ปล แก้หัวข้อไม่ได้ค่ะ น้องสาวแต่งงานแต่ไม่ได้จดทะเบียนค่ะ อยู่กันมา 1 ปี เลิกกันฝ่ายชายทวงสินสอดคืน...ต้องคืนด้วยหรือค่ะ...
เรื่องมีอยู่ว่าน้องสาวเราแต่งงาน กับแฟนมา 1 ปี แต่ทนนิสัยฝ่ายชายไม่ได้ค่ะ เนื่องจากฝ่ายชายขึ้หึงแบบโรคจิต ดูหมิ่นว่าน้องเรามีชู้
คือไม่ยอมให้น้องสาวเราซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอาง และยึดเงินน้องเราไปหมด(เงินน้องเรา) รับโทรศัพท์น้องเราไป แบบไม่ว่าใครโทรมา
ก็รับแทน จึงทะเลาะกันบ่อยมาก และน้องเราบอกเลิกและหนีมา กทมค่ะ แต่น้องสาวไม่ได้มีชู้หรือมีสามีใหม่นะค่ะ หนีมาอยู่กับญาติค่ะ
โดยฝ่ายชายทางฝ่ายชายมาทวงทองแต่งงานคืนค่ะ...
ถ้าเราไม่คือเค้าสามารถฟ้องอะไรได้ไมค่ะ...
เนื่องจากน้องเราไม่ได้จดทะเบียนเพราะยังไม่แน่ใจว่าจะอยู่กันได้หรือเปล่า ทางฝ่ายชายกล่าวหาว่าตั้งใจหลอกลวง
เพราะแต่งแล้วไม่ยอมจดทะเบียน เงินแต่ง 2 แสนทอง 10 บาท แต่ฝ่ายหญิงออกค่าจัดเลี้ยง แมนแต่ชุดของ เจ้าบ่าวที่ใส่ในงาน
ทั้งหมด เรียกว่ามีแค่สินสอด งานใหญ่โต๊ะจีน100 กว่าโต๊ะ แต่แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงนะค่ะ ฝ่ายชายมาอยู่บ้านฝ่ายหญิงมาแต่ตัวกับเสื้อผ้าค่ะ
ไปไหนมาไหนใช่รถของที่บ้านค่ะ เพราะที่บ้านมีรถหลายคัน ค่าใช่จ่ายในบ้านไม่เคยออก เรียกว่าอยู่ฟรีกินฟรี หวังจะให้ช่วยกิจการที่บ้านเพราะว่าจบปริญญาตรี แต่อ่านภาษาอังกฤษไม่ได้
เลย ขับรถเข้ากรุงเทพก็ไม่ได้ พูดง่ายๆว่าทำไรไม่ได้สักอย่างคือเป็นผู้ชายไม่เอาไหนค่ะ แถมญาติพี่น้องฝ่ายหญิงเริ่มรับไม่ได้กับนิสัยของสามีน้อง น้องสาวเลยทนไม่ไหวขอเลิก มาหลายหน แต่ฝ่ายชายตื้อแบบยอมกราบท้าวเลยอะ แบบขู่จะฆ่าตัวตายอีก ที่จริงถ้าทางฝ่ายชายยอมเลิกดีๆ ก็จะคือให้ค่ะ แต่ทางเค้าออกมาโพนทะนาว่าฝ่ายหญิงมีชู้ ดูหมิ่นต่างๆนานาเลยไม่คืนค่ะ...
ปล น้องสาวเราสวยระดับนางนพมาศ ค่ะ แต่สามีหน้าจัดว่าขี้เหล่ม๊ากมากค่ะ...
เพิ่มเติมค่ะ
หลายกระทู้คงสงสัยนะค่ะว่าน้องสาวแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ทำไม...
คือน้องสาวเป็นคนสวยน่ารักค่ะมีคนมาจีบเยอะ อยู่ต่างจังหวัด ก็ใช้ชีวิตสบายๆก็ยังไม่คบใครที่บ้านมีกิจการเย็บผ้าพวกยูนิฟรอม
ส่งห้างใน กทม ที่บ้านมีพี่ชายคนโตเป็นคนทำกิจการหลักๆ น้องชายคนเล็กชอบทำเกี่ยวกับรถเลยเปิดอู่เล็กๆกับเพื่อน ส่วนน้อง
สาวทำบัญชี และจ่ายงานให้ลูกน้องบ้าง แต่หลักๆพี่ชายคนโตเป็นคนดูแลเก็บเช็คและส่งงานเข้ากรุงเทพ ต่อมาพี่ชายป่วยและ
เสียชีวิต ที่บ้านเลยขาดผู้นำ ผู้ชายคนนี้จีบน้องเรามาตั้งนาน เสนอตัวจะมาช่วยงาน โดยจะลาออกจากงานที่เค้าทำ เพื่อมาช่วย
ในช่วงแรกก็ช่วยงานดีใช้อะไรไม่บ่น เอาอกเอาใจป้าเราป้าเราเลยเชียรว่าให้แต่งกับคนนี้ แม่เรายังลังเล แต่ทางโน้นรีบเอาผู้ใหญ่
มาสู่ขอ พ่อฝ่ายชายเป็นระดับ ผอโรงเรียนประจำตำบล ทางพ่อแม่เค้าก็ไม่อยากมาขอเพราะคบกันไม่นาน แต่ฝ่ายเราก็ไม่ได้รีบร้อน
บอกให้รอก่อนแต่ทางผู้ชายไม่ยอมรอจะแต่เลยให้ได้ น้องสาวเราก็ไม่ได้อยากแต่ง ผู้ชายบอกว่าจะฆ่าตัวตาย แล้วขุกเข่ากอดขา
น้องเราแล้วร้องไห้ น้องเราใจอ่อนเลยรับปากแต่งงานด้วย ประกอบกับป้าเราเชียร บอกว่าจะได้ให้ผู้ชายคนนี้มาช่วยงาน แทนพี่ชายที่เสียไป
งานแต่งก็เลยเกิดขึ้นในปีเดียวกับที่พี่ชายเสีย...ทั้งๆที่ทางเราบอกกับฝ่ายชายว่าเลื่อนไปอีกปีไม่ได้เหรอ ทางผู้ชายไม่ยอมค่ะ
จะแต่งให้ได้ ถามว่าน้องเรารักไม ตอบเลยค่ะว่า ไม่รัก น้องเป็นคนขี้สงสาร (เลยทำให้ตัวเองซวยยยยยยย) ผู้ชายคนนี้ช่วงแรก
ทำดีทุกอย่างค่ะเก็บกวาด ถูบ้านล้าง ถ้วยชาม ซักผ้า ทางเราไม่ได้บอกให้เค้าทำนะ อาสาทำเอง แต่หลังแต่งนี้คนล่ะเรื่องเลยค่ะ
งานขับรถส่งผ้าเข้ากรุงเทพเค้าก็ไม่สามรถทำได้ค่ะ เพราะความจำไม่ดีจำถนนจำอะไรไม่ได้ ให้ไปเก็บเช็คเก็บงานไม่ต้องพูดถึง
จบปริญญานะค่ะแต่อ่านภาษาอังกฤษไม่ออกเลย รับเมลส่งเมลไม่ได จนน้องชายที่ทำอู่รถต้องเลิกทำมาช่วยที่บ้านแทน...
เพราะกิจการเย็บผ้าเป็นงานหลักเลี้ยงคนได้ทั้งบ้าน จขกท ได้กลับไปอยู่บ้านช่วงน้ำท่วม กทม ได้เห็นได้พูดได้คนกับคนๆนี้
เป็นคนพูดจาดี พูดแต่เอาความดีเข้าตัว การกระทำกับคำพูดตรงกันข้ามเลยค่ะ นานเข้าหางค่อยๆโผล่ออกมา...กับป้าที่เคยเชียร
ให้แต่งกับน้อง ก็ทะเลาะกันไม่พูดกันป้าเลยบอกถ้าน้องอยากเลิกก็เลิกเลยค่ะ...ทุกวันนี้น้องหนี้ไปอยู่กับป้าค่ะ...
ถามว่า...ทำไมถึงเลือกผู้ชายคนนี้ เพราะผู้ชายยอมแต่งเข้าบ้านค่ะ...มีคนมาชอบพอเยอะค่ะมีฐานะดีมากค่ะ แต่ต้องแต่งออกไปอยู่กับ
เค้า แม่และน้องสาวเลยคิดว่าเลือกผู้ชายคนนี้ค่ะเพราะเงินทองไม่ใช่ปัจจัยหลักค่ะ...ครอบครัวเราหาได้แต่อยากได้คนที่เราคิดว่าดีค่ะ
น้องสาวแต่งงานแต่ไม่ได้จดทะเบียนค่ะ อยู่กันมา 1 ปี เลิกกันฝ่ายชายทวงศีลสอดคืน...ต้องคืนด้วยหรือค่ะ...
เรื่องมีอยู่ว่าน้องสาวเราแต่งงาน กับแฟนมา 1 ปี แต่ทนนิสัยฝ่ายชายไม่ได้ค่ะ เนื่องจากฝ่ายชายขึ้หึงแบบโรคจิต ดูหมิ่นว่าน้องเรามีชู้
คือไม่ยอมให้น้องสาวเราซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอาง และยึดเงินน้องเราไปหมด(เงินน้องเรา) รับโทรศัพท์น้องเราไป แบบไม่ว่าใครโทรมา
ก็รับแทน จึงทะเลาะกันบ่อยมาก และน้องเราบอกเลิกและหนีมา กทมค่ะ แต่น้องสาวไม่ได้มีชู้หรือมีสามีใหม่นะค่ะ หนีมาอยู่กับญาติค่ะ
โดยฝ่ายชายทางฝ่ายชายมาทวงทองแต่งงานคืนค่ะ...
ถ้าเราไม่คือเค้าสามารถฟ้องอะไรได้ไมค่ะ...
เนื่องจากน้องเราไม่ได้จดทะเบียนเพราะยังไม่แน่ใจว่าจะอยู่กันได้หรือเปล่า ทางฝ่ายชายกล่าวหาว่าตั้งใจหลอกลวง
เพราะแต่งแล้วไม่ยอมจดทะเบียน เงินแต่ง 2 แสนทอง 10 บาท แต่ฝ่ายหญิงออกค่าจัดเลี้ยง แมนแต่ชุดของ เจ้าบ่าวที่ใส่ในงาน
ทั้งหมด เรียกว่ามีแค่สินสอด งานใหญ่โต๊ะจีน100 กว่าโต๊ะ แต่แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงนะค่ะ ฝ่ายชายมาอยู่บ้านฝ่ายหญิงมาแต่ตัวกับเสื้อผ้าค่ะ
ไปไหนมาไหนใช่รถของที่บ้านค่ะ เพราะที่บ้านมีรถหลายคัน ค่าใช่จ่ายในบ้านไม่เคยออก เรียกว่าอยู่ฟรีกินฟรี หวังจะให้ช่วยกิจการที่บ้านเพราะว่าจบปริญญาตรี แต่อ่านภาษาอังกฤษไม่ได้
เลย ขับรถเข้ากรุงเทพก็ไม่ได้ พูดง่ายๆว่าทำไรไม่ได้สักอย่างคือเป็นผู้ชายไม่เอาไหนค่ะ แถมญาติพี่น้องฝ่ายหญิงเริ่มรับไม่ได้กับนิสัยของสามีน้อง น้องสาวเลยทนไม่ไหวขอเลิก มาหลายหน แต่ฝ่ายชายตื้อแบบยอมกราบท้าวเลยอะ แบบขู่จะฆ่าตัวตายอีก ที่จริงถ้าทางฝ่ายชายยอมเลิกดีๆ ก็จะคือให้ค่ะ แต่ทางเค้าออกมาโพนทะนาว่าฝ่ายหญิงมีชู้ ดูหมิ่นต่างๆนานาเลยไม่คืนค่ะ...
ปล น้องสาวเราสวยระดับนางนพมาศ ค่ะ แต่สามีหน้าจัดว่าขี้เหล่ม๊ากมากค่ะ...
เพิ่มเติมค่ะ
หลายกระทู้คงสงสัยนะค่ะว่าน้องสาวแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ทำไม...
คือน้องสาวเป็นคนสวยน่ารักค่ะมีคนมาจีบเยอะ อยู่ต่างจังหวัด ก็ใช้ชีวิตสบายๆก็ยังไม่คบใครที่บ้านมีกิจการเย็บผ้าพวกยูนิฟรอม
ส่งห้างใน กทม ที่บ้านมีพี่ชายคนโตเป็นคนทำกิจการหลักๆ น้องชายคนเล็กชอบทำเกี่ยวกับรถเลยเปิดอู่เล็กๆกับเพื่อน ส่วนน้อง
สาวทำบัญชี และจ่ายงานให้ลูกน้องบ้าง แต่หลักๆพี่ชายคนโตเป็นคนดูแลเก็บเช็คและส่งงานเข้ากรุงเทพ ต่อมาพี่ชายป่วยและ
เสียชีวิต ที่บ้านเลยขาดผู้นำ ผู้ชายคนนี้จีบน้องเรามาตั้งนาน เสนอตัวจะมาช่วยงาน โดยจะลาออกจากงานที่เค้าทำ เพื่อมาช่วย
ในช่วงแรกก็ช่วยงานดีใช้อะไรไม่บ่น เอาอกเอาใจป้าเราป้าเราเลยเชียรว่าให้แต่งกับคนนี้ แม่เรายังลังเล แต่ทางโน้นรีบเอาผู้ใหญ่
มาสู่ขอ พ่อฝ่ายชายเป็นระดับ ผอโรงเรียนประจำตำบล ทางพ่อแม่เค้าก็ไม่อยากมาขอเพราะคบกันไม่นาน แต่ฝ่ายเราก็ไม่ได้รีบร้อน
บอกให้รอก่อนแต่ทางผู้ชายไม่ยอมรอจะแต่เลยให้ได้ น้องสาวเราก็ไม่ได้อยากแต่ง ผู้ชายบอกว่าจะฆ่าตัวตาย แล้วขุกเข่ากอดขา
น้องเราแล้วร้องไห้ น้องเราใจอ่อนเลยรับปากแต่งงานด้วย ประกอบกับป้าเราเชียร บอกว่าจะได้ให้ผู้ชายคนนี้มาช่วยงาน แทนพี่ชายที่เสียไป
งานแต่งก็เลยเกิดขึ้นในปีเดียวกับที่พี่ชายเสีย...ทั้งๆที่ทางเราบอกกับฝ่ายชายว่าเลื่อนไปอีกปีไม่ได้เหรอ ทางผู้ชายไม่ยอมค่ะ
จะแต่งให้ได้ ถามว่าน้องเรารักไม ตอบเลยค่ะว่า ไม่รัก น้องเป็นคนขี้สงสาร (เลยทำให้ตัวเองซวยยยยยยย) ผู้ชายคนนี้ช่วงแรก
ทำดีทุกอย่างค่ะเก็บกวาด ถูบ้านล้าง ถ้วยชาม ซักผ้า ทางเราไม่ได้บอกให้เค้าทำนะ อาสาทำเอง แต่หลังแต่งนี้คนล่ะเรื่องเลยค่ะ
งานขับรถส่งผ้าเข้ากรุงเทพเค้าก็ไม่สามรถทำได้ค่ะ เพราะความจำไม่ดีจำถนนจำอะไรไม่ได้ ให้ไปเก็บเช็คเก็บงานไม่ต้องพูดถึง
จบปริญญานะค่ะแต่อ่านภาษาอังกฤษไม่ออกเลย รับเมลส่งเมลไม่ได จนน้องชายที่ทำอู่รถต้องเลิกทำมาช่วยที่บ้านแทน...
เพราะกิจการเย็บผ้าเป็นงานหลักเลี้ยงคนได้ทั้งบ้าน จขกท ได้กลับไปอยู่บ้านช่วงน้ำท่วม กทม ได้เห็นได้พูดได้คนกับคนๆนี้
เป็นคนพูดจาดี พูดแต่เอาความดีเข้าตัว การกระทำกับคำพูดตรงกันข้ามเลยค่ะ นานเข้าหางค่อยๆโผล่ออกมา...กับป้าที่เคยเชียร
ให้แต่งกับน้อง ก็ทะเลาะกันไม่พูดกันป้าเลยบอกถ้าน้องอยากเลิกก็เลิกเลยค่ะ...ทุกวันนี้น้องหนี้ไปอยู่กับป้าค่ะ...
ถามว่า...ทำไมถึงเลือกผู้ชายคนนี้ เพราะผู้ชายยอมแต่งเข้าบ้านค่ะ...มีคนมาชอบพอเยอะค่ะมีฐานะดีมากค่ะ แต่ต้องแต่งออกไปอยู่กับ
เค้า แม่และน้องสาวเลยคิดว่าเลือกผู้ชายคนนี้ค่ะเพราะเงินทองไม่ใช่ปัจจัยหลักค่ะ...ครอบครัวเราหาได้แต่อยากได้คนที่เราคิดว่าดีค่ะ