ASIA ZONE
• นายชิเงรุ อิชิบะ เชาธิการพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) พรรครัฐบาลญี่ปุ่น แสดงความเห็นว่า ในการสรรหาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) คนใหม่ หลังจากที่นายมาซาอากิ ชิรากาวะ ผู้ว่าการบีโอเจคนปัจจุบันพ้นจากตำแหน่งในเดือนเมษายนนี้ คุณสมบัติทั้งหมดจะมาอยู่ที่เรื่องเดียวก็คือว่า บุคคลคนนั้นจะสามารถรร่วมแบ่งปันแนวคิดเดียวกับประเทศชาติ และรับมือกับความท้าทายที่รออยู่ร่วมกับรัฐบาลได้หรือไม่
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ซึ่งแสดงท่าทีชัดเจนว่าต้องการนโยบายการเงินที่ชัดเจนเพื่อยุติภาวะเงินฝืด และทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงนั้น มีโอกาสที่จะปรับโฉมหน้าของบีโอเจได้ จากการที่รัฐบาลของเขา มีโอกาสที่จะได้เสนอชื่อผู้ว่าการบีโอเจคนต่อไป และรองผู้ว่าการอีก 2 ตำแหน่ง
นายมาซาอาชิ วากิ ประธานกิจการรัฐสภา ของวุฒิสภาญี่ปุ่น เคยระบุไว้มื่อต้นสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลควรจะเสนอชื่อผู้ที่ตั้งใจจะให้เข้ามาบริหารบีโอเจ และรองผู้ว่าการอีก 2 คนต่อรัฐสภาภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้
ในกลุ่มผู้ที่เป็นตัวเก็งจะเป็นผู้ว่าการบีโอเจคนใหม่ รวมถึง นายโตชิดร มูโตะ อดีตรองผู้ว่าการบีโอเจ ซึ่งเคยให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ไม่ควรมีการมองนโยบายการเงินนโยบายใดว่าเป็นสิ่งที่ห้ามทำ และนายฮารุฮฺดกะ คุโรดะ ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย(เอดีบี) อดีตเจ้าหน้าที่ด้านอัตราแลกเปลี่ยน ของกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ผู้ที่เมื่อปี 2545 เคยสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายบีโอเจ และการตั้งเป้าเงินเฟ้อ 3%
• แหล่งข่าวเปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมจัดสรรงบประมาณราว 1 ล้านล้านเยนจากงบประมาณเบื้องต้นของปี 2556 เพื่อมอบให้เทศบาลเมืองต่างๆนำไปใช้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่เสื่อมโทรมตามกาลเวลา รวมถึงสร้างอาคารที่ต้านทานแผ่นดินไหวได้มากกว่าเดิม
แหล่งข่าวจากรัฐบาลเปิดเผยว่า ยอดรวมที่แท้จริงของงบประมาณในส่วนนี้จะอยู่ที่ราว 1.5 ล้านล้านเยน เพราะต้องรวมกับงบประมาณพิเศษจำนวน 5.497 แสนล้านเยนของปีงบประมาณ 2555 ด้วย
งบประมาณส่วนนี้จะถูกนำไปใช้ซ่อมแซมอุโมงค์ สะพาน ประตูระบายน้ำและสิ่งปฏิกูล รวมถึงปรับปรุงที่อยู่อาศัยของรัฐและสร้างอาคารที่ต้านแผ่นดินไหวได้มากกว่าเดิมใกล้กับเส้นทางอพยพ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและลดผลกระทบจากภัยพิบัติใหญ่ที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศด้วย
ญี่ปุ่นให้ความสนใจเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่เสื่อมโทรมมากขึ้น หลังเกิดเหตุอุโมงค์ถล่มในจังหวัดยามานาชิจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน โดยอุโมงค์ที่เกิดเหตุไม่เคยได้รับการซ่อมแซมครั้งใหญ่เลยนับตั้งแต่เปิดใช้งานเมื่อปี 2520
• นายชินโสะ อาเบะ นายกรับมนตรีญี่ปุ่น แสดงความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาเงินฝืดในญี่ปุ่น ต่อหน้าผู้เข้าร่วมการประชุม World Economic Forum (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวานนี้
“เราจะใช้มาตรการต่างๆทันทีเพื่อดึงญี่ปุ่นให้หลุดจากภาวะเงินฝืดที่ดำเนินมาอย่างยาวนานหลายปี" นายอาเบะกล่าว
เมื่อถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่รัฐบาลญี่ปุ่นกดดันธนาคารกลางให้ผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม นายอาเบะตอบว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังมีอิสระเต็มที่ แต่รัฐบาลกับธนาคารกลางสามารถแลกเปลี่ยนนโยบายกันได้
EURO ZONE
• ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยว่า ธนาคารในยุโรปจะจ่ายคืนเงินกู้สูงเกินคาดถึง 1.37 แสนล้านยูโรในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าระบบการเงินยุโรปกำลังฟื้นตัวขึ้น โดยยูโรปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่ปลายเดือนก.พ. ปีที่ผ่านมา และแข็งค่าขึ้นราว 1.2% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ผลสำรวจที่บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ดีขึ้นในเยอรมนีได้ช่วยหนุนยูโรแข็งค่าขึ้นด้วย
ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มาริโอ ดรากิ เปิดเผยว่า เห็นแนวโน้มแง่บวกในตลาดการเงินต่างๆ แม้ว่าจะยังไม่แพร่กระจายไปถึงเศรษฐกิจในวงกว้างก็ตาม และคาดว่ายูโรโซนจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งในครึ่งหลังของปีนี้
ดรากิ กล่าวระหว่างงาน ‘เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม’ ในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า “นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของอีซีบีช่วยให้ประเทศต่างๆในกลุ่มยูโรโซนสามารถกลับไปเติบโตได้อีกครั้ง แต่ยังมีปัญหาให้ต้องแก้ไขอีกมาก” พร้อมระบุว่า “กิจกรรมด้านเศรษฐกิจยังอยู่ในระหว่างการสร้างเสถียรภาพในระดับต่ำ อย่างไรก็ตามดัชนีต่างๆบ่งชี้ว่า สภาพแวดล้อมทางการเงินปรับตัวดีขึ้นมาก”
ทั้งนี้ ดรากิไม่พอใจกับความคิดในการสร้างมาตราฐานเดียวกันทั่วยุโรป และโต้แย้งว่าปัจจุบันเศรษฐกิจในวงกว้างยังต้องเผชิญกับปัญหา โดยดรากิ ระบุว่า “มันคือสถานการณ์ซึ่งคุณมองเห็นการแพร่กระจายของแนวโน้มแง่บวกในตลาดและตัวแปรทางการเงิน แต่เรายังไม่สามารถเห็นแนวโน้มดังกล่าวกลายเป็นข้อเท็จจริงทางเศรษฐกิจ”
แม้แต่ประเทศเยอรมนี ซึ่งมีอำนาจทางเศรษฐกิจสูงในกลุ่มยุโรโซน ก็ถูกกัดกร่อนด้วยวิกฤตหนี้ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ของเยอรมนีหดตัวลงในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว แตะอยู่ที่ระดับ 0.5%
อย่างไรก็ตาม ดรากิ ระบุว่า ปีนี้เริ่มต้นดีกว่าช่วงที่ผ่านมา รวมถึงตอกย้ำว่า เป้าหมายอันดับ 1 สำหรับปี 2556 คือการเอาชนะการแบ่งแยกในตลาดการเงิน”
ทั้งนี้ ความวิตกกังวลต่อเสถียรภาพของระบบการเงินสาธารณะและธนาคารในสหภาพยุโรป ส่งผลให้ประเทศต่างๆกำหนดอัตราดอกเบี้ยเพื่อการกู้ยืมแตกต่างกันมาก โดยประเทศในภาคเหนือของทวีป ซึ่งมีความมั่นคงด้านเศรษฐกิจกำหนดอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ผู้บริโภคซึ่งพักอาศัยในยุโรปใต้ต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงกว่ามาก
• นายเอมอน กิลมอร์ รองนายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ กล่าวต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) และละตินอเมริกาว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไอร์แลนด์ และธนาคารกลางยุโรป หรืออีซีบี จะต้องทำข้อตกลงที่เหมาะสม ในการปรับกำหนดการณ์ชำระหนี้ของธนาคารรัฐบาล ที่แหล่งข่าววงในเผยว่า อีซีบีได้ปฏิเสธข้อเสนอที่จะแก้ไขปัญหานี้ของไอร์แลนด์ไป
นายกิลมอร์ ระบุว่า หาก 2 ฝ่ายล้มเหลวที่จะบรรลุข้อตกลงในเรื่องหนังสือสัญญาชำระหนี้ ก็อาจทำให้เกิดความเสี่ยงอย่างหนักต่อไอร์แลนด์ โดยรัฐบาลดับลิน พยายามหลีกเลี่ยงที่จะจ่ายเงินจำนวน 3,100 ล้านยูโร ต่อปี จนถึงปี 2566 ตามหนังสือสัญญาชำระเงิน ที่ทางรัฐบาลได้ออกไว้เป็นการค้ำประกันธนาคารแองโกล ไอริช ที่ล้มไป และเสนอที่จะแปลงตราสารหนี้ดังกล่าวเป็นพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวแทน
แหล่งข่าววงในการเจรจาเผยด้วยว่า สมาชิกสภาบริหารอีซีบี ได้มีการหารือถึงแผนการดังกล่าวเป็นครั้งแรก ระหว่างการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเห็นว่า การกระทำดังกล่าวของรัฐบาลไอร์แลนด์ จะเข้าข่ายเป็นการสนับสนุนการเงินในเชิงนโยบาย ซึ่งเป็นข้อห้ามตามสนธิสัญญาอียู ภายใต้มาตรา 123
ขณะแหล่งข่าวอีกรายหนึ่งเผยว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเจรจา ต้องการหาทางออกในเรื่องดังกล่าวให้ได้ภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งเป็นเวลาครบกำหนดชำระหนี้งวดต่อไป โดยเมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลไอร์แลนด์ได้เลื่อนการชำระหนี้เงินสดจำนวน 3,100 ล้านยูโรออกไป ภายใต้การจัดการที่ซับซ้อน และมีการแปลงหนี้ที่ต้องชำระจำนวนดังกล่าว ออกเป็นพันธบัตรระยะ 13 ปีแทน
ก่อนหน้านี้ นายเอนดา เคนนี นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การได้ผ่อนผันชำระหนี้ตามหนังสือสัญญาข้างต้น ถือเป็นส่วนสำคัญสำหรับไอร์แลนด์ ในการที่จะกลับไปสู่เศรษฐกิจรูปแบบตลาดอย่างเต็มตัวได้ภายในปีนี้ หลังโครงการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินจากอียู และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หมดอายุลง
ทั้งนี้ ไอร์แลนด์ ระดมทุนมาได้แล้วถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ ตามเป้าที่ตั้งไว้สำหรับปีนี้ เพื่อการหาเงินที่จำเป็นสำหรับการใช้จ่ายของภาครัฐหลังสิ้นสุดการเข้ารับการอัดฉีดจากอียู และไอเอ็มเอฟในปีหน้า
AMERICA ZONE
• ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐในเดือนธ.ค. 2555 ร่วงลง 7.3% จากระดับเดือนพ.ย. สู่ระดับ 369,000 หลัง ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ และบ่งชี้ว่า การดีดตัวขึ้นของตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐจะต้องใช้เวลา หลังจากที่ฟื้นตัวขึ้นเป็นปีแรก
สำหรับยอดขายบ้านใหม่ตลอดทั้งปี 2555 นั้น อยู่สูงกว่าสถิติปี 2554 อยู่ประมาณ 20% แม้ว่า ตัวเลขดังกล่าวจะสูงขึ้น แต่ปีที่แล้วก็ยังเป็นที่เลวร้ายสำหรับยอดขายบ้านใหม่
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ยอดขายจะอยู่ที่ 340,000 - 406,000 หลัง ส่วนยอดขายในเดือนพ.ย.นั้นอยู่ที่ 377,000 หลัง
ข่าวต่างประเทศ 28/1/13
• นายชิเงรุ อิชิบะ เชาธิการพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) พรรครัฐบาลญี่ปุ่น แสดงความเห็นว่า ในการสรรหาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) คนใหม่ หลังจากที่นายมาซาอากิ ชิรากาวะ ผู้ว่าการบีโอเจคนปัจจุบันพ้นจากตำแหน่งในเดือนเมษายนนี้ คุณสมบัติทั้งหมดจะมาอยู่ที่เรื่องเดียวก็คือว่า บุคคลคนนั้นจะสามารถรร่วมแบ่งปันแนวคิดเดียวกับประเทศชาติ และรับมือกับความท้าทายที่รออยู่ร่วมกับรัฐบาลได้หรือไม่
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ซึ่งแสดงท่าทีชัดเจนว่าต้องการนโยบายการเงินที่ชัดเจนเพื่อยุติภาวะเงินฝืด และทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงนั้น มีโอกาสที่จะปรับโฉมหน้าของบีโอเจได้ จากการที่รัฐบาลของเขา มีโอกาสที่จะได้เสนอชื่อผู้ว่าการบีโอเจคนต่อไป และรองผู้ว่าการอีก 2 ตำแหน่ง
นายมาซาอาชิ วากิ ประธานกิจการรัฐสภา ของวุฒิสภาญี่ปุ่น เคยระบุไว้มื่อต้นสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลควรจะเสนอชื่อผู้ที่ตั้งใจจะให้เข้ามาบริหารบีโอเจ และรองผู้ว่าการอีก 2 คนต่อรัฐสภาภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้
ในกลุ่มผู้ที่เป็นตัวเก็งจะเป็นผู้ว่าการบีโอเจคนใหม่ รวมถึง นายโตชิดร มูโตะ อดีตรองผู้ว่าการบีโอเจ ซึ่งเคยให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ไม่ควรมีการมองนโยบายการเงินนโยบายใดว่าเป็นสิ่งที่ห้ามทำ และนายฮารุฮฺดกะ คุโรดะ ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย(เอดีบี) อดีตเจ้าหน้าที่ด้านอัตราแลกเปลี่ยน ของกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ผู้ที่เมื่อปี 2545 เคยสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายบีโอเจ และการตั้งเป้าเงินเฟ้อ 3%
• แหล่งข่าวเปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมจัดสรรงบประมาณราว 1 ล้านล้านเยนจากงบประมาณเบื้องต้นของปี 2556 เพื่อมอบให้เทศบาลเมืองต่างๆนำไปใช้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่เสื่อมโทรมตามกาลเวลา รวมถึงสร้างอาคารที่ต้านทานแผ่นดินไหวได้มากกว่าเดิม
แหล่งข่าวจากรัฐบาลเปิดเผยว่า ยอดรวมที่แท้จริงของงบประมาณในส่วนนี้จะอยู่ที่ราว 1.5 ล้านล้านเยน เพราะต้องรวมกับงบประมาณพิเศษจำนวน 5.497 แสนล้านเยนของปีงบประมาณ 2555 ด้วย
งบประมาณส่วนนี้จะถูกนำไปใช้ซ่อมแซมอุโมงค์ สะพาน ประตูระบายน้ำและสิ่งปฏิกูล รวมถึงปรับปรุงที่อยู่อาศัยของรัฐและสร้างอาคารที่ต้านแผ่นดินไหวได้มากกว่าเดิมใกล้กับเส้นทางอพยพ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและลดผลกระทบจากภัยพิบัติใหญ่ที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศด้วย
ญี่ปุ่นให้ความสนใจเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่เสื่อมโทรมมากขึ้น หลังเกิดเหตุอุโมงค์ถล่มในจังหวัดยามานาชิจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน โดยอุโมงค์ที่เกิดเหตุไม่เคยได้รับการซ่อมแซมครั้งใหญ่เลยนับตั้งแต่เปิดใช้งานเมื่อปี 2520
• นายชินโสะ อาเบะ นายกรับมนตรีญี่ปุ่น แสดงความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาเงินฝืดในญี่ปุ่น ต่อหน้าผู้เข้าร่วมการประชุม World Economic Forum (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวานนี้
“เราจะใช้มาตรการต่างๆทันทีเพื่อดึงญี่ปุ่นให้หลุดจากภาวะเงินฝืดที่ดำเนินมาอย่างยาวนานหลายปี" นายอาเบะกล่าว
เมื่อถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่รัฐบาลญี่ปุ่นกดดันธนาคารกลางให้ผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม นายอาเบะตอบว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังมีอิสระเต็มที่ แต่รัฐบาลกับธนาคารกลางสามารถแลกเปลี่ยนนโยบายกันได้
EURO ZONE
• ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยว่า ธนาคารในยุโรปจะจ่ายคืนเงินกู้สูงเกินคาดถึง 1.37 แสนล้านยูโรในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าระบบการเงินยุโรปกำลังฟื้นตัวขึ้น โดยยูโรปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่ปลายเดือนก.พ. ปีที่ผ่านมา และแข็งค่าขึ้นราว 1.2% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ผลสำรวจที่บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ดีขึ้นในเยอรมนีได้ช่วยหนุนยูโรแข็งค่าขึ้นด้วย
ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มาริโอ ดรากิ เปิดเผยว่า เห็นแนวโน้มแง่บวกในตลาดการเงินต่างๆ แม้ว่าจะยังไม่แพร่กระจายไปถึงเศรษฐกิจในวงกว้างก็ตาม และคาดว่ายูโรโซนจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งในครึ่งหลังของปีนี้
ดรากิ กล่าวระหว่างงาน ‘เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม’ ในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า “นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของอีซีบีช่วยให้ประเทศต่างๆในกลุ่มยูโรโซนสามารถกลับไปเติบโตได้อีกครั้ง แต่ยังมีปัญหาให้ต้องแก้ไขอีกมาก” พร้อมระบุว่า “กิจกรรมด้านเศรษฐกิจยังอยู่ในระหว่างการสร้างเสถียรภาพในระดับต่ำ อย่างไรก็ตามดัชนีต่างๆบ่งชี้ว่า สภาพแวดล้อมทางการเงินปรับตัวดีขึ้นมาก”
ทั้งนี้ ดรากิไม่พอใจกับความคิดในการสร้างมาตราฐานเดียวกันทั่วยุโรป และโต้แย้งว่าปัจจุบันเศรษฐกิจในวงกว้างยังต้องเผชิญกับปัญหา โดยดรากิ ระบุว่า “มันคือสถานการณ์ซึ่งคุณมองเห็นการแพร่กระจายของแนวโน้มแง่บวกในตลาดและตัวแปรทางการเงิน แต่เรายังไม่สามารถเห็นแนวโน้มดังกล่าวกลายเป็นข้อเท็จจริงทางเศรษฐกิจ”
แม้แต่ประเทศเยอรมนี ซึ่งมีอำนาจทางเศรษฐกิจสูงในกลุ่มยุโรโซน ก็ถูกกัดกร่อนด้วยวิกฤตหนี้ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ของเยอรมนีหดตัวลงในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว แตะอยู่ที่ระดับ 0.5%
อย่างไรก็ตาม ดรากิ ระบุว่า ปีนี้เริ่มต้นดีกว่าช่วงที่ผ่านมา รวมถึงตอกย้ำว่า เป้าหมายอันดับ 1 สำหรับปี 2556 คือการเอาชนะการแบ่งแยกในตลาดการเงิน”
ทั้งนี้ ความวิตกกังวลต่อเสถียรภาพของระบบการเงินสาธารณะและธนาคารในสหภาพยุโรป ส่งผลให้ประเทศต่างๆกำหนดอัตราดอกเบี้ยเพื่อการกู้ยืมแตกต่างกันมาก โดยประเทศในภาคเหนือของทวีป ซึ่งมีความมั่นคงด้านเศรษฐกิจกำหนดอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ผู้บริโภคซึ่งพักอาศัยในยุโรปใต้ต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงกว่ามาก
• นายเอมอน กิลมอร์ รองนายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ กล่าวต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) และละตินอเมริกาว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไอร์แลนด์ และธนาคารกลางยุโรป หรืออีซีบี จะต้องทำข้อตกลงที่เหมาะสม ในการปรับกำหนดการณ์ชำระหนี้ของธนาคารรัฐบาล ที่แหล่งข่าววงในเผยว่า อีซีบีได้ปฏิเสธข้อเสนอที่จะแก้ไขปัญหานี้ของไอร์แลนด์ไป
นายกิลมอร์ ระบุว่า หาก 2 ฝ่ายล้มเหลวที่จะบรรลุข้อตกลงในเรื่องหนังสือสัญญาชำระหนี้ ก็อาจทำให้เกิดความเสี่ยงอย่างหนักต่อไอร์แลนด์ โดยรัฐบาลดับลิน พยายามหลีกเลี่ยงที่จะจ่ายเงินจำนวน 3,100 ล้านยูโร ต่อปี จนถึงปี 2566 ตามหนังสือสัญญาชำระเงิน ที่ทางรัฐบาลได้ออกไว้เป็นการค้ำประกันธนาคารแองโกล ไอริช ที่ล้มไป และเสนอที่จะแปลงตราสารหนี้ดังกล่าวเป็นพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวแทน
แหล่งข่าววงในการเจรจาเผยด้วยว่า สมาชิกสภาบริหารอีซีบี ได้มีการหารือถึงแผนการดังกล่าวเป็นครั้งแรก ระหว่างการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเห็นว่า การกระทำดังกล่าวของรัฐบาลไอร์แลนด์ จะเข้าข่ายเป็นการสนับสนุนการเงินในเชิงนโยบาย ซึ่งเป็นข้อห้ามตามสนธิสัญญาอียู ภายใต้มาตรา 123
ขณะแหล่งข่าวอีกรายหนึ่งเผยว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเจรจา ต้องการหาทางออกในเรื่องดังกล่าวให้ได้ภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งเป็นเวลาครบกำหนดชำระหนี้งวดต่อไป โดยเมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลไอร์แลนด์ได้เลื่อนการชำระหนี้เงินสดจำนวน 3,100 ล้านยูโรออกไป ภายใต้การจัดการที่ซับซ้อน และมีการแปลงหนี้ที่ต้องชำระจำนวนดังกล่าว ออกเป็นพันธบัตรระยะ 13 ปีแทน
ก่อนหน้านี้ นายเอนดา เคนนี นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การได้ผ่อนผันชำระหนี้ตามหนังสือสัญญาข้างต้น ถือเป็นส่วนสำคัญสำหรับไอร์แลนด์ ในการที่จะกลับไปสู่เศรษฐกิจรูปแบบตลาดอย่างเต็มตัวได้ภายในปีนี้ หลังโครงการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินจากอียู และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หมดอายุลง
ทั้งนี้ ไอร์แลนด์ ระดมทุนมาได้แล้วถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ ตามเป้าที่ตั้งไว้สำหรับปีนี้ เพื่อการหาเงินที่จำเป็นสำหรับการใช้จ่ายของภาครัฐหลังสิ้นสุดการเข้ารับการอัดฉีดจากอียู และไอเอ็มเอฟในปีหน้า
AMERICA ZONE
• ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐในเดือนธ.ค. 2555 ร่วงลง 7.3% จากระดับเดือนพ.ย. สู่ระดับ 369,000 หลัง ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ และบ่งชี้ว่า การดีดตัวขึ้นของตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐจะต้องใช้เวลา หลังจากที่ฟื้นตัวขึ้นเป็นปีแรก
สำหรับยอดขายบ้านใหม่ตลอดทั้งปี 2555 นั้น อยู่สูงกว่าสถิติปี 2554 อยู่ประมาณ 20% แม้ว่า ตัวเลขดังกล่าวจะสูงขึ้น แต่ปีที่แล้วก็ยังเป็นที่เลวร้ายสำหรับยอดขายบ้านใหม่
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ยอดขายจะอยู่ที่ 340,000 - 406,000 หลัง ส่วนยอดขายในเดือนพ.ย.นั้นอยู่ที่ 377,000 หลัง