สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
1. ถ้าต้องการจดทะเบียน บริษัท บริษัท ต้องมีเงินทุนเท่าไหร่ครับ
ตอบ ไม่กำหนดทุนจดทะเบียน แต่มูลค่าหุ้นต้องไม่ต่ำกว่า 5 บาท
2. ต้องมีหุ้นส่วนกี่คนครับ ถึงตั้งบริษัทได้
ตอบ ถ้าเป็นห้างหุ้นส่วน 2 คนขึ้นไป ถ้าเป็นบริษัทจำกัด 3 คนขึ้นไป นั้นหมายถึงท่านชำระทุนได้ตำสุด 15 บาท
3. ให้พ่อกับแม่เป็นหุ้นส่วนได้มั้ยครับ แต่รายได้เป็นของเรา
ตอบ ถ้าให้พ่อ แม่ถือหุ้นได้ แต่คำถามคือ
1. ใครเป็นผู้มีอำนาจลงนาม
2. ใครถือหุ้นใหญ่เช่น พ่อ 50% แม่ 49% คุณ 1% กำไร ต้องจ่ายในลักษณะปันผล
3. อยากมีรายได้เป็นของตัวเองโดยไม่ได้ถือหุ้นใช่ไหม ก็จ่ายเงินเดือนให้ตัวเองสิ
4. ใช้ที่บ้านเป็นที่ตั้งทำการบริษัทได้มั้ยครับ
ตอบ ได้ไม่มีปัญหา เช่าบ้านตัวเองก็ได้เป็นค่าใช้จ่ายได้ด้วย
5. ถ้าล้มละลายหรือเป็นหนี้ พ่อแม่จะเดือดร้อนมั้ยครับ และ บ้านจะที่ใช้ตั้งบริษัทจะโดนยึดมั้ยครับ ถ้าเราไม่มีเงินจ่าย
ตอบ ถ้าล้มละลายหรือเป็นหนี้ พ่อแม่จะเดือดร้อนมั้ยครับ
บริษัทจะผิดอันดับแรก ผู้มีอำนาจลงนามรับผิดชอบอันดับที่สอง ต่อไปรับผิดชอบตามสัดส่วนการถือหุ้น
ตอบ บ้านจะที่ใช้ตั้งบริษัทจะโดนยึดมั้ยครับ ถ้าเราไม่มีเงินจ่าย
- บ้านถ้าไม่ใช่ชื่อของบริษัทจะไม่ถูกยืด แต่เดี๋ยวก่อน......ท่านอาจถูกยืดในกรณีที่ผู้ถือหุ้นถูกฟ้องล้มละลายด้วย(หมายถึงฟ้องบริษัทแล้ว ผู้ถือหุ้น และผู้บริหารมักจะถูกฟ้องด้วยเสมอ) จะถูกสืบทรัพย์เพื่อนำไปชำระหนี้ ไม่ใช่แค่บ้าน แต่เป็นทรัพย์สินทุกอย่างที่ท่านมี จนกว่าจะใช้หนี้หมด มีตัวอบ่างให้เห็นมากมายว่าบริษัทเจ๋ง ผู้บริหารหนี หรือโอนสินทรัพย์ให้นอมินี
มีอะไรถามหลังไมด์
ทะเบียนบริษัท บัญชี ภาษี
ปล ตอบในฐานะนักบัญชี และผู้สอบบัญชี อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด
ตอบ ไม่กำหนดทุนจดทะเบียน แต่มูลค่าหุ้นต้องไม่ต่ำกว่า 5 บาท
2. ต้องมีหุ้นส่วนกี่คนครับ ถึงตั้งบริษัทได้
ตอบ ถ้าเป็นห้างหุ้นส่วน 2 คนขึ้นไป ถ้าเป็นบริษัทจำกัด 3 คนขึ้นไป นั้นหมายถึงท่านชำระทุนได้ตำสุด 15 บาท
3. ให้พ่อกับแม่เป็นหุ้นส่วนได้มั้ยครับ แต่รายได้เป็นของเรา
ตอบ ถ้าให้พ่อ แม่ถือหุ้นได้ แต่คำถามคือ
1. ใครเป็นผู้มีอำนาจลงนาม
2. ใครถือหุ้นใหญ่เช่น พ่อ 50% แม่ 49% คุณ 1% กำไร ต้องจ่ายในลักษณะปันผล
3. อยากมีรายได้เป็นของตัวเองโดยไม่ได้ถือหุ้นใช่ไหม ก็จ่ายเงินเดือนให้ตัวเองสิ
4. ใช้ที่บ้านเป็นที่ตั้งทำการบริษัทได้มั้ยครับ
ตอบ ได้ไม่มีปัญหา เช่าบ้านตัวเองก็ได้เป็นค่าใช้จ่ายได้ด้วย
5. ถ้าล้มละลายหรือเป็นหนี้ พ่อแม่จะเดือดร้อนมั้ยครับ และ บ้านจะที่ใช้ตั้งบริษัทจะโดนยึดมั้ยครับ ถ้าเราไม่มีเงินจ่าย
ตอบ ถ้าล้มละลายหรือเป็นหนี้ พ่อแม่จะเดือดร้อนมั้ยครับ
บริษัทจะผิดอันดับแรก ผู้มีอำนาจลงนามรับผิดชอบอันดับที่สอง ต่อไปรับผิดชอบตามสัดส่วนการถือหุ้น
ตอบ บ้านจะที่ใช้ตั้งบริษัทจะโดนยึดมั้ยครับ ถ้าเราไม่มีเงินจ่าย
- บ้านถ้าไม่ใช่ชื่อของบริษัทจะไม่ถูกยืด แต่เดี๋ยวก่อน......ท่านอาจถูกยืดในกรณีที่ผู้ถือหุ้นถูกฟ้องล้มละลายด้วย(หมายถึงฟ้องบริษัทแล้ว ผู้ถือหุ้น และผู้บริหารมักจะถูกฟ้องด้วยเสมอ) จะถูกสืบทรัพย์เพื่อนำไปชำระหนี้ ไม่ใช่แค่บ้าน แต่เป็นทรัพย์สินทุกอย่างที่ท่านมี จนกว่าจะใช้หนี้หมด มีตัวอบ่างให้เห็นมากมายว่าบริษัทเจ๋ง ผู้บริหารหนี หรือโอนสินทรัพย์ให้นอมินี
มีอะไรถามหลังไมด์
ทะเบียนบริษัท บัญชี ภาษี
ปล ตอบในฐานะนักบัญชี และผู้สอบบัญชี อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด
สมาชิกหมายเลข 5860181 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1266060 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1989858 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1551368 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3636171 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4161737 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5385328 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5135439 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 790723 ถูกใจ, ไข่เค็มนมเย็นจิงโจ้ ถูกใจรวมถึงอีก 14 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 7
1. ถ้าต้องการจดทะเบียน บริษัท บริษัท ต้องมีเงินทุนเท่าไหร่ครับ
การจดทะเบียน มี 2 แบบค่ะ
1.1 จดทะเบียนพาณิชย์ (ทะเบียนการค้า)
- ส่วนใหญ่ การประกอบกิจการ ที่ไม่ใช่การขายของตามแผงลอย และมีกำไรไม่ต่ำกว่าวันละ 20 บาทขึ้นไป ต้องจดค่ะ ^^
1.2 จดทะเบียนนิติบุคคล
- การจดทะเบียนนิติบุคคล ถ้าเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ กฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องจด
ถ้าคุณ จขกท. ประกอบกิจการลงทุน คนเดียว ตัวคนเดียว ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนนิติบุคคลก็ได้ (แต่ถ้าคุณติดหนี้ เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องเรียกเงินชำระหนี้ได้ทั้งหมด ทั้งแบบส่วนตัวและผ่านกิจการ)
ถ้าคุณจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เวลามีหนี้ เจ้าหนี้ฟ้องเรียกชำระคืนได้แค่ทรัพสินย์ในบัญชีของบริษัทค่ะ ฟ้องเอาเงินส่วนตัวไม่ได้ (การจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ต้องทำรายงานทางบัญชีส่งให้หน่วยงานกลางด้วยนะคะ เพื่อให้เจ้าหนี้ของเราตรวจสอบได้)
จริงๆแล้วมีการจดทะเบียนอีกหลายแบบ แต่ขี้เกียจเล่า มันยาวและละเอียดมาก (และเท่าที่อ่าน จขกท.น่าจะประกอบกิจการคนเดียว ก็เลยเล่าไปแบบนั้น) แบบอื่นๆก็มี ห้างหุ้นส่วนสามัญ ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด
2. ต้องมีหุ้นส่วนกี่คนครับ ถึงตั้งบริษัทได้
- ขึ้นอยู่กับ จะตั้งบริษัทอะไร ??? จะก่อตั้งห้างหุ้นส่วนแบบไม่จดทะเบียน หรือห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล หรือบริษัทจำกัด ???
- ถ้าเป็นห้างหุ้นส่วน มีหุ้นส่วน 2 คนขึ้นไป แต่ถ้าเป็นบริษัทจำกัด ต้องมีหุ้นส่วนไม่น้อยกว่า 7 คนค่ะ
3. ให้พ่อกับแม่เป็นหุ้นส่วนได้มั้ยครับ แต่รายได้เป็นของเรา
- ได้.. ก็แค่ทำบัญชีแบ่งกำไรไปให้พ่อแม่ แล้วคุณไปบอกพ่อกับแม่เอาเงินให้คุณ มันก็เหมือนกันอ่ะ --'
4. ใช้ที่บ้านเป็นที่ตั้งทำการบริษัทได้มั้ยครับ
- ถ้าเป็นห้างหุ้นส่วนน่ะ ได้.. แต่ถ้าเป็นบริษัทจำกัด ทำไม่ได้.. สำนักงานต้องอยู่ในบริเวณที่ตั้งของสถานที่ประกอบกิจการ (เช่น อยู่ใกล้ๆโรงงาน)
5. ถ้าล้มละลายหรือเป็นหนี้ พ่อแม่จะเดือดร้อนมั้ยครับ และ บ้านจะที่ใช้ตั้งบริษัทจะโดนยึดมั้ยครับ ถ้าเราไม่มีเงินจ่าย
- ก็อย่างที่เล่าไปในความเห็น #1 คือ ถ้าไม่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายแบบส่วนตัวได้ แต่ถ้าจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เจ้าหนี้จะฟ้องร้องได้แค่ ทรัพสินย์ที่มีอยู่ของบริษัท
***
ประเด็นคือ จขกท. ยังไม่มีพื้นฐานความรู้เรื่องพวกนี้ ลักษณะการถามคำถาม ก็เลยกำกวม และคนตอบก็ไม่สามารถตอบได้ เพราะแต่ละข้อ 1,2,3,4,5 มันเป็นคำถามที่ ไม่สัมพันธ์กัน
ลองตั้งคำถามใหม่ ทีละข้อนะคะ พอเข้าใจข้อแรกแล้ว ค่อยตั้งอีกกระทู้ถามข้อ 2 เดี๋ยวจะกลับมาตอบใหม่จ้า ^^
การจดทะเบียน มี 2 แบบค่ะ
1.1 จดทะเบียนพาณิชย์ (ทะเบียนการค้า)
- ส่วนใหญ่ การประกอบกิจการ ที่ไม่ใช่การขายของตามแผงลอย และมีกำไรไม่ต่ำกว่าวันละ 20 บาทขึ้นไป ต้องจดค่ะ ^^
1.2 จดทะเบียนนิติบุคคล
- การจดทะเบียนนิติบุคคล ถ้าเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ กฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องจด
ถ้าคุณ จขกท. ประกอบกิจการลงทุน คนเดียว ตัวคนเดียว ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนนิติบุคคลก็ได้ (แต่ถ้าคุณติดหนี้ เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องเรียกเงินชำระหนี้ได้ทั้งหมด ทั้งแบบส่วนตัวและผ่านกิจการ)
ถ้าคุณจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เวลามีหนี้ เจ้าหนี้ฟ้องเรียกชำระคืนได้แค่ทรัพสินย์ในบัญชีของบริษัทค่ะ ฟ้องเอาเงินส่วนตัวไม่ได้ (การจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ต้องทำรายงานทางบัญชีส่งให้หน่วยงานกลางด้วยนะคะ เพื่อให้เจ้าหนี้ของเราตรวจสอบได้)
จริงๆแล้วมีการจดทะเบียนอีกหลายแบบ แต่ขี้เกียจเล่า มันยาวและละเอียดมาก (และเท่าที่อ่าน จขกท.น่าจะประกอบกิจการคนเดียว ก็เลยเล่าไปแบบนั้น) แบบอื่นๆก็มี ห้างหุ้นส่วนสามัญ ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด
2. ต้องมีหุ้นส่วนกี่คนครับ ถึงตั้งบริษัทได้
- ขึ้นอยู่กับ จะตั้งบริษัทอะไร ??? จะก่อตั้งห้างหุ้นส่วนแบบไม่จดทะเบียน หรือห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล หรือบริษัทจำกัด ???
- ถ้าเป็นห้างหุ้นส่วน มีหุ้นส่วน 2 คนขึ้นไป แต่ถ้าเป็นบริษัทจำกัด ต้องมีหุ้นส่วนไม่น้อยกว่า 7 คนค่ะ
3. ให้พ่อกับแม่เป็นหุ้นส่วนได้มั้ยครับ แต่รายได้เป็นของเรา
- ได้.. ก็แค่ทำบัญชีแบ่งกำไรไปให้พ่อแม่ แล้วคุณไปบอกพ่อกับแม่เอาเงินให้คุณ มันก็เหมือนกันอ่ะ --'
4. ใช้ที่บ้านเป็นที่ตั้งทำการบริษัทได้มั้ยครับ
- ถ้าเป็นห้างหุ้นส่วนน่ะ ได้.. แต่ถ้าเป็นบริษัทจำกัด ทำไม่ได้.. สำนักงานต้องอยู่ในบริเวณที่ตั้งของสถานที่ประกอบกิจการ (เช่น อยู่ใกล้ๆโรงงาน)
5. ถ้าล้มละลายหรือเป็นหนี้ พ่อแม่จะเดือดร้อนมั้ยครับ และ บ้านจะที่ใช้ตั้งบริษัทจะโดนยึดมั้ยครับ ถ้าเราไม่มีเงินจ่าย
- ก็อย่างที่เล่าไปในความเห็น #1 คือ ถ้าไม่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายแบบส่วนตัวได้ แต่ถ้าจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เจ้าหนี้จะฟ้องร้องได้แค่ ทรัพสินย์ที่มีอยู่ของบริษัท
***
ประเด็นคือ จขกท. ยังไม่มีพื้นฐานความรู้เรื่องพวกนี้ ลักษณะการถามคำถาม ก็เลยกำกวม และคนตอบก็ไม่สามารถตอบได้ เพราะแต่ละข้อ 1,2,3,4,5 มันเป็นคำถามที่ ไม่สัมพันธ์กัน
ลองตั้งคำถามใหม่ ทีละข้อนะคะ พอเข้าใจข้อแรกแล้ว ค่อยตั้งอีกกระทู้ถามข้อ 2 เดี๋ยวจะกลับมาตอบใหม่จ้า ^^
สมาชิกหมายเลข 1266060 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4161737 ถูกใจ, Sodx2 ถูกใจ, Superguiman ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1440204 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1628496 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 984447 ถูกใจ, jick_kim ถูกใจ, ยี่สิบห้าเดือนเจ็ด ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 24
ไม่รู้ จขกท จดไปรึยัง แค่อยากจะมาเตือนว่า ก่อนจด ให้ศึกษาก่อนให้ถ่องแท้ อย่าเพิ่งทะเล่อทะล่าเข้าไป มีหวังหลังแอ่นกลับมาแน่ๆ
ที่แน่ๆ หากทุนชำระเต็มแบบที่บาง คห แนะนำ ถ้าคุณไม่มีเงินจริง เงินทุนหลังจากหักค่าใช้จ่ายในปีแรก จะกลายเป็นเงินกู้ยืมของกรรมการ ว่าง่ายๆ คือกรรมการจะติดหนี้บริษัท และต้องจ่ายดอกเบี้ยให้บริษัททุกปี ตามอัตราดอกเบี้ยที่สมเหตุสมผล ส่วนบริษัทก็ต้องไปยื่นจ่ายภาษีธุรกิจเฉพาะทุกปีอีก เพราะได้รายได้จากดอกเบี้ย ทั้งๆ ที่มันไม่มีจริง แล้วไอ้ดอกเบี้ยนี้มันก็โตขึ้นเรื่อยๆ ๆ ๆ กลายเป็นภาระของกรรมการ จนหลังแอ่น ถอยกลับไม่ทัน ต้องเอาเงินจริงมาใส่บัญชี ถึงจะหายกัน
แล้วยังมีเรื่องเงินเดือนที่ต้องจ่ายให้ตัวเอง คุณจะจ่ายเต็ม 100% ไม่ได้ เพราะคุณต้องแบ่งรายได้เข้าบริษัทด้วย หรือถ้าจ่ายเป็นเงินประจำ ก็ต้องมีลิมิต หากมากเกินไป แล้วทำให้บริษัทกำไรน้อยไป สรรพากรอาจจะขอให้คุณลดเงินเดือน กลายเป็นว่า เงินที่คุณหามาได้ ต้องจมไปกับบริษัท จะเอาออกมาใช้ก็ยากลำบาก เงินของเราแท้ๆ แต่เอามาใช้ไม่ได้ บางคนบอก ก็ทำเป็นเงินปันผลสิ ไม่เห็นจะยาก
เรื่องเงินปันผล ก็ยังมีเงื่อนไข ต้องมีทุนสำรอง 10% หรือว่าไงนี่แหละ ส่วนภาษีหัก ณ ที่จ่ายของเงินปันผลคือ 10% ถึงแม้นำไปเครดิตภาษีได้ แต่ก็มีเงื่อนไขให้เราต้องเลือกอีก แล้วถ้าบริษัทมีผลประกอบการขาดทุน ก็ยังปันผลไม่ได้ จนกว่าจะมีผลกำไรมาอัดให้เต็มส่วนที่ขาดทุน แล้วต้องกันทุนสำรองอีก 10% อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะอ่านมาคร่าวๆ ให้ลองกรูเกิ้ลหาดู
และอีกจิปาถะ ที่จะมาเพิ่มภาระให้เรา จนเวลาที่จะทำมาหากิน ต้องหมดไปกับเรื่องพวกนี้ นอกจากจะจ้างคนมาทำให้ แต่ก็เตือนด้วยความหวังดี ส่วนถ้าจะทำแบบบุคคล มันก็จะยุ่งยากอีตอนที่รายได้เกิน 1.8 ล้าน ต้องจด VAT ชีวิตยุ่งยากขึ้นอีก ต้องมีรูทีนประจำเดือนไปส่งภาษีมูลค่าเพิ่มที่สรรพากรทุกเดือน ชีวิตมันไม่ง่ายดั่งที่คิด แต่หากมีจิตที่มุ่งมั่น ก็ลุยเลย แต่ต้องศึกษาให้ดีทุกแง่ทุกมุมก่อน เพราะมันจะมีกับดักกระจายอยู่ทั่ว ถ้าจะไปแก้ตอนโดนกับดัก จะปวดหัวมากๆ แล้วจะมีแต่คำนี้วนอยู่ในสมอง "รู้งี้ .. ดีกว่า เฮ้อออ"
ที่แน่ๆ หากทุนชำระเต็มแบบที่บาง คห แนะนำ ถ้าคุณไม่มีเงินจริง เงินทุนหลังจากหักค่าใช้จ่ายในปีแรก จะกลายเป็นเงินกู้ยืมของกรรมการ ว่าง่ายๆ คือกรรมการจะติดหนี้บริษัท และต้องจ่ายดอกเบี้ยให้บริษัททุกปี ตามอัตราดอกเบี้ยที่สมเหตุสมผล ส่วนบริษัทก็ต้องไปยื่นจ่ายภาษีธุรกิจเฉพาะทุกปีอีก เพราะได้รายได้จากดอกเบี้ย ทั้งๆ ที่มันไม่มีจริง แล้วไอ้ดอกเบี้ยนี้มันก็โตขึ้นเรื่อยๆ ๆ ๆ กลายเป็นภาระของกรรมการ จนหลังแอ่น ถอยกลับไม่ทัน ต้องเอาเงินจริงมาใส่บัญชี ถึงจะหายกัน
แล้วยังมีเรื่องเงินเดือนที่ต้องจ่ายให้ตัวเอง คุณจะจ่ายเต็ม 100% ไม่ได้ เพราะคุณต้องแบ่งรายได้เข้าบริษัทด้วย หรือถ้าจ่ายเป็นเงินประจำ ก็ต้องมีลิมิต หากมากเกินไป แล้วทำให้บริษัทกำไรน้อยไป สรรพากรอาจจะขอให้คุณลดเงินเดือน กลายเป็นว่า เงินที่คุณหามาได้ ต้องจมไปกับบริษัท จะเอาออกมาใช้ก็ยากลำบาก เงินของเราแท้ๆ แต่เอามาใช้ไม่ได้ บางคนบอก ก็ทำเป็นเงินปันผลสิ ไม่เห็นจะยาก
เรื่องเงินปันผล ก็ยังมีเงื่อนไข ต้องมีทุนสำรอง 10% หรือว่าไงนี่แหละ ส่วนภาษีหัก ณ ที่จ่ายของเงินปันผลคือ 10% ถึงแม้นำไปเครดิตภาษีได้ แต่ก็มีเงื่อนไขให้เราต้องเลือกอีก แล้วถ้าบริษัทมีผลประกอบการขาดทุน ก็ยังปันผลไม่ได้ จนกว่าจะมีผลกำไรมาอัดให้เต็มส่วนที่ขาดทุน แล้วต้องกันทุนสำรองอีก 10% อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะอ่านมาคร่าวๆ ให้ลองกรูเกิ้ลหาดู
และอีกจิปาถะ ที่จะมาเพิ่มภาระให้เรา จนเวลาที่จะทำมาหากิน ต้องหมดไปกับเรื่องพวกนี้ นอกจากจะจ้างคนมาทำให้ แต่ก็เตือนด้วยความหวังดี ส่วนถ้าจะทำแบบบุคคล มันก็จะยุ่งยากอีตอนที่รายได้เกิน 1.8 ล้าน ต้องจด VAT ชีวิตยุ่งยากขึ้นอีก ต้องมีรูทีนประจำเดือนไปส่งภาษีมูลค่าเพิ่มที่สรรพากรทุกเดือน ชีวิตมันไม่ง่ายดั่งที่คิด แต่หากมีจิตที่มุ่งมั่น ก็ลุยเลย แต่ต้องศึกษาให้ดีทุกแง่ทุกมุมก่อน เพราะมันจะมีกับดักกระจายอยู่ทั่ว ถ้าจะไปแก้ตอนโดนกับดัก จะปวดหัวมากๆ แล้วจะมีแต่คำนี้วนอยู่ในสมอง "รู้งี้ .. ดีกว่า เฮ้อออ"
แสดงความคิดเห็น
ถ้าต้องการจดทะเบียน บริษัท ต้องมีเงินทุนเท่าไหร่ครับ
2. ต้องมีหุ้นส่วนกี่คนครับ ถึงตั้งบริษัทได้
3. ให้พ่อกับแม่เป็นหุ้นส่วนได้มั้ยครับ แต่รายได้เป็นของเรา
4. ใช้ที่บ้านเป็นที่ตั้งทำการบริษัทได้มั้ยครับ
5. ถ้าล้มละลายหรือเป็นหนี้ พ่อแม่จะเดือดร้อนมั้ยครับ และ บ้านจะที่ใช้ตั้งบริษัทจะโดนยึดมั้ยครับ ถ้าเราไม่มีเงินจ่าย