สิ่งที่อยากกล่าวคือ ความเคยชิน
ความเคยชิน คือ อำนาจของการควบคุมอย่างหนึ่ง
แง่หนึ่ง คนเราต้องการเป็นอิสระจากการถูกคุกคาม
ดังนั้น ความเคยชิน จึงทำให้รู้สึกเหมือนไม่ถูกคุกคาม
เพราะ สิ่งต่างๆสามารถดำเนินต่อไปได้ โดยรู้ว่าจะต้องทำอะไร อย่างไร ต่อไป
ความเคยชินเป็นเรื่องของกระบวนการ
มันไม่สำคัญหรอกว่า เป้าหมายจะเป็นอย่างไร สำคัญแต่ว่า ชีวิตจะดำเนินไป หรือต้องดำเนินไป แค่นั้น
ดังนั้น ความเคยชินจึงเป็นคำตอบของ การมีอยู่ โดยไม่จำเป็นต้องถามหาว่า มีอยู่ไปเพื่ออะไร ก็แค่ทำไป อย่างที่เคยทำ
แต่บางครั้ง คนเราก็อาจรู้สึกเบื่อ ความเคยชิน ที่ซ้ำซากจำเจ ประหนึ่ง ทำไมตัวเองต้องทำสิ่งที่กำลังทำ
แต่ก็เพราะ ไม่เห็นทางเลือกอื่น หรือ ไม่อยากเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องการปรับตัว ก็ปล่อยแช่สิ่งที่ทำไปอย่างงั้น
เรียกว่า โหนกิจกรรม หรือผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่อาจตัดใจ หักมุม เพื่อจะเปลี่ยนได้
ทั้งหลายบรรดามีของเหตุผลแห่งความเคยชิน ก็คือ คนเราเสพติดอำนาจที่มีเหนือสถานการณ์
เป็นสถานการณ์ที่เราได้คุ้นชินและไหลเลื่อนไปกับมัน เพียงเพราะ ได้รับความมั่นคง ปลอดภัยจากการที่ไม่ต้องเปลี่ยน
อาจกล่าวได้ว่า คนเรากลัวการเปลี่ยนแปลงเพราะ ติดกับดักความมั่นคงปลอดภัยของความเคยชิน
สภาวะเช่นนี้ เป็น มายาคติที่ฝืนแบบแผนของความจริง
อาจถือเป็นมิจฉาทิฐิที่เรายอมรับอย่างใจซื่อ และไม่แคร์ว่าโลกจะเป็นอย่างไร ตราบที่เราปลอดภัยและไม่เดือดร้อนอะไรกับความจำเป็นที่ต้องเปลี่ยน
โลกของคนรักความเคยชิน จึงค่อนข้างสถิตย์สถาพร แน่นอน และมีแนวโน้มที่จักมองเห็นสิ่งต่างๆอย่างชัดเจนไปในทางหนึ่งทางใด
เป็นโลกทัศน์แบบนิวตัน ที่แรงกระทำย่อมเท่ากับแรงตอบโต้พื้นๆ
และไม่ใช่ค่าแปรเปลี่ยนไม่แน่นอนไปตามบริบทเคลือนที่ตามทฤษฏีสัมพัทธภาพ แต่อย่างใด
เขาจะมองเห็นความสำคัญเฉพาะแต่สิ่งตรงหน้า
ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องไกลตัวที่ควบคุมไม่ได้ ประเภทไม่ใช่ธุระ ประเทศไม่ใช่ของฉัน(คนเดียว)
อาทิ..ก๊าชจะขึ้นราคา ก็ใช่ว่าฉันจะเดือดร้อนคนเดียวเมื่อไร ใครเจ็บตัวก่อนก็ตะเกียกตะกายหาทางรอดกันไปซิ
ใครจะทำอะไร ก็แล้วแต่ แรงเงา แรงโลภโกรธหลง ของทางใครทางมันก็แล้วกัน กฏแห่งกรรมมีไว้จัดการอยู่แล้วหล่ะ
ฉันขออยู่เป็นกบไม่กระโดดดีก่า..อิอิ
เพราะ ถ้าไม่มีลางฟ้าฝนหมู่เมฆ จะใยไพกับการดิ้นทุรนไปใยฤา..
ไม่ก็หลอนตัวในความเคยชินอย่างใจเย็นในหม้อต้มที่อุณหภูมิไต่ระดับเดือด ..ไล่พล่าน..ฮา
ความเคยชิน
ความเคยชิน คือ อำนาจของการควบคุมอย่างหนึ่ง
แง่หนึ่ง คนเราต้องการเป็นอิสระจากการถูกคุกคาม
ดังนั้น ความเคยชิน จึงทำให้รู้สึกเหมือนไม่ถูกคุกคาม
เพราะ สิ่งต่างๆสามารถดำเนินต่อไปได้ โดยรู้ว่าจะต้องทำอะไร อย่างไร ต่อไป
ความเคยชินเป็นเรื่องของกระบวนการ
มันไม่สำคัญหรอกว่า เป้าหมายจะเป็นอย่างไร สำคัญแต่ว่า ชีวิตจะดำเนินไป หรือต้องดำเนินไป แค่นั้น
ดังนั้น ความเคยชินจึงเป็นคำตอบของ การมีอยู่ โดยไม่จำเป็นต้องถามหาว่า มีอยู่ไปเพื่ออะไร ก็แค่ทำไป อย่างที่เคยทำ
แต่บางครั้ง คนเราก็อาจรู้สึกเบื่อ ความเคยชิน ที่ซ้ำซากจำเจ ประหนึ่ง ทำไมตัวเองต้องทำสิ่งที่กำลังทำ
แต่ก็เพราะ ไม่เห็นทางเลือกอื่น หรือ ไม่อยากเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องการปรับตัว ก็ปล่อยแช่สิ่งที่ทำไปอย่างงั้น
เรียกว่า โหนกิจกรรม หรือผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่อาจตัดใจ หักมุม เพื่อจะเปลี่ยนได้
ทั้งหลายบรรดามีของเหตุผลแห่งความเคยชิน ก็คือ คนเราเสพติดอำนาจที่มีเหนือสถานการณ์
เป็นสถานการณ์ที่เราได้คุ้นชินและไหลเลื่อนไปกับมัน เพียงเพราะ ได้รับความมั่นคง ปลอดภัยจากการที่ไม่ต้องเปลี่ยน
อาจกล่าวได้ว่า คนเรากลัวการเปลี่ยนแปลงเพราะ ติดกับดักความมั่นคงปลอดภัยของความเคยชิน
สภาวะเช่นนี้ เป็น มายาคติที่ฝืนแบบแผนของความจริง
อาจถือเป็นมิจฉาทิฐิที่เรายอมรับอย่างใจซื่อ และไม่แคร์ว่าโลกจะเป็นอย่างไร ตราบที่เราปลอดภัยและไม่เดือดร้อนอะไรกับความจำเป็นที่ต้องเปลี่ยน
โลกของคนรักความเคยชิน จึงค่อนข้างสถิตย์สถาพร แน่นอน และมีแนวโน้มที่จักมองเห็นสิ่งต่างๆอย่างชัดเจนไปในทางหนึ่งทางใด
เป็นโลกทัศน์แบบนิวตัน ที่แรงกระทำย่อมเท่ากับแรงตอบโต้พื้นๆ
และไม่ใช่ค่าแปรเปลี่ยนไม่แน่นอนไปตามบริบทเคลือนที่ตามทฤษฏีสัมพัทธภาพ แต่อย่างใด
เขาจะมองเห็นความสำคัญเฉพาะแต่สิ่งตรงหน้า
ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องไกลตัวที่ควบคุมไม่ได้ ประเภทไม่ใช่ธุระ ประเทศไม่ใช่ของฉัน(คนเดียว)
อาทิ..ก๊าชจะขึ้นราคา ก็ใช่ว่าฉันจะเดือดร้อนคนเดียวเมื่อไร ใครเจ็บตัวก่อนก็ตะเกียกตะกายหาทางรอดกันไปซิ
ใครจะทำอะไร ก็แล้วแต่ แรงเงา แรงโลภโกรธหลง ของทางใครทางมันก็แล้วกัน กฏแห่งกรรมมีไว้จัดการอยู่แล้วหล่ะ
ฉันขออยู่เป็นกบไม่กระโดดดีก่า..อิอิ
เพราะ ถ้าไม่มีลางฟ้าฝนหมู่เมฆ จะใยไพกับการดิ้นทุรนไปใยฤา..
ไม่ก็หลอนตัวในความเคยชินอย่างใจเย็นในหม้อต้มที่อุณหภูมิไต่ระดับเดือด ..ไล่พล่าน..ฮา