ทริปนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เริ่มต้นง่ายๆ จากการที่เรากับเพื่อนสาวต่างกำลังรู้สึกเคร่งเครียด
เหนื่อยล้ากับงานที่ทำอยู่ จึงอยากจะหาโอกาสไปพักผ่อนหย่อนสมองกันสักหน่อย
จึงคุยกันว่าเราต้องหาที่วิวสวยๆ อากาศดีๆ ไปใช้ชีวิตช้าๆ สบายๆ กันสักหน่อยละ
เลือกไปเลือกมา น่านคือคำตอบที่เราบอกกับตัวเองว่า ใช่เลย ที่นี่แหละ
ทริปนี้เราเดินทางกันวันที่ 23-25 กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูฝน หรือที่ฝรั่งเรียกว่า green season
ซึ่งแน่นอน สิ่งที่เราได้สัมผัสคือสายฝนเย็นฉ่ำ อากาศกำลังสบาย ไม่ร้อนจนเกินไป และทุ่งนาเขียวขจี
บอกเลยว่าทริปนี้ประทับใจจนอยากจะมาบอกต่อ พร้อมแล้วไปกันเลย
เราเดินทางโดยนกแอร์ เนื่องจากกดไปเจอตั๋วโปรเข้าพอดี เหมือนจะ 890 บาทมั้ง (ขอภัยที่จำราคาไม้ได้เป๊ะๆ)

ในส่วนของที่พัก เราเลือกจองผ่าน booking.com โดยเลือกที่พักที่ระบุว่า มีบริการับส่งจากสนามบิน
คืนแรกเราเลือกพักที่ หมื่นช้างน่านบูติคโฮเทล ด้วยราคา 800 บาทรวมอาหารเช้า ซึ่งดีงามทั้งห้องพัก อาหาร และบริการ
จากเจ้าของที่พักซึ่งใจดีมาก

เราเดินทางถึงสนามบินน่านนครประมาณ 10.30 ตามเวลาไม่มีดีเลย์ น่านต้อนรับเราด้วยสายฝนทันที่เครื่องบินเข้าสู่น่านฟ้าเมืองน่าน
พอรับกระเป๋าเสร็จ เราโทรหาเจ้าของที่พักให้มารับ รอแป๊บเดียวพี่เขาก็มาพร้อมฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดงกันเลยทีเดียว
ทีแรกเรากะว่าจะฝากกระเป๋าไว้ก่อน เพราะยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน แล้วค่อยโทรเรียกแท็กซี่เข้าเมือง
แต่พี่ไมตรี (เจ้าของที่พัก) บอกเราว่าห้องที่เราจองไว้ว่างแล้ว ให้เข้าพักได้เลย เย้ๆ ดีงามอะไรเช่นนี้
หลังจากพักยืดเส้นยืดสายกันจนเที่ยงกว่า เราก็ลงมาถามพี่เขาเรื่องที่จะหารถรับจ้างเพื่อไปเที่ยวในวันพรุ่งนี้
ซึ่งเป้าหมายของเรามีหลายที่ๆ เป็น a must ของน่าน เช่น หอศิลป์ริมน่าน วัดภูเก็ต ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ ร้านกาแฟไทลื้อ
พี่ไมตรีจึงเสนอ day tour ให้เรากับเพื่อนดู โดยมีที่เที่ยวเพิ่มเติมอีกหลายที่จากลิสต์ที่เราทำมา
ซึ่งพี่เขาจะพาไปเองด้วยรถฟอร์จูนเนอร์คันที่มารับเรากับเพื่อนนั่นแหละ ด้วยความใจง่ายเรากับเพื่อนจึงตกลงไปในสนนราคา 2,500 บาท
เพราะเทียบกับราคาที่จะเหมารถสองแถวหรือแท็กซี่แล้วก็ไม่ต่างกันมากนัก แถมไปกับเจ้าของที่พักเอง อุ่นใจได้
ส่วนบ่ายถึงเย็นวันนี้ เรากับเพื่อนจะไปเดินเที่ยวในเมือง เพื่อชมวัดต่างๆ ที่มีชื่อเสียงในเขตตัวเมืองน่าน
เช่นวัดภูมินทร์ วัดพระธาตุช้างค้ำ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่านที่มีซุ้มลีลาวดีในตำนาน ศาลหลักเมืองน่าน
วัดมิ่งเมือง วัดหัวข่วง วัดศรีพันต้น ซึ่งสถานที่ทั้งหมดนี้ สามารถเดินเที่ยวได้สบาย ๆ เพราะตั้งอยู่ไม่ไกลกันมาก
หรือใครอยากจะเช่าจักรยานปั่นชมเมืองก็มีให้บริการหลายร้าน เดินหาดูกันได้ และก่อนที่เราจะหยิบโทรศัพท์เรียกแท็กซี่
พี่ไมตรีก็บอกว่าจะไปส่งเรากับเพื่อนที่ในเมืองให้เอง สบายละทีนี้
[CR] พักกายพักใจ แล้วจะไปไหน ก็ "น่าน" น่ะสิ
เหนื่อยล้ากับงานที่ทำอยู่ จึงอยากจะหาโอกาสไปพักผ่อนหย่อนสมองกันสักหน่อย
จึงคุยกันว่าเราต้องหาที่วิวสวยๆ อากาศดีๆ ไปใช้ชีวิตช้าๆ สบายๆ กันสักหน่อยละ
เลือกไปเลือกมา น่านคือคำตอบที่เราบอกกับตัวเองว่า ใช่เลย ที่นี่แหละ
ทริปนี้เราเดินทางกันวันที่ 23-25 กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูฝน หรือที่ฝรั่งเรียกว่า green season
ซึ่งแน่นอน สิ่งที่เราได้สัมผัสคือสายฝนเย็นฉ่ำ อากาศกำลังสบาย ไม่ร้อนจนเกินไป และทุ่งนาเขียวขจี
บอกเลยว่าทริปนี้ประทับใจจนอยากจะมาบอกต่อ พร้อมแล้วไปกันเลย
เราเดินทางโดยนกแอร์ เนื่องจากกดไปเจอตั๋วโปรเข้าพอดี เหมือนจะ 890 บาทมั้ง (ขอภัยที่จำราคาไม้ได้เป๊ะๆ)
ในส่วนของที่พัก เราเลือกจองผ่าน booking.com โดยเลือกที่พักที่ระบุว่า มีบริการับส่งจากสนามบิน
คืนแรกเราเลือกพักที่ หมื่นช้างน่านบูติคโฮเทล ด้วยราคา 800 บาทรวมอาหารเช้า ซึ่งดีงามทั้งห้องพัก อาหาร และบริการ
จากเจ้าของที่พักซึ่งใจดีมาก
เราเดินทางถึงสนามบินน่านนครประมาณ 10.30 ตามเวลาไม่มีดีเลย์ น่านต้อนรับเราด้วยสายฝนทันที่เครื่องบินเข้าสู่น่านฟ้าเมืองน่าน
พอรับกระเป๋าเสร็จ เราโทรหาเจ้าของที่พักให้มารับ รอแป๊บเดียวพี่เขาก็มาพร้อมฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดงกันเลยทีเดียว
ทีแรกเรากะว่าจะฝากกระเป๋าไว้ก่อน เพราะยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน แล้วค่อยโทรเรียกแท็กซี่เข้าเมือง
แต่พี่ไมตรี (เจ้าของที่พัก) บอกเราว่าห้องที่เราจองไว้ว่างแล้ว ให้เข้าพักได้เลย เย้ๆ ดีงามอะไรเช่นนี้
หลังจากพักยืดเส้นยืดสายกันจนเที่ยงกว่า เราก็ลงมาถามพี่เขาเรื่องที่จะหารถรับจ้างเพื่อไปเที่ยวในวันพรุ่งนี้
ซึ่งเป้าหมายของเรามีหลายที่ๆ เป็น a must ของน่าน เช่น หอศิลป์ริมน่าน วัดภูเก็ต ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ ร้านกาแฟไทลื้อ
พี่ไมตรีจึงเสนอ day tour ให้เรากับเพื่อนดู โดยมีที่เที่ยวเพิ่มเติมอีกหลายที่จากลิสต์ที่เราทำมา
ซึ่งพี่เขาจะพาไปเองด้วยรถฟอร์จูนเนอร์คันที่มารับเรากับเพื่อนนั่นแหละ ด้วยความใจง่ายเรากับเพื่อนจึงตกลงไปในสนนราคา 2,500 บาท
เพราะเทียบกับราคาที่จะเหมารถสองแถวหรือแท็กซี่แล้วก็ไม่ต่างกันมากนัก แถมไปกับเจ้าของที่พักเอง อุ่นใจได้
ส่วนบ่ายถึงเย็นวันนี้ เรากับเพื่อนจะไปเดินเที่ยวในเมือง เพื่อชมวัดต่างๆ ที่มีชื่อเสียงในเขตตัวเมืองน่าน
เช่นวัดภูมินทร์ วัดพระธาตุช้างค้ำ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่านที่มีซุ้มลีลาวดีในตำนาน ศาลหลักเมืองน่าน
วัดมิ่งเมือง วัดหัวข่วง วัดศรีพันต้น ซึ่งสถานที่ทั้งหมดนี้ สามารถเดินเที่ยวได้สบาย ๆ เพราะตั้งอยู่ไม่ไกลกันมาก
หรือใครอยากจะเช่าจักรยานปั่นชมเมืองก็มีให้บริการหลายร้าน เดินหาดูกันได้ และก่อนที่เราจะหยิบโทรศัพท์เรียกแท็กซี่
พี่ไมตรีก็บอกว่าจะไปส่งเรากับเพื่อนที่ในเมืองให้เอง สบายละทีนี้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น