จังหวัดสุพรรณบุรีนับเป็นอีกจังหวัดที่ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวบ้านมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะผู้สูงอายุไร้ที่พึ่งให้ได้รับการเอาใจใส่ดูแลไม่ทอดทิ้ง ซึ่งจังหวัดสุพรรณบุรีร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดได้จัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุไร้ที่พึ่งวัดกลาง อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตแก่ราษฎร โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ยากไร้และไร้ที่พึ่ง ให้ได้รับการเอาใจใส่ดูแลในด้านสุขภาวะอนามัย และความเป็นอยู่อย่างทั่วถึง
นายประพันธุ์ บุญคุ้ม นายอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุไร้ที่พึ่งวัดกลาง กล่าวว่าจากสภาพสังคมในปัจจุบันกำลังก้าวเข้าสู่สังคมที่มีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การดูแลสุขภาพของประชาชนดีขึ้น ทำให้ประชาชนมีอายุยืนยาว แต่ยังมีผู้สูงอายุอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งคงไม่น้อยที่มีอายุยืนยาวแต่ขาดไร้ ซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดี ขาดผู้ดูแล ทำให้การดำรงชีวิตเป็นไปด้วยความลำบาก จากสภาพการณ์ดังกล่าวนำไปสู่มุมมองในอนาคต สำหรับการดูแลผู้สูงอายุที่ขาดผู้อุปการะดูแล หรือประสบปัญหาทางครอบครัว ซึ่ง พระวิมลภาวนานุสิฐ เจ้าอาวาสวัดกลาง อ.บางปลาม้า อดีตเจ้าคณะอำเภอบางปลาม้า ได้มีแนวความคิดนำเอาอาคารโรงเรียนวัดกลางที่ได้ประกาศยกเลิกใน ปี พ.ศ. 2551 มาดำเนินการจัดตั้งเป็นบ้านพักคนชราภายใต้ชื่อ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุไร้ที่พึ่งวัดกลาง โดยเริ่มดำเนินการปรับปรุงอาคาร สถานที่ ปรับสภาพภูมิทัศน์ ภายในบริเวณเนื้อที่ 10 ไร่ 93 ตารางวา มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 โดยมีการบูรณาการร่วมกันของหยงานต่าง ๆ เช่น จังหวัดสุพรรณบุรี สภากาชาดไทย สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง
สำหรับการเปิดดำเนินการรับผู้สูงอายุที่ขาดการอุปการะดูแล ได้ถือฤกษ์เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2554 อันเป็นวันแม่แห่งชาติ และได้เปลี่ยนชื่อเป็น ศูนย์ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีที่ตั้ง ณ เลขที่ 9 หมู่ที่ 6 ตำบลโคกคราม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ บริหารงานศูนย์ขึ้นคณะหนึ่ง ผู้สูงอายุที่พักอาศัยอยู่ภายในศูนย์มี 2 ประเภท คือ ผู้สูงอายุที่ขาดผู้อุปการะเลี้ยงดูหรือประสบปัญหาทางครอบครัวจะรับเข้ามาดูแลและให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น มีผู้ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง มีการเชื่อมโยงกับโรงพยาบาลบางปลาม้า ในการดูแลด้านสุขภาพ อีกประเภทหนึ่งคือผู้สูงอายุที่ไม่ใช่ผู้ยากไร้ แต่ประสงค์จะเข้าพักอาศัยภายในบ้านพัก โดยเสียค่าตอบแทน ปัจจุบันมีผู้สูงอายุที่จะต้องอุปการะดูแล เข้ารับบริการอยู่จำนวน 15 ราย เป็นชาย 7 คน หญิง 8 คน สำหรับบ้านพักที่ต้องเสียค่าตอบแทน มีอยู่จำนวน 2 หลัง ขณะนี้มีผู้ติดต่อเพื่อขอเข้าพักแล้วส่วนหนึ่ง เนื่องจากเพิ่งก่อสร้างเสร็จ
นายประพันธุ์ กล่าวต่อว่า ศูนย์ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุจังหวัดสุพรรณบุรีแห่งนี้ ถือเป็นที่ตั้งที่มีความเหมาะสมอยู่ในทำเลด้านหน้าติดทางหลวงแผ่นดินสาย 340 (ตลิ่งชันสุพรรณบุรี) ด้านหลังติดแม่น้ำท่าจีน มีสภาพแวดล้อมที่สะอาด สวยงาม ด้านข้างติดกับวัดกลางเหมาะในการเดินทางทำบุญ และปฏิบัติธรรม ด้านตรงข้ามเป็นโรงพยาบาลประจำอำเภอ และอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอบางปลาม้า เพียง 800 เมตรเท่านั้น ทั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดป้ายและตรวจเยี่ยมผู้สูงอายุของศูนย์ฯ แห่งนี้ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงพระเมตตาและให้ความสำคัญกับการดูแลผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาขาดผู้อุปการะดูแล ซึ่งเห็นว่าศูนย์ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุจังหวัดสุพรรณบุรีแห่งนี้จะเป็นต้นแบบในการดูแลให้ผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุขในช่วงท้ายของชีวิต เพราะนอกจากจะได้รับการดูแลแล้ว ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น การออกกำลังกาย การปฏิบัติธรรม การทำสิ่งของเพื่อจำหน่ายหารายได้ยามว่าง นอกจากนี้สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี จะออกมาจัดกิจกรรมตรวจสุขภาพจัดเลี้ยงอาหารและนันทนาการเป็นประจำทุกเดือน เดือนละ 1 ครั้ง
ศูนย์ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุจังหวัดสุพรรณบุรีแห่งนี้ นับเป็นศูนย์ฯ ต้นแบบในการบูรณาการของหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมกันดำเนินงานเพื่อผู้สูงอายุโดยแท้ ซึ่งขณะนี้ยังสามารถรองรับผู้สูงอายุได้อีกจำนวนหนึ่ง และคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ น่าจะมีการขยายการดำเนินงานออกไปอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาชีวิตขาดผู้อุปการะเลี้ยงดู
วัชระ พัฒนศรี / วัฒนพล มัจฉา
สุพรรณฯ เปิดศูนย์ดูแลคนแก่
นายประพันธุ์ บุญคุ้ม นายอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุไร้ที่พึ่งวัดกลาง กล่าวว่าจากสภาพสังคมในปัจจุบันกำลังก้าวเข้าสู่สังคมที่มีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การดูแลสุขภาพของประชาชนดีขึ้น ทำให้ประชาชนมีอายุยืนยาว แต่ยังมีผู้สูงอายุอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งคงไม่น้อยที่มีอายุยืนยาวแต่ขาดไร้ ซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดี ขาดผู้ดูแล ทำให้การดำรงชีวิตเป็นไปด้วยความลำบาก จากสภาพการณ์ดังกล่าวนำไปสู่มุมมองในอนาคต สำหรับการดูแลผู้สูงอายุที่ขาดผู้อุปการะดูแล หรือประสบปัญหาทางครอบครัว ซึ่ง พระวิมลภาวนานุสิฐ เจ้าอาวาสวัดกลาง อ.บางปลาม้า อดีตเจ้าคณะอำเภอบางปลาม้า ได้มีแนวความคิดนำเอาอาคารโรงเรียนวัดกลางที่ได้ประกาศยกเลิกใน ปี พ.ศ. 2551 มาดำเนินการจัดตั้งเป็นบ้านพักคนชราภายใต้ชื่อ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุไร้ที่พึ่งวัดกลาง โดยเริ่มดำเนินการปรับปรุงอาคาร สถานที่ ปรับสภาพภูมิทัศน์ ภายในบริเวณเนื้อที่ 10 ไร่ 93 ตารางวา มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 โดยมีการบูรณาการร่วมกันของหยงานต่าง ๆ เช่น จังหวัดสุพรรณบุรี สภากาชาดไทย สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง
สำหรับการเปิดดำเนินการรับผู้สูงอายุที่ขาดการอุปการะดูแล ได้ถือฤกษ์เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2554 อันเป็นวันแม่แห่งชาติ และได้เปลี่ยนชื่อเป็น ศูนย์ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีที่ตั้ง ณ เลขที่ 9 หมู่ที่ 6 ตำบลโคกคราม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ บริหารงานศูนย์ขึ้นคณะหนึ่ง ผู้สูงอายุที่พักอาศัยอยู่ภายในศูนย์มี 2 ประเภท คือ ผู้สูงอายุที่ขาดผู้อุปการะเลี้ยงดูหรือประสบปัญหาทางครอบครัวจะรับเข้ามาดูแลและให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น มีผู้ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง มีการเชื่อมโยงกับโรงพยาบาลบางปลาม้า ในการดูแลด้านสุขภาพ อีกประเภทหนึ่งคือผู้สูงอายุที่ไม่ใช่ผู้ยากไร้ แต่ประสงค์จะเข้าพักอาศัยภายในบ้านพัก โดยเสียค่าตอบแทน ปัจจุบันมีผู้สูงอายุที่จะต้องอุปการะดูแล เข้ารับบริการอยู่จำนวน 15 ราย เป็นชาย 7 คน หญิง 8 คน สำหรับบ้านพักที่ต้องเสียค่าตอบแทน มีอยู่จำนวน 2 หลัง ขณะนี้มีผู้ติดต่อเพื่อขอเข้าพักแล้วส่วนหนึ่ง เนื่องจากเพิ่งก่อสร้างเสร็จ
นายประพันธุ์ กล่าวต่อว่า ศูนย์ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุจังหวัดสุพรรณบุรีแห่งนี้ ถือเป็นที่ตั้งที่มีความเหมาะสมอยู่ในทำเลด้านหน้าติดทางหลวงแผ่นดินสาย 340 (ตลิ่งชันสุพรรณบุรี) ด้านหลังติดแม่น้ำท่าจีน มีสภาพแวดล้อมที่สะอาด สวยงาม ด้านข้างติดกับวัดกลางเหมาะในการเดินทางทำบุญ และปฏิบัติธรรม ด้านตรงข้ามเป็นโรงพยาบาลประจำอำเภอ และอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอบางปลาม้า เพียง 800 เมตรเท่านั้น ทั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดป้ายและตรวจเยี่ยมผู้สูงอายุของศูนย์ฯ แห่งนี้ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงพระเมตตาและให้ความสำคัญกับการดูแลผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาขาดผู้อุปการะดูแล ซึ่งเห็นว่าศูนย์ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุจังหวัดสุพรรณบุรีแห่งนี้จะเป็นต้นแบบในการดูแลให้ผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุขในช่วงท้ายของชีวิต เพราะนอกจากจะได้รับการดูแลแล้ว ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น การออกกำลังกาย การปฏิบัติธรรม การทำสิ่งของเพื่อจำหน่ายหารายได้ยามว่าง นอกจากนี้สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี จะออกมาจัดกิจกรรมตรวจสุขภาพจัดเลี้ยงอาหารและนันทนาการเป็นประจำทุกเดือน เดือนละ 1 ครั้ง
ศูนย์ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุจังหวัดสุพรรณบุรีแห่งนี้ นับเป็นศูนย์ฯ ต้นแบบในการบูรณาการของหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมกันดำเนินงานเพื่อผู้สูงอายุโดยแท้ ซึ่งขณะนี้ยังสามารถรองรับผู้สูงอายุได้อีกจำนวนหนึ่ง และคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ น่าจะมีการขยายการดำเนินงานออกไปอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาชีวิตขาดผู้อุปการะเลี้ยงดู
วัชระ พัฒนศรี / วัฒนพล มัจฉา