมด เพื่อความสะใจ
ด้วยการบอกว่า คนผิดต้องได้รับผิด ต้องได้รับการลงโทษ ไม่ควรละเว้น
และแปลกยิ่งกว่านั้นก็คือ
แหลตนหนึ่ง ทั้งหนีทหาร ทั้งเ้ข้ารับราชการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทั้งใช้เอกสารปลอมในการประดับยศนายทหาร
ซึ่งอย่างนี้ มันชัดครับ ว่าเป็นอาชญากรโดยสันดาน
คือเจตนาโกง และก่ออาชญากรรมอย่างตั้งใจ แสดงให้เห็นถึงสันดานโจรอย่างชัดเจน
หากคดีความไม่ขาดอายุความไปก่อน ติดคุกครับ
แ่ต่คนบางพวกนั้น กลับเห็นว่าไม่ผิด ไม่ควรได้รับการประนามหรือกล่าวถึงด้วยซ้ำ
คืออยากให้ลืม ๆ กันไป แล้วกันไป ไม่ถือสาหาความ
แปลกไหมครับ ?
ไม่ใช่อาชญากรโดยสันดาน แต่อยากให้ติดคุก ติดคุกจนตายได้ยิ่งดี
แต่กับอาชญากรโดยสันดาน กลับบอกว่า อย่าเอ่ยถึงเลย เรื่องมันแล้วไปแล้ว ลืมซะเหอะ
บ้านเมืองมันถึงวุ่นไม่จบไงครับ
คืออาศัยอคติเป็นตัวนำ
เมื่อมีอคติ มันก็ขาดเหตุผล เมื่อขาดเหตุผล หลักคิด มุมมอง การกระทำมันจึงผิดเพี้ยนไปหมด
น่าจับมาตบกะโหลกนะครับคนพวกนี้
เมื่อย จบ