สวัสดีคะตอนนี้เจ้าของกระทู้อายุ25ปี ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่เล็กๆ พ่อแต่งงานมีครอบครัวใหม่จั้งแต่เราเล็กๆและมีครอบตรัวอยู่ต่างประเทศ ส่วนแม่ก็ทิ้งเราตั้งแต่เล็กๆ พ่อก็เที่ยวเอาเราไปฝากไว้ที่คนนู้นทีคนนี้ที จนมาถึงครอบครัวสุดท้ายเป็นครอบครัวที่มีลูก4คน พ่อเรากับเค้ารุ้จักกันผ่านทางเพื่อนของเค้าอีกทีจึงเอาเราไปฝากไว้ ครอบครัวนี่เป็นครอบครัวที่เข้มงวดมากและเราเคยโดน หัวหน้าครอบครัวที่เรียกว่าพ่อลวนลาม เราทนไม่ได้เรากลายเป็นเด็กเก็บกด บอกใครก็ไม่มีใครเชื่อ เราเริ่มต้นกรีดข้อมือ เพื่อให้ตัวเองบรรเทาความเก็บกดนั้นลง เราได้มีโอกาสรุ้จักพี่คนนึงซึ้งเป็นน้องสาวของครอบครัวนึงที่เราเคยอาศัยเค้า เค้าช่วยเราออกมาจากบ้านหลังนั้น ช่วงนั้นเราอายุ 15 เราจำช่วงระยะเวลานี้ไม่ค่อยได้ว่าเราออกมาได้ยังไงแต่เท่าที่จำได้พี่คนนี้พาเราไปหาเพื่อนของพ่อและเล่าเรื่องของเราให้เค้าฟัง พ่อเราบินกลับมาเมืองไทยและมองว่าเราเป็นตัวปัญหา เราจำคำพูดของพ่อได้ว่าถ้าไม่อยู่ที่นี่แลัวจะไปอยู่ที่ไหน เราสงสัยมาตลอดว่าทำไมพ่อไม่เคยเอาเราไปอยู่ที่ต่างประเทศด้วยกับเค้าจนมารู้ตอนโตว่าพ่อมีครอบครัวใหม่ที่นั่น หลังจากนั้นไม่นานเหมือนสวรรค์เปิดทางแม่ฉันกลับมาพร้อมกับแฟนฝรั่งที่พร้อมจะซัพพอร์ตให้ฉันเลยได้ไปอยุ่กับแม่แต่เรื่องไม่จบเท่านั้น พ่อฉันคงไม่ไว้ใจในตัวแม่หรืออะไรก็จำฉันส่งโรงเรียนประจำซึ้งตอนนั้นนฉันจำได้ว่าอยุ่ม.ปลาย ฉันมีปัญหาเรื่องการควบคุมตัวเองเวลาโมโหจะอาละวาดและทำลายข้าวของ แม่ของฉันก็เป็นคนอารมถ์ร้ายเหมือนกัน ฉันเริ่มรุ้สึกว่าการกรีดข้อมือตัวเองคือทางออกทุกอย่าง ฉันก้กลับมากรีดมันอีกครั้งจนมันเต็มมือ2ข้าง แม่ของฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรเวลาเค้าเห็นฉันทำแม่ก้จะเดินออกจสกบ้านไปและวันนั้นแม่ก็ไม่กล้บมาเลย แม่ของฉันติดการพนันมาก จากนั้นโรงเรียนเปิดเทอมฉันใช่ชีวิตอยู่กับเพื่อนตลอดเวลาทำให้เริ่มลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้น จากนั่นไม่นานฉันขึ้นม.5แม่กับแฟนฝรั่งตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกันและแม่ฉันก็ย้ายไปอยุ่ต่างประเทศกับแฟนของเค้า แต่แม่ฉันก็ยังคงส่งเงินค่าเช่าบ้านมาให้ตลอด ฉันเริ่มกลายเป็นเด็กที่ขาดหายอยู่คนเดียวในบ้านเช่าช่วงปิดเทอมจนมหาลัย ฉันไม่เคยมีฟิวพ่อแม่ตามกลับบ้านเวลาที่เรียนมหาลัย ฉันเริ่มปิดบังตัวตนที่แท้จริงของตัวเองภายนอกทุกคนจะมองฉันเป็นคนตลก หัวเราะตลอดเวลา ช่วงชีวิตมหาลัยฉันมีเพื่อนเยอะมาก หลังจากเรียนจบเพื่อนก็เริ่มหายไป ฉันต้องเข้าสู่ชีวิตจริงฉันกลายเป็นคนมีปัญหากับที่ทำงานตลอดเวลา ฉันเปลี่ยนงานบ่อยและการเปลี่ยนงานแต่ละครั้งก็ล้วนแต่ปัญหาเดิมๆ ฉันติดสินใจหนีปัญหาด้วยการคุยกับแม่ขอไปอยุ่กับเค้าที่ต่างประเทศซักปีนึง ขอไปเรียนภาษาที่นู้น แม่ฉันก้โอเคทำเรื่องให้
ช่วงเวลาที่อยู่กับแม่ที่ต่างประเทศปัญหาเดิมๆของฉันกลับมาอีกแล้ว ฉันไม่มีเพื่อนเลยซักคน ฉันไม่ค่อยได้ติดต่อเพื่อนที่เมืองไทยเพราะเวลาที่ต่างกัน เพื่อนบางคนเริ่มหายไปบางคนก็ยังอยุ่ ฉันอยู่ในประเทศนี้โดยที่ไม่มีเพื่อนเลยซักคน ความเครียดเริ่มเข้ามาฉันเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ฉันขังตัวเองอยุ่แต่ในห้องไม่ไปเรียน แม่เริ่มที่จะว่าฉันว่าฉันขี้เกียจบ้างถ้าไม่ไปเรียนก็กลับเมืองไทยไปเลย พ่อเลี้ยงของฉันเริ่มไม่โอเคกับฉัน ฉันตกอยู่ในสภาวะโดดเดี่ยวฉันกรีดข้อมือตัวเองอีกครั้งในรอบช่วงเวลาที่ผ่านมาเกือบหลายปี ฉันคิดว่าตลอดเวลาแผลที่ข้อมือของฉันทำให้ภาพลักษณ์ของฉันดูแย่ แต่ช่วงเวลานั้นฉันแค่ต้องการใครซักคนแต่ไม่มีใครเลยฉันเริ่มต้นกรีดจนคิดว่าอยากตายจริงจึงกรีดบริเวณข้อมือตัวเองตรงเส้นเลือดให้ลึกที่สุด แต่จากนั้นไม่นานความเจ็บปวดก็เข้ามาฉันเริ่มมือชสหัวใจเริ่มเต้นช้าลงเลือกที่ออกเยอะขึ้นกว่าเดิมคราวนี้มันแตกต่างจากช่วงเวลาที่เคยกรีดข้อมือ มือฝั่งที่ฉันกรีดไม่รุ้สึกอะไรเลย ฉันวิ่งลงไปหาแม่และโชว์ให้ดค้าดูตอนนั้นความรู้สึกฉันคิดว่าตัวเองจะตายจริงๆ เริ่มไม่อยากตาย ฉันร้องลั่นบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือให้ทุกคนพาไปหาหมอ แม่ฉันรวมทั้งพ่อเลี้ยงโมโหกับการกระทำของฉันเค้ามองว่าฉันไม่โตและเรียกร้องความสนใจ ทำตัวเองแล้วต้องมาเดือดร้อนคนทั้งบ้านคิดอะไรอยุ่เป็นบ้ารึไง ฉันได้แต่ร้องไห้ เวลาผ่านไปฉันคิดว่าตัวเองดีขึ้นแล้ว
หลังจากนั่นไม่นานฉันเรียนจบคอร์สและต้องกลับมาเมืองไทยเนื่องจากวีซ่าหมด ฉันกลับมาทำงานที่แห่งนึง แต่ฉันก็ยังคงมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานฉันจำได้ว่าฉันโทรไปปรึกษาเพื่อนหลายคนมาก โทรไปจนเพื่อนไม่รับบ้างรับบ้างล่ะ เพื่อนแต่ละคนก็จะบอกว่าปัญหามาจากตัวฉันทำไมไม่ปรับปรุงตัวเอง ฉันลาออกจากงานด้วยปัญหาเดิมๆอีกครั้ง ฉันเริ่มติดเที่ยวกลางคืน ติดบุหรี่และแอลกฮอลทุกชนิด ฉันใช้เงินที่มีอยู่ไปกับการเที่ยวกลางคืน เพื่อนที่สนิทที่เคยมีเริ่มห่างหาย จากที่เคยชวนไปเที่ยวก็ไม่ชวนไปไหน เวลาฉันเห็นเพื่อนไปไหนกันโทรไปจะขอตามไปด้วยเพื่อนก็จะอ้างว่าจะกลับกันแล้วคราวหน้าเดี๋ยวชวน โทรไปหาเพื่อนหลายๆคนเริ่มไม่มีใครรับสายฉัน เพื่อนที่เคยมีก็หายไปจนตอนนี้ฉันไม่มีเพื่อนหลงเหลือซักคน
เล่ามาถึงตรงนี้คนเริ่มแชร์เกี่ยวกับโรค ไบโพลาร์ และอื่นๆคิดว่าตัวเองเข้าข่ายแต่ก็ยังไม่กล้าไปพบแพทย์หรือจริงๆแล้วฉันก็คนที่ชอบเรียกร้องความสนใจเหมือนที่ใครหลายๆคนพูด
ฉันแค่สงสัยตัวเองอยากจะเป็นเหมือนคนปกติอยากจะมีเพื่อน
สงสัยว่าตัวเองควรไปพบจิตแพทย์ดีไหม
ช่วงเวลาที่อยู่กับแม่ที่ต่างประเทศปัญหาเดิมๆของฉันกลับมาอีกแล้ว ฉันไม่มีเพื่อนเลยซักคน ฉันไม่ค่อยได้ติดต่อเพื่อนที่เมืองไทยเพราะเวลาที่ต่างกัน เพื่อนบางคนเริ่มหายไปบางคนก็ยังอยุ่ ฉันอยู่ในประเทศนี้โดยที่ไม่มีเพื่อนเลยซักคน ความเครียดเริ่มเข้ามาฉันเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ฉันขังตัวเองอยุ่แต่ในห้องไม่ไปเรียน แม่เริ่มที่จะว่าฉันว่าฉันขี้เกียจบ้างถ้าไม่ไปเรียนก็กลับเมืองไทยไปเลย พ่อเลี้ยงของฉันเริ่มไม่โอเคกับฉัน ฉันตกอยู่ในสภาวะโดดเดี่ยวฉันกรีดข้อมือตัวเองอีกครั้งในรอบช่วงเวลาที่ผ่านมาเกือบหลายปี ฉันคิดว่าตลอดเวลาแผลที่ข้อมือของฉันทำให้ภาพลักษณ์ของฉันดูแย่ แต่ช่วงเวลานั้นฉันแค่ต้องการใครซักคนแต่ไม่มีใครเลยฉันเริ่มต้นกรีดจนคิดว่าอยากตายจริงจึงกรีดบริเวณข้อมือตัวเองตรงเส้นเลือดให้ลึกที่สุด แต่จากนั้นไม่นานความเจ็บปวดก็เข้ามาฉันเริ่มมือชสหัวใจเริ่มเต้นช้าลงเลือกที่ออกเยอะขึ้นกว่าเดิมคราวนี้มันแตกต่างจากช่วงเวลาที่เคยกรีดข้อมือ มือฝั่งที่ฉันกรีดไม่รุ้สึกอะไรเลย ฉันวิ่งลงไปหาแม่และโชว์ให้ดค้าดูตอนนั้นความรู้สึกฉันคิดว่าตัวเองจะตายจริงๆ เริ่มไม่อยากตาย ฉันร้องลั่นบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือให้ทุกคนพาไปหาหมอ แม่ฉันรวมทั้งพ่อเลี้ยงโมโหกับการกระทำของฉันเค้ามองว่าฉันไม่โตและเรียกร้องความสนใจ ทำตัวเองแล้วต้องมาเดือดร้อนคนทั้งบ้านคิดอะไรอยุ่เป็นบ้ารึไง ฉันได้แต่ร้องไห้ เวลาผ่านไปฉันคิดว่าตัวเองดีขึ้นแล้ว
หลังจากนั่นไม่นานฉันเรียนจบคอร์สและต้องกลับมาเมืองไทยเนื่องจากวีซ่าหมด ฉันกลับมาทำงานที่แห่งนึง แต่ฉันก็ยังคงมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานฉันจำได้ว่าฉันโทรไปปรึกษาเพื่อนหลายคนมาก โทรไปจนเพื่อนไม่รับบ้างรับบ้างล่ะ เพื่อนแต่ละคนก็จะบอกว่าปัญหามาจากตัวฉันทำไมไม่ปรับปรุงตัวเอง ฉันลาออกจากงานด้วยปัญหาเดิมๆอีกครั้ง ฉันเริ่มติดเที่ยวกลางคืน ติดบุหรี่และแอลกฮอลทุกชนิด ฉันใช้เงินที่มีอยู่ไปกับการเที่ยวกลางคืน เพื่อนที่สนิทที่เคยมีเริ่มห่างหาย จากที่เคยชวนไปเที่ยวก็ไม่ชวนไปไหน เวลาฉันเห็นเพื่อนไปไหนกันโทรไปจะขอตามไปด้วยเพื่อนก็จะอ้างว่าจะกลับกันแล้วคราวหน้าเดี๋ยวชวน โทรไปหาเพื่อนหลายๆคนเริ่มไม่มีใครรับสายฉัน เพื่อนที่เคยมีก็หายไปจนตอนนี้ฉันไม่มีเพื่อนหลงเหลือซักคน
เล่ามาถึงตรงนี้คนเริ่มแชร์เกี่ยวกับโรค ไบโพลาร์ และอื่นๆคิดว่าตัวเองเข้าข่ายแต่ก็ยังไม่กล้าไปพบแพทย์หรือจริงๆแล้วฉันก็คนที่ชอบเรียกร้องความสนใจเหมือนที่ใครหลายๆคนพูด
ฉันแค่สงสัยตัวเองอยากจะเป็นเหมือนคนปกติอยากจะมีเพื่อน