จริงๆ ก็เขียนเว่อร์ไปนะคะ จะได้มีคนคลิ๊กเข้ามาอ่าน หุหุ
เราเริ่มเดินทางกันต่อ จากเมือง Yeppoon ก็ขึ้นเหนือมาอีกประมาณ 40 กว่าไมล์ทะเล เราก็ทอดสมอนอนกันที่ Port Clinton ค่ะ ที่นี่เราหลับสบายไม่มีคลื่นเพราะมันต้องเข้าไปลึกหน่อยไม่ได้เป็นทะเลเปิดซะทีเดียวทำให้ไม่มีคลื่นแรง
เรานอนกันหนึ่งคืนก็เปลี่ยนที่นอนค่ะ ย้ายไปนอนกันที่ Pearl Bay เค้าว่ากันว่าสวยนะคะ แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาเลยค่ะ นอนพักหนึ่งคืน คราวนี้จะเป็นทริปที่หนัก คือนั่งเรือประมาณ 65 ไมล์ทะเล ก็ร่วมๆร้อยกิโลเมตรโน่นแหละค่ะ (ใช้เวลาเดินทางประมาณสิบเอ็ดถึงสิบสองชั่วโมง ลมไม่เยอะ ถ้าเยอะกว่านี้ก็เร็วกว่านี้) ไปที่เกาะ Middle Percy Island (ซึ่งเป็นหนึ่งในเกาะของกลุ่ม Percy) ลมไม่ค่อยมี แรกๆก็ยังได้ใช้ใบเรือบ้าง แต่หลังๆลมหายไป ต้องใช้เครื่องยนต์และยังกางใบเรืออยู่ เราต้องทำเวลาค่ะ ไม่งั้นจะถึงเกาะมืดแล้วจะมีปัญหาเรื่องการหาที่จอดทอดสมอเรือค่ะ ทอดสมอเรือนี่เรื่องใหญ่มาก ต้องหาที่น้ำไม่ลึกเกินไปและไม่ตื้นเกินไป ประมาณ 5-10 เมตรกำลังดี ต้องดูในชาร์ตด้วยว่ามีหินใต้น้ำไหม มีประการังไหม มีอะไรใต้น้ำที่เรือเราจะไปชนหรือเปล่า ที่สำคัญน้ำแต่ละที่ไม่เหมือนกันค่ะ คือ เรื่องของน้ำขึ้นน้ำลง บางทีน้ำลงอาจจะแค่เมตร หรือสองเมตร แต่บางทีมันขึ้นลงถึง 8 เมตรเลยทีเดียว อันนี้ต้องศึกษาด้วย แต่เราเช็คได้ค่ะ แค่เวลาจะไปทอดสมอที่ไหนก็ต้องคำนวณเผื่อน้ำลง ไม่งั้นอยู่ดีๆ จะได้เห็นเรือหงายท้องเพราะจอดเรือน้ำตื้นไป พอน้ำลงน้ำหายหมด คราวนี้เรือหงายแน่ๆ ฮาฮา
เราใช้เวลาที่เกาะนี้ไม่นานค่ะแค่สองคืน คือสามีต้องทำงาน ต้องใช้เน็ต ต้องใช้โทรศัพท์ตลอดทั้งวัน เกาะนี้มันออกจากฝั่งมาไกลมากๆ ทำให้สัญญาณมาไม่ถึง สามีก็ทำงานไม่ได้ เราเลยต้องรีบเข้าฝั่งค่ะ ขึ้นเหนือต่อไป
เกาะนี้ เป็นที่ขึ้นชื่อของนักล่องเรือทั้งหลาย เพราะมันอยู่ไกลจากแผ่นดินมาก แต่สวยงาม เมื่อห้าสิบกว่าปีแล้ว มีนักล่องเรือมาสร้าง ศาลาเอาไว้ทำอาหาร นัดเจอพูดคุยกันสำหรับคนล่องเรือ และถ้าใครอยากฝากของที่ระลึกไว้ ก็จะทำการแขวนห้อยไว้ที่ศาลานั้นค่ะ ศาลานี้เรียกกว่า A Frame พวกเราก็ไปนั่งเล่นนอนเล่นกันทั้งวัน
เกาะส่วนใหญ่ของออสเตรเลียจะเป็นเกาะรัฐบาลที่จะมีคนดูแลค่ะ จะเรียกว่า Care Taker คือรัฐบาลให้เช่าทำมาหากิน เลี้ยงสัตว์ปลูกผัก ทำสวนทำอะไรก็ว่าไป หนึ่งครอบครัว คือให้ดูแลเกาะ
เกาะนี้มีคนดูแลคือสองสามีภรรยา และก็มีผู้ชายหนุ่มอีกหนึ่งคน บ้านจะอยู่บนกลางเขา เห็นวิวทะเลสวยงาม แต่บ้านที่พูดถึงนี่คือบ้านเล็กๆเก่าๆ เค้าอยู่กันแบบพอเพียงมากๆค่ะ ภรรยาทำแยม ขายให้กับนักล่องเรือ ขายไข่ไก่ ขายผักผลไม้ พวกเราใช้เวลาเดินไปกลับที่บ้าน(Home Stead) ประมาณสี่ชั่วโมงค่ะ เด็กๆร้องไห้งอมแงมเพราะร้อนมากและเหนื่อย แต่เกิดเป็นลูกเราต้องอดทน ฮาฮา
บนเกาะจะมีแพะป่าเต็มไปหมดค่ะ วันอาทิตย์บางวัน ผู้ช่วยคนดูแลเกาะ จะไปล่าแพะมาทำอาหารให้คนเรือทานกันค่ะ นั่งล้อมกองไฟ เอาอาหารมาทานด้วยกัน นั่งดื่ม พูดคุยกันสนุกสนาน เสียดายเราไม่ได้รอถึงวันอาทิตย์ ทั้งขาขึ้นและขาลง เพราะต้องเลือกเดินทางตอนมีลม
พูดมาเยอะ ก็เอารูปมาลงให้ดูกันนะคะ
เอาแแผนที่มาก่อน เกาะนี้ในแผนที่อาจจะไม่เห็นค่ะ มันจะอยู่ในส่วนของ Reef ค่ะ อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Yeppoon และอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง Mackay ค่ะ

ภายข้างหลังคือชายหาดที่มี A Frame ค่ะ

มะพร้าวแห้งร่วงเต็มไปหมด ดิฉันเก็บมาคั้นกระทิหลายลูกเลยค่ะ ปลอกกันสนุกไปเลย

หมาจากบ้านคนดูแลเกาะค่ะ
ผู้ช่วยของคนดูแลเกาะปีนไปเก็บมะพร้าวมาให้เราดื่มน้ำค่ะ

น้องลุยทอดสมอที่ West Bay , Middle Percy Island

ใช้เวลาสองวันสองคืน เราก็เดินทางต่อค่ะ อย่างที่บอกสามีขาดอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์ไม่ได้เพราะต้องทำงานตลอด เราเลยต้องจำใจออกเดินทางทั้งๆที่อยากอยู่หลายๆวัน เพราะมันไกลอ่ะนะ อยากใช้เวลาให้คุ้ม อีกอย่างมันมีหลายหาดมากค่ะ สวยหมด และก็มีหลายเกาะอยู่ใกล้ๆกัน
เราออกเดินทางเช้ามืด มาถึงมารีน่าที่เมือง Mackay (แมคคาย) ก็เย็นๆต้องมาให้ทันก่อนออฟฟิศจะปิดไม่งั้นเราจะเอาเรือไปจอดที่ไหน
เมืองนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารค่ะ ผักผลไม้ไทยๆเยอะมาก เราไปเดินตลาดนัด เจอแม่ค้าคนไทยหลายคนเลยทีเดียว ปลูกผักมาขายที่ตลาด ดิฉันชอบมากกกกกก ขนซื้อผักมาซะจนไม่มีที่จะเก็บเลย ตู้เย็นก็เล็กๆ ต้องแบบรีบๆกินไม่งั้นเน่าหมด

ชอบดอกไม้ แม่พาไปเดินเก็บดอกไม้มาถวายพระที่เรือค่ะ
อันนี้คงจะเป็นไลท์เฮาส์จำลง เค้าติดตั้งไว้ที่หน้าร้านอาหารชื่อตามนั้นเลยค่ะ ตรงมารีน่า เห็นสวยดีเลยถ่ายมา

เก็บมะพร้าวแห้งมาจากเกาะค่ะ ลูกเล็กๆแต่เนื้อเยอะมากๆ คั้นกระทิสดๆ ทำขนม ทำแกง โอยหอมหวาน แต่กว่าจะได้กิน สามีบอก เธอทำไมไม่ไปซื้อเอาล่ะ กระป๋องละเหรียญ ฉันเกรงว่าจะต้องพาไปโรงพยาบาลต่อเอ็นมือเพราะโดนมีดบาด เพราะต้องเอามีดไปงัดแงะเอาเนื้อมันออกมาแล้วเอาไปปั่นค่ะ ไม่มีกระต่าย

ผักจากตลาด

บวบงู ใครเคยเห็นใหญ่ๆแบบนี้ไหมคะ ทำไมมันกลายพันธุ์เป็นแบบนี้ไปได้
ำ
นี่ขนาดธรรมดา รูปจากกูเกิ้ลนะคะ

บวบงูผัดไข่ค่ะ

กระทิสดๆทำขนม

กุ้งสดๆจากทะเล(ไม่ได้จับเองนะ)

อยู่เมืองนี้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ เราก็ออกเดินทางขึ้นเหนือไปอีกค่ะ เดี๋ยวมีเวลาจะรีบๆเอารูปมาลงและมาเล่าเรื่องต่อนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามและติชม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันค่ะ
สี่ชีวิตบนเกาะสวรรค์
เราเริ่มเดินทางกันต่อ จากเมือง Yeppoon ก็ขึ้นเหนือมาอีกประมาณ 40 กว่าไมล์ทะเล เราก็ทอดสมอนอนกันที่ Port Clinton ค่ะ ที่นี่เราหลับสบายไม่มีคลื่นเพราะมันต้องเข้าไปลึกหน่อยไม่ได้เป็นทะเลเปิดซะทีเดียวทำให้ไม่มีคลื่นแรง
เรานอนกันหนึ่งคืนก็เปลี่ยนที่นอนค่ะ ย้ายไปนอนกันที่ Pearl Bay เค้าว่ากันว่าสวยนะคะ แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาเลยค่ะ นอนพักหนึ่งคืน คราวนี้จะเป็นทริปที่หนัก คือนั่งเรือประมาณ 65 ไมล์ทะเล ก็ร่วมๆร้อยกิโลเมตรโน่นแหละค่ะ (ใช้เวลาเดินทางประมาณสิบเอ็ดถึงสิบสองชั่วโมง ลมไม่เยอะ ถ้าเยอะกว่านี้ก็เร็วกว่านี้) ไปที่เกาะ Middle Percy Island (ซึ่งเป็นหนึ่งในเกาะของกลุ่ม Percy) ลมไม่ค่อยมี แรกๆก็ยังได้ใช้ใบเรือบ้าง แต่หลังๆลมหายไป ต้องใช้เครื่องยนต์และยังกางใบเรืออยู่ เราต้องทำเวลาค่ะ ไม่งั้นจะถึงเกาะมืดแล้วจะมีปัญหาเรื่องการหาที่จอดทอดสมอเรือค่ะ ทอดสมอเรือนี่เรื่องใหญ่มาก ต้องหาที่น้ำไม่ลึกเกินไปและไม่ตื้นเกินไป ประมาณ 5-10 เมตรกำลังดี ต้องดูในชาร์ตด้วยว่ามีหินใต้น้ำไหม มีประการังไหม มีอะไรใต้น้ำที่เรือเราจะไปชนหรือเปล่า ที่สำคัญน้ำแต่ละที่ไม่เหมือนกันค่ะ คือ เรื่องของน้ำขึ้นน้ำลง บางทีน้ำลงอาจจะแค่เมตร หรือสองเมตร แต่บางทีมันขึ้นลงถึง 8 เมตรเลยทีเดียว อันนี้ต้องศึกษาด้วย แต่เราเช็คได้ค่ะ แค่เวลาจะไปทอดสมอที่ไหนก็ต้องคำนวณเผื่อน้ำลง ไม่งั้นอยู่ดีๆ จะได้เห็นเรือหงายท้องเพราะจอดเรือน้ำตื้นไป พอน้ำลงน้ำหายหมด คราวนี้เรือหงายแน่ๆ ฮาฮา
เราใช้เวลาที่เกาะนี้ไม่นานค่ะแค่สองคืน คือสามีต้องทำงาน ต้องใช้เน็ต ต้องใช้โทรศัพท์ตลอดทั้งวัน เกาะนี้มันออกจากฝั่งมาไกลมากๆ ทำให้สัญญาณมาไม่ถึง สามีก็ทำงานไม่ได้ เราเลยต้องรีบเข้าฝั่งค่ะ ขึ้นเหนือต่อไป
เกาะนี้ เป็นที่ขึ้นชื่อของนักล่องเรือทั้งหลาย เพราะมันอยู่ไกลจากแผ่นดินมาก แต่สวยงาม เมื่อห้าสิบกว่าปีแล้ว มีนักล่องเรือมาสร้าง ศาลาเอาไว้ทำอาหาร นัดเจอพูดคุยกันสำหรับคนล่องเรือ และถ้าใครอยากฝากของที่ระลึกไว้ ก็จะทำการแขวนห้อยไว้ที่ศาลานั้นค่ะ ศาลานี้เรียกกว่า A Frame พวกเราก็ไปนั่งเล่นนอนเล่นกันทั้งวัน
เกาะส่วนใหญ่ของออสเตรเลียจะเป็นเกาะรัฐบาลที่จะมีคนดูแลค่ะ จะเรียกว่า Care Taker คือรัฐบาลให้เช่าทำมาหากิน เลี้ยงสัตว์ปลูกผัก ทำสวนทำอะไรก็ว่าไป หนึ่งครอบครัว คือให้ดูแลเกาะ
เกาะนี้มีคนดูแลคือสองสามีภรรยา และก็มีผู้ชายหนุ่มอีกหนึ่งคน บ้านจะอยู่บนกลางเขา เห็นวิวทะเลสวยงาม แต่บ้านที่พูดถึงนี่คือบ้านเล็กๆเก่าๆ เค้าอยู่กันแบบพอเพียงมากๆค่ะ ภรรยาทำแยม ขายให้กับนักล่องเรือ ขายไข่ไก่ ขายผักผลไม้ พวกเราใช้เวลาเดินไปกลับที่บ้าน(Home Stead) ประมาณสี่ชั่วโมงค่ะ เด็กๆร้องไห้งอมแงมเพราะร้อนมากและเหนื่อย แต่เกิดเป็นลูกเราต้องอดทน ฮาฮา
บนเกาะจะมีแพะป่าเต็มไปหมดค่ะ วันอาทิตย์บางวัน ผู้ช่วยคนดูแลเกาะ จะไปล่าแพะมาทำอาหารให้คนเรือทานกันค่ะ นั่งล้อมกองไฟ เอาอาหารมาทานด้วยกัน นั่งดื่ม พูดคุยกันสนุกสนาน เสียดายเราไม่ได้รอถึงวันอาทิตย์ ทั้งขาขึ้นและขาลง เพราะต้องเลือกเดินทางตอนมีลม
พูดมาเยอะ ก็เอารูปมาลงให้ดูกันนะคะ
เอาแแผนที่มาก่อน เกาะนี้ในแผนที่อาจจะไม่เห็นค่ะ มันจะอยู่ในส่วนของ Reef ค่ะ อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Yeppoon และอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง Mackay ค่ะ
ภายข้างหลังคือชายหาดที่มี A Frame ค่ะ
มะพร้าวแห้งร่วงเต็มไปหมด ดิฉันเก็บมาคั้นกระทิหลายลูกเลยค่ะ ปลอกกันสนุกไปเลย
หมาจากบ้านคนดูแลเกาะค่ะ
ผู้ช่วยของคนดูแลเกาะปีนไปเก็บมะพร้าวมาให้เราดื่มน้ำค่ะ
น้องลุยทอดสมอที่ West Bay , Middle Percy Island
ใช้เวลาสองวันสองคืน เราก็เดินทางต่อค่ะ อย่างที่บอกสามีขาดอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์ไม่ได้เพราะต้องทำงานตลอด เราเลยต้องจำใจออกเดินทางทั้งๆที่อยากอยู่หลายๆวัน เพราะมันไกลอ่ะนะ อยากใช้เวลาให้คุ้ม อีกอย่างมันมีหลายหาดมากค่ะ สวยหมด และก็มีหลายเกาะอยู่ใกล้ๆกัน
เราออกเดินทางเช้ามืด มาถึงมารีน่าที่เมือง Mackay (แมคคาย) ก็เย็นๆต้องมาให้ทันก่อนออฟฟิศจะปิดไม่งั้นเราจะเอาเรือไปจอดที่ไหน
เมืองนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารค่ะ ผักผลไม้ไทยๆเยอะมาก เราไปเดินตลาดนัด เจอแม่ค้าคนไทยหลายคนเลยทีเดียว ปลูกผักมาขายที่ตลาด ดิฉันชอบมากกกกกก ขนซื้อผักมาซะจนไม่มีที่จะเก็บเลย ตู้เย็นก็เล็กๆ ต้องแบบรีบๆกินไม่งั้นเน่าหมด
ชอบดอกไม้ แม่พาไปเดินเก็บดอกไม้มาถวายพระที่เรือค่ะ
อันนี้คงจะเป็นไลท์เฮาส์จำลง เค้าติดตั้งไว้ที่หน้าร้านอาหารชื่อตามนั้นเลยค่ะ ตรงมารีน่า เห็นสวยดีเลยถ่ายมา
เก็บมะพร้าวแห้งมาจากเกาะค่ะ ลูกเล็กๆแต่เนื้อเยอะมากๆ คั้นกระทิสดๆ ทำขนม ทำแกง โอยหอมหวาน แต่กว่าจะได้กิน สามีบอก เธอทำไมไม่ไปซื้อเอาล่ะ กระป๋องละเหรียญ ฉันเกรงว่าจะต้องพาไปโรงพยาบาลต่อเอ็นมือเพราะโดนมีดบาด เพราะต้องเอามีดไปงัดแงะเอาเนื้อมันออกมาแล้วเอาไปปั่นค่ะ ไม่มีกระต่าย
ผักจากตลาด
บวบงู ใครเคยเห็นใหญ่ๆแบบนี้ไหมคะ ทำไมมันกลายพันธุ์เป็นแบบนี้ไปได้
ำ
นี่ขนาดธรรมดา รูปจากกูเกิ้ลนะคะ
บวบงูผัดไข่ค่ะ
กระทิสดๆทำขนม
กุ้งสดๆจากทะเล(ไม่ได้จับเองนะ)
อยู่เมืองนี้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ เราก็ออกเดินทางขึ้นเหนือไปอีกค่ะ เดี๋ยวมีเวลาจะรีบๆเอารูปมาลงและมาเล่าเรื่องต่อนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามและติชม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันค่ะ