เมื่อคริสมาสที่ผ่านมา ผมกับแฟนไปเที่ยวปารีสกันครับ เราไปถึงเช้าวันที่ 25 เช็คอินโรงแรมแล้วก็ออกมาเดินในเมืองจนเย็น และแน่นอน เราไปชมหอไอเฟลตั้งแต่พลบค่ำ ขณะที่ผมกำลังเซ็ตขาตั้งกล้อง แฟนผมก็ถือกระเป๋าเป้ของผมไว้ ตั้งไทม์เมอร์และถ่ายรูปคู่หน้าหอไอเฟลเสร็จ ผมวิ่งกลับไปเช็ครูป แฟนผมกำลังจะหยิบกระเป๋าขึ้นมา (วางไว้ที่ขาตอนถ่ายรูป) แต่มันกลับไม่มี เราตกใจมากและวิ่งหาแถวนั้นจนทั่วแต่ก็หาไม่เจอ กระเป๋าถูกขโมยหายไปแล้ว!!!
ในกระเป๋าผมใบนั้นมีทั้งของมีค่าและเอกสารสำคัญมากมายตั้งแต่ กระเป๋าสตางค์พร้อมบัตรเครดิต เอทีเอ็ม หลายธนาคาร หลายประเทศ (ผมทำงาน ตปท) กล้องถ่ายรูปของแฟน ไอโฟน โนเกีย แท็บเล็ต บัตรประชาชน ใบขับขี่ และที่สำคัญ พาสปอร์ตของผม
เมื่อวิ่งหาตามจุดต่างๆแถวนั้นไม่เจอ เราวิ่งหาตำรวจ พบตำรวจคนแรก I need help! My bag was stolen just now!! สิ่งที่ตำรวจตอบมาทำให้ผมผิดหวังมาก "Sorry I can't help. I've another urgent case there /แล้วก็ชี้ไปอีกจุดที่เหมือนมีอะไรชุลมุนอยู่ You've to go to the police station" ..ผมวิ่งไปอีกด้านเพื่อหาตำรวจคนอื่น แต่คำตอบที่ได้มาก็เหมือนเดิมคือบอกให้ไปแจ้งความ โดยไม่คิดแม้แต่จะลงจากรถมาดูที่เกิดเหตุหรือถามอะไรผมเลย!! T-T
ผมลืมบอกไปว่าผมมีรูปหัวขโมยติดมาในกล้องตอนตั้งขาตั้งกล้องถ่ายด้วย ไอ้ขโมยมันมาเดินวนไปมาอยู่แถวนั้นและหยุดยืนชมหอไอเฟลถัดจากแฟนผมไป ผมจำได้เพราะตอนนั้นผมพยายามตั้งกล้องและต้องหลบมุมไม่ให้ติดคนอื่นในเฟรมแต่ไอ้คนนี้มันไม่เดินไปไหนเลย ยืนอยู่แต่ตรงนั้นโดยไม่ได้มีกล้องหรือมือถือมาถ่ายรูปหอไอเฟลเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป ..ผมเจ็บใจตำรวจปารีสมาก แม้ผมจะเอารูปผู้ร้ายที่ติดมาในกล้องให้เขาดู เขาก็เฉยๆและบอกให้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจอย่างเดียว
กว่าเราจะหาและไปถึงสถานีตำรวจก็ล่วงไปอีกสองชั่วโมง ตำรวจพูดฝรั่งเศสใส่ ผมเลยพูด Sorry I don't speak French เขาก็ตอบ I don't speak English แล้วปล่อยให้เรารออีกครึ่งชั่วโมงเพื่อรอตำรวจที่พูดอังกฤษได้มารับแจ้งความ ..แจ้งความเสร็จก็พิมพ์เอกสารออกมาแล้วบอกให้เอาไปใช้ตอนขาออกจากฝรั่งเศส (เพราะพาสปอร์ตหาย) ..เราทำอะไรต่อไม่ได้ เลยกลับโรงแรมและรีบโทรอายัดบัตรต่างๆอีกเป็นชั่วโมงๆ คืนนั้นผมนอนไม่หลับทั้งคืนครับ
ผลที่ตามมานั้นมากมายคือเราไปเยอรมัน ออสเตรีย ตามแผนต่อไม่ได้ เพราะผมไม่มีพาสปอร์ต (แม้วันรุ่งขึ้นผมจะไปทำพาสปอร์ตชั่วคราวที่สถานทูตไทย แต่ผมไม่มีก๊อปปี้แชงเก้นวีซ่าเก็บไว้) เราต้องยกเลิกโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน รถเช่า ซึ่งทั้งหมดเป็นแบบคืนเงินไม่ได้เลย T-T
Find my iPhone จาก iCloud ก็ไม่สามารถหาไอโฟนโลเคชั่นเจอเพราะมันอาจจะไม่ได้เปิดหรือใช้วิธีอื่นใดในการปลดล๊อคไอโฟนผมไปแล้ว
ที่ตกใจที่สุดหลังจากนั้นคือตอนผมโทรไประงับโรมมิ่งที่ดีแทค (ไอโฟนผมไม่ได้เปิดโรมมิ่ง แต่โนเกียเครื่องธรรมดานั้นไม่มีล๊อคและเปิดโรมมิ่งไว้) ดีแทคบอกว่าระงับแล้ว แต่มีค่าใช้จ่ายล่าสุด 11,000 บาท!!!! ซึ่งผมไม่ได้ใช้เลยแน่นอน เปิดโรมมิ่งไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ..ไอ้ขโมยมันเอามือถือผมไปใช้แบบเต็มที่มาก
เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมเพิ่งได้รายการใช้งานโทรมาจากดีแทค มันเปิดมือถือผมใช้ตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่ขโมยกระเป๋าผมไปและโทรตลอดเวลาติดกันสองวันจนดีแทคสังเกตเห็นผิดปกติเลยตัดบริการก่อนผมจะโทรไประงับ แต่มันก็สายไปแล้ว ..ผมไม่รู้จะทำยังไงกับค่าโทรมากมายที่เกิดขึ้น ผมส่งใบแจ้งความทั้งที่ฝรั่งเศสและ กทม (หลังกลับมาผมรีบไปแจ้งความที่โรงพักอีกใบ) ไปให้ดีแทคและเขาบอกว่าจะยื่นเรื่องต่อให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณา
ใครเคยมีประสบการณ์แย่ๆแบบนี้แล้วหาทางออกอย่างไร รบกวนช่วยแชร์หรือแนะนำผมด้วยนะครับ ไม่รู้จะมีประโยชน์มั้ยถ้าผมจะส่งรายการโทรฯไปให้ตำรวจปารีส (ซึ่งพอเดาได้ว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อแน่นอน) หรือจะทำอย่างไรดี (เพราะมีหมายเลขที่คนร้ายโทรไปซ้ำๆอยู่หลายหมายเลข)
ทั้งๆที่ทริปนี้ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่ไปปารีส แต่เป็นทริปที่แย่ที่สุดในชีวิตของผม จนทุกวันนี้ผมยังต้องจัดการกับเอกสารต่างๆที่หายไปและที่ต้องทำใหม่ยังไม่หมด มีผลกระทบมากมาย ผมยอมรับว่าผมประมาทและจะระวังตัวกว่านี้ในทุกๆการเดินทางต่อจากนี้ไปไม่ว่าที่ใด แต่ผมคิดว่าผมคงไม่ไปปารีสอีกต่อไปครับ T-T
ปล. ผมต้องขอบคุณแฟนผมมากๆจริงๆที่คอยอยู่ข้างๆกัน ไม่พูดจาซ้ำเติมแต่ช่วยคิดหาทางออกตลอดเวลามาจนตอนนี้
Paris, I Hate You เมื่อผมหมดตัวที่ปารีส
ในกระเป๋าผมใบนั้นมีทั้งของมีค่าและเอกสารสำคัญมากมายตั้งแต่ กระเป๋าสตางค์พร้อมบัตรเครดิต เอทีเอ็ม หลายธนาคาร หลายประเทศ (ผมทำงาน ตปท) กล้องถ่ายรูปของแฟน ไอโฟน โนเกีย แท็บเล็ต บัตรประชาชน ใบขับขี่ และที่สำคัญ พาสปอร์ตของผม
เมื่อวิ่งหาตามจุดต่างๆแถวนั้นไม่เจอ เราวิ่งหาตำรวจ พบตำรวจคนแรก I need help! My bag was stolen just now!! สิ่งที่ตำรวจตอบมาทำให้ผมผิดหวังมาก "Sorry I can't help. I've another urgent case there /แล้วก็ชี้ไปอีกจุดที่เหมือนมีอะไรชุลมุนอยู่ You've to go to the police station" ..ผมวิ่งไปอีกด้านเพื่อหาตำรวจคนอื่น แต่คำตอบที่ได้มาก็เหมือนเดิมคือบอกให้ไปแจ้งความ โดยไม่คิดแม้แต่จะลงจากรถมาดูที่เกิดเหตุหรือถามอะไรผมเลย!! T-T
ผมลืมบอกไปว่าผมมีรูปหัวขโมยติดมาในกล้องตอนตั้งขาตั้งกล้องถ่ายด้วย ไอ้ขโมยมันมาเดินวนไปมาอยู่แถวนั้นและหยุดยืนชมหอไอเฟลถัดจากแฟนผมไป ผมจำได้เพราะตอนนั้นผมพยายามตั้งกล้องและต้องหลบมุมไม่ให้ติดคนอื่นในเฟรมแต่ไอ้คนนี้มันไม่เดินไปไหนเลย ยืนอยู่แต่ตรงนั้นโดยไม่ได้มีกล้องหรือมือถือมาถ่ายรูปหอไอเฟลเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป ..ผมเจ็บใจตำรวจปารีสมาก แม้ผมจะเอารูปผู้ร้ายที่ติดมาในกล้องให้เขาดู เขาก็เฉยๆและบอกให้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจอย่างเดียว
กว่าเราจะหาและไปถึงสถานีตำรวจก็ล่วงไปอีกสองชั่วโมง ตำรวจพูดฝรั่งเศสใส่ ผมเลยพูด Sorry I don't speak French เขาก็ตอบ I don't speak English แล้วปล่อยให้เรารออีกครึ่งชั่วโมงเพื่อรอตำรวจที่พูดอังกฤษได้มารับแจ้งความ ..แจ้งความเสร็จก็พิมพ์เอกสารออกมาแล้วบอกให้เอาไปใช้ตอนขาออกจากฝรั่งเศส (เพราะพาสปอร์ตหาย) ..เราทำอะไรต่อไม่ได้ เลยกลับโรงแรมและรีบโทรอายัดบัตรต่างๆอีกเป็นชั่วโมงๆ คืนนั้นผมนอนไม่หลับทั้งคืนครับ
ผลที่ตามมานั้นมากมายคือเราไปเยอรมัน ออสเตรีย ตามแผนต่อไม่ได้ เพราะผมไม่มีพาสปอร์ต (แม้วันรุ่งขึ้นผมจะไปทำพาสปอร์ตชั่วคราวที่สถานทูตไทย แต่ผมไม่มีก๊อปปี้แชงเก้นวีซ่าเก็บไว้) เราต้องยกเลิกโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน รถเช่า ซึ่งทั้งหมดเป็นแบบคืนเงินไม่ได้เลย T-T
Find my iPhone จาก iCloud ก็ไม่สามารถหาไอโฟนโลเคชั่นเจอเพราะมันอาจจะไม่ได้เปิดหรือใช้วิธีอื่นใดในการปลดล๊อคไอโฟนผมไปแล้ว
ที่ตกใจที่สุดหลังจากนั้นคือตอนผมโทรไประงับโรมมิ่งที่ดีแทค (ไอโฟนผมไม่ได้เปิดโรมมิ่ง แต่โนเกียเครื่องธรรมดานั้นไม่มีล๊อคและเปิดโรมมิ่งไว้) ดีแทคบอกว่าระงับแล้ว แต่มีค่าใช้จ่ายล่าสุด 11,000 บาท!!!! ซึ่งผมไม่ได้ใช้เลยแน่นอน เปิดโรมมิ่งไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ..ไอ้ขโมยมันเอามือถือผมไปใช้แบบเต็มที่มาก
เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมเพิ่งได้รายการใช้งานโทรมาจากดีแทค มันเปิดมือถือผมใช้ตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่ขโมยกระเป๋าผมไปและโทรตลอดเวลาติดกันสองวันจนดีแทคสังเกตเห็นผิดปกติเลยตัดบริการก่อนผมจะโทรไประงับ แต่มันก็สายไปแล้ว ..ผมไม่รู้จะทำยังไงกับค่าโทรมากมายที่เกิดขึ้น ผมส่งใบแจ้งความทั้งที่ฝรั่งเศสและ กทม (หลังกลับมาผมรีบไปแจ้งความที่โรงพักอีกใบ) ไปให้ดีแทคและเขาบอกว่าจะยื่นเรื่องต่อให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณา
ใครเคยมีประสบการณ์แย่ๆแบบนี้แล้วหาทางออกอย่างไร รบกวนช่วยแชร์หรือแนะนำผมด้วยนะครับ ไม่รู้จะมีประโยชน์มั้ยถ้าผมจะส่งรายการโทรฯไปให้ตำรวจปารีส (ซึ่งพอเดาได้ว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อแน่นอน) หรือจะทำอย่างไรดี (เพราะมีหมายเลขที่คนร้ายโทรไปซ้ำๆอยู่หลายหมายเลข)
ทั้งๆที่ทริปนี้ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่ไปปารีส แต่เป็นทริปที่แย่ที่สุดในชีวิตของผม จนทุกวันนี้ผมยังต้องจัดการกับเอกสารต่างๆที่หายไปและที่ต้องทำใหม่ยังไม่หมด มีผลกระทบมากมาย ผมยอมรับว่าผมประมาทและจะระวังตัวกว่านี้ในทุกๆการเดินทางต่อจากนี้ไปไม่ว่าที่ใด แต่ผมคิดว่าผมคงไม่ไปปารีสอีกต่อไปครับ T-T
ปล. ผมต้องขอบคุณแฟนผมมากๆจริงๆที่คอยอยู่ข้างๆกัน ไม่พูดจาซ้ำเติมแต่ช่วยคิดหาทางออกตลอดเวลามาจนตอนนี้