"ชู้" ผู้ชาย กะ ผู้หญิง ทำไมมาตรฐานค่านิยมถึงต่างกัน?

"ชู้" คือ การไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่สมรสของตนเอง โดยการไปร่วมประเวณีกับคนอื่น เช่น ฝ่ายชาย ไปร่วมประเวณีกะ หญิงคนอื่น หรือ ฝ่ายหญิง ไปร่วมประเวณีกะ ชายคนอื่น

ฝ่ายหญิง พอจับ ฝ่ายชาย (ทำผิด) ได้ ก็มักให้อภัยฝ่ายชาย
ฝ่ายชาย พอจับ  ฝ่ายหญิง (ทำผิด) ได้ ก็มักจะโกรธเป็นร้อยเท่าพันทวี ถึงขั้น ลงมือฆ่าทั้ง หญิง (คู่สมรสตน) หรือ ชายชู้ ให้ตายตกไปพร้อมๆ กัน
เผลอ ลงมือฆ่าตัวเองตายอีก  เข้าทำนอง "ลูกผู้ชาย... ฆ่าได้หยามไม่ได้"

แต่ถ้า ฝ่ายชายมีคนอื่น อยู่เป็นนิจ จนฝ่ายหญิงเบื่อหน่าย แต่ก็ไม่โวยวายอะไร ก็แอบไปปรึกษาคนอื่น เช่น หมอดู หรือคนที่ไว้วางใจ จนเสียรู้พลาดท่าเสียทีให้คนเลว จนเสียตัวไป 1 ครั้ง แต่ก็ไม่ไปยุ่งกับคนเลวพวกนั้นเป็นครั้งที่ 2

ฝ่ายชายทราบเรื่อง โกรธแค้นฝ่ายหญิงมาก ประกาศลั่น จองเวร สาบแช่งทุกวันคืน ส่วนฝ่ายหญิง ก็นิ่งเฉย

ประเด็นนี้น่าคิด ตรงที่ว่า
ฝ่ายชายก็ทำผิด หลายครั้ง แต่ฝ่ายหญิง ก็ไม่ว่าอะไร (ฝ่ายชายบอก เป็นปกติ ใครๆ ก็ทำกันทั้งบ้านเมือง)
ส่วนฝ่ายหญิงพลาด ทำให้ต้องเสียให้กับคนอื่น (ฝ่ายชายกลับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ บอกเสียศักดิ์ศรีถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะเมียตัวเองไปนอนให้คนอื่นเสพสุข)

ผมว่า ไม่ยุติธรรมกับ ฝ่ายหญิงเลย
ถ้าฝ่ายชายไม่นอกใจ ฝ่ายหญิงเองคงไม่กลุ้ม ไม่ไปพึ่งหมอดู หมอคุณไสย จนพลาดท่าเสียที และกลายเป็นรอยบาดแผลที่อยู่ในใจมาเนิ่นนานกว่า 30 ปี ของคนทั้งคู่ แต่ที่หนักกว่าน่าจะเป็นฝ่ายชาย ที่ร่างกายแม้นใกล้จะโรยรา แต่พอรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรในอดีต ก็คิดแค้นจนนอนไม่หลับเลยสักคืน

เหตุการณ์เกิดกับครอบครัวหนึ่ง ที่ฝายชายมารู้ภายหลังว่า ฝ่ายหญิง เคยมีอะไรกับคนอื่น ภายหลังแต่งงาน หลังจากเหตุการณ์ล่วงเลยมาได้ 30 ปี ปัจจุบัน ฝ่ายชายอายุ 70 ปี

.................. ฝากถึงคุณผู้หญิง  
ที่ผ่านมา มีอะไรกับใคร ไม่จำเป็นต้องบอกหรอก การไม่บอก ไม่ได้แปลว่าเราโกหก
และการพูดความจริง บางครั้งอาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดของชีวิตครอบครัว
เพราะเราไม่รู้เลยว่า ฝ่ายชายจะคิดอย่างไร? และจะคิดถึงเมื่อไร?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่