เอาตัวรอดในมาเลเซียตามรอยรีวิว ดับอนาจตั่งแต่ต้นทางถึงจุดหมายปลายทางอาจไม่ใช่สิ่งสวยงาม (ร่วมรีวิวและแชร์) #3



Capture 3 เคอล..บรินชาง บ้าจริง!

ผมคิดอยู่นานว่าจะใช้ภาพอะไรเป็นภาพหน้าปกดี? เพราะเชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จัก และคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วกับเมืองบรินชาง คาเมรอน ไฮแลนด์ (cameron highlands) ภาพที่ติดตาหลายอย่างเกี่ยวกับคาเมรอน ไฮแลนด์ที่ใครต่างก็ต้องเอ่ยขึ้น เช่น ไร่ชา สวนผลไม้เมืองหนาว ซึ่งนับว่าเป็นแว้บแรกของความคิดอันดับต้นๆ ที่หลายๆคนเลือกมาสัมผัสให้ได้สักครั้งที่มาเที่ยวมาเลเซีย ผมก็คิดเช่นนั้น เพราะเมืองบรินชางเป็นโมเม้นต์ต้นๆที่มีคนเอ่ยว่า ถ้าไม่มาเที่ยวที่นี่ ก็เหมือนมาไม่ถึงมาเลเซีย ผมเลยจัดเวลาทัวร์ส่วนหนึ่งไปแวะเมืองบรินชาง ก่อนที่จะแวะไปรัฐอื่นต่อไป

ถ้าจะให้เลือกเอาภาพไร่ชาขึ้นหน้าปกซึ่งมันคงจะเป็นที่นิยมของความคิดหลายๆคนที่มาเที่ยวคาเมรอน ไฮแลนด์ แต่ผมใช้เวลาคิดอยู่นานวัน ถึง 2 วันได้ในการเลือกภาพหน้าปก และเริ่มลงมือถ่ายทอดประสบการณ์นี้ออกมาผ่านตัวหนังสือว่าจะถ่ายทอดอย่างไรให้มีอรรรสในการอ่านและสามารถจินตนาการภาพตามไปได้ ถ้าอยากจะตามมาเที่ยวกันที่เมืองบรินชาง คาเมรอนไฮแลนด์

ภาพนี้จึงเป็นภาพสุกี้ สตรีมโบ๊ทเป็นโมเม้นต์ที่ผมประทับใจที่สุด แต่มีรูปไร่ชาซึ่งละลายอยู่ข้างหลัง เพราะส่วนตัวแล้วไม่ได้พิสมัยอะไรกับไร่ชา และผลไม้เมืองหนาวเลย เพราะอาจจะเข็มขัดสั้นไปหน่อย ผมตั้งคำถามตั่งแต่ก่อนออกเดินทางที่สถานีหัวลำโพง จะไปคาเมรอนกันทำไม? สิ่งนี้จึงเป็นคำถามที่วน Loop อยู่ในหัวตลอดเวลา

ในระหว่างที่รถเคลื่อนผ่านไปตามแนวของภูเขาต่างๆ เพื่อออกจากเมือง IPOH รถบัสจะต้องเลี้ยวขึ้นผ่านภูเขา และฝ่าเพดานหมอก ทางขึ้นมันช่างลำบากจริงๆ ผมคิดในใจว่า วันนี้เราจะมีชีวิตรอดไปถึงข้างบนนั่นจริงๆหรือไม่ ประกอบกับฝนที่ตกลงมาปลอยๆที่ตีนเขา แล้วมันเริ่มตกหนักมากยิ่งขึ้นเมื่อรถบัสของเราไต่ระดับความสูง และเลี้ยวไปตามภูเขา ซึ่งไร้จุดหมายปลายทาง มันเป็นสถานที่ที่ไกลมากๆ และไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ที่จะสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ ตอนนี้ผมเป็นคนขาดการติดต่อสื่อสาร และไม่สามารถเปิด Google Map ขึ้นมาเช็คสถานะยืนยันตำแหน่งของตนเองในมาเลเซียได้อีกแล้ว

คำแรกที่หลุดมาจากความคิด คือ "เคลอ" บางคนอาจจะออกเสียงว่า เค-อน แต่มันไม่ได้ถูกให้ออกเสียงแบบนั้น แต่มีรูปแบบการออกเสียงว่า เคอ ที่ต้องใช้เสียงสูงเป็น "เคลอ" ซึ่งมันก็บ้าจริงๆ

"บ้าจริง!"
ตามรอยรีวิวอีกแล้วใช่มั้ย ... ใช่เลยล่ะ หลังจากที่ได้ปริ้นเอากระทู้ Pantip ของหลายๆคนที่มีประสบการณ์ผูกพันธ์กับเมืองคาเมรอน ไฮแลนด์ มาอ่านซึ่งช่างน่าไปสุดๆ บางคนใช้ระดับอารมณ์เข้าขึ้นถึงกับ "ปังมากๆ" ใช่เลย! .. มันปังจนเป็น "ปั้ง ปั้งๆ" ตู้มเป็นโกโก้ครั้น ผมนี่เคลิ้มเลย คิดว่าดินแแดนสวรรค์ มหัศจรรย์รวยเสน่ห์มากต้องไปให้ได้





"อ้วก"
ผมกะแล้วว่าชีวิตจริงไม่ได้สวยตามรอยรีวิว เหมือนดูละคร หรืออ่านนิยายที่ได้พระเอกมาจิ้นกันตามท้องเรื่อง เพราะตอนที่อยู่เมืองอิโปห์ ระหว่างที่ทำการสำรองที่นั่งรถบัสไว้ ค่ารถบัสจากเมืองอิโปห์มาคาเมรอน ไฮแลนด์ถ้าจำไม่ผิดราคา 18.50 ริงกิต ให้เราต้องบอกรถบัสไปจอดที่เมืองบรินชางจุดที่เราจะลง เขาจะจอดให้เราลงได้ถูกตั่งแต่ขึ้นรถบัส หรือให้คนขายโน๊ตบนบุ๊คให้เลยว่าบรินชางตรงไหนจะไม่ได้ไม่ลืม เพราะชื่อมันก็เรียกยากอยู่ หลงๆลืมๆไปลงเมืองทานา ราตะก็ยุ่งไปอีก ซึ่งผมถามคนขายตั๋วไปว่าทางขึ้นเขาเป็นอย่างไร? ซึ่งเขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แค่ยิ้มๆให้ แล้วถามว่า คุณเมารถง่ายหรือเปล่า? ซึ่งเขาเลยจองที่นั่งด้านหน้าสุดของรถให้เลย จะได้ไม่เมารถเยอะ และได้แนะนำให้ติดยาดมไปด้วย 1 หลอดจะได้บรรเทาอาการเมารถได้ ถ้าหากจะจินตนาการตามภาพว่าทางขึ้นเขาคาเมรอน ไฮแลนด์เป็นอย่างไรให้นึกถึงการขับรถไปแม่ฮ่องสอนนั่นแหละ ฟิวเดียวกัน นาทีนี้ไม่มีกะจิตกะใจมองข้างทางเลยจริงๆ รถเลี้ยวผ่านโค้งแล้วโค้งเล่าจนไม่รู้จบ ทางที่ขึ้นเขาหากว่าไม่ชำนาญเส้นทางก็ไม่ควรมาอย่างยิ่ง เพราะเป็นถนนเลนเดียว และมีรถตกเขาอยู่ตลอดทาง ร้ายแรงสุดที่ได้เห็น คือ กลิ้งลงเขาไปเลยครับ อาจเพราะฝนตก ถนนลื่น หมอกลงจัดจริงๆ


"ลืมตากันไม่ขึ้น"
ระหว่างที่นั่งรถ ผมไม่ได้ลืมตาเลยแม้แต่น้อย เพราะลืมตากันไม่ขึ้น มันเวียนหัวไปหมด มีแต่ยาดม เท่านั้นที่ช่วยชีวิตได้ รู้สึกถึงอาการตัวเบา เเละหัวหมุนอย่างมาก เลยขอหลับตาเอาดีกว่า ผมคว้ากล้องได้ และลั่นชัตเตอร์ไปที่กระจกแบบไม่ลืมหูลืมตามาดู เป็นร้อยๆกว่าภาพ ซึ่งหยิบมาได้เพียง 4 ภาพเท่านั้น เพราะมันเบลอและหลุดโฟกัสเนื่องจากรถบัสวิ่งอยู่บนถนนตลอดเวลา ไม่ได้จอดให้ลงไปถ่ายภาพแต่อย่างใด

"วางแผนการเดินทาง"
ผมใช้เวลาอยู่นานพอสมควรที่ต้องศึกษาเส้นทางไปยังเมืองบรินชาง คาเมรอนไฮแลนด์ เพราะเนื่องจากไม่ปรากฏวิธีการเดินทางมาเลย ซึ่งผมขอบคุณคำแนะนำวิธีการเดินทางจากเพื่อนอิสลามที่อยู่ประเทศมาเลเซีย คือ คุณ KPBL เลยได้ทราบว่าจะต้องวางแผนการเดินทางไปอย่างไร? ให้ดีที่สุด ซึ่งก็ได้พบว่า เส้นทางที่สั้นที่สุดในการมายังเมืองคาเมรอนไฮแลนด์ คือ เมืองอิโปห์เท่านั้น ใช้เวลาในการเดินทางนาน 1.40 - 2.00 ชั่วโมง ตามแต่สภาพดินฟ้าอากาศ และสภาพการจราจรด้วย (ไม่สามารถพบวิธีการเดินทางโดยรถสาธารณะจาก Google Map)

วิธีการเดินทางมาคาเมรอนไฮแลนด์ (เพิ่มเติม)
1. ขับรถมาเอง (ไม่แนะนำสำหรับการเดินทางมาโดยไม่ศึกษาเส้นทางให้ดีเสียก่อน)
2. เดินทางจากเมืองอิโปห์ สามารถซื้อตั๋วรถเมล์ได้ที่ Terminal Amanjaya ใช้เวลาเดินทางน้อยที่สุด นาน 1.40 - 2.00 ชั่วโมง
3. เดินทางจากรัฐปีนัง สามารถซื้อตั๋วรถเมล์ได้ที่บริเวณตึกกอมต้า ใช้เวลาเดินทางนาน 4 - 5 ชั่วโมง
4. เดินทางจากเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์ สามารถซื้อตั๋วรถเมล์ได้ที่ KL Sentral หรือศูนย์จำหน่ายทัวร์ต่างๆในเมือง ใช้เวลาเดินทางนาน 4 - 5 ชั่วโมง
5. เหมารถแท็กซี่มาเอง (ราคาตามแต่ตกลง แต่คิดว่าน่าจะ 200+ ริงกิตขึ้นไป)
* ควรสำรองที่นั่ง และที่พักก่อนออกเดินทางอย่างต่ำ 48 ชั่วโมง หรือ 2 วัน (ยิ่งใกล้ยิ่งแพง)


"เลือกที่จะเที่ยว กิน พักเมืองไหน?"
เป็นคำถามที่ผมให้ความสำคัญมากๆ เพื่อตัดสินใจในการเลือกโรงแรม หรือห้องพักราคาประหยัด นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงความใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ และที่กิน ซึ่งจะสามารถค้นหาเพิ่มเติมได้จาก Google Map ได้ หลักๆแล้วเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมไปมี 3 เมือง คือ ริงเลต ทานา ราตะ และบรินชาง (ผมไล่ตามระดับความสูงจากน้ำทะเล) ซึ่งผมไม่อาจตัดสินในจุดนี้ได้ว่า คุณจะต้องไปพักที่เมืองไหน อย่างไร? เพราะสไตล์การท่องเที่ยวของเราแตกต่างกันตามความต้องการ

หากเอ่ยถึงเมืองที่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว ที่กิน และที่พักมากที่สุด คือ บรินชาง ซึ่งจากประสบการณ์ที่ได้ไปใช้ชีวิตอยู่เมืองบรินชาง เป็นเมืองที่อยู่อยู่สูงที่สุด มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งกลางวัน และกลางคืน เวลากลางคืนจะหนาวมากๆ ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องจองห้องพักที่มีแอร์เลย มันแพงเกินไป และทำให้เปลืองตังค์ เพราะขนาดเวลากลางวันแดดออกก็จริง แต่หนาวมาก ผมไม่ทราบว่าอุณหภูมิเท่าไรโดยเฉลี่ย แต่ประมาณว่า 15 - 20 องศาเซลเซียส ตลอดวัน ส่วนเวลากลางคืนอุณหภูมิอาจลดลงต่ำใกล้ 0 องศาเซลเซียสได้ เนื่องจากตอนเช้าพบแม่คะนึ้ง

สิ่งที่สำคัญนอกจากจะติดเอาเสื้อกันหนาวไปด้วยแล้ว คือ
1. รองเท้าที่มีศักยภาพมาก ถ้าเป็นหูคีบคงไม่ไหว เพราะหญ้าลื่น ดินเป็นน้ำเเฉะ


2. เสื้อกันฝน เพราะเราไม่สามารถคาดเดาสภาพอากาศได้เลย คิดจะตกก็ตก ไม่มีท่าทีอะไรทั้งสิ้น
3. ร่ม เราควรติดร่มไปด้วย เพราะเมืองคาเมรอน ไฮแลนด์อยู่บนภูเขา ของกินแพงมาก และร่มก็แพงมาก ตามลำดับ ให้อนุมานว่าไปเที่ยวตามดอยต่างๆในบ้านเรา เช่น ม่อนเเจ่ม ราคาค่าใช้จ่ายแบบนั้นเลย (ไม่พบของถูกใดๆ)
4. ถุงพลาสติก เป็นเรื่องที่น่าขบคิดมากๆ เพราะบางครั้งถุงพลาสติกค่อนข้างหาได้ยากในเมืองคาเมรอนไฮแลนด์ และเขาจะคิดราคาถุงพลาสติกต่างหากเวลาที่ซื้อของ ให้ติดถุงไปด้วยอย่างน้อยๆ 2 ใบ (อย่างน้อยๆเผื่อใส่เสื้อผ้าที่ใส่แล้วได้)
5. อาหารกระป๋อง ผมเอาติดไปด้วยในกระเป๋าเป้อย่างน้อย 2 กระป๋อง เพราะเวลากลางคืนไม่อยากลุกไปซื้อของไกลจากเตียงที่พักเลย เพราะอากาศหนาวเย็นสุดๆ และพื้นห้องมันเย็นมาก (เย็นเจี๊ยบ) ไว้แก้หิว
6. ยาดม ยาลม ยาชงน้ำเต้าทอง เพราะทางขึ้นภูเขาค่อนข้างคดเคี้ยว เลี้ยวไปเลี้ยวมา มันก็จะทำให้วิงเวียนศีรษะกันได้


7. ผงซักฟอก หากไม่ได้เป็นคนที่คิดอะไรมาก ผมเชื่อว่าหลายๆคนสามารถใส่เสื้อผ้าซ้ำๆ กันอย่างน้อยๆ 2 วันก็ได้ เพราะมันไม่มีเหงื่อออกเลย และถ้าจะซักผ้าจริงๆแล้ว มันไม่สามารถแห้งได้ ซึ่งจะทำให้ผ้าเหม็นอับเป็นอย่างมาก คุณต้องไปร้านซักอบรีด ซึ่งคุณต้องไปซักเองด้วยตัวเอง และค่าใช้จ่ายในการซักผ้า+อบผ้าขั้นต่ำ 20 ริงกิต ถ้าไม่ได้ติดผงซักฟอกไปด้วยราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 30 ริงกิต (จะซัก 1 ตัว หรือซักแค่ 2 ตัวคิดเป็นราคาเหมาทั้งหมด)


ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่ให้คำปรึกษาสำหรับการเดินทางโดยสวัสดิภาพ

เอาตัวรอดในมาเลเซียตามรอยรีวิว ดับอนาจตั่งแต่ต้นทางถึงจุดหมายปลายทางอาจไม่ใช่สิ่งสวยงาม (ร่วมรีวิวและแชร์) ตอนที่ 1
Capture 1 จุดเริ่มต้น..ปีนัง http://pantip.com/topic/35432418

เอาตัวรอดในมาเลเซียตามรอยรีวิว ดับอนาจตั่งแต่ต้นทางถึงจุดหมายปลายทางอาจไม่ใช่สิ่งสวยงาม (ร่วมรีวิวและแชร์) ตอนที่ 2
Capture 2 ในความเป็นอิโปห์เมืองต้องห้ามพลาด  http://pantip.com/topic/35579274

เอาตัวรอดในมาเลเซียตามรอยรีวิว ดับอนาจตั่งแต่ต้นทางถึงจุดหมายปลายทางอาจไม่ใช่สิ่งสวยงาม (ร่วมรีวิวและแชร์) ตอนที่ 3
Capture 3 เคอล..บรินชาง บ้าจริง! http://pantip.com/topic/35754063

ขอบคุณสมาชิกหมายเลข 934214
แก้ไขคำผิด รถเมย์ แก้ไขใหม่ รถเมล์ ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่