ประสบการณ์สุดอันตราย และน่าประทับใจในคราวเดียวกัน เมื่อเจอแอ่งน้ำบนโทล์เวย์

กระทู้สนทนา
วันนี้ผมมีประสบการณ์ที่เกิดขึ้นบนโทล์เวย์ที่อยากจะเล่าให้ฟัง

ถ้าวันนี้หลายๆท่านขับรถกลับบ้านหลังจากเลิกงานจะพบว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯมีฝนตกค่อนข้างหนักมาก เช่นเดียวกับผมซึ่งขึ้นโทล์เวย์ยกระดับดอนเมืองเพื่อกำลังจะกลับบ้านแถวปทุมธานี เมื่อขับมาได้ซักระยะหนึ่งฝนก้เริ่มตกลงมาอย่างแรง จึงชลอความเร็วลงมา เมื่อขับมาได้ระยะหนึ่งเลยช่วงทางลงหน้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิตไป ก็ได้พบกับประการณ์ในครั้งนี้ครับ โดยรถคันหน้าผมคือ honda jazz hybrid ซึ่งเว้นระยะห่างจากผมซึ่งขับตามหลังประมาณ 10 เมตร ซึ่งทั้ง honda jazz hybrid และรถผมคือ toyota prius ขับอยู่เลนส์ขวาสุดทั้งคู่ โดยเลนส์กลางเยื้องไปทางด้านหลังรถของผมมีรถตู้โดยสาร 1 คัน ขณะนั้นขับมาด้วยความเร็วประมาณ 80-90 km/h ระหว่างนั้นเองผมก้ละสายตาจากด้านหน้าเพื่อจะหยิบกระเป๋าตังซึ่งวางอยู่ที่เบาะคนนั่งด้านหน้า ขณะนี้จึงจับพวงมาลัยด้วยมือขวามือเดียว (ต้องยอมรับครับว่าเป็นความประมาทของผมจริงๆ) เมื่อหันกลับมาภาพที่เห็นพอดีคือ honda jazz hybrid คันหน้าผม เหมือนมีอาการรถส่าย แล้วในเสี้ยววินาทีถัดมารถคันดังกล่าวก้เบี่ยงซ้ายในลักษณะเกือบขวางถนนอย่างฉับพลัน ตัดหน้ารถตู้ที่อยู่เลนกลางไปจนเลนซ้ายสุด (ลักษณะเหมือนเปลี่ยนเลนอย่างรวดเร็วจากเลนขวาสุดไปซ้ายสุด) ณ เวลานั้นยอมรับว่าตกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นก้ได้คำตอบครับว่าด้านหน้านั้นมีแอ่งน้ำริมถนนขนาดใหญ่พอสมควร เมื่อรถผมต้องประสบเหตุการณ์เช่นเดียวกันกับ honda jazz hybrid คันดังกล่าว (ตอนนั้นยอมรับเลยว่าตัดสินใจไม่ถูก ด้านซ้ายมือของผมคือเลนกลาง มีรถตู้โดยสารซึ่งอยู่ด้านหลังผมห่างจากผมนิดเดียว) เมื่อรถเริ่มลุยแอ่งน้ำ สิ่งแรกที่เกิดขึ้นคือ รถเริ่มส่ายบริเวณล้อหน้าครับ สัมผัสได้เลยว่าพวงมาลัยเหมือนจะดิ้นมาก ทั้งๆที่ผมกำพวงมาลัยสองมือไว้อย่างแน่น หลังจากนั้นเพียงเสี้ยววินาทีรถก็เกิดอาการเบี่ยงออกสซ้ายอย่างรวดเร็ว แต่ทันใดนั้นเอง หลังจากรถเบี่ยงซ้ายไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น ไฟสีส้มซึ่งเป็นรูปรถลื่น ก็ติดขึ้น พร้อมกับมีเสียงติ๊ดดังขึ้น หลังจากนั้นรถผมก็หักขวากลับเองอย่างรวดเร็วจนรถกลับมาอยู่ในตำแหน่งตรงอีกครั้ง ในขณะที่มือของผมก็พยายามจับพวงมาลัยอย่างแน่นที่สุด ทำให้รถผ่านจุดบริเวณแอ่งน้ำมาได้อย่างปลอดภัย เมื่อมองไปที่กระจก พบว่า honda jazz hybrid คันดังกล่าวเปิดไฟขอทางจอดอยู่ริมถนน (ไม่ทราบเช่นกันว่ารถอาจจะเฉี่ยวกับขอบถนนหรือเปล่า)

จากเหตุการณ์นี้ ต้องยอมรับเลยว่าระบบ VSC-TRC ของ prius ช่วยผมไว้จริงๆ เพราะหากไม่มีระบบนี้รถผมอาจจะไม่โชคดีเหมือนอย่าง honda jazz hybrid คันนั้น เนื่องจากเลนกลางมีรถตู้โดยสารอยู่ อาจเกิดการเฉี่ยวชนขึ้นได้ ต้องยอมรับเลยว่าหลังจากใช้รถคันนี้มา 1 ปี ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับผม และผมเองก็ยังไม่เคยคิดว่าระบบนี้จะจำเป็นแต่อย่างใด แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทำให้ผมเห็นเลยว่า ระบบนี้ช่วยชีวิตผมไว้ครั้งหนึ่งจริงๆ ถึงแม้ว่าในเหตุการณ์ปกติอาจจะไม่เคยได้ใช้มันเลยก็ตาม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากจะเตือนผู้ที่ขับรถเองหลายๆท่านเช่นกันว่า ความประมาทเป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดอย่างแท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุ ดังเช่นกรณีของผม ถ้าผมไม่ละสายตาจากด้านหน้าไปหยิบกระเป๋าตัง ผมอาจจะมองเห็นแอ่งน้ำและชลอความเร็วได้ทัน + กับความที่ผมไม่ชินกับโทล์เวย์เส้นนี้ เนื่องจากปกติผมจะใช้เส้นอุดรรัถยา

ดังนั้นอยากจะเตือนทุกๆท่านว่า เมื่อต้องขับรถบนโทล์เวย์ขณะฝนตกหนัก...

1. ขับเลนกลางจะปลอดภัยที่สุด และไม่ควรใช้ความเร็วเกิน 80 km/h
2. หากต้องการจะแซง ควรมองด้านหน้าให้ดีว่ามีแอ่งน้ำอยู่หรือไม่ เพราะอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุอย่างที่ไม่คาดคิดได้
3. อย่าละสายตาจากด้านหน้าถนน หากมีความจำเป็นจริงๆควรจอดข้างทาง เปิดไฟขอทางไว้
4. หากฝนตกแรงมากจนท่านมองไม่เห็นทางจริงๆ ให้จอดข้างทางและเปิดไฟขอทางไว้ดีกว่าฝืนขับไป
5. หากท่านจะเลือกซื้อรถ 1 คัน หากในตัวเลือกราคาเท่ากัน รถคันหนึ่งมี stability control (ไม่ว่าจะเป็น VSC+TRC, VSA, ESP หรือชื่อใดๆก็ตามตามแต่ยี่ห้อรถ) และอีกคันหนึ่งไม่มี ท่านไม่ควรตัดระบบ stability control ออกจากการตัดสินใจของท่าน เพราะเห็นว่าไม่จำเป็น (ดังเช่นที่ผมเคยคิดแบบนั้นมาก่อน)
6. ต่อให้รถคันดังกล่าวจะมีระบบความปลอดภัยต่างๆให้มามากมายแค่ไหน แต่หากขับรถด้วยความประมาท ระบบอะไรก็คงช่วยเหลือท่านไม่ได้ ตรงกันข้ามหากท่านขับรถด้วยความรอบคอบ มีสติ และไม่ประมาท ต่อให้ขับรถที่ไม่มีระบบอะไรเลย ผมคิดว่า ยังไงมันก็ปลอดภัยกว่าอย่างแน่นอน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่