Demon สัตว์อสูรจอมราชันย์ บทที่ 3 Begining : ใบหน้าที่มีรอยแผล

Demon สัตว์อสูรจอมราชันย์

http://pantip.com/topic/35715435 บทที่ 1-2










บทที่ 3

Begining : ใบหน้าที่มีรอยแผล

Arthur :  แก้ปัญหาต้องแก้ที่ต้นเหตุสิ

เจ็บ…

ชายหนุ่ม มองดูบาดแผลบนมือที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้กับทารกปีศาจ  เลือดหยุดไหลแล้ว  การฝึกพลังช่วยเขาได้มาก มันทำให้ปากแผลสมานตัวเร็วขึ้น…เขายังไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่าตนเองเพิ่งเผชิญหน้ากับปีศาจมา

ริชาร์ดเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูวัดแห่งหนึ่งรอจนแน่ใจว่าไม่มีใครตามมา  แล้วจึงเดินเข้าไปด้านใน

…………………………………………………………

เสียงดังแกร๊กกรากดังขึ้นจนนาตาลีสะดุ้งตื่น แต่เมื่อหันไปมองทางหน้าต่างก็พบเพียงกระจกใสกับดวงดาวที่คอยส่องสว่างในท้องฟ้ายามค่ำคืนเท่านั้น
คืนนี้ เธอนอนไม่หลับ

"ผี   ไม่สิ  มันคือ ปีศาจ…มันต้องเป็นปีศาจแน่ๆ" นาตาลียังคงคิดหมกมุ่นอยู่กับเรื่องราวที่เพิ่งประสบพบพานมา ก่อนจะล้มตัวลงบนผ้าห่มลายผีเสื้อ
ในคืนที่ไร้แสงจันทร์เช่นนี้ เด็กสาวนอนกลับตัวไปมาอยู่บนเตียง เมื่อเธอหันไปมองนาฬิกาก็พบว่าเหลือเวลาอีกเกือบหกชั่วโมง กว่าดวงตะวันจะกลับมาทำหน้าที่ตามปกติ

กริ๊ก! กริ๊ก!

คราวนี้นาตาลีรีบหันหน้าไปมองทางต้นเสียง  ความรู้สึกเดียวกับตอนที่อยู่ในตึกร้างได้ก่อตัวขึ้นอีกครั้งในจิตใจเธอ

"ไม่นะ"

กระจกหน้าต่างที่เคยสะอาดใสจนมองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้า ได้เกิดรอยแตกร้าวจากกลางบานหน้าต่าง แผ่ขยายกินบริเวณกว้างขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้นกระจกหน้าต่างก็แตกกระจายพร้อมกับมีบางสิ่งพุ่งเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว นาตาลีไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว!

บนพื้น...มันอยู่บนพื้น สิ่งที่เธอไม่อยากพบเจอที่สุด ใบหน้าที่ดูราวกับหน้ากากตัวตลกแสยะยิ้มยิงฟัน มันค่อยๆ คืบคลานเข้ามาหาเธอ คราบน้ำเมือกที่ปนไปด้วยกลิ่นคาวเลือดปรากฏบนทุกที่ที่มันสัมผัสถึง

มันค่อยๆ คลานขึ้นมาบนเตียงนาตาลีรู้สึกเกร็งไปหมดทั้งตัว เธออยากจะวิ่งหนีไปซะให้พ้นๆ แต่ร่างกายกลับไม่ยอมทำตามคำสั่ง
มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าเธอ ใช้ดวงตาสีเขียวเรืองรองจ้องมองลงไปในดวงตาของนาตาลี

ทั้งคู่สบตากัน มันแสยะเขี้ยวอันแหลมคมอ้าปากมากระซิบที่ข้างหู

"นาตาลี"

…………………………………………………………

"มีเรื่องจะถาม" เสียงหยาบกระด้างเย็นชาของชายหนุ่มดังขึ้นจากมุมมืดภายในห้อง  แสงจากเทียนไขส่องให้เห็นใบหน้าของเขาเพียงซีกเดียว  ใบหน้าซีกขวา…ที่มีรอยแผลเป็น

ชายหนุ่มนั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าเทวรูป

"เริ่มแล้วสิ" น้ำเสียงที่แหบแห้ง แต่กลับแฝงเร้นด้วยพลังดังมาจากทางเทวรูป…เทวรูปพูดได้อย่างนั้นหรือ

ลมหนาวยามค่ำคืนพัดผ่านหน้าต่างห้องเข้ามาต้องเปลวเทียนสั่นไหววูบวาบ ส่องให้เห็นถึงนักบวชชรารูปหนึ่งนั่งหันหลังให้กับเทวรูปทองเหลือง
ริชาร์ดไม่แปลกใจต่อการถูกล่วงรู้ความคิดภายในใจของเขา

"ผมต้องทำยังไงต่อ…" ชายหนุ่มถาม

"มารเกิดขึ้นจากภายในใจ  แต่ปีศาจเกิดขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์  ดับมารต้องดับที่จิตใจ  กำจัดปีศาจต้องแก้ที่ต้นเหตุ…..."  แสงเทียนดับลงพร้อมกับคำพูดของนักบวชชรา
  
"เมื่อถึงเวลาแล้วจะรู้เอง"  

…………………………………………………………

    ไม่นะ!!

"โอ๊ย!...แขนฉัน"

นาตาลีลืมตาเบิกโพลงมองดูแขนของตัวเองด้วยสีหน้าเจ็บปวด…เธอเรียงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่จึงพบว่าเธอนอนกลิ้งตกลงมาจากเตียง  โดยมีแขนซ้ายผู้รับเคราะห์ถูกร่างอันบอบบางของเธอนอนทับอยู่

"ฝันไปเหรอเนี่ย........เฮ้อ"

เธอมองบานกระจกหน้าต่างที่ยังคงสภาพปกติอยู่เหมือนเดิม  แสงอาทิตย์สีทองสาดส่องกระทบกลุ่มเมฆ ที่เรียงรายอย่างไม่เป็นระเบียบบนท้องฟ้าในเวลาหกนาฬิกาเศษๆ เมื่อมองดูมันผ่านหน้าต่างในห้องนอนแล้วก็ถือว่าเป็นวิวที่มีความสวยงามไม่น้อยเลยทีเดียว

นาตาลีพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านทั้งหลาย  จะได้เตรียมตัวไปรับความรู้ที่โรงเรียนอย่างเต็มที่

แค่พยายามเท่านั้น  แต่ไม่สำเร็จ

…………………………………………………………

"ชั้นนอนไม่หลับทั้งคืนเลยล่ะ" จูดี้ เพื่อนสาววัย 18 บ่นให้พวกเพื่อนๆ ของเธอฟังหลังจากผ่านพ้นคืนวันที่เกิดเหตุการณ์อันน่าสยดสยองมา

"แนต เธอล่ะเป็นยังไงบ้าง ฉันคิดว่าเครื่อง DC ของเราใช้ได้จริงๆ ล่ะ" จูดี้ยิงคำถามไปยังนาตาลีซึ่งกำลังนั่งมองเหม่อไปทางโต๊ะของริชาร์ดอยู่

"อือ" นาตาลีตอบปัดอย่างไม่ใส่ใจนัก จูดี้อึ้งกับคำตอบของนาตาลีไปพักหนึ่ง แล้วหันหน้ากลับไปเล่าเหตุการณ์ที่โรงพยาบาลร้างให้เพื่อนๆ ฟังต่อ

ริชาร์ดไม่มาโรงเรียนวันนี้ นาตาลีรู้สึกไม่สบายใจเลยทั้งเรื่องของปีศาจเด็กทารก แล้วก็เรื่องเกี่ยวกับตัวเขา มันดูลึกลับจนน่ากลัวจริงๆ นาตาลีเหม่อมองดูดวงจันทร์นอกหน้าต่าง ที่ถึงแม้จะเป็นเวลากลางวันแต่จากมุมนี้เธอก็สามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน

"แพทริกนายไปไหนมาน่ะ" อาเธอร์เอ่ยทักทายเพื่อนสนิทหลังจากที่เขาได้หายตัวไปเกือบครึ่งวัน

" ………เปล่า แค่รู้สึกไม่ดีเลยไปนอนที่ห้องพยาบาลมาน่ะ"

อาเธอร์ขมวดคิ้วทั้งสองจ้องมองเพื่อนของเขาที่ค่อยๆ หย่อนก้นลงบนเก้าอี้

“แพทริก......นายดูอ้วนขึ้นนะ”

“ ……” แพทริกไม่ตอบคำถาม แต่กลับจ้องมองอาเธอร์อย่างมีเลศนัย

ไม่นานนักเสียงไซเรนจากรถตำรวจก็เบนความสนใจของทุกคนไปยังนอกหน้าต่าง

"นั่นรถตำรวจหนิ"

"ตำรวจมาทำไมกันน่ะ"

“สงสัยพาลูกมาสมัครเรียนว่ะ”

    หลากหลายคำถามและความเห็นดังขึ้นในห้องเรียน นักเรียนบางกลุ่มคิดว่าตำรวจมาตรวจสารเสพติด บ้างก็ว่ามาจับพวกที่เล่นการพนัน ตามแต่ที่ความคิดเห็นของเหล่านักเรียนชั้นมัธยมปลายจะคิดได้  นาตาลีรู้สึกสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมา จึงหันหน้าไปถามเพื่อนสนิทของเธอ

"เธอว่าไงล่ะจูดี้...…" นาตาลีมองไม่เห็นเพื่อนสนิทของเธอเสียแล้ว

"ไปดูกันเร็วแนต" เสียงดังมาจากจูดี้ที่ไปโผล่หน้าประตูห้องเมื่อไรก็ไม่ทราบ  

"สัญชาตญาณนักสืบของฉันมันบอกว่ามีคดีฆาตกรรมล่ะ" พูดจบเจ้าตัวก็เดินออกห้องไป ปล่อยให้นาตาลียืนงงอยู่กับแพทริก และอาเธอร์ นาตาลีหันไปมองหน้าเพื่อนชายทั้งสองเชิงขอความเห็น

อาเธอร์ยิ้มน้อยๆ ก่อนพูดกับนาตาลีว่า "ฉันว่ายัยจูดี้คงอ่านนิยายนักสืบมากเกินไปน่ะ นี่มันเรื่องจริง ไม่ใช่นิยายที่จะมาทำตัวเป็นนักสืบ" พอพูดจบเขาก็เดินตามจูดี้ไปอย่างรวดเร็ว

"ก็พอๆ กันทั้งสองคนนั่นแหละ" นาตาลียิ้มแห้งๆ พูดกับแพทริกที่ยิ้มออกมาอย่างอิดหนาระอาใจ

    น่าเศร้าที่สัญชาตญาณนักสืบของจูดี้นั้นถูกต้อง…เพราะที่โรงเรียนมีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นจริงๆ  

" ……วันนี้ เมื่อ เวลา 11.00 น. ทางตำรวจได้รับแจ้งจากทางโรงเรียนว่าพบศพ ของนางสาว  A นักเรียนหญิง ของโรงเรียนมัธยมปลายยิ้มแฉ่ง โรงเรียนประจำเมืองมหานครยิ้มแฉ่ง ในบริเวณด้านหลังโรงเรียน ทางตำรวจกำลังพยายามสืบหาตัวคนร้ายเพื่อที่จะมาดำเนินคดี  ลิลลาลี่ แมทธิว รายงาน"
นักข่าวสาวรายงานข่าวหน้ากล้องด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง ตำรวจได้กันพวกนักเรียนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ให้อยู่นอกเขตสืบสวน แต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับจูดี้
อุ๊บ!

"ชู่ววว ระวังหน่อยสิ"

"ทำไมฉันถึงต้องมาทำอะไรบ้าๆ อย่างนี้ด้วยเนี่ย"

อาเธอร์บ่นอุบอิบ กับเรื่องที่เขาต้องมาแปลงกายเป็นพุ่มไม้ตามความคิดของจูดี้ ทั้งๆ ที่ค้านเสียงแข็งแล้วก็ตาม แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่รุนแรงจนทนไม่ไหวทำให้เขาต้องจำยอมทำตามข้อเสนอเจ้าหล่อนในที่สุด

พุ่มไม้ปลอมอาเธอร์และจูดี้เคลื่อนตัวเข้ามาถึงจุดที่เกิดเหตุได้โดยไม่เผยพิรุธ อาจเป็นเพราะพวกตำรวจกำลังสอบสวนพยานที่พบเห็นเหตุการณ์อยู่ จึงไม่ทันสังเกตเห็นพุ่มไม้ผิดปกติที่เพิ่มเข้ามาในบริเวณแต่อย่างใด

"บนหน้าเขามีรอยแผลเป็นค่ะ  มันยาวมากเลย"

"แล้วพอจะบอกได้ไหมครับ ว่าอยู่ที่ด้านไหน"

ภายใต้ท้องฟ้าที่เริ่มถูกเมฆฝนเข้าปกคลุมตำรวจหนุ่มนอกเครื่องแบบในชุดสูทสีขาวกำลังทำการสอบสวนเด็กนักเรียนหญิงซึ่งเป็นพยานในเหตุการณ์อยู่ สำหรับใบหน้าของตำรวจหนุ่มผู้สอบถามนั้นอาเธอร์รู้สึกคล้ายกับเคยเห็นมาก่อน แต่เขาเองกลับนึกไม่ออกว่าเป็นที่ไหน

"ด้านขวาค่ะ"

"ขวา?…เอาล่ะขอบคุณครับ"  

ตำรวจหนุ่มขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง การสวมแว่นกันแดดในเวลาที่เมฆฝนบดบังแสงอาทิตย์เช่นนี้ทำให้อาเธอร์นึกแปลกใจ หญิงสาวที่เป็นพยานมองหน้าของเขาอย่างไม่เชื่อสายตาก่อนจะรีบเดินจากไป

ไม่ใช่อาเธอร์เพียงคนเดียวที่แปลกประหลาดใจ

ปู้ดดดดดดด....เสียงของอะไรบางอย่างดังขึ้นที่พุ่มไม้ข้างกายตำรวจหนุ่ม เขาหันหน้าไปมองตามเสียงแต่ก็พบเห็นเพียงพุ่มไม้เท่านั้น…พุ่มไม้ที่แปลกประหลาด

"ผู้หมวดโซอา สารวัตรเรียกพบครับ"

ตำรวจในเครื่องแบบนายหนึ่งวิ่งหนึ่งเข้ามารายงาน เบนความสนใจของเขาออกจากเสียงเมื่อครู่ ท้องฟ้าเบื้องบนร้องคำรามเสียงดังลั่นเมฆฝนมืดครึ้มลอยเข้ามาเกาะกลุ่มรวมกันอย่างหนาแน่น

ผู้หมวดหนุ่มเหลียวหน้ากลับมามองที่พุ่มไม้ประหลาดอีกครั้ง ก่อนจะเดินตามนายตำรวจชั้นผู้น้อยไป

จูดี้หันมาสบตาอาเธอร์ด้วยความตื่นตระหนก เม็ดฝนเม็ดเล็กๆ เริ่มตกลงมาใส่พุ่มไม้ที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่

ผู้หมวดโซอาเขามีความเกี่ยวพันธ์อะไรกับริชาร์ด โซอา! อาเธอร์เริ่มได้กลิ่นทะยิ้มๆ แล้ว

...เป็นกลิ่นตดของจูดี้



                                    To be continued…
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่