โรคไตเกิดได้จากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือการกินอาหารที่มีโซเดียมสูง (sodium) สัญลักษณ์ทางเคมีคือ Na
โดยปกติแล้วในร่างกายแมวจะต้องมีการควบคุม Na เพื่อกิจกรรมหลายอย่างของเซล โดยที่เมื่อแมวกินอาหารที่มี Na ปริมาณ 23 mg.
ร่างกายจะดูดซึมเข้าไปที่กระแสเลือด โดยมีการวัดปริมาณที่อยู่ในกระแสเลือดเป็นหน่วย มิลลิอิควิวาเลนซ์ (mEq)
โซเดียมจากอาหาร 23 mg. จะกลายเป็น 1 mEq ที่อยู่ในเลือด โดยที่ร่างกายแมว ควรมีปริมาณโซเดียมอยู่ที่ 141 - 155 mEq.
1) สมมุติว่าแมวกินอาหารถุงสีเหลืองที่มี sodium 1.50% dry basis อาหารนี้มีความชื้น 10%
(ตอนคำนวณต้องลบ % ความชื้น)
ในอาหารเม็ดนี้ 100 กรัม จะมีน้ำหนักแห้ง 90 กรัม ----> มีปริมาณโซเดียม 90 x 1.50% = 1.35 กรัม (= 1,350 มิลลิกรัม)
ใน 1,350 มิลลิกรัม จะกลายเป็น 58.70 mEq ที่อยู่ในเลือด
วันหนึ่งๆ แมวกินอาหาร 300 กรัม ก็จะได้รับโซเดียม 4,050 มิลลิกรัม จะกลายเป็น 176.09 mEq ที่อยู่ในเลือด (มากกว่าเกณฑ์ 155 mEq.)
เมื่อโซเดียมสูงตลอดทุกๆวัน ความดันเดือนก็จะสูง ไตก็จะเสื่อมเร็วขึ้น
....................................................................................
2) สมมุติว่าแมวกินอาหารเปียกซองสีม่วงที่มี sodium 1.50% dry basis อาหารนี้มีความชื้น 85%
(ตอนคำนวณต้องลบ % ความชื้น)
ในอาหารเปียกนี้ 85 กรัม จะมีน้ำหนักแห้ง 85 x 15% = 12.75 กรัม ----> มีปริมาณโซเดียม 12.75 x 1.50% = 0.20 กรัม (= 200 มิลลิกรัม)
ใน 200 มิลลิกรัม จะกลายเป็น 8.70 mEq ที่อยู่ในเลือด
วันหนึ่งๆ แมวกินอาหาร 4 ซอง 340 กรัม ก็จะได้รับโซเดียม 800 มิลลิกรัม จะกลายเป็น 34.00 mEq ที่อยู่ในเลือด (ต่ำกว่าเกณฑ์ 141 mEq.)
ดังนั้นถ้าให้อาหารเปียกแมว 2 ซองต่อตัว อาหารเม็ดแห้งยี่ห้อนี้อีก 200 กรัม
จะได้รับโซเดียมทั้งหมด 58.70+58.70+8.70+8.70 = 134.80 mEq.
สรุป: การให้อาหารเม็ดอย่างเดียวนอกจากได้รับสารอาหารเข้มข้นมากไป ยังขาดน้ำที่จะทำให้แมวจะเป็นทั้งไต นิ่ว
ทำไมแมวกินอาหารเม็ดเค็มๆ แล้วถึงเป็นโรคไตได้
โดยปกติแล้วในร่างกายแมวจะต้องมีการควบคุม Na เพื่อกิจกรรมหลายอย่างของเซล โดยที่เมื่อแมวกินอาหารที่มี Na ปริมาณ 23 mg.
ร่างกายจะดูดซึมเข้าไปที่กระแสเลือด โดยมีการวัดปริมาณที่อยู่ในกระแสเลือดเป็นหน่วย มิลลิอิควิวาเลนซ์ (mEq)
โซเดียมจากอาหาร 23 mg. จะกลายเป็น 1 mEq ที่อยู่ในเลือด โดยที่ร่างกายแมว ควรมีปริมาณโซเดียมอยู่ที่ 141 - 155 mEq.
1) สมมุติว่าแมวกินอาหารถุงสีเหลืองที่มี sodium 1.50% dry basis อาหารนี้มีความชื้น 10%
(ตอนคำนวณต้องลบ % ความชื้น)
ในอาหารเม็ดนี้ 100 กรัม จะมีน้ำหนักแห้ง 90 กรัม ----> มีปริมาณโซเดียม 90 x 1.50% = 1.35 กรัม (= 1,350 มิลลิกรัม)
ใน 1,350 มิลลิกรัม จะกลายเป็น 58.70 mEq ที่อยู่ในเลือด
วันหนึ่งๆ แมวกินอาหาร 300 กรัม ก็จะได้รับโซเดียม 4,050 มิลลิกรัม จะกลายเป็น 176.09 mEq ที่อยู่ในเลือด (มากกว่าเกณฑ์ 155 mEq.)
เมื่อโซเดียมสูงตลอดทุกๆวัน ความดันเดือนก็จะสูง ไตก็จะเสื่อมเร็วขึ้น
....................................................................................
2) สมมุติว่าแมวกินอาหารเปียกซองสีม่วงที่มี sodium 1.50% dry basis อาหารนี้มีความชื้น 85%
(ตอนคำนวณต้องลบ % ความชื้น)
ในอาหารเปียกนี้ 85 กรัม จะมีน้ำหนักแห้ง 85 x 15% = 12.75 กรัม ----> มีปริมาณโซเดียม 12.75 x 1.50% = 0.20 กรัม (= 200 มิลลิกรัม)
ใน 200 มิลลิกรัม จะกลายเป็น 8.70 mEq ที่อยู่ในเลือด
วันหนึ่งๆ แมวกินอาหาร 4 ซอง 340 กรัม ก็จะได้รับโซเดียม 800 มิลลิกรัม จะกลายเป็น 34.00 mEq ที่อยู่ในเลือด (ต่ำกว่าเกณฑ์ 141 mEq.)
ดังนั้นถ้าให้อาหารเปียกแมว 2 ซองต่อตัว อาหารเม็ดแห้งยี่ห้อนี้อีก 200 กรัม
จะได้รับโซเดียมทั้งหมด 58.70+58.70+8.70+8.70 = 134.80 mEq.
สรุป: การให้อาหารเม็ดอย่างเดียวนอกจากได้รับสารอาหารเข้มข้นมากไป ยังขาดน้ำที่จะทำให้แมวจะเป็นทั้งไต นิ่ว