http://www.buddhadasa.in.th/html/life-work/bio/tell_chapter5-09.html
อาจารย์ครับ อาจารย์เคยเล่าถึงชีวิตตอนอยู่สวนโมกข์เก่า********* มีของเล่นหลายอย่าง*******
เลี้ยงไก่
(1) 
เลี้ยงนก
(2)
เลี้ยงกา
(3)
และยัง
ไปเที่ยว
(4)กับตาหลวงมินด้วย
ในตอนนี้ ขอความกรุณาอาจารย์เล่าเรื่องเกี่ยวกับของเล่นของอาจารย์ในระยะต่อ ๆ มาของชีวิต จนกระทั่งปัจจุบันไว้ด้วยครับ คงเป็นอีกด้านหนึ่งที่จะช่วยให้เข้าใจชีวิตของอาจารย์ได้รอบด้านขึ้น
มันปนกัน เรียกว่ามันสับสนปนกัน สมัยหนึ่งเคยเล่นชนิดที่มีประโยชน์ทางวัตถุ
เคยเล่นหีบเสียง
(5)
เรียนภาษา เล่นพิมพ์ดีดเพื่อพิมพ์หนังสือ
เล่นกล้องถ่ายรูป
(6)
เพื่อรวบรวมรูป
และอะไร ๆ ที่มันคล้าย ๆ อย่างนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งแห่งการเล่น
เรามักจะชอบไปซื้อหาของเก่า ๆ
(7) มาซ่อมเล่นสนุก

ใช้ประโยชน์ได้ ก็สนุก
เล่นอย่างจิตใจก็เล่นเพลินกับธรรมชาติ
เคยเล่นต้นไม้แปลก ๆ
(8) แปลกสำหรับเรานะ ไม่ใช่แปลกสำหรับผู้อื่น
สะสมต้นไม้แปลก ๆ
เรื่องปลา
(9)
เรื่องนก
(10)
เรื่องแมว
(11)
เรื่องหมา
(12)

กระทั่งจิ้งจก ตุ๊กแก
(13)
ก็เคยเป็นเรื่องเล่น สมัยหนึ่ง ๆ
แล้วในที่สุดก็กลายเป็นเรื่องเป็นราวไปได้
นอกจากนั้นก็มีเล่นการพักผ่อน นั่งเล่น นอนเล่น ทำสมาธิเล่น สมาธิเคยทำอย่างเล่น ๆ มันหลายประเภท ผมเคยเล่นเกือบทุกอย่างตามความเหมาะสม ตามโอกาส จะจัดลำดับไม่ค่อยได้ แต่มันก็มีลำดับอยู่ในตัว ตามที่อายุมันมากเข้า อะไรเข้า สถานะของตนมันเปลี่ยนไป เรื่องเล่นก็ต้องเปลี่ยนไปพอเหมาะพอสม
เคยชอบไปเที่ยวทะเล
(14)
ลงเรือไปเล่นทะเล
(15)
ไปลอยทะเลก็เคยหลายครั้ง
(15ๆๆๆ เพราะหลายครั้ง อิอิ)
จัดจอมปลวกให้เป็นระเบียบก็เคยทำมาแล้ว จอมปลวกอยู่ที่นั่นบ้างที่นี่บ้าง เราก็ย้ายเอามาทำให้เป็นระเบียบ ตรงที่ ๆ เราอยากให้มันอยู่ แล้วเอาแผ่นปูนวางข้างบน ทำเป็นโต๊ะได้ ย้ายแล้วปลวกยังอยู่ในนั้น ต้องขุดลึกมาก แล้ว ๔ คนจึงหามไหว ข้างล่างที่อยู่ใต้ดินมันโตกว่าข้างบน ข้างบนเป็นโพรง ปลวกแถวสวนโมกข์เก่าตัวเหลือง ๆ เป็นปลวกที่ไม่กัดของ ย้ายมาตั้งเป็นแถว ๆ ข้างกุฏิของเรา ใกล้ ๆ แถวนั้นไม่พอ ก็ไปหาจากที่ไกลออกไป บางทีก็ตาย แล้วก็เลิกร้างไปก็มี ถ้าทำผิด นายทัศน์เขาเป็นคนแข็งแรงมาก ช่วยย้ายจอมปลวก นายทัศน์เป็นอีกคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับสวนโมกข์มาตั้งแต่แรก คอยช่วยเหลือตลอดเวลา ช่วยทำแทบทุกอย่าง
เขาเป็นคนพุมเรียง เกิดที่นั่น เห็นกันมาตั้งแต่เล็ก รุ่นอ่อนกว่าผมหน่อย เคยตั้งเนื้อตั้งตัวได้ด้วยตนเอง มีเรือลำเล็ก ๆ จนมีเรือลำใหญ่ จนมีโรงถ่าน มีร้านค้า สมัยผมอยู่สวนโมกข์เก่า มักไปปรึกษาหารือ ขอความคิดเห็นตลอดเวลา จนกระทั่งไปอยู่กรุงเทพฯ ไร่สวนของนายทัศน์ เขาก็อยู่เกือบตรงกับสวนโมกข์เก่า เยื้องไปทางตะวันตก ระหว่างถนนเส้นบ้านทุ่งกับไชยา
จึงไปนั่งเที่ยว ไปคุยสนทนากันบ่อย ๆ
อย่างนี้ก็เรียกว่าเล่น คุยกันเล่น
(16)
เคยเอาเรือนายทัศน์ไปเที่ยวทะเล
(17) ไปดอนเส็ด ซึ่งเป็นเกาะทรายอยู่กลางอ่าว
นายทัศน์เป็นคนให้ความสะดวกเพราะเขามีเรือ เคยพาหลวงบริบาลไปดูทะเลฝั่งโน้นด้วย เขาก็เลยคุ้นเคยกับหลวงบริบาล คุ้นเคยกับฝรั่งบางคนที่มาศึกษาโบราณคดีด้วย สิ่งที่เรียกว่าเล่นมันมีความหมายมาก กินความกว้างขวาง จากเล็กที่สุดจนถึงใหญ่ที่สุด
แม้แต่แต่งโคลงแต่งกลอน
(18) มันก็เป็นของเล่น
ไม่ได้จริงจัง ผมก็ไม่รู้จะบอกอย่างไร บอกได้แต่ว่าเคยเล่นสิ่งเหล่านี้มาตามโอกาส
ผมเคยแม้แต่ปรุงอาหารเล่น
(19 ทำอาหารกินเองด้วย?)
แกงดอกลั่นทมที่ไม่มีใครเคยคิดว่าจะกินได้ จะแกงได้ เราก็แกงมาแล้ว (หัวเราะ) ต้องใส่กะทิมาก ๆ ใส่มะขามเปียกให้มันเปรี้ยว ๆ ใส่น้ำตาลให้พอ ๆ กัน ก็กินได้ อร่อยดีเหมือนกัน แกล้งทำเลี้ยงให้เขารู้รส ให้ยอมรับว่ามันก็กินได้เหมือนกัน อร่อยดีเหมือนกัน (หัวเราะ) ดีกว่าปล่อยให้เสียไปมากมายก่ายกอง ต้องใช้ประโยชน์ ช่วยถ่ายสะดวกนิดหน่อย ไม่ถึงกับเป็นยาระบาย เล่นมาหลายอย่างเลยไม่รู้จะตอบอย่างไร (หัวเราะ)
อาจารย์ครับ โคลงกลอนนั้นอาจารย์ชอบแบบไหนครับ
แบบของที่มีอยู่ก่อน ที่เราพยายามท่องจำไว้มากก็ คำฉันท์ของกรมพระปรมานุชิตชิโนรส คำโคลงโลกนิติก็เคยพยายามท่อง ของครูเทพ เราก็ชอบ ของรัชกาลที่ ๖ ก็รู้สึกนิยม
เพราะเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องทำยาก ที่ท่านแปลจากเช็คสเปียร์ ท่องจำไว้หลายตอน เรื่องธรรมาธรรมะสงคราม ก่อนนี้จำได้เกือบหมด เดี๋ยวนี้ลืมเกือบหมด (หัวเราะ) แต่ด้วยอะไรไม่รู้ ผมเกิดไม่นิยมสุนทรภู่ ความรู้สึกมันอาจจะเกิดจากเคยได้ยินว่าแกกินเหล้า แกเมาผู้หญิง เลยเหมาเอาว่าคงเอาความรู้สึกอันนั้นมาเขียนกลอน แต่ถ้อยคำของแกก็เพราะดี
เรายังเคยแต่งล้อสุนทรภู่ (หัวเราะ)
(20)
สุนทรภู่ เขากลอนดี เพราะมีเหล้า
ปลุกเร้า กลอนกาพย์ ให้วาบหวาม
ส่วนเราเหล้า ไม่มี มีแต่น้ำ
จะปลุกปล้ำ เท่าไร กลอนไม่ดี
(หัวเราะ) ยังมีอีก ๔ บาท นึกไม่ออกแล้ว คุณสัญญาท่องจำแม่นเลยจนเดี๋ยวนี้
เวลาเราแต่งเอง ก็เลือกแบบให้เหมาะสมกับเรื่องที่จะแต่ง ถ้าไปแปลงของฝรั่งมา ก็จะแต่งเป็นบทดอกสร้อย ที่เป็นคำฉันท์หรือคำโคลงนั้น แต่งล้อกรมหมื่นวิวิธวรรณปรีชา เรื่องแม่ลูกสนทนาเรื่องนิพพาน บางเรื่องเราก็ลงทุน แต่งล้อตัวเอง เพื่อให้คนอื่นได้ประโยชน์ก็มี ที่ตั้งใจแต่งจริง ๆ ยาวพอสมควร ก็มีแต่นิราศลพบุรี แต่งให้คุณสัญญา คนพาไปเที่ยว กาพย์กลอนนอกนั้น ก็แต่งยามว่าง แต่นาน ๆ เข้ามันก็มากขึ้น จนพอจะพิมพ์เป็นเล่มได้ (หัวเราะ)
อาจารย์ช่วยเล่าเรื่องกล้องด้วยครับ ที่ว่ารวบรวมรูปนั้น รูปอะไรครับ
รูปวิว
(21) วิวตามความพอใจของเราอย่างในกล่องที่เก็บ ๆ ไว้นั่นแหละ เมื่อเล่นถ่ายรูปก็ถ่ายวิวมากกว่าอย่างอื่น
กล้องถ่ายหนังก็เคยเล่น
(22 ถ่ายหนังด้วย?)
เดี๋ยวนี้ก็ยังมีอยู่ พันเอกสาลี่ให้มา กล้อง ๑๖ มิล ๕๐ ฟุต และกล้อง ๘ มิลซุปเปอร์กับ ๘ มิลธรรมดา ก็ได้ถ่ายไว้ไม่น้อย คงเตรียมขึ้นราหมดแล้ว เป็นเรื่องเบ็ดเตล็ดทั้งนั้น ที่ชอบมากที่สุดก็
ถ่ายปลาใส่ตู้กระจก
(23 พระเลี้ยงปลาด้วย?) สวยมาก
เรียกว่าเพชรพลอยในหนอง เมื่ออยู่ในหนองมันไม่สวยไม่น่าดู พออยู่ในตู้กระจก มันสวยวิเศษไปเสียทุกตัว
(กิจของสงฆ์?)เวลาถ่ายเป็นหนังออกมา เครื่องฉายก็มีตั้ง ๒ เครื่อง เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนใช้มัน ตอนนั้นคุณบุญชูอยู่ เขาทำทุกอย่าง
เกี่ยวกับการทำงานของพระในสวนโมกข์ก็เคยถ่ายไว้ เดี๋ยวนี้ต้องอุทิศแล้ว สละให้แก่การเน่าเสีย การขึ้นรา มันรักษาลำบาก มันต้องมีห้องปรับอากาศ ปรับความชื้นอะไร แล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร
อาจารย์ครับ เพื่อนเล่นกล้องของอาจารย์มีใครบ้างครับ(มีเพื่อนเล่นเป็นกลุ่มอีกต่างหาก?)
มีหลายคน นายมณี ศรีพัฒน์ อยู่กรุงเทพฯ เป็นเพื่อนเล่นกันมาที่ไชยานี้ ก็ไม่มีใครที่ว่าเป็นเพื่อนเล่นกล้อง
ผมมักสอนให้เล่น(สอนให้เล่นด้วย?)จนเป็นกันหลายคน ครูวงศ์เขาก็เล่นตามผม ผมเคยไปถ่ายทั่วกรุงเทพฯ ทั่วอย่างหยาบ ๆ ผมไม่รู้แห่ง อาจารย์พระครูชยาภิวัฒน์พาไป สมัยที่ยังอยู่กรุงเทพฯ แกพาไปทุกแห่ง วัดฝั่งธนสวย ๆ ไปทั้งวัน
ของเล่นของหลวงพ่อเครื่องเสียงนี่เยอะเนอะ
http://www.buddhadasa.in.th/html/life-work/bio/tell_chapter5-09.html
อาจารย์ครับ อาจารย์เคยเล่าถึงชีวิตตอนอยู่สวนโมกข์เก่า********* มีของเล่นหลายอย่าง*******
เลี้ยงไก่(1)
ไปเที่ยว(4)กับตาหลวงมินด้วย
ในตอนนี้ ขอความกรุณาอาจารย์เล่าเรื่องเกี่ยวกับของเล่นของอาจารย์ในระยะต่อ ๆ มาของชีวิต จนกระทั่งปัจจุบันไว้ด้วยครับ คงเป็นอีกด้านหนึ่งที่จะช่วยให้เข้าใจชีวิตของอาจารย์ได้รอบด้านขึ้น
มันปนกัน เรียกว่ามันสับสนปนกัน สมัยหนึ่งเคยเล่นชนิดที่มีประโยชน์ทางวัตถุ
เคยเล่นหีบเสียง (5)
เรียนภาษา เล่นพิมพ์ดีดเพื่อพิมพ์หนังสือ
เล่นกล้องถ่ายรูป(6)
และอะไร ๆ ที่มันคล้าย ๆ อย่างนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งแห่งการเล่น
เรามักจะชอบไปซื้อหาของเก่า ๆ(7) มาซ่อมเล่นสนุก
ใช้ประโยชน์ได้ ก็สนุก
เล่นอย่างจิตใจก็เล่นเพลินกับธรรมชาติ
เคยเล่นต้นไม้แปลก ๆ(8) แปลกสำหรับเรานะ ไม่ใช่แปลกสำหรับผู้อื่น
สะสมต้นไม้แปลก ๆ
เรื่องปลา (9)
เรื่องนก (10)
เรื่องแมว (11)
เรื่องหมา (12)
กระทั่งจิ้งจก ตุ๊กแก(13)
แล้วในที่สุดก็กลายเป็นเรื่องเป็นราวไปได้
นอกจากนั้นก็มีเล่นการพักผ่อน นั่งเล่น นอนเล่น ทำสมาธิเล่น สมาธิเคยทำอย่างเล่น ๆ มันหลายประเภท ผมเคยเล่นเกือบทุกอย่างตามความเหมาะสม ตามโอกาส จะจัดลำดับไม่ค่อยได้ แต่มันก็มีลำดับอยู่ในตัว ตามที่อายุมันมากเข้า อะไรเข้า สถานะของตนมันเปลี่ยนไป เรื่องเล่นก็ต้องเปลี่ยนไปพอเหมาะพอสม
เคยชอบไปเที่ยวทะเล (14)
ลงเรือไปเล่นทะเล (15)
ไปลอยทะเลก็เคยหลายครั้ง (15ๆๆๆ เพราะหลายครั้ง อิอิ)
จัดจอมปลวกให้เป็นระเบียบก็เคยทำมาแล้ว จอมปลวกอยู่ที่นั่นบ้างที่นี่บ้าง เราก็ย้ายเอามาทำให้เป็นระเบียบ ตรงที่ ๆ เราอยากให้มันอยู่ แล้วเอาแผ่นปูนวางข้างบน ทำเป็นโต๊ะได้ ย้ายแล้วปลวกยังอยู่ในนั้น ต้องขุดลึกมาก แล้ว ๔ คนจึงหามไหว ข้างล่างที่อยู่ใต้ดินมันโตกว่าข้างบน ข้างบนเป็นโพรง ปลวกแถวสวนโมกข์เก่าตัวเหลือง ๆ เป็นปลวกที่ไม่กัดของ ย้ายมาตั้งเป็นแถว ๆ ข้างกุฏิของเรา ใกล้ ๆ แถวนั้นไม่พอ ก็ไปหาจากที่ไกลออกไป บางทีก็ตาย แล้วก็เลิกร้างไปก็มี ถ้าทำผิด นายทัศน์เขาเป็นคนแข็งแรงมาก ช่วยย้ายจอมปลวก นายทัศน์เป็นอีกคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับสวนโมกข์มาตั้งแต่แรก คอยช่วยเหลือตลอดเวลา ช่วยทำแทบทุกอย่าง
เขาเป็นคนพุมเรียง เกิดที่นั่น เห็นกันมาตั้งแต่เล็ก รุ่นอ่อนกว่าผมหน่อย เคยตั้งเนื้อตั้งตัวได้ด้วยตนเอง มีเรือลำเล็ก ๆ จนมีเรือลำใหญ่ จนมีโรงถ่าน มีร้านค้า สมัยผมอยู่สวนโมกข์เก่า มักไปปรึกษาหารือ ขอความคิดเห็นตลอดเวลา จนกระทั่งไปอยู่กรุงเทพฯ ไร่สวนของนายทัศน์ เขาก็อยู่เกือบตรงกับสวนโมกข์เก่า เยื้องไปทางตะวันตก ระหว่างถนนเส้นบ้านทุ่งกับไชยา
จึงไปนั่งเที่ยว ไปคุยสนทนากันบ่อย ๆ
อย่างนี้ก็เรียกว่าเล่น คุยกันเล่น(16)
เคยเอาเรือนายทัศน์ไปเที่ยวทะเล(17) ไปดอนเส็ด ซึ่งเป็นเกาะทรายอยู่กลางอ่าว
นายทัศน์เป็นคนให้ความสะดวกเพราะเขามีเรือ เคยพาหลวงบริบาลไปดูทะเลฝั่งโน้นด้วย เขาก็เลยคุ้นเคยกับหลวงบริบาล คุ้นเคยกับฝรั่งบางคนที่มาศึกษาโบราณคดีด้วย สิ่งที่เรียกว่าเล่นมันมีความหมายมาก กินความกว้างขวาง จากเล็กที่สุดจนถึงใหญ่ที่สุด
แม้แต่แต่งโคลงแต่งกลอน(18) มันก็เป็นของเล่น
ไม่ได้จริงจัง ผมก็ไม่รู้จะบอกอย่างไร บอกได้แต่ว่าเคยเล่นสิ่งเหล่านี้มาตามโอกาส
ผมเคยแม้แต่ปรุงอาหารเล่น(19 ทำอาหารกินเองด้วย?)
แกงดอกลั่นทมที่ไม่มีใครเคยคิดว่าจะกินได้ จะแกงได้ เราก็แกงมาแล้ว (หัวเราะ) ต้องใส่กะทิมาก ๆ ใส่มะขามเปียกให้มันเปรี้ยว ๆ ใส่น้ำตาลให้พอ ๆ กัน ก็กินได้ อร่อยดีเหมือนกัน แกล้งทำเลี้ยงให้เขารู้รส ให้ยอมรับว่ามันก็กินได้เหมือนกัน อร่อยดีเหมือนกัน (หัวเราะ) ดีกว่าปล่อยให้เสียไปมากมายก่ายกอง ต้องใช้ประโยชน์ ช่วยถ่ายสะดวกนิดหน่อย ไม่ถึงกับเป็นยาระบาย เล่นมาหลายอย่างเลยไม่รู้จะตอบอย่างไร (หัวเราะ)
อาจารย์ครับ โคลงกลอนนั้นอาจารย์ชอบแบบไหนครับ
แบบของที่มีอยู่ก่อน ที่เราพยายามท่องจำไว้มากก็ คำฉันท์ของกรมพระปรมานุชิตชิโนรส คำโคลงโลกนิติก็เคยพยายามท่อง ของครูเทพ เราก็ชอบ ของรัชกาลที่ ๖ ก็รู้สึกนิยม
เพราะเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องทำยาก ที่ท่านแปลจากเช็คสเปียร์ ท่องจำไว้หลายตอน เรื่องธรรมาธรรมะสงคราม ก่อนนี้จำได้เกือบหมด เดี๋ยวนี้ลืมเกือบหมด (หัวเราะ) แต่ด้วยอะไรไม่รู้ ผมเกิดไม่นิยมสุนทรภู่ ความรู้สึกมันอาจจะเกิดจากเคยได้ยินว่าแกกินเหล้า แกเมาผู้หญิง เลยเหมาเอาว่าคงเอาความรู้สึกอันนั้นมาเขียนกลอน แต่ถ้อยคำของแกก็เพราะดี
เรายังเคยแต่งล้อสุนทรภู่ (หัวเราะ) (20)
สุนทรภู่ เขากลอนดี เพราะมีเหล้า
ปลุกเร้า กลอนกาพย์ ให้วาบหวาม
ส่วนเราเหล้า ไม่มี มีแต่น้ำ
จะปลุกปล้ำ เท่าไร กลอนไม่ดี
(หัวเราะ) ยังมีอีก ๔ บาท นึกไม่ออกแล้ว คุณสัญญาท่องจำแม่นเลยจนเดี๋ยวนี้
เวลาเราแต่งเอง ก็เลือกแบบให้เหมาะสมกับเรื่องที่จะแต่ง ถ้าไปแปลงของฝรั่งมา ก็จะแต่งเป็นบทดอกสร้อย ที่เป็นคำฉันท์หรือคำโคลงนั้น แต่งล้อกรมหมื่นวิวิธวรรณปรีชา เรื่องแม่ลูกสนทนาเรื่องนิพพาน บางเรื่องเราก็ลงทุน แต่งล้อตัวเอง เพื่อให้คนอื่นได้ประโยชน์ก็มี ที่ตั้งใจแต่งจริง ๆ ยาวพอสมควร ก็มีแต่นิราศลพบุรี แต่งให้คุณสัญญา คนพาไปเที่ยว กาพย์กลอนนอกนั้น ก็แต่งยามว่าง แต่นาน ๆ เข้ามันก็มากขึ้น จนพอจะพิมพ์เป็นเล่มได้ (หัวเราะ)
อาจารย์ช่วยเล่าเรื่องกล้องด้วยครับ ที่ว่ารวบรวมรูปนั้น รูปอะไรครับ
รูปวิว(21) วิวตามความพอใจของเราอย่างในกล่องที่เก็บ ๆ ไว้นั่นแหละ เมื่อเล่นถ่ายรูปก็ถ่ายวิวมากกว่าอย่างอื่น
กล้องถ่ายหนังก็เคยเล่น (22 ถ่ายหนังด้วย?)
เดี๋ยวนี้ก็ยังมีอยู่ พันเอกสาลี่ให้มา กล้อง ๑๖ มิล ๕๐ ฟุต และกล้อง ๘ มิลซุปเปอร์กับ ๘ มิลธรรมดา ก็ได้ถ่ายไว้ไม่น้อย คงเตรียมขึ้นราหมดแล้ว เป็นเรื่องเบ็ดเตล็ดทั้งนั้น ที่ชอบมากที่สุดก็
ถ่ายปลาใส่ตู้กระจก(23 พระเลี้ยงปลาด้วย?) สวยมาก
เรียกว่าเพชรพลอยในหนอง เมื่ออยู่ในหนองมันไม่สวยไม่น่าดู พออยู่ในตู้กระจก มันสวยวิเศษไปเสียทุกตัว (กิจของสงฆ์?)เวลาถ่ายเป็นหนังออกมา เครื่องฉายก็มีตั้ง ๒ เครื่อง เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนใช้มัน ตอนนั้นคุณบุญชูอยู่ เขาทำทุกอย่าง
เกี่ยวกับการทำงานของพระในสวนโมกข์ก็เคยถ่ายไว้ เดี๋ยวนี้ต้องอุทิศแล้ว สละให้แก่การเน่าเสีย การขึ้นรา มันรักษาลำบาก มันต้องมีห้องปรับอากาศ ปรับความชื้นอะไร แล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร
อาจารย์ครับ เพื่อนเล่นกล้องของอาจารย์มีใครบ้างครับ(มีเพื่อนเล่นเป็นกลุ่มอีกต่างหาก?)
มีหลายคน นายมณี ศรีพัฒน์ อยู่กรุงเทพฯ เป็นเพื่อนเล่นกันมาที่ไชยานี้ ก็ไม่มีใครที่ว่าเป็นเพื่อนเล่นกล้อง
ผมมักสอนให้เล่น(สอนให้เล่นด้วย?)จนเป็นกันหลายคน ครูวงศ์เขาก็เล่นตามผม ผมเคยไปถ่ายทั่วกรุงเทพฯ ทั่วอย่างหยาบ ๆ ผมไม่รู้แห่ง อาจารย์พระครูชยาภิวัฒน์พาไป สมัยที่ยังอยู่กรุงเทพฯ แกพาไปทุกแห่ง วัดฝั่งธนสวย ๆ ไปทั้งวัน