ไอน้ำหรือควันจากเครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้แก๊ส สามารถทำให้เสียชีวิตได้หรือเปล่าคะ

วันนี้ได้รับข่าวร้ายจากน้องที่เรียนญี่ปุ่นด้วยกัน ว่าแฟนน้องเสียชีวิตกะทันหันจากการที่สมองขาดออกซิเจน เหตุเกิดที่อ่างขาง ที่พักมีเครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้แก๊ส น้องเล่าว่า แฟนน้องเข้าไปอาบน้ำนานเกินไปจนผิดสังเกต น้องเลยพังประตูเข้าไป แต่ช่วยไม่ทัน คาดว่าควันในห้องน้ำมีมาก แล้วระบายออกไม่ทัน แฟนน้องคงขาดอากาศหายใจแล้วอาจจะสลบไปไม่รู้ตัว และเช็คแล้วแก๊สไม่ได้รั่วออกมา

แล้วน้องก็พูดว่าผมไม่มีแรงจะไปญี่ปุ่นแล้วพี่ เหมือนเป้าหมายในชีวิตขาดหายไป ได้ยินแล้วถึงกับจุก พูดไม่ออกเลยค่ะ ตอนสายๆ วันเสาร์ยังโพสต์รูปให้ดูอยู่เลย แต่พอกลางคืนก็เกิดเรื่อง สงสารน้องมาก T T

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เลยสงสัยว่า จะเป็นเพราะควันจากเครื่องน้ำอุ่นอย่างเดียว หรือสาเหตุอื่นร่วมด้วยหรือเปล่าคะ เพราะคนอื่นก็ยังใช้ตามปกติ แล้วเครื่องทำน้ำอุ่นแบบแก๊สอันตรายมากแค่ไหนคะ โดยส่วนตัวเคยใช้อยู่สามครั้งที่ภูคา ขุนวาง และก็แม่จอนหลวง ตอนใช้ก็ระแวงเพราะได้กลิ่นแก๊สจางๆ แต่ไม่คิดว่าจะทำให้เกิดเหตุการณ์เหมือนกับแฟนน้องได้ขนาดนี้อ่ะค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
ไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้ได้เป็นเรื่องเดียวกันกับเพื่อนเราหรือไม่ ถ้าใช่ ในวันที่ 12/01/2556 เราเป็นคนนึงที่อยู่ในเหตุการณ์ เพราะเราเป็นเพื่อนคนนึงในนั้น
ทั้งห้องน้ำเล็กๆนั่น มีแต่กลิ่นแก็ส เราอยากจะเตือน ให้เรื่องนี้ไม่เงียบไปเหมือนเรื่องก่อนหน้านี้ ถ้าเป็นรีสอร์ทเดียวกันกับเหตุการ์ณที่เราเจอมา ไม่ได้มีกระจกสักบานในห้องน้ำ มีเพียงพัดลมดูดอากาศที่ไม่มีใครรู้ว่าต้องเปิด สวิตช์ที่เปิด อยู่ติดกับสวิตช์ไฟหน้าห้องน้ำซึ่งไม่ได้มีป้ายใดๆบ่งบอกว่ามันคืออะไร จากที่เจ้าของกระทู้บอก อาจคลาดเคลื่อกันนิดหน่อยตรงที่ ทริปนี้จริงๆแล้วเราไปกันหกคน แล้วเพื่อนเราที่เสียชีวิต เค้าอาบน้ำเป็นคนที่ 3 เราอยู่รวมกันที่ห้องนี้หมด เพราะห้องนี้รองรับคนได้ 6 คน ลองคิดดูว่าถ้ามีคนมาพักห้องแบบนี้ อาบน้ำติดกันแบบนี้แล้วไม่ได้รู้ว่าต้องเปิดพัดลม จะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้หรือไม่ ระยะทางการเดินทางที่ลำบาก กว่าจะเจอโรงพยาบาล คนเราขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้แค่ 5 นาที แล้วจะทันได้อย่างไง  กว่าพวกเราจะเข้าไปเจอเพื่อนก้อสายเกินไปแล้ว จากดอยอ่างขางกว่าที่จะลงมาที่อนามัย กว่าจะเจอรถฉุกเฉิน กว่าจะไปถึง โรงพยาบาล ...เรื่องนี้เสียดายที่ไม่มีใครเอาเรื่อง ขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ เป็นข้อเตือนใจในการทำทุกเรื่อง ใครจะคิดว่าแค่เรื่องเล็กๆแบบนี้ ก้อสามารถพรากคนที่เรารักไปได้ ณ วันที่เราพาเพื่อนลงไปถึงโรงพยาบาล หมอเป็นคนบอกว่านี่ไม่ใช่ case แรก เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเพิ่งมี น.ศ.แพทย์ มช ประสบเหตุการณ์อย่างนี้ เช่นกัน แต่เราไม่รู้ว่าที่เดียวกันกับ รีสอร์ทนี้หรือไม่ และด้วยเป็นแก็สหรือไม่ แต่ขนาดผู้ที่พาลงมาเป็น น.ศ.แพทย์ซึ่งน่าจะมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ดีเค้ายังไม่รอดจึงอยากให้ผู้ที่อ่านเรื่องนี้คิดนิดนึงในการเที่ยวแบบนี้..... มีคนที่เป็นคนกู้ภัย ได้บอกกับเรา ขณะที่อยู่ในรถฉุกเฉินตอนนำเพื่อนลงมาจากดอยว่า ถ้าคิดจะมาเที่ยวอากาศแบบนี้บนดอยที่ห่างไกล โรงพยาบาลแบบนี้ อย่าอาบน้ำเลยเพราะมันไม่รู้ว่า จะเกิดไรขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงของอากาศ ไม่รู้ว่าร่างกายของคนเรา หรือตัวเรา ณ ขณะนั้นสามารถรองรับ สภาวะแบบนั้นได้แค่ไหน.....ขอให้เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องๆนึงในกระทู้เป็นพันๆที่มีคนมองข้าม หรือแค่อ่านผ่านไป ขอให้ share ประสบการณ์นี้ให้เกิดประโยชน์กับคนอื่นๆ ให้เค้าไม่ต้องมาสูญเสียแบบที่เราได้เจอ หากบุญกุศลได้ใดจากการนำเรื่องจริงนี้มา ให้ได้รู้ ขออุทิศบุญกุศลนี้ให้กับเพื่อนที่จากไป .....ขอบคุณ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่