กาเมสุมิจฉาจาร เว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย คำว่า กามทั้งหลายได้แก่ กริยาที่รักใคร่กันในทางประเวณี การเสพเมถุน หรือการมีเพศสัมพันธ์
การผิดในกาม หมายถึง การเสพเมถุนกับคนที่ต้องห้ามมีดังนี้
สำหรับชาย หญิงต้องห้ามสำหรับชายมี ๓ ประเภท คือ
๑. สัสสามิกา หญิงมีสามีที่เรียกว่า ภรรยาท่านได้แก่หญิง ๔ จำพวก คือ
ก. หญิงที่แต่งงานกับชายแล้ว
ข. หญิงที่ไม่ได้แต่งงานแต่อยู่กับชายอย่างเปิดเผย
ค. หญิงที่รับสิ่งของมีทรัพย์เป็นต้นของชายแล้วยอมอยู่กับเขา
ง. หญิงที่ชายเลี้ยงเป็นภรรยา
๒. ญาติรักขิตา หญิงที่ญาติรักษา คือ ผู้ปกครอง ไม่เป็นอิสระแก่ตน เรียกว่า หญิงอยู่ในพิทักษ์รักษาของท่าน คือ หญิงที่มารดาบิดารักษาหรือญาติรักษา
๓. ธรรมรักษา หรือจาริตา หญิงที่จารีตรักษาที่เรียกว่า จารีตห้ามได้แก่ หญิงที่เป็นเทือกเถาเหล่ากอ
ก. เทือกเถา คือญาติผู้ใหญ่ นับย้อนขึ้นไป ๓ ชั้นมี ย่า ทวด ยายทวด ๑ ย่ายาย ๑ แม่ ๑ เหล่ากอ คือผู้ที่สืบสายจากตนลงไป ๓ ชั้น มีลูก ๑ หลาน ๑ เหลน ๑
ข. หญิงที่อยู่ในพระบัญญัติในพระศาสนาอันห้ามสังวาสกับชาย เช่น ภิกษุณีในกาลก่อน หรือแม่ชีในสมัยนี้
ค. หญิงที่บ้านเมืองห้าม เช่น แม่หม้ายงานท่าน อันมีในกฎหมาย
หญิง ๓ จำพวกนี้ จะมีฉันทะร่วมกันหรือไม่ร่วมกันไม่เป็นประมาณ ชายร่วมสังวาสด้วยก็เป็น กาเมสุมิจฉาจาร
หญิงที่เป็นวัตถุต้องห้ามของชาย โดยพิสดารมี ๒๐ จำพวก
๑. มาตุรักขิตา หญิงที่มารดารักษา
๒. ปิตุรักขิตา หญิงที่บิดารักษา
๓. มาตาปิตุรักขิตา หญิงที่มารดาบิดารักษา
๔. หญิงที่พี่ชายน้องชายรักษา
๕. ญิงที่พี่สาวน้องสาวรักษา
๖. หญิงที่ญาติรักษา
๗. หญิงที่โคตรหรือแซ่รักษา
๘. หญิงมีธรรมรักษา
๙. หญิงมีสามีรักษา
๑๐. หญิงมีสินไหม คือ พระราชาทรงรักษา
๑๑. หญิงที่ชายไถ่หรือซื้อมาด้วยทรัพย์เพื่อเป็นภรรยา
๑๒. หญิงที่อยู่กับชายด้วยความรักใคร่ชอบใจกันเอง
๑๓. หญิงที่อยู่เป็นภรรยาชายด้วยโภคทรัพย์
๑๔. หญิงที่เข็ญใจ ได้สักว่าผ้านุ่งห่ม ผ้าห่มแล้วอยู่เป็นภรรยา
๑๕. หญิงที่ชายขอเป็นภรรยา มีผู้ใหญ่จัดการให้
๑๖. หญิงที่ชายปลงภาระอันหนักให้แล้วยอมเป็นภรรยา
๑๗. หญิงที่เป็นทาสีอยู่ก่อน แล้วชายเอาเป็นภรรยา
๑๘. หญิงที่รับจ้างแล้ว ชายเอาเป็นภรรยา
๑๙. หญิงที่ชายรบข้าศึกได้เป็นเชลยแล้วเอาเป็นภรรยา
๒๐. หญิงที่ชายอยู่ด้วยขณะหนึ่งและหญิงนั้นก็เข้าใจว่าชายนั้นเป็นสามีของตน
กาเมสุมิจฉาจาร - นรกบนดิน
การผิดในกาม หมายถึง การเสพเมถุนกับคนที่ต้องห้ามมีดังนี้
สำหรับชาย หญิงต้องห้ามสำหรับชายมี ๓ ประเภท คือ
๑. สัสสามิกา หญิงมีสามีที่เรียกว่า ภรรยาท่านได้แก่หญิง ๔ จำพวก คือ
ก. หญิงที่แต่งงานกับชายแล้ว
ข. หญิงที่ไม่ได้แต่งงานแต่อยู่กับชายอย่างเปิดเผย
ค. หญิงที่รับสิ่งของมีทรัพย์เป็นต้นของชายแล้วยอมอยู่กับเขา
ง. หญิงที่ชายเลี้ยงเป็นภรรยา
๒. ญาติรักขิตา หญิงที่ญาติรักษา คือ ผู้ปกครอง ไม่เป็นอิสระแก่ตน เรียกว่า หญิงอยู่ในพิทักษ์รักษาของท่าน คือ หญิงที่มารดาบิดารักษาหรือญาติรักษา
๓. ธรรมรักษา หรือจาริตา หญิงที่จารีตรักษาที่เรียกว่า จารีตห้ามได้แก่ หญิงที่เป็นเทือกเถาเหล่ากอ
ก. เทือกเถา คือญาติผู้ใหญ่ นับย้อนขึ้นไป ๓ ชั้นมี ย่า ทวด ยายทวด ๑ ย่ายาย ๑ แม่ ๑ เหล่ากอ คือผู้ที่สืบสายจากตนลงไป ๓ ชั้น มีลูก ๑ หลาน ๑ เหลน ๑
ข. หญิงที่อยู่ในพระบัญญัติในพระศาสนาอันห้ามสังวาสกับชาย เช่น ภิกษุณีในกาลก่อน หรือแม่ชีในสมัยนี้
ค. หญิงที่บ้านเมืองห้าม เช่น แม่หม้ายงานท่าน อันมีในกฎหมาย
หญิง ๓ จำพวกนี้ จะมีฉันทะร่วมกันหรือไม่ร่วมกันไม่เป็นประมาณ ชายร่วมสังวาสด้วยก็เป็น กาเมสุมิจฉาจาร
หญิงที่เป็นวัตถุต้องห้ามของชาย โดยพิสดารมี ๒๐ จำพวก
๑. มาตุรักขิตา หญิงที่มารดารักษา
๒. ปิตุรักขิตา หญิงที่บิดารักษา
๓. มาตาปิตุรักขิตา หญิงที่มารดาบิดารักษา
๔. หญิงที่พี่ชายน้องชายรักษา
๕. ญิงที่พี่สาวน้องสาวรักษา
๖. หญิงที่ญาติรักษา
๗. หญิงที่โคตรหรือแซ่รักษา
๘. หญิงมีธรรมรักษา
๙. หญิงมีสามีรักษา
๑๐. หญิงมีสินไหม คือ พระราชาทรงรักษา
๑๑. หญิงที่ชายไถ่หรือซื้อมาด้วยทรัพย์เพื่อเป็นภรรยา
๑๒. หญิงที่อยู่กับชายด้วยความรักใคร่ชอบใจกันเอง
๑๓. หญิงที่อยู่เป็นภรรยาชายด้วยโภคทรัพย์
๑๔. หญิงที่เข็ญใจ ได้สักว่าผ้านุ่งห่ม ผ้าห่มแล้วอยู่เป็นภรรยา
๑๕. หญิงที่ชายขอเป็นภรรยา มีผู้ใหญ่จัดการให้
๑๖. หญิงที่ชายปลงภาระอันหนักให้แล้วยอมเป็นภรรยา
๑๗. หญิงที่เป็นทาสีอยู่ก่อน แล้วชายเอาเป็นภรรยา
๑๘. หญิงที่รับจ้างแล้ว ชายเอาเป็นภรรยา
๑๙. หญิงที่ชายรบข้าศึกได้เป็นเชลยแล้วเอาเป็นภรรยา
๒๐. หญิงที่ชายอยู่ด้วยขณะหนึ่งและหญิงนั้นก็เข้าใจว่าชายนั้นเป็นสามีของตน