รถจอดอยู่ในบ้านตัวเองแท้ๆ ยังอันตรายเลยค่ะ

เหตุเกิดเมื่อช่วงสิ้นปีค่ะ ก่อนหยุดปีใหม่
บ้านเช่า จขกท อยู่ ท้ายซอยของหมู่บ้าน และเป็นทางลัด ที่พวกรถข้างนอกชอบเข้ามาในซอยนี้ เพื่อไม่ต้องรอติดไฟแดง ไปออกอีกทางนึง
และบางที เข้าออก กันทั้งคืน สร้างความรำคาญให้คนในหมู่บ้านมาก
แต่มาตอนหลัง ประชุมหมู่บ้านกัน ก็เลยปิดทางออก ตรงท้ายซอย เพื่อกันรถจากคนข้างนอกเข้ามาใช้เป็นทางลัด
แต่ ก็ยังมีพวกรถข้างนอก หลงเข้ามาใช้เส้นทางนี้อยู่บ่อยๆ โดยไม่รู้ว่าท้ายซอยถูกปิดแล้ว
(หมู่บ้านเรา เป็นหมู่บ้านเล็กๆค่ะ ประมาณ 50-60 หลัง และถนนในหมู่บ้านก็เป็นที่ส่วนบุคคล
เฉพาะคนในหมู่บ้านเท่านั้น ที่จะมีกุญแจไขรั้วตรงทางออก และสามารถออกทางนี้ได้)
จึงเกิดปัญหา กับพวกที่เข้ามาใช้ทางลัด แล้วออกไม่ได้ พอมาเจอประตูปิด จึงต้องกลับรถเพื่อที่จะออกไปทางเดิม
(แต่ จขกท ว่ารำคาญมากกว่าเดิมค่ะ เพราะมีรถเข้ามากลับกันช่วงดึกเยอะ แล้วพอกลับรถกันก็สาดไฟมาเข้าบ้าน จขกท พอดี
บางคัน ขับรถไม่คล่อง ก็บรึ้นแล้ว บรึ้นอีก อยู่นั่นแหล่ะค่ะ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะมติของหมู่บ้านเขา เราก็ต้องตามน้ำค่ะ)
แล้วบ้าน จขกท ดันอยู่ตรงท้ายซอยพอดี ทำให้พวกนี้ ชอบมากลับรถหน้าบ้าน จขกท
ซึ่งบางที ก็ชนขอบรั้วปูนหน้าบ้าน ที่ไว้ปลูกต้นไม้แตก หลายครั้งค่ะ  แต่หาตัวผู้กระทำผิดไม่เจอ
ก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ปล่อยไป เพราะเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ซีเรียสอยู่แล้ว

แต่มาคราวนี้ มันหนักเลยค่ะ วันนั้น จขกท ตื่นสาย ขณะที่กำลังให้อาหารแมวน้อยอยู่ในบ้าน
ก็ได้ยินเสียงโครมครามหน้าบ้าน ตอนแรก ก็ไม่นึกอะไร เพราะบ้านข้างๆ เขาต่อเติมกันอยู่
แต่ก็เห็นแมวน้อย วิ่งกันใหญ่ ก็เลยเดินออกไปดูหน้า  ปรากฏ เป็นเสียงของรถที่มาชนรั้วบ้าน จขกท ค่ะ
นี่ค่ะ


รถมันใหญ่ แล้วดันมากลับรถหน้าบ้าน จขกท ซึ่ง ด้านตรงข้าม ก็มีรถจอดอยู่  มันก็เหลือทางวิ่งแค่ทางเดียว
ถ้าขยับออกไปตรงใกล้ทางออก ตรงนั้นมันมีที่ให้กลับรถได้เยอะอยู่ค่ะ แต่มันไม่เลือกตรงนั้น
ดันมาเลือกตรงหน้าบ้าน จขกท แทน ผลที่ตามมาก็คือ พอพื้นที่มันน้อย มันก็ชนรั้วบ้านของ จขกท หลุดออกมาหมดเลย
รั้วบ้านนอนหงายอยู่กับพื้นเลยค่ะ แล้วก็ส่งผลให้ ก่อนที่รั้วจะหล่นไปนอนกับพื้น ดันไปครูดกับท้ายรถ ที่จอดอยู่ในบ้านก่อนเนี่ยแหล่ะค่ะ

(ตอนนั้นตกใจมากค่ะ ถ่ายรูปไม่ทัน)  แต่ที่ตกใจยิ่งกว่า คือ คนขับและเพื่อนคนขับเป็นพม่าค่ะ !!!

พวกเขาลงมาจากรถ แล้วก็พูดพร้อมกันว่า สะมะบ่องอ่องต่อง ตอระแหล่ะ อะแมหงะแหงะ อะไรประมาณนี้ เราฟังไม่ออกค่ะ
มาฟังออกก็ "รั่วหลุ รั่วหลุและ"  ตกใจก็ตกใจ โมโหก็โมโห แต่พอมาเจออย่างนี้ เกือบขำเลยค่ะ
เราก็เลยถามไปค่ะ ว่า พูดไทยได้หรือเปล่า เพราะเราเอง ก็พูดภาษาเขาไม่เป็น
เขาบอกว่า "พุได้ นิหน่อนะ"  เราก็ถามต่อว่า แล้วจะทำไงเงี่ย
เขาก็เข้ามาช่วยกันสองคน ยกรั้วใส่ให้เราเหมือนเดิม

หลังจากใส่รั้วให้เสร็จ ก็บอกเราว่า " ส่ะหะและ " (กรุณาทำเสียงพูดไม่ชัดตามนะคะ มันจะได้อารมณ์มาก)
แล้วเราก็เดินตรวจรถของเรา ถามต่อว่า แล้วรอยที่รถโดนกระแทกนี่หล่ะ จะทำไง
พม่าเขาน่ารักมากค่ะ เดินเข้ามากับเพื่อน เอานิ้วมาช่วย กันถูๆ ตรงรอยที่โดนรั้วครูด
พอถูไม่ออก ก็ทำหน้าตาตื่นตกใจกันใหญ่ แล้วบอกเราว่า " ทุมะอ่อ ทุแรๆ ก็มะอ่อ "


จากนั้นเราถามว่า จะทำไงต่อเนี่ย มาจากร้านไหนเนี่ย เขาก็พูดอะไรมาอีกก็ไม่รู้ เราฟังไม่ออกแล้วค่ะ
แต่โชคดีที่ พม่าสองคนนี้ เขาใส่เสื้อร้านมา เราก็เลยให้เขาหันหลัง แล้วก็รีบเอาเบอร์โทรร้านที่หลังเสื้อ โทรไปเลยค่ะ
พอทางร้านรับสาย เราก็ถามว่า รถทะเบียน........ มาชนรั้วบ้านหนูค่ะพี่ แล้วก็บอกทางเขา
สักประมาณ 10 นาที พี่เจ้าของร้านก็รีบขับรถมาเลยค่ะ ตอนนี้ พม่าไปกันหมดแล้ว
เราก็เล่าให้เขาฟัง เขาก็บอกว่า ทางเขาผิด เดี๋ยวเขาจะออกค่าซ่อมให้ แล้วเขาก็โทรเรียกอู่ซ่อมรถ
เข้ามาตีราคา แล้วก็อธิบายให้เราฟังว่า ซ่อมยังไง ทำสียังไงค่ะ
โชคยังดีนะคะ ที่เรายังได้เจอเจ้าของร้านที่มีความรับผิดชอบ

เรื่องก็จบลงด้วยดีค่ะ
จึงอยากเตือนเพื่อนๆไว้ค่ะ อันตรายเกิดได้ทุกเวลา ขนาดรถเราจอดอยู่ในบ้านตัวเองแท้ๆ ยังอันตรายเลยค่ะ
เราไม่อยากคิดเลยว่า ถ้าเหตุมันเกิด หลังจากที่เราออกไปทำงานแล้ว เราจะตามหาตัวคนทำได้หรือเปล่า
เพราะเพื่อนบ้านเราก็ออกไปทำงานกันหมดแล้ว คงไม่มีใครเห็นแน่เลยค่ะ และคนที่ชนก็คงรีบขับรถหนีไปอีก

และเผื่อใครมีวิธีแก้ไข ช่วยแนะนำได้นะคะ เพราะตอนนี้ รถจากข้างนอก ยังเข้ามากลับรถอยู่แถวหน้าบ้านเราอยู่เลยค่ะ

แก้ไขเพิ่มเติม*** หมู่บ้านเราไม่มียามค่ะ แต่ติดป้ายก็เป็นทางเลือกที่ดี เดี๋ยวลองไปเสนอก่อนค่ะ / ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ
ส่วนเรื่องทำสีรถ ช่างเขาบอกว่า ทำแล้ว อาจจะเหลือรอยเล็บจิกอยู่อ่ะค่ะ

ปล.เราไปตั้งไว้แล้ว แต่ดันไปกดผิด ส่งเข้าห้องข่าว
เลยแก้ไขเปลี่ยนมาเป็นห้องสนทนาแทนค่ะ นี่ค่ะ กระทู้เดิม http://pantip.com/topic/30025123
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่