สวัสดีปีใหม่ครับทุกท่าน ขอให้ทุกท่านเจริญขึ้น ทั้งทางธรรม ตลอดปีนี้นะครับ
ผมหายไป 4-5 วัน ไปเยี่ยมแม่ ซึ่งอยู่ต่างจังหวัด
ทำไม แม่ต้องไปอยู่ต่างจังหวัด?
เพราะแม่ อายุถึง 87 ปีแล้ว เกิดอาการเส้นเืลือดในสมองแตกเล็กน้อยต้องเข้าโรงพยาบาลและอยู่ศูนย์พักฟื้นประมาณ 2 เดือนกว่า จนเดินได้เกือบปกติ แต่เป็นอัมพฤตเล็กน้อยด้านขวา และที่บ้านผมนั้น เช้าขึ้นมา ประมาณ 7 โมงก็จะไม่มีใครอยู่บ้าน ไปทำงานและเรียนกันหมด กลับมาอีกครั้งก็ ประมาณ 18.30-20.30 จึงให้ท่านอยู่กรุงเทพฯ แบบไม่มีคนดูแล ตลอดวันคงไม่ได้ จึงต้องไปอยู่กับพี่ที่สามารถดูแลได้ตลอดวัน ในต่างจังหวัด.
ผมจึงมีหน้าที่ส่งเงินไป ประมาณ 10 % ของเงินเดือนไปให้ ซึ่งมากกว่า 50% ที่ไปรวมกับเงินพี่คนอื่นด้วย คิดว่าพี่คนที่รับผิดชอบคงไม่ลำบากในเรื่องค่าใช้จ่ายเลย แต่เจ้ากรรมแม่ไปอยู่ได้ไม่เกินเดือน ท่านเกิดนั่งเก้าอี้พลาด ทำให้กระดูกตะโพกด้านหนึ่งร้าว แต่ยังไม่หัก ต้องเข้าโรงพยาบาลในตัวจังหวัด และต้องนอนเดินไม่ได้ ถึงประมาณ 3 เดือน ผมส่ง วอกเกอร์สีขา และ วินแชร์ ไปให้ ท่านก็ใช้การอะไรไม่ได้ เพราะอายุท่านขึ้น 88 ปีแล้ว
และเมื่ออาทิตย์ที่แล้วก่อนผมไปเยี่ยมท่าน หมอทำการตรวจเอ็กชเรย์ บอกว่า กระดูกติดดีแล้ว พอจะเดินได้แล้ว แต่ท่านก็เดินไม่ได้ แม้ลองใช้วอกเกอร์ จนผมกลับไปเยี่ยมท่าน ถึงวันแรกที่เห็นหน้าเหมือนกำลังใจท่านเพิ่มขึ้น.
จึงลองให้ท่านใช้วอกเกอร์ สี่ขานั้นเดิน ท่านกลับใช้วอกเกอร์ นั้นเดินได้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา นับว่าการไปเยี่ยมท่านครั้งนี้ คุ้มค่ายิ่งนัก กำลังใจของแม่เพิ่มขึ้นอีกมาก เมื่อเริ่มใช้วอกเกอร์เดินได้ ในวันนั้นผมจึงให้ท่านนั่งรถที่ผมขับไปเยี่ยมนั้น ไปทำบุญที่วัด ซึ่งเป็นวันแรกในหลายเดือนที่ท่านไม่ได้ทำบุญด้วยมือตนเอง กำลังใจของท่านจึงเพิ่มขึ้นอีกมากโขที่เดียว.
เมื่อเห็นว่าท่านใช้เวอเกอร์ได้ดีขึ้น และมีรถวินแชร์ ที่จะเข็นท่านไปไหนได้ และท่านก็อยากไปหาคนที่ท่านรู้ัจักในต่างตำบล ผมจึงขับรถพาท่านไปหา ดังที่ท่านต้องการ ในวันที่ 30 ธันวาคน ท่านจึงได้สมตามที่ต้องการใน 2-3 ปีที่ผ่านมาที่ท่านมาอยู่กรุงเทพฯ และอยากกลับไปเยี่ยมบ้านเดิม ผมก็เตรียมที่จะพาท่านไปเทียวบ้านเดิม แต่กลับลัมป่วยเสียก่อน และต้องไปอยู่บ้านพี่อีกตำบลหนึ่ง.
ดังนั้น กำลังใจ นี้และเป็นสิ่งสำคัญมาก ในการที่จะผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ หรือหนักไปได้.
สวัสดีปีใหม่ครับ พึ่งกลับจากต่างจังหวัดไปเยี่ยมแม่ ซึ่งเดินไม่ได้เป็นเวลา 2-3 เดือน
ผมหายไป 4-5 วัน ไปเยี่ยมแม่ ซึ่งอยู่ต่างจังหวัด
ทำไม แม่ต้องไปอยู่ต่างจังหวัด?
เพราะแม่ อายุถึง 87 ปีแล้ว เกิดอาการเส้นเืลือดในสมองแตกเล็กน้อยต้องเข้าโรงพยาบาลและอยู่ศูนย์พักฟื้นประมาณ 2 เดือนกว่า จนเดินได้เกือบปกติ แต่เป็นอัมพฤตเล็กน้อยด้านขวา และที่บ้านผมนั้น เช้าขึ้นมา ประมาณ 7 โมงก็จะไม่มีใครอยู่บ้าน ไปทำงานและเรียนกันหมด กลับมาอีกครั้งก็ ประมาณ 18.30-20.30 จึงให้ท่านอยู่กรุงเทพฯ แบบไม่มีคนดูแล ตลอดวันคงไม่ได้ จึงต้องไปอยู่กับพี่ที่สามารถดูแลได้ตลอดวัน ในต่างจังหวัด.
ผมจึงมีหน้าที่ส่งเงินไป ประมาณ 10 % ของเงินเดือนไปให้ ซึ่งมากกว่า 50% ที่ไปรวมกับเงินพี่คนอื่นด้วย คิดว่าพี่คนที่รับผิดชอบคงไม่ลำบากในเรื่องค่าใช้จ่ายเลย แต่เจ้ากรรมแม่ไปอยู่ได้ไม่เกินเดือน ท่านเกิดนั่งเก้าอี้พลาด ทำให้กระดูกตะโพกด้านหนึ่งร้าว แต่ยังไม่หัก ต้องเข้าโรงพยาบาลในตัวจังหวัด และต้องนอนเดินไม่ได้ ถึงประมาณ 3 เดือน ผมส่ง วอกเกอร์สีขา และ วินแชร์ ไปให้ ท่านก็ใช้การอะไรไม่ได้ เพราะอายุท่านขึ้น 88 ปีแล้ว
และเมื่ออาทิตย์ที่แล้วก่อนผมไปเยี่ยมท่าน หมอทำการตรวจเอ็กชเรย์ บอกว่า กระดูกติดดีแล้ว พอจะเดินได้แล้ว แต่ท่านก็เดินไม่ได้ แม้ลองใช้วอกเกอร์ จนผมกลับไปเยี่ยมท่าน ถึงวันแรกที่เห็นหน้าเหมือนกำลังใจท่านเพิ่มขึ้น.
จึงลองให้ท่านใช้วอกเกอร์ สี่ขานั้นเดิน ท่านกลับใช้วอกเกอร์ นั้นเดินได้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา นับว่าการไปเยี่ยมท่านครั้งนี้ คุ้มค่ายิ่งนัก กำลังใจของแม่เพิ่มขึ้นอีกมาก เมื่อเริ่มใช้วอกเกอร์เดินได้ ในวันนั้นผมจึงให้ท่านนั่งรถที่ผมขับไปเยี่ยมนั้น ไปทำบุญที่วัด ซึ่งเป็นวันแรกในหลายเดือนที่ท่านไม่ได้ทำบุญด้วยมือตนเอง กำลังใจของท่านจึงเพิ่มขึ้นอีกมากโขที่เดียว.
เมื่อเห็นว่าท่านใช้เวอเกอร์ได้ดีขึ้น และมีรถวินแชร์ ที่จะเข็นท่านไปไหนได้ และท่านก็อยากไปหาคนที่ท่านรู้ัจักในต่างตำบล ผมจึงขับรถพาท่านไปหา ดังที่ท่านต้องการ ในวันที่ 30 ธันวาคน ท่านจึงได้สมตามที่ต้องการใน 2-3 ปีที่ผ่านมาที่ท่านมาอยู่กรุงเทพฯ และอยากกลับไปเยี่ยมบ้านเดิม ผมก็เตรียมที่จะพาท่านไปเทียวบ้านเดิม แต่กลับลัมป่วยเสียก่อน และต้องไปอยู่บ้านพี่อีกตำบลหนึ่ง.
ดังนั้น กำลังใจ นี้และเป็นสิ่งสำคัญมาก ในการที่จะผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ หรือหนักไปได้.