เมื่อกี๊ได้ดูรายการคมชัดลึกของคุณจอมขวัญ
1.ชอบใจที่คุณจิตรา บอกว่า ถ้าธุรกิจไหนจะเจ๊งเพราะค่าแรงขึ้น 300 บาท ให้เอางบการเงินมากางกันดูก่อนว่า คุณขาดทุนจริงหรือเปล่า มีการแต่งบัญชีงบการเงินหรือไม่... สรรพากรรู้ดีพอๆกับเจ้าของธุรกิจนั่นแหละ
2. ดร.ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย ม.ธุรกิจบัณฑิต เสนอให้ตั้งกองทุนจ่ายค่าแรงส่วนต่างให้ลูกจ้างโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านนายจ้าง...ฟังดูเหมือนดูดี แต่สงสัยว่า เรื่องธุรกิจเอกชนแท้ๆทำไมรัฐต้องไปจ่ายค่าแรงแทนนายทุน เวลาพวกเขาได้กำไรเขามาจ่ายคืนให้ลูกจ้างหรือบริจาคคืนให้รัฐเหรอครับ ตรรกะนี้เป็นคนละเรื่องกับนโยบายคืนภาษีรถยนต์คันแรกเลยนะครับ
3. คุณทวีกิจ ฯ รองประธาน ส.อ.ท.ยกตัวอย่างน่าสงสาร บอกว่าที่พะเยามีคนงานที่ต้องจ่ายเพิ่มให้ได้300 บาทประมาณ 200 คน เฉลี่ยเดือนละ3พันกว่าบาทต่อคน ปีละ 8ล้าน ! แถมบอกว่า จะมีธุรกิจไหนที่จ้างคนงาน200คนแล้วมีกำไร 8 ล้าน..... เราลองมาดูตัวเลขกัน
-ถ้าธุรกิจนี้มีคนงานที่ต้องจ่ายเพิ่มจาก200หรือ200เศษ เป็น300 บาท จำนวนถึง 200คน ธุรกิจนี้ก็คงไม่เล็กแล้วหล่ะครับ ยอดรายได้ต่อเดือนต้องสูงพอสมควร และกำไรต่อเดือนน่าจะมากเหมือนกัน
-ค่าแรงเพิ่มปีละ8ล้าน ดูมาก แต่เฉลี่ยเดือนละ 6-7 แสน ซึ่งไม่น่าเกินกำลังของขนาดธุรกิจที่มีคนงานถึง 200 คน นี่ยังไม่นับระดับหัวหน้า ระดับผู้จัดการแผนก ผู้จัดการฝ่าย ระดับผู้บริหาร ฯลฯ รวมๆแล้วถือว่า ต้องเป็นธุรกิจหรือSME ที่มีขนาดพอสมควร
4. ธุรกิจขาดทุน ต้องปิดกิจการเพราะอะไรกันแน่ ใช่เพราะต้นทุนค่าแรงที่ปรับขั้นต่ำ300บาทหรือ
...อยากรู้จริงๆครับ...
-ที่ผ่านมา คุณอาจได้กำไรเกินตัวจนเคยชิน และอาจชินอยู่กับการแต่งบัญชีงบการเงิน เพื่อแสดงยอดค่าใช้จ่ายให้มากๆเข้าไว้ ที่จะมีผลว่ากำไรคุณมีนิดเดียว แถมเสียภาษีนิดเดียวด้วย
ค่าแรง300บาททำอุตสาหกรรมเจ๊ง..มาดูตัวเลขกันว่านายทุนพูดถูกหรือผิด
1.ชอบใจที่คุณจิตรา บอกว่า ถ้าธุรกิจไหนจะเจ๊งเพราะค่าแรงขึ้น 300 บาท ให้เอางบการเงินมากางกันดูก่อนว่า คุณขาดทุนจริงหรือเปล่า มีการแต่งบัญชีงบการเงินหรือไม่... สรรพากรรู้ดีพอๆกับเจ้าของธุรกิจนั่นแหละ
2. ดร.ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย ม.ธุรกิจบัณฑิต เสนอให้ตั้งกองทุนจ่ายค่าแรงส่วนต่างให้ลูกจ้างโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านนายจ้าง...ฟังดูเหมือนดูดี แต่สงสัยว่า เรื่องธุรกิจเอกชนแท้ๆทำไมรัฐต้องไปจ่ายค่าแรงแทนนายทุน เวลาพวกเขาได้กำไรเขามาจ่ายคืนให้ลูกจ้างหรือบริจาคคืนให้รัฐเหรอครับ ตรรกะนี้เป็นคนละเรื่องกับนโยบายคืนภาษีรถยนต์คันแรกเลยนะครับ
3. คุณทวีกิจ ฯ รองประธาน ส.อ.ท.ยกตัวอย่างน่าสงสาร บอกว่าที่พะเยามีคนงานที่ต้องจ่ายเพิ่มให้ได้300 บาทประมาณ 200 คน เฉลี่ยเดือนละ3พันกว่าบาทต่อคน ปีละ 8ล้าน ! แถมบอกว่า จะมีธุรกิจไหนที่จ้างคนงาน200คนแล้วมีกำไร 8 ล้าน..... เราลองมาดูตัวเลขกัน
-ถ้าธุรกิจนี้มีคนงานที่ต้องจ่ายเพิ่มจาก200หรือ200เศษ เป็น300 บาท จำนวนถึง 200คน ธุรกิจนี้ก็คงไม่เล็กแล้วหล่ะครับ ยอดรายได้ต่อเดือนต้องสูงพอสมควร และกำไรต่อเดือนน่าจะมากเหมือนกัน
-ค่าแรงเพิ่มปีละ8ล้าน ดูมาก แต่เฉลี่ยเดือนละ 6-7 แสน ซึ่งไม่น่าเกินกำลังของขนาดธุรกิจที่มีคนงานถึง 200 คน นี่ยังไม่นับระดับหัวหน้า ระดับผู้จัดการแผนก ผู้จัดการฝ่าย ระดับผู้บริหาร ฯลฯ รวมๆแล้วถือว่า ต้องเป็นธุรกิจหรือSME ที่มีขนาดพอสมควร
4. ธุรกิจขาดทุน ต้องปิดกิจการเพราะอะไรกันแน่ ใช่เพราะต้นทุนค่าแรงที่ปรับขั้นต่ำ300บาทหรือ
...อยากรู้จริงๆครับ...
-ที่ผ่านมา คุณอาจได้กำไรเกินตัวจนเคยชิน และอาจชินอยู่กับการแต่งบัญชีงบการเงิน เพื่อแสดงยอดค่าใช้จ่ายให้มากๆเข้าไว้ ที่จะมีผลว่ากำไรคุณมีนิดเดียว แถมเสียภาษีนิดเดียวด้วย