วันนี้ไปตรวจสุขภาพประจำปีของบริษัท ที่รพ.กรุงเทพคริสเตียนมาค่ะ ไปเจอผู้ชายหน้าตาตี๋ๆ ขาวๆ คนหนึ่งที่เคาเตอร์พยาบาลค่ะ เค้ายิ้มแล้วก็ถามพยาบาลว่า ตรวจเสร็จแล้วกินข้าวได้เลยหรือเปล่าครับ ผมหิวมากเลย ทำเสียงเหมือนแบบอ้อนวอนด้วย
นางพยาบาลไม่ตอบ แต่ให้เค้ากรอกเอกสาร เค้ากรอกไปก็ยิ้มไป ดูแล้วรู้สึกสดใส น่ารักอ่ะค่ะ
และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในวันนี้ค่ะ เค้าเดินไปก่อนเรา พอเราแจ้งชื่อ กับบริษัทเสร็จ ก็เดินไปรอด้านใน เห็นเค้านั่งอยู่ก่อน เราก็เลือกเก้าอี้ที่สามารถมองเห็นเค้าได้ในระยะไกล ก็อ่านหนังสือไปมองเค้าไป นางพยาบาลก็มาเรียกเราเข้าไปในห้อง เพื่อชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ตรวจความดัน ตรวจวัดสายตา ระหว่างเรากำลังตรวจสิ่งต่างๆ เหล่านั้นอยู่ เค้าก็เข้ามาในห้อง ระหว่างนั้น พยาบาลเรียกชื่อเค้า เราก็เลยรู้ว่าเค้าชื่อปิยะวัฒน์ ว้าว....
เค้าตรวจเสร็จก่อนก็เลยออกไปก่อน ส่วนเราความดันสูง ต้องนั่งรอวัดซ้ำ เสร็จแล้วก็ไปนั่งรอเพื่อเจาะเลือด เราก็หาที่นั่งที่สามารถมองเค้าได้ในระยะไกลอีก เค้าเข้าไปเจาะก่อน แล้วก็ไปก่อนล่วงหน้าอีกตามเคย
พอเจาะเลือดและเอาปัสสาวะให้พยาบาลเสร็จ ก็ไปตรวจมะเร็งเต้านมค่ะ หมอถามว่ามีโรหม แล้วก็ถามว่า พ่อ-แม่มีโรคประจำตัวอะไรไหม เราอึ้งไปเลยนะ ก็รู้ว่าเค้ามี แต่ไม่รู้เป็นอะไรนะสิคะ ก็นั่งนิ่งอยู่ แล้วคิดว่า ถ้าตอบว่าไม่รู้เค้าจะว่าไรป่าวเนี่ย และในที่สุดคุณหมอก็พูดก่อนว่า ไม่ทราบนะคะ เราก็ได้แต่ตอบไปว่า ค่ะ
หลังจากนั้นก็ไปเอ็กเรย์ปอดค่ะ เราเคยไปเอ็กเรย์ปอดไม่ก็ครั้ง และแต่ละครั้งก็ไปทำแบบเดี่ยวๆ ไม่เคยไปทำรวมกับคนเยอะๆ ตรงแผนกนั้นจุดนั่งรอจะรวมกันทั้งชายและหญิง ทำให้รู้ว่าผู้หญิงต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนผู้ชายไม่ต้องค่ะ แหม... รู้สึกอิจฉาในความสะดวกสบายเล็กๆ แผนกนั้นมีตรวจหลายอย่างค่ะ พอเอ็กซ์เรย์ปอดเสร็จ ก็ไปวัดความตรงของกระดูก เจ้าหน้าที่ก็ให้เรานอนรอ แล้วเค้าก็ถามเราว่า ถึงวัยหมดประจำเดือนหรือยังครับ เราก็ตอบว่า ยังค่ะ เค้าก็บอกว่า ต้องถามเพราะบางคน 32 ก็หมดแล้ว เราก็ไม่ติดใจเรื่องอายุหรอกค่ะ แต่สงสัยว่า ตรวจความตรงของกระดูกเกี่ยวอะไรกับการหมดประจำเดือนด้วย หรือเค้าจะชวนคุยเพราะไม่อยากให้ห้องเงียบ แต่น่าจะคุยอย่างอื่นมากกว่านะ แต่สำหรับห้องนี้เราชอบมากๆ เลย เพราะรวมเวลาในการนอนรอก่อนเดินเครื่องจนเดินเครื่องจนเสร็จ ก็น่าจะสิบกว่านาที เรารู้สึกหลับสบายมาก อากาศเย็นกำลังดี ที่นอนกำลังดี ไม่นุ่มหรือแข็งเกินไป บรรยากาศเงียบสงบมากเลย
ตรงแผนกนั้นระหว่างที่เรานั่งรอเพื่อเปลี่ยนห้องตรวจ เราก็เห็นคุณปิยะวัฒน์เค้าเดินไปเดินมาอยู่แถวนั้น คงจะตรวจอะไรสักอย่างแหละ และจากการที่ผู้ชายไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าในการเอ็กซเรย์ปอด เราก็เลยคิดได้ว่า ผู้หญิงมีตรวจมะเร็งเต้านม แล้วผู้ชายมีตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากรึเปล่า แล้วมันจะตรวจยังไงน้อ แต่ที่แน่ๆ ก็ต้องโป๊ให้หมอดูเหมือนกับผู้หญิงเหมือนกันแหละ ว่าแล้วก็แอบอิจฉาหมอที่ได้ตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากไม่ได้ (คิดไรเนี่ยเรา)
จากตรงแผนกนี้ เราก็ไม่ได้เจอคุณปิยะวัฒน์อีกเลยค่ะ ก็จบเรื่องราวของเราสองคน แต่ยังไม่จบเรื่องของตัวเราเองค่ะ หลังจากนั้นก็ไปตรวจคลื่นหัวใจ ตรวจกระจกตา ตรวจหู ตรวจวัดสายตา ที่แผนกตรวจวัดสายตา เจ้าหน้าที่ดูดีมากเลยค่ะ เป็นผู้ชาย ผิวขาวอมชมพู ดูสะอาดสะอ้าน หุ่นรูปร่างดี อิ..อิ แอบหัวใจเต้นนิดนุง แล้วก็ได้คูปองมา 50 บาท ไปกินข้าวที่ร้านอาหารของโรงพยาบาลค่ะ
แก้ไข ชื่อ รพ. ค่ะ
เรื่องเล่า ไปตรวจสุขภาพเช้านี้
นางพยาบาลไม่ตอบ แต่ให้เค้ากรอกเอกสาร เค้ากรอกไปก็ยิ้มไป ดูแล้วรู้สึกสดใส น่ารักอ่ะค่ะ
และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในวันนี้ค่ะ เค้าเดินไปก่อนเรา พอเราแจ้งชื่อ กับบริษัทเสร็จ ก็เดินไปรอด้านใน เห็นเค้านั่งอยู่ก่อน เราก็เลือกเก้าอี้ที่สามารถมองเห็นเค้าได้ในระยะไกล ก็อ่านหนังสือไปมองเค้าไป นางพยาบาลก็มาเรียกเราเข้าไปในห้อง เพื่อชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ตรวจความดัน ตรวจวัดสายตา ระหว่างเรากำลังตรวจสิ่งต่างๆ เหล่านั้นอยู่ เค้าก็เข้ามาในห้อง ระหว่างนั้น พยาบาลเรียกชื่อเค้า เราก็เลยรู้ว่าเค้าชื่อปิยะวัฒน์ ว้าว....
เค้าตรวจเสร็จก่อนก็เลยออกไปก่อน ส่วนเราความดันสูง ต้องนั่งรอวัดซ้ำ เสร็จแล้วก็ไปนั่งรอเพื่อเจาะเลือด เราก็หาที่นั่งที่สามารถมองเค้าได้ในระยะไกลอีก เค้าเข้าไปเจาะก่อน แล้วก็ไปก่อนล่วงหน้าอีกตามเคย
พอเจาะเลือดและเอาปัสสาวะให้พยาบาลเสร็จ ก็ไปตรวจมะเร็งเต้านมค่ะ หมอถามว่ามีโรหม แล้วก็ถามว่า พ่อ-แม่มีโรคประจำตัวอะไรไหม เราอึ้งไปเลยนะ ก็รู้ว่าเค้ามี แต่ไม่รู้เป็นอะไรนะสิคะ ก็นั่งนิ่งอยู่ แล้วคิดว่า ถ้าตอบว่าไม่รู้เค้าจะว่าไรป่าวเนี่ย และในที่สุดคุณหมอก็พูดก่อนว่า ไม่ทราบนะคะ เราก็ได้แต่ตอบไปว่า ค่ะ
หลังจากนั้นก็ไปเอ็กเรย์ปอดค่ะ เราเคยไปเอ็กเรย์ปอดไม่ก็ครั้ง และแต่ละครั้งก็ไปทำแบบเดี่ยวๆ ไม่เคยไปทำรวมกับคนเยอะๆ ตรงแผนกนั้นจุดนั่งรอจะรวมกันทั้งชายและหญิง ทำให้รู้ว่าผู้หญิงต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนผู้ชายไม่ต้องค่ะ แหม... รู้สึกอิจฉาในความสะดวกสบายเล็กๆ แผนกนั้นมีตรวจหลายอย่างค่ะ พอเอ็กซ์เรย์ปอดเสร็จ ก็ไปวัดความตรงของกระดูก เจ้าหน้าที่ก็ให้เรานอนรอ แล้วเค้าก็ถามเราว่า ถึงวัยหมดประจำเดือนหรือยังครับ เราก็ตอบว่า ยังค่ะ เค้าก็บอกว่า ต้องถามเพราะบางคน 32 ก็หมดแล้ว เราก็ไม่ติดใจเรื่องอายุหรอกค่ะ แต่สงสัยว่า ตรวจความตรงของกระดูกเกี่ยวอะไรกับการหมดประจำเดือนด้วย หรือเค้าจะชวนคุยเพราะไม่อยากให้ห้องเงียบ แต่น่าจะคุยอย่างอื่นมากกว่านะ แต่สำหรับห้องนี้เราชอบมากๆ เลย เพราะรวมเวลาในการนอนรอก่อนเดินเครื่องจนเดินเครื่องจนเสร็จ ก็น่าจะสิบกว่านาที เรารู้สึกหลับสบายมาก อากาศเย็นกำลังดี ที่นอนกำลังดี ไม่นุ่มหรือแข็งเกินไป บรรยากาศเงียบสงบมากเลย
ตรงแผนกนั้นระหว่างที่เรานั่งรอเพื่อเปลี่ยนห้องตรวจ เราก็เห็นคุณปิยะวัฒน์เค้าเดินไปเดินมาอยู่แถวนั้น คงจะตรวจอะไรสักอย่างแหละ และจากการที่ผู้ชายไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าในการเอ็กซเรย์ปอด เราก็เลยคิดได้ว่า ผู้หญิงมีตรวจมะเร็งเต้านม แล้วผู้ชายมีตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากรึเปล่า แล้วมันจะตรวจยังไงน้อ แต่ที่แน่ๆ ก็ต้องโป๊ให้หมอดูเหมือนกับผู้หญิงเหมือนกันแหละ ว่าแล้วก็แอบอิจฉาหมอที่ได้ตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากไม่ได้ (คิดไรเนี่ยเรา)
จากตรงแผนกนี้ เราก็ไม่ได้เจอคุณปิยะวัฒน์อีกเลยค่ะ ก็จบเรื่องราวของเราสองคน แต่ยังไม่จบเรื่องของตัวเราเองค่ะ หลังจากนั้นก็ไปตรวจคลื่นหัวใจ ตรวจกระจกตา ตรวจหู ตรวจวัดสายตา ที่แผนกตรวจวัดสายตา เจ้าหน้าที่ดูดีมากเลยค่ะ เป็นผู้ชาย ผิวขาวอมชมพู ดูสะอาดสะอ้าน หุ่นรูปร่างดี อิ..อิ แอบหัวใจเต้นนิดนุง แล้วก็ได้คูปองมา 50 บาท ไปกินข้าวที่ร้านอาหารของโรงพยาบาลค่ะ
แก้ไข ชื่อ รพ. ค่ะ