ช่วงปีใหม่ได้ไปเคาท์ดาวน์กับเพื่อนที่สวนเกษตรดอยอ่างขางมาค่ะ
ไปครั้งนี้ รู้สึกเสียความรู้สึกและบรรยากาศในบางส่วน
ที่มาจากนักท่องเที่ยวที่ไม่มีจิตสำนึกและความเกรงใจต่อคนอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นการจุดประทัด พลุไฟ การเปิดเครื่องเสียงประชันกัน
หรือแม้กระทั่งระเบียบวินัยในการรักษาความสะอาดกันอะไรก็ตามแต่
ขอตัดมาเอ่ยถึงการลอยโคมนะคะ
จำได้ว่าคืนวันนั้น เฉพาะที่สวนเกษตรฯอ่างขางมีการลอยโคมไม่ต่ำกว่าร้อยลูกค่ะ
แลดูสวยงาม หลายคนสนุกกับการลอยโคมและถ่ายรูปคู่กับการลอยโคมของตนเองและคณะเป็นอย่างมาก
หลังจากคืนวันเคาท์ดาวน์
เช้าวันรุ่งขึ้น เรากับเพื่อนได้มีโอกาสไปเดินเล่นในสวนเกษตรอ่างขางกันช่วงสายๆ
เพื่อเข้าชมดอกไม้สวยงามที่ทางสวนเกษตรได้ปลูกเอาไว้
ไม่เพียงเจอดอกไม้สวยๆงามๆค่ะ
เราเจอเศษซากโคมลอยติดตามสุมทุมพุ่มไม้เต็มไปหมด
บางอันไปติดบนยอดไม้ที่มีการห่อหุ้มยอดเอาไว้เพื่อติดตาและทำการปลูกใหม่ๆ
ถามพนง.ที่อยู่ประจำแปลงในบางจุดว่าทำยังไงกับโคมพวกนี้
พี่เค้าได้แต่ยิ้มๆ แล้วก็พูดว่า ก็ต้องตามเก็บ เพราะไม่รู้จะว่ายังไงเหมือนกัน
มันมีมาทุกปี แต่ปีนี้มาเยอะ ตรงแถบที่เพิ่งปลูกกล้าใหม่ๆ
โดนโคมที่ยังติดไฟตกใส่ ก็ไหม้ไป ต้องปลูกใหม่กันอีก
ไหนจะขยะที่นักท่องเที่ยวมาทิ้งตามแปลงเกษตรอีก เก็บกันทุกวัน
ได้ยินแล้วรู้สึกแย่แล้วก็อายแทนจังค่ะ
ว่าเราไม่แค่ไปเที่ยวเปล่าๆ ยังเอาภาระไปให้คนดูแลอีกด้วย
เรากับเพื่อนเลยไปขอถุงดำใบใหญ่มาได้ 2 ใบเพื่อเดินเก็บตามทางที่เราผ่านไปในสวนค่ะ
เก็บกันได้ประมาณ 50-60 ใบได้ แต่ขอโทษที่ไม่มีรูปมาให้ดูนะคะ เพราะแบตหมดไปก่อน
เลยเก็บมาได้เฉพาะภาพที่เราถ่ายกันช่วงแรกๆเอาไว้
ซึ่งบางอันก็ไม่สามารถไปเก็บได้หรอกค่ะ เพราะติดอยู่บนต้นไม้หรือภูเขาสูงๆที่ล้อมรอบสวนฯเอาไว้
เราอาจจะมองในมุมต่างออกไปค่ะ
ว่าการลอยโคมมันทำให้เป็นขยะมากกว่าความสวยงามแค่ชั่วคราวเพื่อการถ่ายรูปที่สวยงามของเพื่อนๆ
เพราะโคมไม่สามารถทำให้เป็นขนมปังให้นกมาจิกกินในท้องฟ้า
เหมือนกับกระทงขนมปังที่จะย่อยสลายให้ปลากินในน้ำได้
ถึงแม้ปีนี้จะรู้สึกไม่ดีกับการไปอ่างขางไม่เหมือนที่ไปทุกที
แต่ถ้ามีโอกาส ก็จะกลับไปอีกครั้งค่ะ
ปล.ขอโทษนะคะที่เรียงรูปไม่สวยเลย
*** ลอยโคม..ลอยให้ได้อะไร ***
ไปครั้งนี้ รู้สึกเสียความรู้สึกและบรรยากาศในบางส่วน
ที่มาจากนักท่องเที่ยวที่ไม่มีจิตสำนึกและความเกรงใจต่อคนอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นการจุดประทัด พลุไฟ การเปิดเครื่องเสียงประชันกัน
หรือแม้กระทั่งระเบียบวินัยในการรักษาความสะอาดกันอะไรก็ตามแต่
ขอตัดมาเอ่ยถึงการลอยโคมนะคะ
จำได้ว่าคืนวันนั้น เฉพาะที่สวนเกษตรฯอ่างขางมีการลอยโคมไม่ต่ำกว่าร้อยลูกค่ะ
แลดูสวยงาม หลายคนสนุกกับการลอยโคมและถ่ายรูปคู่กับการลอยโคมของตนเองและคณะเป็นอย่างมาก
หลังจากคืนวันเคาท์ดาวน์
เช้าวันรุ่งขึ้น เรากับเพื่อนได้มีโอกาสไปเดินเล่นในสวนเกษตรอ่างขางกันช่วงสายๆ
เพื่อเข้าชมดอกไม้สวยงามที่ทางสวนเกษตรได้ปลูกเอาไว้
ไม่เพียงเจอดอกไม้สวยๆงามๆค่ะ
เราเจอเศษซากโคมลอยติดตามสุมทุมพุ่มไม้เต็มไปหมด
บางอันไปติดบนยอดไม้ที่มีการห่อหุ้มยอดเอาไว้เพื่อติดตาและทำการปลูกใหม่ๆ
ถามพนง.ที่อยู่ประจำแปลงในบางจุดว่าทำยังไงกับโคมพวกนี้
พี่เค้าได้แต่ยิ้มๆ แล้วก็พูดว่า ก็ต้องตามเก็บ เพราะไม่รู้จะว่ายังไงเหมือนกัน
มันมีมาทุกปี แต่ปีนี้มาเยอะ ตรงแถบที่เพิ่งปลูกกล้าใหม่ๆ
โดนโคมที่ยังติดไฟตกใส่ ก็ไหม้ไป ต้องปลูกใหม่กันอีก
ไหนจะขยะที่นักท่องเที่ยวมาทิ้งตามแปลงเกษตรอีก เก็บกันทุกวัน
ได้ยินแล้วรู้สึกแย่แล้วก็อายแทนจังค่ะ
ว่าเราไม่แค่ไปเที่ยวเปล่าๆ ยังเอาภาระไปให้คนดูแลอีกด้วย
เรากับเพื่อนเลยไปขอถุงดำใบใหญ่มาได้ 2 ใบเพื่อเดินเก็บตามทางที่เราผ่านไปในสวนค่ะ
เก็บกันได้ประมาณ 50-60 ใบได้ แต่ขอโทษที่ไม่มีรูปมาให้ดูนะคะ เพราะแบตหมดไปก่อน
เลยเก็บมาได้เฉพาะภาพที่เราถ่ายกันช่วงแรกๆเอาไว้
ซึ่งบางอันก็ไม่สามารถไปเก็บได้หรอกค่ะ เพราะติดอยู่บนต้นไม้หรือภูเขาสูงๆที่ล้อมรอบสวนฯเอาไว้
เราอาจจะมองในมุมต่างออกไปค่ะ
ว่าการลอยโคมมันทำให้เป็นขยะมากกว่าความสวยงามแค่ชั่วคราวเพื่อการถ่ายรูปที่สวยงามของเพื่อนๆ
เพราะโคมไม่สามารถทำให้เป็นขนมปังให้นกมาจิกกินในท้องฟ้า
เหมือนกับกระทงขนมปังที่จะย่อยสลายให้ปลากินในน้ำได้
ถึงแม้ปีนี้จะรู้สึกไม่ดีกับการไปอ่างขางไม่เหมือนที่ไปทุกที
แต่ถ้ามีโอกาส ก็จะกลับไปอีกครั้งค่ะ
ปล.ขอโทษนะคะที่เรียงรูปไม่สวยเลย