เด็กไทยเรียนหนังสือสัปดาห์ละ 7 วัน ไม่มีเวลาไปวิ่งเล่นหรือแลกเปลี่ยนเรียนรู้นอกห้องเรียนตามวัย ผู้ปกครองก็หน้าดำคร่ำเครียดกับการรอรับส่งลูกเรียนพิเศษทุกวัน แต่ผลการประเมินกลับพบว่าเด็กไทยมีศักยภาพต่ำ
นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลท่านหนึ่งกล่าวว่า เด็กสติปัญญาดีถ้าได้เรียนกับครูที่เก่ง ๆ เพียง 3 เดือนจะเรียนรู้ได้เท่ากับเด็กปกติใช้เวลาเรียน 2 ปี
อาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยชื่อดังท่านหนึ่ง กล่าวว่า ได้ออกข้อสอบ 1 ข้อ โดยตั้งโจทย์ว่า "ให้นิสิตแต่งข้อสอบมา 1 ข้อ พร้อมเฉลย " แต่ปรากฎว่านิสิตทำข้อสอบไม่ผ่านทั้งห้อง "เด็กเหล่านี้กวดวิชาเข้ามาทั้งนั้น คิดไม่เป็น เป็นแต่ท่องจำมา.." อาจารย์พูดพลางส่ายหน้า..
จากกรณีที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น อยากตั้งประเด็นให้ชาวพันทิป ทั้งที่โสดและมีบุตรหลาน ได้ช่วยกันคิดวิเคราะห์ช่วยชาติ ดังนี้
1) ถ้าการกวดวิชา เป็นสิ่งที่ดี ทำไมรัฐบาลจึงไม่จัดติว/กวดวิชา ผ่านสื่อของรัฐในทุกช่องทาง (วิทยุ/โทรทัศน์/internet) โดยใช้ครูที่เก่งที่สุด ติวตลอดทั้งวันทั้งคืนและทุกวัน เพื่อให้เด็กยากจนได้มีโอกาสเลือกเรียนกับครูเก่ง ๆ
2) ถ้าเด็ก/เยาวชนไทย มีจุดอ่อนเรื่องคิดวิเคราะห์ไม่เป็น ทำไมกระทรวงศึกษา ไม่ใช้เวลาไปกับการแก้ไขจุดอ่อนเหล่านั้น ทำไมให้เรียนเนื้อหาวิชาหลัก แต่ต้องกวดวิชาเพิ่มในเนื้อหาเดียวกัน(เสียเงิน/เสียเวลาทำไม)
3) สตีฟ จ็อบส์ อัจฉริยะของโลก IT ไม่จบ ป.ตรี เพราะเขาเลือกลาออกหลังเข้าเรียนในมหาลัยเพียง 6 เดือน เพื่อไปเรียนวิชาที่เขาอยากเรียนโดยไม่เอาหน่วยกิต คือวิชาที่สอนการประดิษฐ์ตัวอักษร เขาย้ำว่าเพราะเลือกเรียนวิชานี้ทำให้เขาสามารถสร้างสรรค์เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ของ แอปเปิลและวินโดว์ ให้มีตัวอักษรสวย ๆ ใช้มาจนทุกวันนี้ นอกจากนี้เขายังสนใจศึกษาพุทธศาสนาในอินเดียถึง 8 เดือนในช่วงที่ว่างงานด้วย!!! จากกรณีศึกษาของสตีฟ จ็อบส์ น่าจะให้ข้อคิดดี ๆ แก่ผู้บริหารการศึกษาไทย/ผู้ปกครองเด็กไทย ให้คิดนอกกรอบบ้างเถิด...เพราะเด็กไทยก็อัจฉริยะไม่ได้ด้อยกว่าชาติอื่นเลย ปรับวิธีคิด วิธีสอน วิธีเรียน ของเด็กไทย ให้ใช้เวลาของชีวิตอย่างคุ้มค่า เหมือนเด็กชาติอื่น ๆเขาทำกัน ร่วมด้วยช่วยกันนะคะ ช่วยกันเสนอ ท่านรมว.ศธ.คุณพงศ์เทพ น่าจะเป็นความหวังในการพัฒนาการศึกษาชาติซะที
กวดวิชากับการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนของชาติ
นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลท่านหนึ่งกล่าวว่า เด็กสติปัญญาดีถ้าได้เรียนกับครูที่เก่ง ๆ เพียง 3 เดือนจะเรียนรู้ได้เท่ากับเด็กปกติใช้เวลาเรียน 2 ปี
อาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยชื่อดังท่านหนึ่ง กล่าวว่า ได้ออกข้อสอบ 1 ข้อ โดยตั้งโจทย์ว่า "ให้นิสิตแต่งข้อสอบมา 1 ข้อ พร้อมเฉลย " แต่ปรากฎว่านิสิตทำข้อสอบไม่ผ่านทั้งห้อง "เด็กเหล่านี้กวดวิชาเข้ามาทั้งนั้น คิดไม่เป็น เป็นแต่ท่องจำมา.." อาจารย์พูดพลางส่ายหน้า..
จากกรณีที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น อยากตั้งประเด็นให้ชาวพันทิป ทั้งที่โสดและมีบุตรหลาน ได้ช่วยกันคิดวิเคราะห์ช่วยชาติ ดังนี้
1) ถ้าการกวดวิชา เป็นสิ่งที่ดี ทำไมรัฐบาลจึงไม่จัดติว/กวดวิชา ผ่านสื่อของรัฐในทุกช่องทาง (วิทยุ/โทรทัศน์/internet) โดยใช้ครูที่เก่งที่สุด ติวตลอดทั้งวันทั้งคืนและทุกวัน เพื่อให้เด็กยากจนได้มีโอกาสเลือกเรียนกับครูเก่ง ๆ
2) ถ้าเด็ก/เยาวชนไทย มีจุดอ่อนเรื่องคิดวิเคราะห์ไม่เป็น ทำไมกระทรวงศึกษา ไม่ใช้เวลาไปกับการแก้ไขจุดอ่อนเหล่านั้น ทำไมให้เรียนเนื้อหาวิชาหลัก แต่ต้องกวดวิชาเพิ่มในเนื้อหาเดียวกัน(เสียเงิน/เสียเวลาทำไม)
3) สตีฟ จ็อบส์ อัจฉริยะของโลก IT ไม่จบ ป.ตรี เพราะเขาเลือกลาออกหลังเข้าเรียนในมหาลัยเพียง 6 เดือน เพื่อไปเรียนวิชาที่เขาอยากเรียนโดยไม่เอาหน่วยกิต คือวิชาที่สอนการประดิษฐ์ตัวอักษร เขาย้ำว่าเพราะเลือกเรียนวิชานี้ทำให้เขาสามารถสร้างสรรค์เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ของ แอปเปิลและวินโดว์ ให้มีตัวอักษรสวย ๆ ใช้มาจนทุกวันนี้ นอกจากนี้เขายังสนใจศึกษาพุทธศาสนาในอินเดียถึง 8 เดือนในช่วงที่ว่างงานด้วย!!! จากกรณีศึกษาของสตีฟ จ็อบส์ น่าจะให้ข้อคิดดี ๆ แก่ผู้บริหารการศึกษาไทย/ผู้ปกครองเด็กไทย ให้คิดนอกกรอบบ้างเถิด...เพราะเด็กไทยก็อัจฉริยะไม่ได้ด้อยกว่าชาติอื่นเลย ปรับวิธีคิด วิธีสอน วิธีเรียน ของเด็กไทย ให้ใช้เวลาของชีวิตอย่างคุ้มค่า เหมือนเด็กชาติอื่น ๆเขาทำกัน ร่วมด้วยช่วยกันนะคะ ช่วยกันเสนอ ท่านรมว.ศธ.คุณพงศ์เทพ น่าจะเป็นความหวังในการพัฒนาการศึกษาชาติซะที