อย่าหาว่าผมแก่ไปสำหรับหนังแนวนี้นะครับ เพราะถึงผมจะอายุ 2x กว่าแล้วผมยังรักหนังแนวนี้อยู่เลย กับหนังน้องหมาคริษมาสต์จากค่ายดิสนีย์ Santa Paws 2 ซึ่งภาคแรกนั้นได้สร้างความประทับใจให้กับผมจนผมไม่รีรอเลยที่จะซื้อภาคสองมาดู และผมก็ได้เอามันมาดูตอนช่วงวันคริษมาสต์พอดี (จะได้เข้ากับเทศกาล) และผมก็พบในสิ่งที่แอบแปลกใจเล็กน้อย กับการพัฒนาของตัวหนังเรื่องนี้ครับ
เนื้อเรื่อง
เหตุการณ์ของ Santa Paws 2 นั้นจะต่อจากภาคแรก โดยเริ่มต้นเมื่อซานต้าพาวท์ (สุนัขของซานต้า ผมไม่ขอสปอยนะว่าซานต้ามีหมามาได้ยังไง) ได้ให้กำเนิดลูกหมาทั้งสี่ตัว (ตัวผู้หนึ่ง และตัวเมียสาม) เวลาต่อมา พวกเขาได้โตขึ้นและกำลังอยู่ในวัยโคตรซน จนกระทั่งเหตุการณ์ที่คุณนายครอส (ภรรยาของซานต้า) ได้วางแผนที่จะไปหาทูตของเทศกาลคริษมาสต์ในเมืองไพน์วิลล์ เจ้าลูกหมาทั้งสี่ตัวก็ได้แอบตามไป และนำไปสู่เรื่องราวทั้งหมด
วิจารณ์
โดยปกติแล้วสำหรับตัวหนังน้องหมาของดิสนีย์ ทั้งเรื่องบัดดี้ และเรื่อง Santa Paws นั้น มันเป็นเนื้อหาหนังแนวนิทานเด็กดีจ๋า (ที่ผู้ใหญ่ดูแล้วมักเฉยๆ กัน แต่ดีต่อจินตนาการของเด็กๆ) และดำเนินแนวทางเรื่องเป็นเส้นตรง ที่คนดูสามารถเดาได้เลยว่ามันต้องเป็นยังไงต่อและจบอย่างไรต่อ อันที่จริงแล้ว Santa Paws นั้นมีการดำเนินเรื่องที่แปลกไปสักหน่อย แต่สุดท้ายคนดูก็สามารถเดาได้อยู่ดี แน่นอนว่าส่วนตัวผมเมื่อเปิดดูหนังเรื่องนี้ผมก็คิดไว้ล่วงหน้าเลยว่า มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ
ช่วง 15 นาทีแรกของหนัง หนังได้เจริญรอยตาม Santa Paws และซานต้า บัดดี้ มีเพลงเพราะๆ ออกมาร้อง มีการดำเนินเรื่องที่เรียบง่ายจนเหมือนดูนิทานเด็กดีคนดูต้องคิดคาดการณ์เอาไว้แน่ๆ เลยว่ามันต้องเป็นยังไงต่อ หนังได้แอบใส่เนื้อหาที่แปลกไปเล็กน้อยเพื่อให้คนดูเริ่มเปรียบเทียบกับ Santa Paws และ ซานต้าบัดดี้ ทว่า เมื่อเข้าสู่องก์ที่สองของเรื่อง หนังได้กลับตาลปัตร ฉีกแนวของเนื้อเรื่องไปในทางที่คาดไม่ถึงมาก่อนว่าจะมาแนวนี้
ไม่ขอสปอยว่ามันเป็นยังไง แต่ต้องบอกเลยว่าเนื้อเรื่องของ Santa Paws 2 นั้นได้ยึดหลักแนวทางของ Santa Paws เป็นแบบอย่าง ทว่ากลับดำเนินเนื้อเรื่องให้ฉีกแบบจนคนดูคาดไม่ถึงว่าหนังซีรี่ย์นี้จะมาแนวนี้ ซึ่งอันที่จริงต้องบอกว่า หนังน่าจะได้แบบอย่างมาจากเรื่อง The Polar Express และ Arthur Christmas มาไม่น้อยเลยทีเดียว (หนังสองเรื่องนี้มีเนื้อเรื่องของคริษมาสต์ที่ดีมากๆ)
การดำเนินที่ฉีกแนวออกไปนี้ได้สร้างความตื่นเต้นของเนื้อหาของตัวหนังให้มีความแตกต่างจากเดิมมาก จากเดิม 15 นาทีแรกของหนังที่อาจทำให้คนดู ดูไปเรื่อยๆ งั้นๆ จะสร้างอารมณ์ให้คนดูรู้สึกอยากเอาใจช่วยเหลือตัวละครในเรื่อง และทำให้คนดูได้รู้จักตัวละครมากยิ่งขึ้น จึงทำให้ Santa Paws 2 น่าจะเป็นหนังซีรี่ย์น้องหมาของดิสนีย์ที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้
ถ้าสังเกตดีๆ Santa Paws 2 นั้นเหมือนเป็นการรีมาสเตอร์ของหนังเรื่อง ซานต้า บัดดี้ส์ ขึ้นมาใหม่ เพราะตัวเนื้อเรื่องนั้นมีการดำเนินเรื่องที่คล้ายๆ กัน แต่เหตุการณ์นั้นไม่เชื่อมโยงกันเลย (นับจากเหตุการณ์แล้ว ซานต้าบัดดี้เป็นเหตุการณ์ต่อจาก Santa Paws ทำให้ ซานต้า บัดดี้ กลายเป็นเหตุการณ์คู่ขนานที่ไม่เกี่ยวอะไรกับ Santa Paws ทั้งสองภาคเลย) ซึ่งตัวหนัง ซานต้า บัดดี้ นั้นมีช่องโหว่หลายอย่างมาก และนับได้ว่าคนเขียนบทได้ปรับปรุงบทให้ดีกว่าเดิมมากๆ ถึงสองเท่าเลยก็ว่าได้
ถึงแม้ว่าตัวหนังจะแอบฉีกแนวไป แต่ก็ไม่ทำให้ตัวเนื้อหาเครียดไป (คนดูส่วนใหญ่คือเด็ก จะให้มันดาร์ตก็ไม่น่าควรนะ) ตัวหนังยังมีการใส่มุขตลกและเพลงเพราะๆ เข้ามา ช่วงแรกๆ มุขของหนังยังแอบงั้นๆ อยู่ แต่ในเรื่องนี้มีมุขฮาก๊ากออกมาด้วย (ฮากว่า Santa Paws และ ซานต้าบัดดี้เสียอีก) จึงทำให้หนัง Santa Paws 2 เป็นหนังที่มีความบันเทิงครบรสเลยทีเดียว
บทเนื้อเรื่องนั้นได้อิงเนื้อหาให้เป็นปัจจุบันขึ้น แต่อันที่จริงมันก็เป็นบทตามสมัยนิยมของหนังฮอลลีวู้ดนะแหละ คนดูบางคนก็อาจจะคิดว่า ห๊ะ มาแนวนี้อีกแล้วเหรอ แต่ข้อเด่นของ Santa Paws 2 ก็คือ ตัวหนังได้คงคอนเชปของหนังดิสนีย์เอาไว้ คุณอาจจะเห็นภาพซ้อนของนิทานของดิสนีย์ปรากฎอยู่ในหนังเรื่องนี้ก็เป็นได้ (ไม่ใช่มาในฐานะนักแสดงรับเชิญหรือมีเดินๆ พูดถึงเข้ามาในฉากด้วยนะครับ)
ทว่า เนื่องจากหนังเรื่องนี้มันเกี่ยวกับซานต้าและคริษมาสต์ คนดูที่ดูแล้วจะสนุก จะต้องเป็นคนที่รักในเทศกาลคริษมาสต์ ถ้ามองว่าซานต้าไม่มีจริง วันคริษมาสต์ก็แค่วันๆ หนึ่ง คุณจะไม่มีอารมณ์ร่วม จะไม่มีความรู้สึกอะไรไปกับหนังเลย แต่ที่สำคัญก็คือ คนดูต้องรักหมาจริงๆ เพราะเรื่องนี้น้องหมามีบทเด่นเทียบเท่ากับคนแสดงเลยทีเดียว ซึ่งตัวหนังนั้นก็ยังเป็นนิทานเด็กดีอยู่เหมือนเดิม มันต้องจบแบบ Happy มันต้องสร้างรอยยิ้มให้คนดู
ที่น่าเสียดายก็คือเรื่องนี้นักแสดงหลักจาก Santa Paws นั้นได้หายไปแล้วก็เปลี่ยนคนแทน ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับนักแสดงหลักท่านนั้นรึเปล่า เพราะเป็นนักแสดงที่แสดงได้ยอดเยี่ยมมาก จึงทำให้ Santa Paws 2 เป็นหนังที่นักแสดงใหม่มาผสมผสานกับนักแสดงชุดเดิม ซึ่งก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมเหมือนกันครับ
สิ่งที่น่าชื่นชมนอกจากฉากที่ทำออกมาดีขึ้น แอนิเมชั่นทำออกมาสมจริงขึ้นแล้ว ต้องชื่นชม MVD ครับ หนังแนวนี้ที่ผ่านมีแต่เสียงไทยและเป็นขนาด 4 x 3 แต่ว่าเรื่องนี้เป็นแบบฉบับสากล มีขนาดหน้าจอ 16 x 9 จึงทำให้ได้รับอรรถรสในการดูหนังเรื่องนี้ได้ดีขึ้น ภาพชัดขึ้น และจะได้รู้คำแปลเนื้อร้องในหนัง สำคัญคือมีฟีเจอร์มาให้ด้วย (มิวสิควีดีโอและฉากหลุดสามนาที มันมีแค่นี้แหละสำหรับหนังเรื่องนี้)
Santa Paws 2 เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบเทศกาลคริษมาสต์ และเหมาะสำหรับผู้ที่รักน้องหมา มันเป็นหนังพิเศษสำหรับช่วงเทศกาลของคริษมาสต์ในปีนี้เลยทีเดียว คนไหนชอบหนังน่ารักๆ เอามาดูกับเด็กๆ หรือลูกๆ ที่้บ้าน ผมขอแนะนำนิทานเด็กดีของดิสนีย์ในชื่อเรื่องว่า Santa Paws 2 เรื่องนี้ครับ
จุดเด่น
- หนังไม่จำเป็นต้องดูภาคแรกมาก่อน
- มีการพัฒนาบทที่ดีขึ้น แต่ยังคงคอนเชปของนิทานเด็กดีของดิสนีย์เอาไว้
- DVD เป็นฉบับสากล ภาพสวยขึ้น มีฟีเจอร์มาให้ครบทุกภาษาของโซน 3
- เหมาะสำหรับคนที่รักเทศกาลคริษมาสต์ และน้องหมา
ข้อด้อย
- ถ้าคนดูเฉยๆ กับคริษมาสต์ จะไม่มีอารมณ์ร่วมอะไรกับหนังเลย
- เพลงประกอบในเรื่องไม่ได้ติดหูเมื่อเทียบกับ Santa Paws ภาคแรก
- หนังมีบทตามสมัยนิยมของฮอลลีวู้ด คนดูอาจรู้สึกแอบเบื่อไปนิดนึง
- นักแสดงชุดหลักหายไป อันนี้แอบเสียดายอยู่เหมือนกัน
- เนื้อเรื่องเส้นตรงและเป็นนิทานเด็กดี กับเด็กไทยในสังคมสีเทา ก็ไม่รู้ว่าจะรับสาระของหนังเรื่องนี้ไปได้มากน้อยแค่ไหน
(วิจารณ์ DVD) Santa Paws 2 : หนังน้องหมาคริษมาสต์ กับการพัฒนาที่ถูกทาง
เนื้อเรื่อง
เหตุการณ์ของ Santa Paws 2 นั้นจะต่อจากภาคแรก โดยเริ่มต้นเมื่อซานต้าพาวท์ (สุนัขของซานต้า ผมไม่ขอสปอยนะว่าซานต้ามีหมามาได้ยังไง) ได้ให้กำเนิดลูกหมาทั้งสี่ตัว (ตัวผู้หนึ่ง และตัวเมียสาม) เวลาต่อมา พวกเขาได้โตขึ้นและกำลังอยู่ในวัยโคตรซน จนกระทั่งเหตุการณ์ที่คุณนายครอส (ภรรยาของซานต้า) ได้วางแผนที่จะไปหาทูตของเทศกาลคริษมาสต์ในเมืองไพน์วิลล์ เจ้าลูกหมาทั้งสี่ตัวก็ได้แอบตามไป และนำไปสู่เรื่องราวทั้งหมด
วิจารณ์
โดยปกติแล้วสำหรับตัวหนังน้องหมาของดิสนีย์ ทั้งเรื่องบัดดี้ และเรื่อง Santa Paws นั้น มันเป็นเนื้อหาหนังแนวนิทานเด็กดีจ๋า (ที่ผู้ใหญ่ดูแล้วมักเฉยๆ กัน แต่ดีต่อจินตนาการของเด็กๆ) และดำเนินแนวทางเรื่องเป็นเส้นตรง ที่คนดูสามารถเดาได้เลยว่ามันต้องเป็นยังไงต่อและจบอย่างไรต่อ อันที่จริงแล้ว Santa Paws นั้นมีการดำเนินเรื่องที่แปลกไปสักหน่อย แต่สุดท้ายคนดูก็สามารถเดาได้อยู่ดี แน่นอนว่าส่วนตัวผมเมื่อเปิดดูหนังเรื่องนี้ผมก็คิดไว้ล่วงหน้าเลยว่า มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ
ช่วง 15 นาทีแรกของหนัง หนังได้เจริญรอยตาม Santa Paws และซานต้า บัดดี้ มีเพลงเพราะๆ ออกมาร้อง มีการดำเนินเรื่องที่เรียบง่ายจนเหมือนดูนิทานเด็กดีคนดูต้องคิดคาดการณ์เอาไว้แน่ๆ เลยว่ามันต้องเป็นยังไงต่อ หนังได้แอบใส่เนื้อหาที่แปลกไปเล็กน้อยเพื่อให้คนดูเริ่มเปรียบเทียบกับ Santa Paws และ ซานต้าบัดดี้ ทว่า เมื่อเข้าสู่องก์ที่สองของเรื่อง หนังได้กลับตาลปัตร ฉีกแนวของเนื้อเรื่องไปในทางที่คาดไม่ถึงมาก่อนว่าจะมาแนวนี้
ไม่ขอสปอยว่ามันเป็นยังไง แต่ต้องบอกเลยว่าเนื้อเรื่องของ Santa Paws 2 นั้นได้ยึดหลักแนวทางของ Santa Paws เป็นแบบอย่าง ทว่ากลับดำเนินเนื้อเรื่องให้ฉีกแบบจนคนดูคาดไม่ถึงว่าหนังซีรี่ย์นี้จะมาแนวนี้ ซึ่งอันที่จริงต้องบอกว่า หนังน่าจะได้แบบอย่างมาจากเรื่อง The Polar Express และ Arthur Christmas มาไม่น้อยเลยทีเดียว (หนังสองเรื่องนี้มีเนื้อเรื่องของคริษมาสต์ที่ดีมากๆ)
การดำเนินที่ฉีกแนวออกไปนี้ได้สร้างความตื่นเต้นของเนื้อหาของตัวหนังให้มีความแตกต่างจากเดิมมาก จากเดิม 15 นาทีแรกของหนังที่อาจทำให้คนดู ดูไปเรื่อยๆ งั้นๆ จะสร้างอารมณ์ให้คนดูรู้สึกอยากเอาใจช่วยเหลือตัวละครในเรื่อง และทำให้คนดูได้รู้จักตัวละครมากยิ่งขึ้น จึงทำให้ Santa Paws 2 น่าจะเป็นหนังซีรี่ย์น้องหมาของดิสนีย์ที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้
ถ้าสังเกตดีๆ Santa Paws 2 นั้นเหมือนเป็นการรีมาสเตอร์ของหนังเรื่อง ซานต้า บัดดี้ส์ ขึ้นมาใหม่ เพราะตัวเนื้อเรื่องนั้นมีการดำเนินเรื่องที่คล้ายๆ กัน แต่เหตุการณ์นั้นไม่เชื่อมโยงกันเลย (นับจากเหตุการณ์แล้ว ซานต้าบัดดี้เป็นเหตุการณ์ต่อจาก Santa Paws ทำให้ ซานต้า บัดดี้ กลายเป็นเหตุการณ์คู่ขนานที่ไม่เกี่ยวอะไรกับ Santa Paws ทั้งสองภาคเลย) ซึ่งตัวหนัง ซานต้า บัดดี้ นั้นมีช่องโหว่หลายอย่างมาก และนับได้ว่าคนเขียนบทได้ปรับปรุงบทให้ดีกว่าเดิมมากๆ ถึงสองเท่าเลยก็ว่าได้
ถึงแม้ว่าตัวหนังจะแอบฉีกแนวไป แต่ก็ไม่ทำให้ตัวเนื้อหาเครียดไป (คนดูส่วนใหญ่คือเด็ก จะให้มันดาร์ตก็ไม่น่าควรนะ) ตัวหนังยังมีการใส่มุขตลกและเพลงเพราะๆ เข้ามา ช่วงแรกๆ มุขของหนังยังแอบงั้นๆ อยู่ แต่ในเรื่องนี้มีมุขฮาก๊ากออกมาด้วย (ฮากว่า Santa Paws และ ซานต้าบัดดี้เสียอีก) จึงทำให้หนัง Santa Paws 2 เป็นหนังที่มีความบันเทิงครบรสเลยทีเดียว
บทเนื้อเรื่องนั้นได้อิงเนื้อหาให้เป็นปัจจุบันขึ้น แต่อันที่จริงมันก็เป็นบทตามสมัยนิยมของหนังฮอลลีวู้ดนะแหละ คนดูบางคนก็อาจจะคิดว่า ห๊ะ มาแนวนี้อีกแล้วเหรอ แต่ข้อเด่นของ Santa Paws 2 ก็คือ ตัวหนังได้คงคอนเชปของหนังดิสนีย์เอาไว้ คุณอาจจะเห็นภาพซ้อนของนิทานของดิสนีย์ปรากฎอยู่ในหนังเรื่องนี้ก็เป็นได้ (ไม่ใช่มาในฐานะนักแสดงรับเชิญหรือมีเดินๆ พูดถึงเข้ามาในฉากด้วยนะครับ)
ทว่า เนื่องจากหนังเรื่องนี้มันเกี่ยวกับซานต้าและคริษมาสต์ คนดูที่ดูแล้วจะสนุก จะต้องเป็นคนที่รักในเทศกาลคริษมาสต์ ถ้ามองว่าซานต้าไม่มีจริง วันคริษมาสต์ก็แค่วันๆ หนึ่ง คุณจะไม่มีอารมณ์ร่วม จะไม่มีความรู้สึกอะไรไปกับหนังเลย แต่ที่สำคัญก็คือ คนดูต้องรักหมาจริงๆ เพราะเรื่องนี้น้องหมามีบทเด่นเทียบเท่ากับคนแสดงเลยทีเดียว ซึ่งตัวหนังนั้นก็ยังเป็นนิทานเด็กดีอยู่เหมือนเดิม มันต้องจบแบบ Happy มันต้องสร้างรอยยิ้มให้คนดู
ที่น่าเสียดายก็คือเรื่องนี้นักแสดงหลักจาก Santa Paws นั้นได้หายไปแล้วก็เปลี่ยนคนแทน ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับนักแสดงหลักท่านนั้นรึเปล่า เพราะเป็นนักแสดงที่แสดงได้ยอดเยี่ยมมาก จึงทำให้ Santa Paws 2 เป็นหนังที่นักแสดงใหม่มาผสมผสานกับนักแสดงชุดเดิม ซึ่งก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมเหมือนกันครับ
สิ่งที่น่าชื่นชมนอกจากฉากที่ทำออกมาดีขึ้น แอนิเมชั่นทำออกมาสมจริงขึ้นแล้ว ต้องชื่นชม MVD ครับ หนังแนวนี้ที่ผ่านมีแต่เสียงไทยและเป็นขนาด 4 x 3 แต่ว่าเรื่องนี้เป็นแบบฉบับสากล มีขนาดหน้าจอ 16 x 9 จึงทำให้ได้รับอรรถรสในการดูหนังเรื่องนี้ได้ดีขึ้น ภาพชัดขึ้น และจะได้รู้คำแปลเนื้อร้องในหนัง สำคัญคือมีฟีเจอร์มาให้ด้วย (มิวสิควีดีโอและฉากหลุดสามนาที มันมีแค่นี้แหละสำหรับหนังเรื่องนี้)
Santa Paws 2 เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบเทศกาลคริษมาสต์ และเหมาะสำหรับผู้ที่รักน้องหมา มันเป็นหนังพิเศษสำหรับช่วงเทศกาลของคริษมาสต์ในปีนี้เลยทีเดียว คนไหนชอบหนังน่ารักๆ เอามาดูกับเด็กๆ หรือลูกๆ ที่้บ้าน ผมขอแนะนำนิทานเด็กดีของดิสนีย์ในชื่อเรื่องว่า Santa Paws 2 เรื่องนี้ครับ
จุดเด่น
- หนังไม่จำเป็นต้องดูภาคแรกมาก่อน
- มีการพัฒนาบทที่ดีขึ้น แต่ยังคงคอนเชปของนิทานเด็กดีของดิสนีย์เอาไว้
- DVD เป็นฉบับสากล ภาพสวยขึ้น มีฟีเจอร์มาให้ครบทุกภาษาของโซน 3
- เหมาะสำหรับคนที่รักเทศกาลคริษมาสต์ และน้องหมา
ข้อด้อย
- ถ้าคนดูเฉยๆ กับคริษมาสต์ จะไม่มีอารมณ์ร่วมอะไรกับหนังเลย
- เพลงประกอบในเรื่องไม่ได้ติดหูเมื่อเทียบกับ Santa Paws ภาคแรก
- หนังมีบทตามสมัยนิยมของฮอลลีวู้ด คนดูอาจรู้สึกแอบเบื่อไปนิดนึง
- นักแสดงชุดหลักหายไป อันนี้แอบเสียดายอยู่เหมือนกัน
- เนื้อเรื่องเส้นตรงและเป็นนิทานเด็กดี กับเด็กไทยในสังคมสีเทา ก็ไม่รู้ว่าจะรับสาระของหนังเรื่องนี้ไปได้มากน้อยแค่ไหน