กลับมาอีกครั้งครับ เอาทริปขาอ่อนมาแชร์อีกครั้ง (มีคนบอก บู่ววววววววว โดนดัก ใครเขาอยากดูขาดำๆของเมิงกัน)
วันหยุดทั้งทีครับ เลยถือโอกาสเอาเจาแอ้นท์ออกไปเดินทางเสียหน่อย
ทริปแรกวันเสาร์ครับ หลังจากสัปดาห์ก่อนไป-กลับ 60 กม. บ้านพร-สะพานสารสิน ครั้งนี้หัวใจมันเรียกร้องเหลือเกินครับ ในช่วงปีที่ผ่านมาที่ไปอยู่ที่เขาหลักและเอารถไปใช้ที่นั่น ทุกครั้งที่ได้กลับบ้านที่ภูเก็ตและเดินทางผ่านหาดกมลาก็อดที่จะตัวสั่นตื่นเต้นไม่ได้ที่จะกลับมาเหยียบเขากมลาแห่งนี้อีกครั้ง ห่างหายไปร่วมปี ไม่รู้ว่าตัวเองจะยังไหวไหมเพราะห่างหายการปั่นไปนานเหลือเกิน
ตอนแรกตั้งเป้าไว้ว่าจะออกเช้าหน่อย เผื่อเวลาขากลับจะได้ไม่ร้อนมาก แต่แล้วมันก็ไม่เป็นไปตามแผน ลูกชายวัย 1 เดือนตื่นร้องมากินนมตอนตีสี่กว่าๆ กับอีกครั้งตอนตีห้า ทำให้ฟุบหลับไป กว่าจะได้ออกจากบ้านก็เกือบๆเก้าโมงเช้า แดดกำลังดีเลย

งานนี้ถุงแขนที่กะว่าจะใช้แค่ตอนขากลับก็ได้ใช้ตั้งแต่ออกจากบ้านเลย
ปั่นไปเรื่อยๆ เจอเนินแรกก่อนถึงหาดสุรินทร์ ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ปั่นต่อไปเรื่อยๆจนผ่านกมลามาได้ แอบดีใจเล็กๆ

รูปวิวหาดกมลาจากมุมสูงครับ

เจ้าแอ้นท์บนเขากมลา

รูปหาดกมลา สวยดีนะครับ

ขากลับก็แว่บไปชมหาดสุรินทร์สักหน่อย ปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติค่อนข้างเยอะ สังเกตจากร่มที่วางอยู่ ปกติไม่เยอะขนาดนี้ครับ กลับมาเที่ยวนี้มีร้านรวงต่างๆและสิ่งก่อสร้างเกิดขึ้นใหม่เยอะเลย
ไปครั้งนี้ก็ยังพึ่งพาแอพคู่ใจ RunKeeper ปรากฎว่าวันนี้มันดันเอ๋อครับ จับระยะได้แค่ขาเดียว (ไม่ครบทั้งทริปซะงั้น)
แต่ไม่เป็นไรครับ มีตัวช่วยอีกหนึ่ง น้องตาแมวทำงานได้ดีครับ
ไว้ให้ฟิตอีกนิดนึงตั้งใจว่าจะปั่นไปให้ถึงป่าตองครับ (เขาอีกเพียบ)
ส่วนทริปวันนี้ก็อดไม่ได้ ขอไปเจอโจทย์เก่าเขื่อนบางเหนียวดำ และขุมน้ำตรงวัดม่าหนิกครับ (ไม่แน่ใจว่ามีชื่อเรียกรึเปล่า) เมื่อปีก่อนตอนเริ่มปั่นจักรยานใหม่ๆ พอปั่นไปถึงกมลาได้ ก็รู้สึกว่าตัวเองก็แน่ใช้ได้ แค่เขื่อนแค่นี้จะสักเท่าไหร่ ปรากฏว่าครังแรกอ้วกแตกครับ แล้วก็ต้องกลับไปใหม่อีก 2 ครั้งกว่าจะพิชิตได้ (เมื่อก่อนมีคติ ว่าเท้าแตะพื้นคือกลับสถานเดียวครับ)
ไปเจอโจทย์เก่าเที่ยวนี้ก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถทำได้รึเปล่า แต่ไม่ลองไม่รู้ครับ
และแล้วเราก็สามารถทำได้ รูปเขื่อนบางเหนียวดำแบบพาโนรามา จาก 2 มุมครับ ครับ
เสร็จจากเขื่อนก็แว่บไปต่อที่ที่ขุมน้ำที่ว่า เข้าไปทางวัดม่าหนิก ปรากฏว่าขุมน้ำเปลี่ยนเป็นที่เล่นกีฬาพวก Water Sports แต่คงยังเปิดไม่ครบ 100% ครับ แต่ก็มีคนเริ่มมาใช้บริการแล้ว
สถิติวันนี้ผ่านแอพ (ที่ไม่เอ๋อแล้ว)
น้องตาแมวครับ
ตอนลงจากสันเขื่อนนี่มันเร็วน่ากลัวจริงๆ แถมโค้งอีก ตอนลงเนินด้วยความเร็ว 30+ กมต่อชั่วโมงกับมอไซค์ ไม่น่ากลัวเท่าตอนลงมากับจักรยาน มาแอบคิดถึงพวกนั่งแข่งมืออาชีพ คนพวกนี้หัวใจทำด้วยอะไรน้อ
จบทริปสำหรับ 2 วันนี้ครับ
หวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่อยากทำ ได้ลุกขึ้นมาทำครับ การปั่นจักรยานเป็นการออกกำลังกายที่ดี ทำให้เราได้แข่งได้สู้กับตัวเองครับ
โชว์ขาอ่อน
วันหยุดทั้งทีครับ เลยถือโอกาสเอาเจาแอ้นท์ออกไปเดินทางเสียหน่อย
ทริปแรกวันเสาร์ครับ หลังจากสัปดาห์ก่อนไป-กลับ 60 กม. บ้านพร-สะพานสารสิน ครั้งนี้หัวใจมันเรียกร้องเหลือเกินครับ ในช่วงปีที่ผ่านมาที่ไปอยู่ที่เขาหลักและเอารถไปใช้ที่นั่น ทุกครั้งที่ได้กลับบ้านที่ภูเก็ตและเดินทางผ่านหาดกมลาก็อดที่จะตัวสั่นตื่นเต้นไม่ได้ที่จะกลับมาเหยียบเขากมลาแห่งนี้อีกครั้ง ห่างหายไปร่วมปี ไม่รู้ว่าตัวเองจะยังไหวไหมเพราะห่างหายการปั่นไปนานเหลือเกิน
ตอนแรกตั้งเป้าไว้ว่าจะออกเช้าหน่อย เผื่อเวลาขากลับจะได้ไม่ร้อนมาก แต่แล้วมันก็ไม่เป็นไปตามแผน ลูกชายวัย 1 เดือนตื่นร้องมากินนมตอนตีสี่กว่าๆ กับอีกครั้งตอนตีห้า ทำให้ฟุบหลับไป กว่าจะได้ออกจากบ้านก็เกือบๆเก้าโมงเช้า แดดกำลังดีเลย
ปั่นไปเรื่อยๆ เจอเนินแรกก่อนถึงหาดสุรินทร์ ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ปั่นต่อไปเรื่อยๆจนผ่านกมลามาได้ แอบดีใจเล็กๆ
ไปครั้งนี้ก็ยังพึ่งพาแอพคู่ใจ RunKeeper ปรากฎว่าวันนี้มันดันเอ๋อครับ จับระยะได้แค่ขาเดียว (ไม่ครบทั้งทริปซะงั้น)
แต่ไม่เป็นไรครับ มีตัวช่วยอีกหนึ่ง น้องตาแมวทำงานได้ดีครับ
ไว้ให้ฟิตอีกนิดนึงตั้งใจว่าจะปั่นไปให้ถึงป่าตองครับ (เขาอีกเพียบ)
ส่วนทริปวันนี้ก็อดไม่ได้ ขอไปเจอโจทย์เก่าเขื่อนบางเหนียวดำ และขุมน้ำตรงวัดม่าหนิกครับ (ไม่แน่ใจว่ามีชื่อเรียกรึเปล่า) เมื่อปีก่อนตอนเริ่มปั่นจักรยานใหม่ๆ พอปั่นไปถึงกมลาได้ ก็รู้สึกว่าตัวเองก็แน่ใช้ได้ แค่เขื่อนแค่นี้จะสักเท่าไหร่ ปรากฏว่าครังแรกอ้วกแตกครับ แล้วก็ต้องกลับไปใหม่อีก 2 ครั้งกว่าจะพิชิตได้ (เมื่อก่อนมีคติ ว่าเท้าแตะพื้นคือกลับสถานเดียวครับ)
ไปเจอโจทย์เก่าเที่ยวนี้ก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถทำได้รึเปล่า แต่ไม่ลองไม่รู้ครับ
และแล้วเราก็สามารถทำได้ รูปเขื่อนบางเหนียวดำแบบพาโนรามา จาก 2 มุมครับ ครับ
เสร็จจากเขื่อนก็แว่บไปต่อที่ที่ขุมน้ำที่ว่า เข้าไปทางวัดม่าหนิก ปรากฏว่าขุมน้ำเปลี่ยนเป็นที่เล่นกีฬาพวก Water Sports แต่คงยังเปิดไม่ครบ 100% ครับ แต่ก็มีคนเริ่มมาใช้บริการแล้ว
สถิติวันนี้ผ่านแอพ (ที่ไม่เอ๋อแล้ว)
น้องตาแมวครับ
ตอนลงจากสันเขื่อนนี่มันเร็วน่ากลัวจริงๆ แถมโค้งอีก ตอนลงเนินด้วยความเร็ว 30+ กมต่อชั่วโมงกับมอไซค์ ไม่น่ากลัวเท่าตอนลงมากับจักรยาน มาแอบคิดถึงพวกนั่งแข่งมืออาชีพ คนพวกนี้หัวใจทำด้วยอะไรน้อ
จบทริปสำหรับ 2 วันนี้ครับ
หวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่อยากทำ ได้ลุกขึ้นมาทำครับ การปั่นจักรยานเป็นการออกกำลังกายที่ดี ทำให้เราได้แข่งได้สู้กับตัวเองครับ