เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2556 กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทย เปิดเผยผลสำรวจในหัวข้อ "อาชีพในฝันของเด็กไทย" ครั้งที่ 4 พบว่า เด็กไทยส่วนใหญ่ยังคงมีความเอื้ออาทร และคิดถึงผู้คนรอบข้าง สำหรับอาชีพในฝันยอดฮิตนั้น พบว่า แพทย์ ยังคงเป็นอาชีพในฝันของเด็กไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ด้วยเหตุผลที่ว่า อยากช่วยเหลือผู้คน และช่วยรักษาคนไข้ และสมาชิกในครอบครัว โดยมีความต้องการด้านรายได้ต่อเดือนตั้งแต่ 100 ถึง 10,000,000 บาท ตามด้วยการอาชีพวิศวกร ตำรวจ นักธุรกิจ และครู
นอกจากนี้ ยังมีเด็กบางคนชอบสนุก ชอบออกกำลัง โดยเลือกเป็น นักเต้นบีบอย ขณะที่เด็กส่วนหนึ่งที่อยากเป็นตำรวจ ให้เหตุผลว่า จะได้ไม่ต้องเสียค่าปรับ หรือเด็กอีกคนหนึ่งกล่าวว่า อยากเป็นนักเขียนโปรแกรม เนื่องจากจะได้เขียนโปรแกรมเกมสำหรับตนเองได้เล่นสนุกได้อย่างใจคิด อย่างไรก็ตามในปีนี้อาชีพครู ตกอันดับลงไปเป็นอันดับที่ 5 รองจากอาชีพ วิศวกร ตำรวจ นักธุรกิจ ซึ่งได้มาแทนที่อาชีพทนายความ พ่อครัว ซึ่งเป็นอาชีพในฝันอันดับรองลงมาในปีที่แล้ว
สำหรับการสอบถามเด็กๆ ว่า ถ้าหากได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ของประเทศไทย 3 สิ่งที่ต้องการทำคืออะไร เด็กส่วนใหญ่ให้คำตอบที่แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยและความรับผิดชอบสูง อาทิ เช่น ปกป้องดูแลประชาชน พัฒนาประเทศ และพัฒนาระบบการศึกษาให้กับประชาชนในเขตทุรกันดาร สร้างความสามัคคี ลดปัญหาเรื่องยาเสพติดและการเล่นการพนัน พัฒนาระบบสาธาณูปโภคของท้องถิ่น เช่น ถนน ขนส่งมวลชน โรงพยาบาล เป็นต้น รักษ์โลกด้วยการรักษาสิ่งแวดล้อม ต่อต้านการทุจริตคอรัปชัน ในขณะเดียวกันมีเด็กบางส่วนที่มีจินตนาการแตกต่างออกไป เช่น จะทำการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ เรื่องการแต่งเครื่องแบบนักเรียน จะติดแอร์ให้ทั่วประเทศ หรือแม้แต่จะออกกฎ ให้มีการนอนหลับพักผ่อนหลังอาหารกลางวัน เป็นต้น
ส่วนคำถามที่ถามว่าอะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่างการใช้เวลาอยู่กับครอบครัว หรือการหาเงินได้มากๆ ผลการสำรวจพบว่า มากกว่าร้อยละ 94 บอกว่า การใช้เวลาอยู่กับครอบครัวสำคัญกว่าการหาเงินให้ได้มากๆ แสดงให้เห็นว่า ครอบครัวได้ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีในการเลี้ยงดูเด็กๆ เหล่านี้ ทำให้เด็กๆ เหล่านี้ เห็นความสำคัญของครอบครัวเป็นอันดับหนึ่ง โดยให้เหตุผลว่า มีความอบอุ่นและมีความสุขเมื่ออยู่กับครอบครัว ครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และการหาเงินจะทำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ครอบครัวต้องมาก่อน ทั้งนี้ แม้แต่เด็กๆ บางคนที่เลือกว่า การหาเงินสำคัญกว่า ให้เหตุผลว่า จะทำงานหาเงินเพื่อมาเลี้ยงดูครอบครัวให้สุขสบาย
ขณะที่สิ่งที่ต้องการทำในปี 2556 เด็กไทยโดยส่วนใหญ่ตอบว่า อยากใช้เวลากับครอบครัว และเพื่อนๆ โดยมีคำตอบว่าอยากเล่นเกม เป็นคำตอบรองลงมา แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เด็กไทยยังให้ความสำคัญกับครอบครัวและคนรอบข้างก่อนเสมอ ผลการสำรวจยังพบอีกว่า เด็กๆ ยังคงให้ความสำคัญกับการเรียน โดยจะพยายามตั้งใจเรียนให้มากขึ้น และเรียนให้เก่งขึ้น
ส่วนคำถามถ้าหากเลือกได้ อยากไปใช้ชีวิตอยู่ประเทศอะไรมากที่สุด คำตอบที่ได้มีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นประเทศญี่ปุ่น อเมริกา ฝรั่งเศส อังกฤษ และเกาหลี แต่ประเทศที่ได้รับคำตอบจากเด็กๆ มากที่สุดคือ ประเทศไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าประเทศใดจะมีความน่าสนใจ หรือมีความน่าตื่นเต้นอย่างไรก็ตาม แต่ประเทศไทยเป็นประเทศที่เด็กๆ อยากอยู่มากที่สุด
http://www.thairath.co.th/content/edu/318767 
ผลสำรวจอาชีพในฝันของเด็กไทย พบว่า แพทย์ยังรั้งที่ 1 เด็กไทยยังด้อยคิดวิเคราะห์ ครูภาระงานมากไม่มีเวลาเตรียมการสอน
นอกจากนี้ ยังมีเด็กบางคนชอบสนุก ชอบออกกำลัง โดยเลือกเป็น นักเต้นบีบอย ขณะที่เด็กส่วนหนึ่งที่อยากเป็นตำรวจ ให้เหตุผลว่า จะได้ไม่ต้องเสียค่าปรับ หรือเด็กอีกคนหนึ่งกล่าวว่า อยากเป็นนักเขียนโปรแกรม เนื่องจากจะได้เขียนโปรแกรมเกมสำหรับตนเองได้เล่นสนุกได้อย่างใจคิด อย่างไรก็ตามในปีนี้อาชีพครู ตกอันดับลงไปเป็นอันดับที่ 5 รองจากอาชีพ วิศวกร ตำรวจ นักธุรกิจ ซึ่งได้มาแทนที่อาชีพทนายความ พ่อครัว ซึ่งเป็นอาชีพในฝันอันดับรองลงมาในปีที่แล้ว
สำหรับการสอบถามเด็กๆ ว่า ถ้าหากได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ของประเทศไทย 3 สิ่งที่ต้องการทำคืออะไร เด็กส่วนใหญ่ให้คำตอบที่แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยและความรับผิดชอบสูง อาทิ เช่น ปกป้องดูแลประชาชน พัฒนาประเทศ และพัฒนาระบบการศึกษาให้กับประชาชนในเขตทุรกันดาร สร้างความสามัคคี ลดปัญหาเรื่องยาเสพติดและการเล่นการพนัน พัฒนาระบบสาธาณูปโภคของท้องถิ่น เช่น ถนน ขนส่งมวลชน โรงพยาบาล เป็นต้น รักษ์โลกด้วยการรักษาสิ่งแวดล้อม ต่อต้านการทุจริตคอรัปชัน ในขณะเดียวกันมีเด็กบางส่วนที่มีจินตนาการแตกต่างออกไป เช่น จะทำการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ เรื่องการแต่งเครื่องแบบนักเรียน จะติดแอร์ให้ทั่วประเทศ หรือแม้แต่จะออกกฎ ให้มีการนอนหลับพักผ่อนหลังอาหารกลางวัน เป็นต้น
ส่วนคำถามที่ถามว่าอะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่างการใช้เวลาอยู่กับครอบครัว หรือการหาเงินได้มากๆ ผลการสำรวจพบว่า มากกว่าร้อยละ 94 บอกว่า การใช้เวลาอยู่กับครอบครัวสำคัญกว่าการหาเงินให้ได้มากๆ แสดงให้เห็นว่า ครอบครัวได้ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีในการเลี้ยงดูเด็กๆ เหล่านี้ ทำให้เด็กๆ เหล่านี้ เห็นความสำคัญของครอบครัวเป็นอันดับหนึ่ง โดยให้เหตุผลว่า มีความอบอุ่นและมีความสุขเมื่ออยู่กับครอบครัว ครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และการหาเงินจะทำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ครอบครัวต้องมาก่อน ทั้งนี้ แม้แต่เด็กๆ บางคนที่เลือกว่า การหาเงินสำคัญกว่า ให้เหตุผลว่า จะทำงานหาเงินเพื่อมาเลี้ยงดูครอบครัวให้สุขสบาย
ขณะที่สิ่งที่ต้องการทำในปี 2556 เด็กไทยโดยส่วนใหญ่ตอบว่า อยากใช้เวลากับครอบครัว และเพื่อนๆ โดยมีคำตอบว่าอยากเล่นเกม เป็นคำตอบรองลงมา แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เด็กไทยยังให้ความสำคัญกับครอบครัวและคนรอบข้างก่อนเสมอ ผลการสำรวจยังพบอีกว่า เด็กๆ ยังคงให้ความสำคัญกับการเรียน โดยจะพยายามตั้งใจเรียนให้มากขึ้น และเรียนให้เก่งขึ้น
ส่วนคำถามถ้าหากเลือกได้ อยากไปใช้ชีวิตอยู่ประเทศอะไรมากที่สุด คำตอบที่ได้มีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นประเทศญี่ปุ่น อเมริกา ฝรั่งเศส อังกฤษ และเกาหลี แต่ประเทศที่ได้รับคำตอบจากเด็กๆ มากที่สุดคือ ประเทศไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าประเทศใดจะมีความน่าสนใจ หรือมีความน่าตื่นเต้นอย่างไรก็ตาม แต่ประเทศไทยเป็นประเทศที่เด็กๆ อยากอยู่มากที่สุด
http://www.thairath.co.th/content/edu/318767