บ้านเมืองเรามีปัญหาไม่จบสิ้นทุกวันนี้ เพราะเรามีพรรคการเมืองที่มีบทบาททางการเมืองที่มักจะมีความกังวลแปลกๆอยู่ในประเทศไทย และสามารถดำรงอยู่ได้มาอย่างยาวนานจนแทบไม่น่าเชื่อ
กังวลว่าประชาชนจะมองว่านักการเมืองนั้นร่ำรวย จึงต้องไปเช่าบ้านเพื่อนเป็นที่พักอาศัย แต่ไม่เคยกังวลว่าแม้แต่หาเงินซื้อบ้านตัวเองยังไม่มีปัญญาแล้วจะเอาปัญญาที่ไหนมาช่วยเหลือชาวบ้านให้อยู่ดีกินดีได้
กังวลว่าประเทศชาติจะไม่มีเงินทุนเพียงพอจึงเปิดเสรีทางการเงิน แต่ไม่เคยกังวลพวกพ่อค้าหัวใสไปกู้เงินต่างประเทศดอกเบี้ยต่ำมาฝากในธนาคารไทยเพื่อกินผลต่างของดอกเบี้ยโดยไม่ได้เอามาลงทุน
กังวลว่าคนไทยจะไม่จนอย่างเท่าเทียม จึงเอาหุ้นดีไปรวมเข่งขายพร้อมกับหุ้นเน่า แต่ไม่เคยกังวลว่าการขายเหมาเข่งแบบนี้ ทำให้ประเทศชาติต้องเสียหายนับแสนล้านบาทในคราวเดียว
กังวลว่าจะต้องมาแก้ปัญหาเรื่องราคาตกต่ำเพราะปลูกยางมากเกินไป จึงแนะนำให้ปลูกจำปาดะ แต่ไม่เคยกังวลว่ายางพารานั้นเป็นสินค้าเกษตรที่สามารถทำรายได้มากกว่าจำปาดะถ้ามีการบริหารจัดการที่ดี
กังวลว่าความเสมอภาคจะไม่มีในสังคมไทย จึงเอาที่ดิน สปก ไปแจกกับคนรวย แต่ไม่เคยกังวลว่าที่ดิน สปก นั้นมีไว้เพื่อแจกให้กับคนที่ยากจนไม่มีที่ดินจริงๆ
กังวลว่านักการเมืองหนุ่มไฟแรงจะไม่มีโอกาสเป็นใหญ่ จึงผลักดันให้มารับตำแหน่งทั้งๆที่ยังไม่มีผลงาน แต่ไม่กังวลว่าประเทศชาติจำเป็นต้องมีผู้บริหารที่เป็น"มืออาชีพ"จึงสามารถนำพาความเจริญมาสู่ประเทศชาติได้
กังวลว่าตัวเองจะไม่ได้เป็นนายกฯ จึงยอมร่วมมือกับนักการเมืองที่เคยด่ามาก่อนอย่างเสียๆหายๆ แต่ไม่กังวลว่าประชาชนจะมองว่านักการเมืองไทยนั้นทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเองเท่านั้น
กังวลว่าจะมีเสียง สส ไม่พอที่จะตั้งรัฐบาลได้ จึงยอมยกตำแหน่งกระทรวงเกรดเอให้กับพรรคที่มีเสียงน้อยกว่า แต่ไม่กังวลว่ากระทรวงต่างๆที่ให้พรรคอื่นบริหารนั้นคือกระทรวงที่สามารถจะสร้างผลงานต่อประชาชนได้มากกว่ากระทรวงอื่นๆ
กังวลว่าพรรคตัวเองไม่มีผลงานที่จับต้องได้ จึงรับได้กับการรัฐประหารเพราะเป็นหนทางเดียวที่จะเป็นรัฐบาลได้ แต่ไม่กังวลว่าระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยจะย่อยยับแค่ไหน
กังวลว่าภาพลักษณ์ของพรรคจะเสียหาย จึงปกป้องความผิดของลูกพรรคทุกเรื่องไม่ว่าจะทำผิดแค่ไหน แต่ไม่กังวลว่าวิธีดังกล่าวทำให้ประชาชนมองว่าเป็นพรรคปากว่าตาขยิบ
กังวลว่าประชาชนจะได้รับการรักษาได้ไม่ดีพอ จึงต่อต้านนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค แต่ไม่เคยกังวลว่าที่ผ่านมาบางโรงพยาบาลไม่รับผู้ป่วยหากไม่มีเงินมากองให้เห็นอยู่ตรงหน้า
กังวลว่าคนไทยจะใช้เงินฟุ่มเฟือย จึงต่อต้านการปปล่อยเงินกู้ให้กับชาวบ้านที่ไม่มีหลักฐานทางการเงิน แต่ไม่เคยกังวลว่าที่ผ่านมาชาวบ้านต้องกู้เงินกับนายทุนขูดรีดจนกำไรไม่คุ้มกับดอกเบี้ยที่ต้องเสีย
กังวลว่าประเทศจะเสื่อมเสียทางศีลธรรม จึงต่อต้านหวยบนดินอย่างสุดชีวิต แต่ไม่กังวลว่าจะทำอย่างไรให้เจ้ามือหวยเถื่อนหมดไปจากประเทศไทย
กังวลว่าคนไทยอาจจะตายเพราะลูกหลง จึงคัดค้านการปราบยาเสพติดแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน แต่ไม่เคยกังวลว่าลูกหลานคนไทยนั้นติดยาเสพติดกันงอมแงมขนาดไหน
กังวลว่าคู่แข่งจะกลับมามีอำนาจ จึงใช้อำนาจยามเป็นรัฐบาลเที่ยวระรานประเทศเพื่อนบ้านไปทั่ว แต่ไม่เคยกังวลว่าประเทศไทยไม่สามารถอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้แล้วในโลกยุคนี้
กังวลว่าประเทศไทยจะเสียแชมป์ จึงต้องมาต่อต้านการรับจำนำข้าวอย่างรุนแรง แต่ไม่เคยกังวลว่ายอดส่งออกยิ่งสูงเท่าไร ผลประโยชน์นั้นตกอยู่ในมือพ่อค้ามากกว่าชาวนาที่ยิ่งปลูกยิ่งยากจน
กังวลว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ตัวเองได้รับประโยชน์สูงสุด จึงต้องออกมาล้มการลงประชามติทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าจะทำประชามติเรื่องอะไร แต่ไม่เคยกังวลว่าที่ผ่านมาเคยรับปากกับประชาชนว่าจะเข้ามาแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เพราะเห็นว่ามีข้อบกพร่องมากมายมาก่อน
พรรคการเมืองที่กังวลต่างๆไม่เข้าเรื่อง ชอบกังวลแต่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ จนไม่ต่างกับพวกวิตกจริตเข้าไปทุกที หากยังไม่รีบปรับปรุงตัวในเวลาสองปีกว่าๆที่จะถึงนี้ จากพรรคการเมืองที่เป็นแค่พรรควิตกจริต อาจจะกลายเป็นพรรควิกลจริตไปได้ในไม่ช้านี้
เพราะแค่บทบาททางการเมืองที่ผ่านมาจนถึงวันนี้นั้น ทำเอาสาวกแมลงสาบตามโลกไซเบอร์ที่ตามเชียร์จะกลายเป็นคนวิกลจริตกันหมดแล้วนะฮ้า อิอิ
พรรควิตกจริตกับกองเชียร์วิกลจริต
กังวลว่าประชาชนจะมองว่านักการเมืองนั้นร่ำรวย จึงต้องไปเช่าบ้านเพื่อนเป็นที่พักอาศัย แต่ไม่เคยกังวลว่าแม้แต่หาเงินซื้อบ้านตัวเองยังไม่มีปัญญาแล้วจะเอาปัญญาที่ไหนมาช่วยเหลือชาวบ้านให้อยู่ดีกินดีได้
กังวลว่าประเทศชาติจะไม่มีเงินทุนเพียงพอจึงเปิดเสรีทางการเงิน แต่ไม่เคยกังวลพวกพ่อค้าหัวใสไปกู้เงินต่างประเทศดอกเบี้ยต่ำมาฝากในธนาคารไทยเพื่อกินผลต่างของดอกเบี้ยโดยไม่ได้เอามาลงทุน
กังวลว่าคนไทยจะไม่จนอย่างเท่าเทียม จึงเอาหุ้นดีไปรวมเข่งขายพร้อมกับหุ้นเน่า แต่ไม่เคยกังวลว่าการขายเหมาเข่งแบบนี้ ทำให้ประเทศชาติต้องเสียหายนับแสนล้านบาทในคราวเดียว
กังวลว่าจะต้องมาแก้ปัญหาเรื่องราคาตกต่ำเพราะปลูกยางมากเกินไป จึงแนะนำให้ปลูกจำปาดะ แต่ไม่เคยกังวลว่ายางพารานั้นเป็นสินค้าเกษตรที่สามารถทำรายได้มากกว่าจำปาดะถ้ามีการบริหารจัดการที่ดี
กังวลว่าความเสมอภาคจะไม่มีในสังคมไทย จึงเอาที่ดิน สปก ไปแจกกับคนรวย แต่ไม่เคยกังวลว่าที่ดิน สปก นั้นมีไว้เพื่อแจกให้กับคนที่ยากจนไม่มีที่ดินจริงๆ
กังวลว่านักการเมืองหนุ่มไฟแรงจะไม่มีโอกาสเป็นใหญ่ จึงผลักดันให้มารับตำแหน่งทั้งๆที่ยังไม่มีผลงาน แต่ไม่กังวลว่าประเทศชาติจำเป็นต้องมีผู้บริหารที่เป็น"มืออาชีพ"จึงสามารถนำพาความเจริญมาสู่ประเทศชาติได้
กังวลว่าตัวเองจะไม่ได้เป็นนายกฯ จึงยอมร่วมมือกับนักการเมืองที่เคยด่ามาก่อนอย่างเสียๆหายๆ แต่ไม่กังวลว่าประชาชนจะมองว่านักการเมืองไทยนั้นทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเองเท่านั้น
กังวลว่าจะมีเสียง สส ไม่พอที่จะตั้งรัฐบาลได้ จึงยอมยกตำแหน่งกระทรวงเกรดเอให้กับพรรคที่มีเสียงน้อยกว่า แต่ไม่กังวลว่ากระทรวงต่างๆที่ให้พรรคอื่นบริหารนั้นคือกระทรวงที่สามารถจะสร้างผลงานต่อประชาชนได้มากกว่ากระทรวงอื่นๆ
กังวลว่าพรรคตัวเองไม่มีผลงานที่จับต้องได้ จึงรับได้กับการรัฐประหารเพราะเป็นหนทางเดียวที่จะเป็นรัฐบาลได้ แต่ไม่กังวลว่าระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยจะย่อยยับแค่ไหน
กังวลว่าภาพลักษณ์ของพรรคจะเสียหาย จึงปกป้องความผิดของลูกพรรคทุกเรื่องไม่ว่าจะทำผิดแค่ไหน แต่ไม่กังวลว่าวิธีดังกล่าวทำให้ประชาชนมองว่าเป็นพรรคปากว่าตาขยิบ
กังวลว่าประชาชนจะได้รับการรักษาได้ไม่ดีพอ จึงต่อต้านนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค แต่ไม่เคยกังวลว่าที่ผ่านมาบางโรงพยาบาลไม่รับผู้ป่วยหากไม่มีเงินมากองให้เห็นอยู่ตรงหน้า
กังวลว่าคนไทยจะใช้เงินฟุ่มเฟือย จึงต่อต้านการปปล่อยเงินกู้ให้กับชาวบ้านที่ไม่มีหลักฐานทางการเงิน แต่ไม่เคยกังวลว่าที่ผ่านมาชาวบ้านต้องกู้เงินกับนายทุนขูดรีดจนกำไรไม่คุ้มกับดอกเบี้ยที่ต้องเสีย
กังวลว่าประเทศจะเสื่อมเสียทางศีลธรรม จึงต่อต้านหวยบนดินอย่างสุดชีวิต แต่ไม่กังวลว่าจะทำอย่างไรให้เจ้ามือหวยเถื่อนหมดไปจากประเทศไทย
กังวลว่าคนไทยอาจจะตายเพราะลูกหลง จึงคัดค้านการปราบยาเสพติดแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน แต่ไม่เคยกังวลว่าลูกหลานคนไทยนั้นติดยาเสพติดกันงอมแงมขนาดไหน
กังวลว่าคู่แข่งจะกลับมามีอำนาจ จึงใช้อำนาจยามเป็นรัฐบาลเที่ยวระรานประเทศเพื่อนบ้านไปทั่ว แต่ไม่เคยกังวลว่าประเทศไทยไม่สามารถอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้แล้วในโลกยุคนี้
กังวลว่าประเทศไทยจะเสียแชมป์ จึงต้องมาต่อต้านการรับจำนำข้าวอย่างรุนแรง แต่ไม่เคยกังวลว่ายอดส่งออกยิ่งสูงเท่าไร ผลประโยชน์นั้นตกอยู่ในมือพ่อค้ามากกว่าชาวนาที่ยิ่งปลูกยิ่งยากจน
กังวลว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ตัวเองได้รับประโยชน์สูงสุด จึงต้องออกมาล้มการลงประชามติทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าจะทำประชามติเรื่องอะไร แต่ไม่เคยกังวลว่าที่ผ่านมาเคยรับปากกับประชาชนว่าจะเข้ามาแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เพราะเห็นว่ามีข้อบกพร่องมากมายมาก่อน
พรรคการเมืองที่กังวลต่างๆไม่เข้าเรื่อง ชอบกังวลแต่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ จนไม่ต่างกับพวกวิตกจริตเข้าไปทุกที หากยังไม่รีบปรับปรุงตัวในเวลาสองปีกว่าๆที่จะถึงนี้ จากพรรคการเมืองที่เป็นแค่พรรควิตกจริต อาจจะกลายเป็นพรรควิกลจริตไปได้ในไม่ช้านี้
เพราะแค่บทบาททางการเมืองที่ผ่านมาจนถึงวันนี้นั้น ทำเอาสาวกแมลงสาบตามโลกไซเบอร์ที่ตามเชียร์จะกลายเป็นคนวิกลจริตกันหมดแล้วนะฮ้า อิอิ