ขอเล่าเหตุการนรกสดๆร้อนๆ จากการไปเที่ยวบาหลี
ผมได้พาครอบครัวไปท่องเที่ยวบาหลี ประเทศอินโดเนียเซียมา
โดยเดินทางกันเองพ่อแม่ลูก5ชีวิต 4วัน วันนี้เป็นวันเดินทางกลับ1มค.2556ปีใหม่
เเต่ต้องมาพบกลับเหตูการณ์ ที่ทำให้เสียอารมณ์กลับ เจ้าหน้าตม.ด่านตรวจคนขาออกของประเทศนี้
คือหลังจากผ่านช่องจ่ายเงินค่าภาษีเดินทางเเล้ว ได้เดินมาเขียนเอกสารขาออก
ลูกสาว ก็ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ถ่ายภาพเอกสาร เพื่อลงFace Book บอกลาประเทศนี้เพื่อส่งให้เพื่อน
ตามภาษาคนติดOn Line เเล้วก็เดินไปต่อเเถว กับครอบครัว เป็นคนสุดท้าย ช่วงนั้นผู้เดินทางน้อย
เพราะทุกคนผ่านเข้าไปหมดเเล้ว เคาเตอร์เจ้าหน้าที่ก็มีเพียง2ช่อง โดยลูกสาวผมได้ยื่นเอกสาร
เจ้าหน้าคนนั้นได้รับPassport เเล้วส่งไปให้เจ้าหน้าที่อีกช่องติดกัน ได้เรียกลูกสาวผมย้ายไปช่องนั้น
เจ้าหน้าที่คนนั้นได้ถามลูกผมว่ารู้ไม่ว่าทำอะไรผิด เขาห้ามถ่ายรูปในบริเวณนี้ เเล้วชี้ให้ดูป้ายห้ามที่เส้าอาคาร
ซึ่งมีขนาดเล็กเเละเป็นรูปกล้อง มีกากบาดคาด โดยพูดในลักษณะข่มขู่ ว่าถ้าเป็นประเทศออสเตอร์เลีย
คุณจะถูกปรับ1000USD.ตีเป็นเงินไทยประมาณ30000บ. เเต่ที่นี่ฉันจะช่วยคุณ โดยเสียค่าปรับถูกกว่า เเต่ก็ไม่บอกราคา
ค่าปรับว่าจะปรับเท่า เเละที่ป้ายห้ามก็ไม่ระบุค่าปรับใดๆ โดยขอโทรศัพท์ ไปดูเเละให้เปิดรูปให้ดู พยายามโยกโย้ให้เสียเวลา
เเละไม่ยอมคืนเอกสาร ถึงเเม้จะขอโทษ เเละอธิบายว่าเป็นการถ่ายรูปส่วนตัวลงF.Book เเละก็ถ่ายที่โต๊ะยืนเขียนเอกสาร
เจ้าหน้าที่คนอื่นก็ทำเป็นไม่สนใจ พูดจาข่มขู่ต่างนานา เเต่ครอบครัวเราก็ไม่ยอมให้ โดยบอกว่าใช้เงินไปหมดกับการเที่ยวเเล้ว
พูดจากันจนเริ่มมีผู้เดินทางเข้าบ้างเจ้าหน้าที่คนนั้นจึงยอมคืนPassport โทรมือถือให้ โดยทำทีเป็นโมโหว่าฉันจะBlack List
คุณกับทางอินโดนีเซีย และว่าครอบครัวเราว่าเพิ่งเคยเดินทางต่างประเทศครั้งเเรกหรือถึงไม่รู้ว่าทุกประเทศห้ามถ่ายรูป
ในImmigration เรายอมรับว่าไม่รู้ ถ้าเขาไม่ชี้ป้ายให้ดู เเละเราก็เดินทางมาหลายที่ ไม่เคยพบเคยเห็นที่ไหนจะเอาเป็นเอาตาย
ขนาดนี้ เเละไม่เคยเห็นประเทศไหน ที่เจ้าหน้าที่รัฐจะคอยจับผิด ผู้เดินทางท่องเที่ยว คอยหาโอกาส จะตบทรัพย์ เคยเเต่เห็นคอย
ช่วยเหลือ บริการอำนวยความสะดวก
จึงเตือนผู้ที่จะไปท่องเที่ยวประเทศอินโดเนีย ให้คอยระมัดระวังการเดินทางด้วย ขนาดเจ้าหน้าที่รัฐมันยังขนาดนี้
ความปลอดภันในชีวิตเเละทรัพย์ของนักท่องเที่ยวคงพึ่งอะไรไม่ได้
นรกที่บาหลี
ผมได้พาครอบครัวไปท่องเที่ยวบาหลี ประเทศอินโดเนียเซียมา
โดยเดินทางกันเองพ่อแม่ลูก5ชีวิต 4วัน วันนี้เป็นวันเดินทางกลับ1มค.2556ปีใหม่
เเต่ต้องมาพบกลับเหตูการณ์ ที่ทำให้เสียอารมณ์กลับ เจ้าหน้าตม.ด่านตรวจคนขาออกของประเทศนี้
คือหลังจากผ่านช่องจ่ายเงินค่าภาษีเดินทางเเล้ว ได้เดินมาเขียนเอกสารขาออก
ลูกสาว ก็ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ถ่ายภาพเอกสาร เพื่อลงFace Book บอกลาประเทศนี้เพื่อส่งให้เพื่อน
ตามภาษาคนติดOn Line เเล้วก็เดินไปต่อเเถว กับครอบครัว เป็นคนสุดท้าย ช่วงนั้นผู้เดินทางน้อย
เพราะทุกคนผ่านเข้าไปหมดเเล้ว เคาเตอร์เจ้าหน้าที่ก็มีเพียง2ช่อง โดยลูกสาวผมได้ยื่นเอกสาร
เจ้าหน้าคนนั้นได้รับPassport เเล้วส่งไปให้เจ้าหน้าที่อีกช่องติดกัน ได้เรียกลูกสาวผมย้ายไปช่องนั้น
เจ้าหน้าที่คนนั้นได้ถามลูกผมว่ารู้ไม่ว่าทำอะไรผิด เขาห้ามถ่ายรูปในบริเวณนี้ เเล้วชี้ให้ดูป้ายห้ามที่เส้าอาคาร
ซึ่งมีขนาดเล็กเเละเป็นรูปกล้อง มีกากบาดคาด โดยพูดในลักษณะข่มขู่ ว่าถ้าเป็นประเทศออสเตอร์เลีย
คุณจะถูกปรับ1000USD.ตีเป็นเงินไทยประมาณ30000บ. เเต่ที่นี่ฉันจะช่วยคุณ โดยเสียค่าปรับถูกกว่า เเต่ก็ไม่บอกราคา
ค่าปรับว่าจะปรับเท่า เเละที่ป้ายห้ามก็ไม่ระบุค่าปรับใดๆ โดยขอโทรศัพท์ ไปดูเเละให้เปิดรูปให้ดู พยายามโยกโย้ให้เสียเวลา
เเละไม่ยอมคืนเอกสาร ถึงเเม้จะขอโทษ เเละอธิบายว่าเป็นการถ่ายรูปส่วนตัวลงF.Book เเละก็ถ่ายที่โต๊ะยืนเขียนเอกสาร
เจ้าหน้าที่คนอื่นก็ทำเป็นไม่สนใจ พูดจาข่มขู่ต่างนานา เเต่ครอบครัวเราก็ไม่ยอมให้ โดยบอกว่าใช้เงินไปหมดกับการเที่ยวเเล้ว
พูดจากันจนเริ่มมีผู้เดินทางเข้าบ้างเจ้าหน้าที่คนนั้นจึงยอมคืนPassport โทรมือถือให้ โดยทำทีเป็นโมโหว่าฉันจะBlack List
คุณกับทางอินโดนีเซีย และว่าครอบครัวเราว่าเพิ่งเคยเดินทางต่างประเทศครั้งเเรกหรือถึงไม่รู้ว่าทุกประเทศห้ามถ่ายรูป
ในImmigration เรายอมรับว่าไม่รู้ ถ้าเขาไม่ชี้ป้ายให้ดู เเละเราก็เดินทางมาหลายที่ ไม่เคยพบเคยเห็นที่ไหนจะเอาเป็นเอาตาย
ขนาดนี้ เเละไม่เคยเห็นประเทศไหน ที่เจ้าหน้าที่รัฐจะคอยจับผิด ผู้เดินทางท่องเที่ยว คอยหาโอกาส จะตบทรัพย์ เคยเเต่เห็นคอย
ช่วยเหลือ บริการอำนวยความสะดวก
จึงเตือนผู้ที่จะไปท่องเที่ยวประเทศอินโดเนีย ให้คอยระมัดระวังการเดินทางด้วย ขนาดเจ้าหน้าที่รัฐมันยังขนาดนี้
ความปลอดภันในชีวิตเเละทรัพย์ของนักท่องเที่ยวคงพึ่งอะไรไม่ได้