บัลลังก์ 'น้ำดำ' ในประเทศไทยกำลังถูกเขย่าระลอกใหญ่ นับจากนาทีนี้เป็นต้นไป โดย 4 ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด
"เป๊ปซี่" ในฐานะผู้นำเดิม "โค้ก" ที่ระบุว่ามีส่วนแบ่งการตลาดของภาพรวมธุรกิจเครื่องดื่มโค้กทั้งเครือขยับสูงสุด 55% ในรอบ 10 กว่าปี "เอส" ประกาศชัดเจนในตำแหน่งเบอร์ 2 ในสิ้นปีนี้ ก่อนจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดภายในปี 2558 ขณะที่ "บิ๊ก โคล่า" ความท้าทาย คือ อันดับ 2 น้ำดำเมืองไทย
ผู้ประกอบการแต่ละรายเตรียมอัดฉีดงบจำนวนไม่น้อย เป้าหมายคือการช่วงชิงฐานลูกค้าและส่วนแบ่งการตลาดให้ได้มากที่สุด จากรายงานการใช้งบโฆษณาของนีลเส็น ประเทศไทย ระบุว่าในช่วง 3 ไตรมาสแรก (ม.ค.-ก.ย.) ปี 2555 ของ 2 ค่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลม โค้ก และเป๊ปซี่ มีมูลค่ารวมกัน 1,491 ล้านบาท สูงกว่าปี 2554 ทั้งปีที่มีมูลค่า 1,319 ล้านบาท
"ประเมินว่าการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจน้ำอัดลมจะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาทจาก 4 แบรนด์ในการช่วงชิงส่วนแบ่งฯ ในปีนี้" ฐิติวุฒิ์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กล่าวและว่า ปีนี้ เอส ใช้งบ 900 ล้านบาททำตลาดเชิงรุก ตั้งเป้าหมายมีส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 25% หรือมียอดขาย 8,000 ล้านบาท เป็นอันดับ 2 ในตลาดน้ำดำ
“เดิมวงการน้ำอัดลมมีเพียง 2 แบรนด์แต่วันนี้มี 4 แบรนด์ฉะนั้นสถานการณ์เปลี่ยนไป มีความเข้มข้นมากกว่าเดิม 4 เท่า ซึ่งแต่ละรายมีความชำนาญและจุดแข็งที่ต่างกัน เราก็ต้องปิดจุดอ่อนของเรา” ฐิติวุฒิ์กล่าวย้ำ
การจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาด ต้องทำอะไรที่ “โดนใจ” และตอบโจทย์ผู้บริโภค ซึ่งเราไม่ใช่ผู้ตาม ปีแรกของการรุกตลาดต้องพิเศษกว่าปกติทั้งงบประมาณและเกมการแข่งขัน
ฟาก "เป๊ปซี่" พลิกจุดอ่อนช่องทางจำหน่ายรายย่อยที่แพ้ทาง "เอส" เร่งกระจายสินค้าเข้าสู่ช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่เป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพไม่น้อยที่จะทำให้ลูกค้าได้มองเห็นและซื้อหาเป๊ปซี่ได้สะดวก ภายใต้เป้าหมายรักษาความเป็นผู้นำตลาดน้ำดำในเมืองไทย
ปี 2555 ที่ผ่านมา เป็นปีที่ค่อนข้างพิเศษสำหรับ "โค้ก" ด้วยอัตราการเติบโตของยอดขายและส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี
อาร์ชวัส เจริญศิลป์ ผู้อำนวยการองค์กรสัมพันธ์และการสื่อสาร บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "การเปลี่ยนแปลงของคู่แข่ง ทำให้สินค้าหายไปจากคู่แข่ง และวอลุ่มมาหาเราแยอะพอควร แม้จะเพิ่มการทำงาน เพิ่มทีมขายอีกกว่า 500 คน ก็ยังไม่เพียงพอต่อวอลุ่มที่จะมารองรับดีมานด์ของคู่แข่งที่หายไป"
โค้ก เตรียมตัวล่วงหน้าเป็นปีก่อนการตัดขาดระหว่างเสริมสุขและเป๊ปซี่!! ทั้งเครื่องจักรเร็วที่สุดในเอเชีย สินค้านวตกรรมใหม่ การพัฒนาระบบพรีเซล เพิ่มเวลาให้พนักงานพูดคุยและบริการลูกค้าในร้านมากขึ้น ตอบโจทย์ "สั่งของ-ส่งของ" มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ท่ามกลางการแข่งขันของ 3 แบรนด์ยักษ์ใหญ่ โค้ก เป๊ปซี่ และเอส น้ำดำสัญชาติเปรู "บิ๊กโคล่า" มุ่งดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมเชิงรุกเร่งฟื้นฟูและบำบัดแหล่งน้ำที่ถูกลักลอบทิ้งในปีที่ผ่านมา เพื่้อตอกย้ำเจตนารมณ์ "ธุรกิจควบคู่ดูแลสิ่งแวดล้อม"
เฮอร์นันด์ คอโดวา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาเจ ไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม "บิ๊กโคล่า" กล่าวว่า การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ นับเป็นหัวใจหลักของธุรกิจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นปัญหาเร่งด่วนที่บิ๊ก โคล่า ต้องจัดการให้เร็วที่สุดก่อนที่คิดถึงเชิงรุกทางธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่า "ฐานการผลิต" ของบริษัทเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีความปลอดภัยมากที่สุด
"นโยบายธุรกิจในไทยกว่า 7 ปีที่ผ่านมา บริษัทให้ความสำคัญต่อการดำเนินกิจการอย่างมีธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทมีโรงงานผลิตตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี มีลูกค้าใช้บริการผลิตภัณฑ์ทั่วประเทศ เป็นหน้าที่ของผู้บริหารและคณะทำงาน จะต้องเข้าไปดูแลและควบคุมการผลิตให้มีประสิทธิภาพในทุกด้าน" เฮอร์นันด์กล่าวและว่า การดำเนินการในฟื้นฟูบ่อน้ำเสียที่ถูกลักลอบทิ้งในพื้นที่ ต.หนองแหน จ. ฉะเชิงเทรา บนพื้นที่ 15 ไร่ คาดดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ.2556
ธุรกิจไม่ว่ายุคไหนไม่อาจปฎิเสธบทบาททางสังคม และชุมชน เพราะนั่นคือฐานลูกค้านำสู่ความแข็งแกร่งทางธุรกิจนั่นเอง
www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/marketing/20130104/484406/4แบรนด์น้ำดำหวังพลิกแชมป์ชิงแชร์ปี56.html
4แบรนด์น้ำดำหวัง'พลิกแชมป์'ชิงแชร์ปี56
"เป๊ปซี่" ในฐานะผู้นำเดิม "โค้ก" ที่ระบุว่ามีส่วนแบ่งการตลาดของภาพรวมธุรกิจเครื่องดื่มโค้กทั้งเครือขยับสูงสุด 55% ในรอบ 10 กว่าปี "เอส" ประกาศชัดเจนในตำแหน่งเบอร์ 2 ในสิ้นปีนี้ ก่อนจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดภายในปี 2558 ขณะที่ "บิ๊ก โคล่า" ความท้าทาย คือ อันดับ 2 น้ำดำเมืองไทย
ผู้ประกอบการแต่ละรายเตรียมอัดฉีดงบจำนวนไม่น้อย เป้าหมายคือการช่วงชิงฐานลูกค้าและส่วนแบ่งการตลาดให้ได้มากที่สุด จากรายงานการใช้งบโฆษณาของนีลเส็น ประเทศไทย ระบุว่าในช่วง 3 ไตรมาสแรก (ม.ค.-ก.ย.) ปี 2555 ของ 2 ค่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลม โค้ก และเป๊ปซี่ มีมูลค่ารวมกัน 1,491 ล้านบาท สูงกว่าปี 2554 ทั้งปีที่มีมูลค่า 1,319 ล้านบาท
"ประเมินว่าการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจน้ำอัดลมจะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาทจาก 4 แบรนด์ในการช่วงชิงส่วนแบ่งฯ ในปีนี้" ฐิติวุฒิ์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กล่าวและว่า ปีนี้ เอส ใช้งบ 900 ล้านบาททำตลาดเชิงรุก ตั้งเป้าหมายมีส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 25% หรือมียอดขาย 8,000 ล้านบาท เป็นอันดับ 2 ในตลาดน้ำดำ
“เดิมวงการน้ำอัดลมมีเพียง 2 แบรนด์แต่วันนี้มี 4 แบรนด์ฉะนั้นสถานการณ์เปลี่ยนไป มีความเข้มข้นมากกว่าเดิม 4 เท่า ซึ่งแต่ละรายมีความชำนาญและจุดแข็งที่ต่างกัน เราก็ต้องปิดจุดอ่อนของเรา” ฐิติวุฒิ์กล่าวย้ำ
การจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาด ต้องทำอะไรที่ “โดนใจ” และตอบโจทย์ผู้บริโภค ซึ่งเราไม่ใช่ผู้ตาม ปีแรกของการรุกตลาดต้องพิเศษกว่าปกติทั้งงบประมาณและเกมการแข่งขัน
ฟาก "เป๊ปซี่" พลิกจุดอ่อนช่องทางจำหน่ายรายย่อยที่แพ้ทาง "เอส" เร่งกระจายสินค้าเข้าสู่ช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่เป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพไม่น้อยที่จะทำให้ลูกค้าได้มองเห็นและซื้อหาเป๊ปซี่ได้สะดวก ภายใต้เป้าหมายรักษาความเป็นผู้นำตลาดน้ำดำในเมืองไทย
ปี 2555 ที่ผ่านมา เป็นปีที่ค่อนข้างพิเศษสำหรับ "โค้ก" ด้วยอัตราการเติบโตของยอดขายและส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี
อาร์ชวัส เจริญศิลป์ ผู้อำนวยการองค์กรสัมพันธ์และการสื่อสาร บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "การเปลี่ยนแปลงของคู่แข่ง ทำให้สินค้าหายไปจากคู่แข่ง และวอลุ่มมาหาเราแยอะพอควร แม้จะเพิ่มการทำงาน เพิ่มทีมขายอีกกว่า 500 คน ก็ยังไม่เพียงพอต่อวอลุ่มที่จะมารองรับดีมานด์ของคู่แข่งที่หายไป"
โค้ก เตรียมตัวล่วงหน้าเป็นปีก่อนการตัดขาดระหว่างเสริมสุขและเป๊ปซี่!! ทั้งเครื่องจักรเร็วที่สุดในเอเชีย สินค้านวตกรรมใหม่ การพัฒนาระบบพรีเซล เพิ่มเวลาให้พนักงานพูดคุยและบริการลูกค้าในร้านมากขึ้น ตอบโจทย์ "สั่งของ-ส่งของ" มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ท่ามกลางการแข่งขันของ 3 แบรนด์ยักษ์ใหญ่ โค้ก เป๊ปซี่ และเอส น้ำดำสัญชาติเปรู "บิ๊กโคล่า" มุ่งดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมเชิงรุกเร่งฟื้นฟูและบำบัดแหล่งน้ำที่ถูกลักลอบทิ้งในปีที่ผ่านมา เพื่้อตอกย้ำเจตนารมณ์ "ธุรกิจควบคู่ดูแลสิ่งแวดล้อม"
เฮอร์นันด์ คอโดวา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาเจ ไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม "บิ๊กโคล่า" กล่าวว่า การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ นับเป็นหัวใจหลักของธุรกิจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นปัญหาเร่งด่วนที่บิ๊ก โคล่า ต้องจัดการให้เร็วที่สุดก่อนที่คิดถึงเชิงรุกทางธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่า "ฐานการผลิต" ของบริษัทเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีความปลอดภัยมากที่สุด
"นโยบายธุรกิจในไทยกว่า 7 ปีที่ผ่านมา บริษัทให้ความสำคัญต่อการดำเนินกิจการอย่างมีธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทมีโรงงานผลิตตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี มีลูกค้าใช้บริการผลิตภัณฑ์ทั่วประเทศ เป็นหน้าที่ของผู้บริหารและคณะทำงาน จะต้องเข้าไปดูแลและควบคุมการผลิตให้มีประสิทธิภาพในทุกด้าน" เฮอร์นันด์กล่าวและว่า การดำเนินการในฟื้นฟูบ่อน้ำเสียที่ถูกลักลอบทิ้งในพื้นที่ ต.หนองแหน จ. ฉะเชิงเทรา บนพื้นที่ 15 ไร่ คาดดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ.2556
ธุรกิจไม่ว่ายุคไหนไม่อาจปฎิเสธบทบาททางสังคม และชุมชน เพราะนั่นคือฐานลูกค้านำสู่ความแข็งแกร่งทางธุรกิจนั่นเอง
www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/marketing/20130104/484406/4แบรนด์น้ำดำหวังพลิกแชมป์ชิงแชร์ปี56.html