https://www.facebook.com/evilhana/posts/590096564337756
แค่อยากระบายน่ะค่ะ
เห็นป้ายโครงการ ดีบุราที่พรานนกนานแล้ว ติดตามข่าวสารตลอด อยากซื้อให้พ่อกับแม่เนื่องจากอยู่ในย่านเดิมที่อาศัยอยู่ จะได้ไม่ต้องไปทำความคุ้นเคยกับสถานที่ใหม่ ..
เมื่อรู้ว่า26-27นี้พรีเซลล์ก็ว่าจะเข้าไปดูโครงการอยู่
26วันเสาร์ยังต้องทำงาน ขับรถผ่านหน้าเซลล์ออฟฟิศคนเยอะดี ตั้งใจว่าอาทิตย์27 จะเข้าไปดูอย่างแน่นอน
พอเช้า27 ลูกชายตัวน้อยอายุ7เดือนตื่นแต่เช้า รอฝนหยุดตกตอน7โมงกว่าๆ พาไปใส่บาตรที่ตลาด .. แต่งตัวบ้านๆค่ะ เดินไปตลาด เนื่องจากอยู่ใกล้มาก...
แม่ค้าร้านที่ขายกับข้าวใส่บาตรพระร้านประจำ ก็บอกว่าเมื่อวานที่ออฟฟิศขายคอนโดมีเลี้ยงข้าวด้วย เราก็เลยถามกลับไปว่าเปิดแล้วหรือคะ แม่ค้าบอกว่าเปิดแล้ว เราก็เลยเดินไปดูเพราะอยู่ห่างจากร้านใส่บาตรประมาณ 20 เมตรเอง
เราอุ้มลูกชายเดินผ่าน รปภ. เข้าไปยังจุดที่เค้าตั้งเต้นขายข้าว..ก็มีผู้หญิงคนนึงแขวนป้ายชื่อที่คอ เราเข้าใจว่าน่าจะเป็นพนักงานของโครงการ ก็เลยบอกเค้าว่าจะมาดูโครงการค่ะ เค้าบอกว่าเปิด9โมง แต่สามารถไปดูหน้าออฟฟิศได้ค่ะ มีแม่บ้านอยู่ ฝนเจ้ากรรมก็เริ่มลงละออง คุณพนักงานสาวท่านนั้นก็ใจดีเรียกยามมากางร่มให้เรากับลูกชาย เราเริ่มรู้สึกดีที่เค้าเอาใจใส่..
เราเดินมาหน้าอาคารออฟฟิศหลบฝน ไม่ได้เข้าไปข้างใน เพราะเค้าบอกยังไม่เปิด .. ไม่เป็นไร นั่งรอตรงนี้ก็ได้.. ฝนก็เริ่มตกหนักขึ้น ใจเราคิดว่า "หรือว่าเราจะได้เป็นเจ้าของคอนโดตรงนี้จริงๆ เพราะติดอยู่ตรงนี้ ไปไหนไม่ได้"
เราก็รออย่างใจเย็น เล่นกับลูกชายตัวแสบไปเรื่อย ระหว่างนั้นเราก็ดูข้างในตลอด ว่าเค้าจัดงานเตรียมเปิดใกล้เสร็จหรือยัง จนพนักงานเสื้อดำนั่งเกาะกลุ่มไม่ได้ทำอะไรแล้ว .. ระหว่างที่รอ ก็มีพนักงานที่แต่งตัวดีๆ เข้าออฟฟิศไป 2-3 คน แล้วก็มีพนักงานระดับซีเนียร์(เราเข้าใจว่าน่าจะเป็นซีเนียร์) มาสั่งให้ย้ายชั้นวางรองเท้า มาตรงมุมที่เรานั่ง เราก็ลุกหลบให้เค้าขยับชั้นวางเพื่อหลบฝน แต่พนักงานคนนั้นไม่กล่าวอะไรกับเราเลย ไม่แม้กระทั่งจะมองหน้าเรา ..แต่เราก็ไม่คิดอะไร จนลูกชายเริ่มหิวนม เริ่มหงุดหงิด (ปกติเค้าเป็นเด็กอารมย์ดี ไม่มีร้องงอแงเลย) เราเลยจะรอแค่ฝนหยุดตก กลับบ้านให้ลูกชายกินนม เดี๋ยวมาใหม่
แต่สิ่งทีีทำให้เราเปลี่ยนใจก็คือในตอนที่เรากำลังจะกลับแลัวก็มีลูกค้าอีกคู่ ขับรถเข้ามา ทั้งคู่ได้รับการต้อนรับเปลี่ยนรองเท้าเดินเข้าออฟฟิศไปดูโครงการ
ขอบคุณค่ะที่ทำให้รับรู้ว่า ถ้าแต่งตัวบ้านๆ ไม่ได้พกไอโฟน ไอแพด ขับรถ ออกมา ก็จะไม่มีคนสนใจ นั่งอยู่นานมาก ไม่ได้แม้แต่น้ำสักแก้ว ไม่มีแม้แต่คำพูดสักคำ
ถ้ามีใครออกมาพูดว่ารอสักครู่นะคะ เราก็ยังยินดีนะคะ เราตั้งตารอมานาน ติดตามข่าวสาร เรายินดีที่จะรอ ..แต่เรารอ 1ขั่วโมงครึ่ง ก็ไม่ใครสนใจ ราวกับว่าเรากับลูกชายไร้ตัวตน มีเพียงพี่สาวอีกคนซึ่งเป็นลูกค้าเหมือนอย่างเราจะมาจองคอนโดนั่งคุยเล่นกับลูกชายเรา
ขอบคุณแสนสิริอีกครั้ง ที่ทำให้รู้ว่าคนที่แต่งตัวบ้านๆ นุ่งขาสั้น รองเท้าแตะ และอุ้มลูกชายเดินมาตลาดแบบเรา ไม่มีสิทธิ์ได้รับบริการจากโครงการแสนสิริ
เซ็งอย่างแรงกับแสนสิริ
แค่อยากระบายน่ะค่ะ
เห็นป้ายโครงการ ดีบุราที่พรานนกนานแล้ว ติดตามข่าวสารตลอด อยากซื้อให้พ่อกับแม่เนื่องจากอยู่ในย่านเดิมที่อาศัยอยู่ จะได้ไม่ต้องไปทำความคุ้นเคยกับสถานที่ใหม่ ..
เมื่อรู้ว่า26-27นี้พรีเซลล์ก็ว่าจะเข้าไปดูโครงการอยู่
26วันเสาร์ยังต้องทำงาน ขับรถผ่านหน้าเซลล์ออฟฟิศคนเยอะดี ตั้งใจว่าอาทิตย์27 จะเข้าไปดูอย่างแน่นอน
พอเช้า27 ลูกชายตัวน้อยอายุ7เดือนตื่นแต่เช้า รอฝนหยุดตกตอน7โมงกว่าๆ พาไปใส่บาตรที่ตลาด .. แต่งตัวบ้านๆค่ะ เดินไปตลาด เนื่องจากอยู่ใกล้มาก...
แม่ค้าร้านที่ขายกับข้าวใส่บาตรพระร้านประจำ ก็บอกว่าเมื่อวานที่ออฟฟิศขายคอนโดมีเลี้ยงข้าวด้วย เราก็เลยถามกลับไปว่าเปิดแล้วหรือคะ แม่ค้าบอกว่าเปิดแล้ว เราก็เลยเดินไปดูเพราะอยู่ห่างจากร้านใส่บาตรประมาณ 20 เมตรเอง
เราอุ้มลูกชายเดินผ่าน รปภ. เข้าไปยังจุดที่เค้าตั้งเต้นขายข้าว..ก็มีผู้หญิงคนนึงแขวนป้ายชื่อที่คอ เราเข้าใจว่าน่าจะเป็นพนักงานของโครงการ ก็เลยบอกเค้าว่าจะมาดูโครงการค่ะ เค้าบอกว่าเปิด9โมง แต่สามารถไปดูหน้าออฟฟิศได้ค่ะ มีแม่บ้านอยู่ ฝนเจ้ากรรมก็เริ่มลงละออง คุณพนักงานสาวท่านนั้นก็ใจดีเรียกยามมากางร่มให้เรากับลูกชาย เราเริ่มรู้สึกดีที่เค้าเอาใจใส่..
เราเดินมาหน้าอาคารออฟฟิศหลบฝน ไม่ได้เข้าไปข้างใน เพราะเค้าบอกยังไม่เปิด .. ไม่เป็นไร นั่งรอตรงนี้ก็ได้.. ฝนก็เริ่มตกหนักขึ้น ใจเราคิดว่า "หรือว่าเราจะได้เป็นเจ้าของคอนโดตรงนี้จริงๆ เพราะติดอยู่ตรงนี้ ไปไหนไม่ได้"
เราก็รออย่างใจเย็น เล่นกับลูกชายตัวแสบไปเรื่อย ระหว่างนั้นเราก็ดูข้างในตลอด ว่าเค้าจัดงานเตรียมเปิดใกล้เสร็จหรือยัง จนพนักงานเสื้อดำนั่งเกาะกลุ่มไม่ได้ทำอะไรแล้ว .. ระหว่างที่รอ ก็มีพนักงานที่แต่งตัวดีๆ เข้าออฟฟิศไป 2-3 คน แล้วก็มีพนักงานระดับซีเนียร์(เราเข้าใจว่าน่าจะเป็นซีเนียร์) มาสั่งให้ย้ายชั้นวางรองเท้า มาตรงมุมที่เรานั่ง เราก็ลุกหลบให้เค้าขยับชั้นวางเพื่อหลบฝน แต่พนักงานคนนั้นไม่กล่าวอะไรกับเราเลย ไม่แม้กระทั่งจะมองหน้าเรา ..แต่เราก็ไม่คิดอะไร จนลูกชายเริ่มหิวนม เริ่มหงุดหงิด (ปกติเค้าเป็นเด็กอารมย์ดี ไม่มีร้องงอแงเลย) เราเลยจะรอแค่ฝนหยุดตก กลับบ้านให้ลูกชายกินนม เดี๋ยวมาใหม่
แต่สิ่งทีีทำให้เราเปลี่ยนใจก็คือในตอนที่เรากำลังจะกลับแลัวก็มีลูกค้าอีกคู่ ขับรถเข้ามา ทั้งคู่ได้รับการต้อนรับเปลี่ยนรองเท้าเดินเข้าออฟฟิศไปดูโครงการ
ขอบคุณค่ะที่ทำให้รับรู้ว่า ถ้าแต่งตัวบ้านๆ ไม่ได้พกไอโฟน ไอแพด ขับรถ ออกมา ก็จะไม่มีคนสนใจ นั่งอยู่นานมาก ไม่ได้แม้แต่น้ำสักแก้ว ไม่มีแม้แต่คำพูดสักคำ
ถ้ามีใครออกมาพูดว่ารอสักครู่นะคะ เราก็ยังยินดีนะคะ เราตั้งตารอมานาน ติดตามข่าวสาร เรายินดีที่จะรอ ..แต่เรารอ 1ขั่วโมงครึ่ง ก็ไม่ใครสนใจ ราวกับว่าเรากับลูกชายไร้ตัวตน มีเพียงพี่สาวอีกคนซึ่งเป็นลูกค้าเหมือนอย่างเราจะมาจองคอนโดนั่งคุยเล่นกับลูกชายเรา
ขอบคุณแสนสิริอีกครั้ง ที่ทำให้รู้ว่าคนที่แต่งตัวบ้านๆ นุ่งขาสั้น รองเท้าแตะ และอุ้มลูกชายเดินมาตลาดแบบเรา ไม่มีสิทธิ์ได้รับบริการจากโครงการแสนสิริ