ออกตัวก่อนนะครับ นี่เป็นข้อเขียนของ คนที่ไม่มีประสบการณ์การทำงานใดๆ ไม่เคยเรียนบริหารหรือการตลาด
ดังนั้นข้อเขียนในกระทู้นี้จึงอาจจะไม่ถูกต้อง ผิดบ้างถูกบ้าง พอทำไปก็พบถึงจุดบกพร่องของตัวเอง
ถึงจะรู้ว่ามันผิด มนไม่ถูก หรือมันมีวิธีการที่ดีกว่า ก็เรียกได้ว่าเรียนรู้จากประสบการณ์แท้ๆเลย
คือผมเองเป็นคนต่างจังหวัดโดยกำเนิด ไม่เคยสัมผัสกับบรรยากาศกรุงเทพเลยจนอายุ 21-22 ที่ได้ไปฝึกงาน
ตอนนั้นผมเหมือนเพิ่งได้เห็นว่าโลกจริงๆเป็นยังไง เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าผมเก่ง เลยทำให้เป็นคนอีโก้สูง
จนวันที่ไปฝึกงานผมถึงได้เปิดกะลาซะที คือผมไม่เก่งเลยเมื่อเทียบกับคนอื่น ผมเห็นพนักงานแต่ละคน
เห็นผู้บริหารพูด คิด ทำงาน แล้วผมรู้เลยผมกับคนในสังคมกรุงเทพ นี่มันคนละชั้นกันแท้ๆเลย
ความฝันสูงสุดของผมเลยคือ การได้เป็นผู้บริหารองกรใหญ่ๆ หรือพนักงานก็ได้ คืออะไรก็ได้ที่ได้ทำงานสเกลใหญ่ๆ
ก็ตั้งเป้าไว้แล้วว่า เรียนจบจะยื่นใบสมัครงานในกรุงเทพ หรือใครฝากให้เข้าที่ไหนได้ก็จะไป หรือได้กลับไปทำที่ที่เคยฝึกงานมา
ก็ดีไม่ใช่น้อย แต่คนเรามักไม่มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ผมเป็นลูกคนเดียวสิ่งที่ผมอยากทำมากกว่าคือ
ได้อยู่ดูแลพ่อแม่ เพราะตลอดชีวิตผมไม่ค่อยได้อยู่กับครอบครัวเลย พ่อแม่อยู่จังหวัดนึง
ผมเรียนอีกจังหวัดนึงตลอดจนถึงป.ตรี ผมคิดแล้วว่าถ้าไปไปทำงาน กทม โอกาสจะกลับมาอยู่กับพ่อแม่แทบเป็นศูนย์
ก็เลย เลยตามเลย กลับมาอยู่บ้านตั้งแต่เรียนจบ 2 ปีละ
บ้านผมเป็นร้านขายของ แต่ผมไม่ชอบขายของ วันๆจึงไม่ทำอะไรนั่งๆนอนๆ อ่านหนังสือ
บางทีก็ประชดชีวิตไปต่างๆนาๆ รู้สึกแย่ที่เรียนมาตั้งสูงแต่ไม่ได้ใช้ความรู้ อิจฉาคนอื่นที่ได้ทำการทำงานดีๆกัน
น่าทำทั้งนั้นได้เรียนรู้ระบบงานของกรกรใหญ่ๆ แต่ผมนี่สิ พอคิดได้ก็จะลุกมาทำนู่นทำนี่ แต่พอว่างเมื่อไรก็มีอาการเหมือนเดิม
จนสุดท้ายครอบครัวผมคงเห็นว่าผมไม่ไหวแล้ว เลยคิดจะหาอะไรให้ทำก็เลยหุ้นกันเปิดบริษัทขึ้นมา
ทำธุรกิจบางอย่างที่พัฒนามาจากงานวิจัยของภาครัฐ แต่ก็ยังไม่เข้าที่เข้าทาง ผมเองก็ว่างเป็นส่วนใหญ่เหมือนเดิม
จนผมก็คิดว่ามันต้องมีอะไรมากระตุ้นชีวิตหน่อยละ เลยคิดว่าอยากจะทำกิจการอะไรของตัวเองจริงๆ ซักอย่างนึง
ก็คิด เอ... อย่างเราจะทำอะไรได้บ้างนะ ผ่านไปเกือบปีก็คิดไม่ออก คิดออกมีลู่ทางแต่ทำไม่ได้ ลองดูละกันว่าผมอยากทำอะไรบ้าง
อยากทำส่งออกดอกปทุมมาไปญี่ปุ่น-เนเธอแลนด์ อยากนำเข้าเครื่องในสัตว์มาขายในประเทศ อยากส่งออกผลไม้ไปตุรกี
สามอย่างนี้มีลู่ทางแต่ทำไม่ได้เพราะใหญ่เกินตัว จนมาวันนึงไปเที่ยวบ้านเพื่อน มาของมาส่ง มันให้ผมเซ็นรับของ
ผมก็สงสัยว่า ทำไมมันมีสองใบวะใบนึงเป็นใบออกจากโรงงานที่นึง อีกใบนึงเป็นใบออกจากบริษัทนึง
แล้วในใบแรกมีชื่อบริษัทที่สองเป็นลูกค้า ถามเพื่อนเพื่อนก็ไม่รู้ ก็เลยลองไปหาข้อมูลดูก็ได้รู้ว่า
ไอ้บริษัท ข. เนี่ย ไปจ้างโรงงาน ก. ผลิต แล้วมาทำตลาด พอเห็นแล้วก็น่าสนใจแฮะ ก็เลยลองหาข้อมูลดู
ยิ่งน่าสนใจไปใหญ่เลย เลยตัดสินใจว่าเอาวะ ทำไอ้เจ้านี่แหล่ะ ก็เป็นจุดเริ่มต้นแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่เอาจริง
จากคุณ พ่อค้าหน้าละอ่อน ( Ticket ID : 375748)
แชร์ประสบการ การเริ่มต้นธุรกิจครั้งแรกของเด็กจบใหม่
ดังนั้นข้อเขียนในกระทู้นี้จึงอาจจะไม่ถูกต้อง ผิดบ้างถูกบ้าง พอทำไปก็พบถึงจุดบกพร่องของตัวเอง
ถึงจะรู้ว่ามันผิด มนไม่ถูก หรือมันมีวิธีการที่ดีกว่า ก็เรียกได้ว่าเรียนรู้จากประสบการณ์แท้ๆเลย
คือผมเองเป็นคนต่างจังหวัดโดยกำเนิด ไม่เคยสัมผัสกับบรรยากาศกรุงเทพเลยจนอายุ 21-22 ที่ได้ไปฝึกงาน
ตอนนั้นผมเหมือนเพิ่งได้เห็นว่าโลกจริงๆเป็นยังไง เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าผมเก่ง เลยทำให้เป็นคนอีโก้สูง
จนวันที่ไปฝึกงานผมถึงได้เปิดกะลาซะที คือผมไม่เก่งเลยเมื่อเทียบกับคนอื่น ผมเห็นพนักงานแต่ละคน
เห็นผู้บริหารพูด คิด ทำงาน แล้วผมรู้เลยผมกับคนในสังคมกรุงเทพ นี่มันคนละชั้นกันแท้ๆเลย
ความฝันสูงสุดของผมเลยคือ การได้เป็นผู้บริหารองกรใหญ่ๆ หรือพนักงานก็ได้ คืออะไรก็ได้ที่ได้ทำงานสเกลใหญ่ๆ
ก็ตั้งเป้าไว้แล้วว่า เรียนจบจะยื่นใบสมัครงานในกรุงเทพ หรือใครฝากให้เข้าที่ไหนได้ก็จะไป หรือได้กลับไปทำที่ที่เคยฝึกงานมา
ก็ดีไม่ใช่น้อย แต่คนเรามักไม่มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ผมเป็นลูกคนเดียวสิ่งที่ผมอยากทำมากกว่าคือ
ได้อยู่ดูแลพ่อแม่ เพราะตลอดชีวิตผมไม่ค่อยได้อยู่กับครอบครัวเลย พ่อแม่อยู่จังหวัดนึง
ผมเรียนอีกจังหวัดนึงตลอดจนถึงป.ตรี ผมคิดแล้วว่าถ้าไปไปทำงาน กทม โอกาสจะกลับมาอยู่กับพ่อแม่แทบเป็นศูนย์
ก็เลย เลยตามเลย กลับมาอยู่บ้านตั้งแต่เรียนจบ 2 ปีละ
บ้านผมเป็นร้านขายของ แต่ผมไม่ชอบขายของ วันๆจึงไม่ทำอะไรนั่งๆนอนๆ อ่านหนังสือ
บางทีก็ประชดชีวิตไปต่างๆนาๆ รู้สึกแย่ที่เรียนมาตั้งสูงแต่ไม่ได้ใช้ความรู้ อิจฉาคนอื่นที่ได้ทำการทำงานดีๆกัน
น่าทำทั้งนั้นได้เรียนรู้ระบบงานของกรกรใหญ่ๆ แต่ผมนี่สิ พอคิดได้ก็จะลุกมาทำนู่นทำนี่ แต่พอว่างเมื่อไรก็มีอาการเหมือนเดิม
จนสุดท้ายครอบครัวผมคงเห็นว่าผมไม่ไหวแล้ว เลยคิดจะหาอะไรให้ทำก็เลยหุ้นกันเปิดบริษัทขึ้นมา
ทำธุรกิจบางอย่างที่พัฒนามาจากงานวิจัยของภาครัฐ แต่ก็ยังไม่เข้าที่เข้าทาง ผมเองก็ว่างเป็นส่วนใหญ่เหมือนเดิม
จนผมก็คิดว่ามันต้องมีอะไรมากระตุ้นชีวิตหน่อยละ เลยคิดว่าอยากจะทำกิจการอะไรของตัวเองจริงๆ ซักอย่างนึง
ก็คิด เอ... อย่างเราจะทำอะไรได้บ้างนะ ผ่านไปเกือบปีก็คิดไม่ออก คิดออกมีลู่ทางแต่ทำไม่ได้ ลองดูละกันว่าผมอยากทำอะไรบ้าง
อยากทำส่งออกดอกปทุมมาไปญี่ปุ่น-เนเธอแลนด์ อยากนำเข้าเครื่องในสัตว์มาขายในประเทศ อยากส่งออกผลไม้ไปตุรกี
สามอย่างนี้มีลู่ทางแต่ทำไม่ได้เพราะใหญ่เกินตัว จนมาวันนึงไปเที่ยวบ้านเพื่อน มาของมาส่ง มันให้ผมเซ็นรับของ
ผมก็สงสัยว่า ทำไมมันมีสองใบวะใบนึงเป็นใบออกจากโรงงานที่นึง อีกใบนึงเป็นใบออกจากบริษัทนึง
แล้วในใบแรกมีชื่อบริษัทที่สองเป็นลูกค้า ถามเพื่อนเพื่อนก็ไม่รู้ ก็เลยลองไปหาข้อมูลดูก็ได้รู้ว่า
ไอ้บริษัท ข. เนี่ย ไปจ้างโรงงาน ก. ผลิต แล้วมาทำตลาด พอเห็นแล้วก็น่าสนใจแฮะ ก็เลยลองหาข้อมูลดู
ยิ่งน่าสนใจไปใหญ่เลย เลยตัดสินใจว่าเอาวะ ทำไอ้เจ้านี่แหล่ะ ก็เป็นจุดเริ่มต้นแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่เอาจริง
จากคุณ พ่อค้าหน้าละอ่อน ( Ticket ID : 375748)