สวัสดีพี่น้องชาวพันทิปทุกท่านครับสืบเนื่องจากช่วงกลางเดือน พฤษภาคม 59 ผมได้ไปใช้ชีวิตในเมืองมาเก๊ามาเป็นระยะเวลาสั้นๆ จึงอยากจะมาแบ่งปันเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆรวมถึงการเตรียมตัวไปเที่ยวมาเก๊ากันครับ แน่นอนครับผมก็เหมือนคนส่วนใหญ่ทั่วไปถ้าพูดถึง ''มาเก๊า'' สิ่งแรกที่แว้บเข้ามาในหัวก็คงจะนึกถึงบ่อนคาสิโนเป็นสิ่งแรกใช่มั้ยล่ะครับ แต่เมื่อเอาเข้าจริงๆ ผมดันลืมไปเลยว่านี่มันเมืองแห่งคาสิโน เมืองที่มีโรงแรมหรูหราเยอะแยะมากมาย แต่กลับเจอสิ่งที่เรียกว่าความเรียบง่ายสบายๆมากกว่า
http://pantip.com/topic/35280730/comment4 <<< อัพเดทวิธีขอวีซ่าข้ามไปจูไห่ไม่ได้เตรียมตัวมาหรอ?แค่อ่านและเดินตามไป
pantip.com/topic/35280730/comment54 <<<อัพเดทเรื่องรถ Shuttle bus ฟรีของทุกโรงแรมเลยนะครับ 05/02/60
http://pantip.com/topic/35280730/comment36<<< อัพเดท The Parisian Macao เปิดให้บริการแล้นนน
โอเคเรามาเริ่มกันเลย...ก่อนอื่นเราต้องมารู้จักความเป็นมาของเมืองมาเก๊ากันคร่าวๆก่อนแรกเริ่มเดิมทีมาเก๊าเป็นเกาะเล็กๆเกาะนึงของประเทศจีนซึ่งไม่ได้โดดเด่นอะไรเลยเป็นพื้นที่ที่ชาวจีนหนีการรุกรานของมองโกมาด้วยซ้ำ ชื่ออย่างเป็นทางจริงๆออกเสียงว่า ''เอ้าเหมิน'' แบบไทยๆ ถ้าแบบจีนๆก็ ''อ๊อมึ้ง'' ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงล่ะ หลายคนก็คงสงสัยว่าชื่อมาเก๊านี้มาจากไหนชื่อนี้ย้อนไปเมื่อตอนนักสำรวจชาวโปตุเกสจอดเทียบท่าที่เกาะเป็นครั้งแรกในช่วงต้นปี ค.ศ. 1550 และได้พบชาวประมงแถวนั้นเข้า เลยตะโกนถามไปว่า '' ที่นี่คือที่ไหนชื่อว่าอะไร?? '' ประมาณนี้แต่ชาวประมงก็ไม่รู้ พูดไรมาก็ฟังไม่ออกเห็นชี้ๆมา พอดีแถวๆนั้นมีศาลเจ้าที่อยู่ติดกับท่าเรือก็เข้าใจว่าคนกลุ่มนั้นถามว่า ศาลเจ้านี้ชื่ออะไรก็เลยตอบไปว่าที่นี่คือ ศาลเจ้า ''A Maa Gok '' อามากอกๆๆๆ (ปัจจุบันศาลเจ้านี้ก็คือวัดอาม่าที่โด่งดันนั่นเอง) และชาวโปรตุเกสก็ใช้ชื่อนี้แต่ออกเสียงในสำเนียงตัวเองเรื่อยมาจนกลายมาเป็น '' Macau '' ในปัจจุบัน
เอาล่ะเข้าเรื่องการเตรียมตัวกันเลยดีกว่า สำหรับคนไทยที่จะไปฮ่องกง-มาเก๊า ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า สามารถเดินทางไปได้เลยและอยู่ได้ไม่เกิน 30 วันครับ ในส่วนของ pocket money ก็แล้วแต่จะใช้ครับเอาไปเยอะก็หมดเยอะครับเมืองช้อปปิ้งนี่หว่า มาเก๊าใช้เงิน Pataca ตัวย่อ mop 1mop = 3.9 บาทไทยโดยประมาณ สามารถใช้เงินฮ่องกง 1HKD=4.5บาทไทย ได้ในมาเก๊าในอัตรา 1 =1 ยกเว้นเหรียญ10 HKD ไม่สามารถใช้ได้ และในส่วนของการจองตั๋วสายการบินไหนอะไรยังไงก็แล้วแต่ชอบเลยครับ บางคนชอบถูกๆเน้นประหยัด บางคนชอบแพงกว่าชัวร์กว่าสบายใจกว่าก็แล้วแต่ชอบครับ สำหรับผมซึ่งทางเดินทางคนเดียวก็ครับ.....ต้องประหยัดไว้ก่อน ผมจองตั๋วช่วงโปรโมชั่นของสายการบิน HK EXPRESS (ฮ่องกงเอ็กซ์เพลช) ซึ่งบินตรงจากเชียงใหม่-ฮ่องกง ตัวผมอยู่เชียงใหม่ด้วยมันสดวกดีก็เลยเลือกสายการบินนี้ครับ ยิ่งราคาไปกลับแค่ 3พันกว่าบาท+VATต่างๆนาแล้วซึ่งถือว่าถูกจนน่ากังวนซะงั้น แต่ที่นั่งก็ถือว่าโอเคมีที่ให้เหยียดขาได้สบายๆ แต่ติดนิดนึงที่สายการบินนี้คนจีนจะเยอะบนเครื่องจะวุ่นวายช่วงขาขึ้น-ช่วงขาลงเครื่องเล็กน้อยตามประสาพี่จีนเค้าที่ชอบแย่งกันขึ้นแย่งกันลงประจำ
ผมลงที่สนามบินฮ่องกงและนั่งเรือข้ามไปมาเก๊าอีกทีนึงครับ ในส่วนของตั๋วเรือผมจะอธิบายสั้นๆตามภาพนี้นะครับ
วงกลมสีเหลืองคือราคาตั๋ว วงกลมสีน้ำเงินคือเวลาที่คุณควรมาถึงGATE วงกลมสีแดงคือเวลาที่เรือจะออก วงกลมสีเขียวคือจำนวนกระเป๋าที่โหลดจากเครื่องบิน ในกรณีที่โหลดประเป๋ามาจากไทยให้ยื่นตั๋วเครื่องบิน ให้พนักงานขายตั๋วเรือเลยเค้าจะจัดการประเป๋าของเราลงเรือให้เองและเราไปรอรับที่ท่าเรือมาเก๊าได้เลยครับ (ในส่วนการซื้อตั๋วเรือการเดินไปท่าเรือในสนามบินอ่องกงใครกลัวหลงหลังไมค์มาถามได้เลยนะครับไม่ต้องเกรงใจ)
เรื่องต่อมาก็คือ ตม.(ตรวจคนเข้าเมือง)
ตม.มาเก๊านั้นไม่ได้เคร่งเหมือน ตม.ฮ่องกงเท่าไหร่ เห็นว่าเป็น Passport ไทย ไม่นักท่องเที่ยวก็มาเล่นคาสิโนนั่นแหละ ยิ่งไปกันเยอะๆสบายไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ ต่อแถวช่อง visitor ยื่นพาสปอทให้ จนท. และส่งยิ้มไปหนึ่งที สำหรับผม 20 วิ เท่านั้นเอง แต่ต่อแถว 5นาที
และแล้วเราก็ออกมายืนในเมืองมาเก๊ากันแล้วแท่นแท๊นนนนนนนนนน!!!
พอถึงแล้วทำไงต่อ?? หารถไปที่พักสิ ใช่แล้วต่อไปเราจะพูดถึงขนส่งมวลชนกันซักหน่อย ขอเปรียบฮ่องกง-มาเก๊า เป็น กรุงเทพ-เชียงใหม่ได้มั้ย ซึ่งเอาจริงๆ มันคล้ายๆกันแบบนั้นเลย มาเก๊าจะ ไม่มีรถไฟฟ้าใต้ดินไม่มีทางเชื่อมไปโผล่นั่นนู่นนี่แบบฮ่องกง แต่ไม่ต้องน้อยใจหรือกังวลไปว่าจะไม่สดวกเพราะ มาเก๊ามี รถShuttle Busฟรีเยอะแยะเต็มไปหมด จากสนามบินไปโรงแรม จากท่าเรือไปโรงแรม จากแหล่งชอปปิ้งไปโรงแรม ไม่มีเงิน พูดจีนไม่เป็น ก็กลับที่พักได้สบายใจและพนักงานประจำจุดShuttle Busฟรีของทุกโรงแรมจะบริการคุณเสมือนคุณเป็นลูกค้าคนสำคัญเลยทีเดียว
จะอธิบายให้ละเอียดๆขึ้นมาหน่อยเรื่องรถShuttle Busฟรี ถ้าคุณออกสนามบินหรือท่าเรือแล้ว คุณจะเจอป้ายชื่อโรงแรมมากมายตรงทางออก คุณพักโรงแรมไหนเดินตรงไปต่อแถวตามป้ายได้เลย ยืนรอรถซักครู่เค้าจะเรียกให้ขึ้นก็เดินตามๆกันขึ้นรถไปเลยรถจะพาเราไปยังโรงแรมแบบชิวๆกันไป
และก็เหมือนกับตอนมาโรงแรมถ้าคุณอยากจะไปแหล่งชอปปิ้ง แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ก็ออกมาหน้าโรงแรมหาจุดขึ้นShuttle Bus ฟรีจะไปไหนก็ไปยืนช่องที่จะไป ยกตัวอย่าง San ma lo จากจุด Shuttle Busฟรีของโรงแรม Galaxy ก้จะพาเราไปส่งจุดShuttle Bus แถวๆ San ma lo ซึ่งผมใช้บริการบ่อยที่สุดรถจะมาทุกๆ10-15นาทีครับ และขากลับก็จำจุดที่เราลงเอาไว้นะครับ เวลาจะกลับก็กลับมาขึ้นที่จุดเดิม(จุดที่เราลงแถวๆ San ma lo) เพื่อกลับไปโรงแรมครับง่ายใช่มั้ยล่ะ เห็นมั้ยว่าไปกลับยังไม่เสียเงินซักเหรียญเลย
ควรรู้ !!! เซนนาโด้ สแควร์ สถาณที่เที่ยวสุดฮิตคนในพื้นที่จะรู้จักกันในชื่อ San ma lo ออกเสียงว่า ซาน ม๋า โหล่ว ดังนั้นถ้าขึ้นTaxi อย่าบอกว่าไป เซนนาโด้ Taxi บางคันคนขับมีอายุหน่อยจะไม่ รู้จักและจะไม่รับรู้ภาษาอังกฤษ ให้บอกว่า โฮย ซาน ม๋า โหล่ว (ไป เซน นา โด้) แทนน๊ะจ๊ะ
Taxi Meter อันนี้ไม่พูดถึงไม่ได้เลยเป็นสิ่งที่ทำให้หัวใจผมเต้นแรงที่สุดแล้ว
Taxi Macau จะหน้าตาแบบนี้ครับ ดำ-หลังคาขาว ที่เหลือคือป้ายโฆษณา Taxi ก็ไม่มีอะไรมากมันก็คือ taxi meter นั่นเอง ตอนนี้ สตาร์ทที่ 17 mop = ประมาณ 70 บาทไทย Taxi ที่นี่ขับไวดั่ง fast7 เร็วแรงแซงทุกอย่าง ใครกินข้าวอิ่มๆมาแนะนำให้เดินกลับโรงแรมชิวๆเอา ไม่งั้นพอลงรถที่กินมาคงได้เอาออก และที่สำคัญ ก็คือ Taxi บางคันไม่ค่อยจะรับรู้ภาษาอย่างอื่น ถ้าใครพอจะพูดจีนกวางตุ่งหรือจีนกลางได้จะดีมากแต่ถ้าใครพูดไม่ค่อยได้หรือไม่ค่อยมั่นใจการออกเสียงก็ขอให้ศึกษาชื่อเรียกของสถานที่ ที่จะไปให้ดีๆ บางคันถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องมีไล่ลง ต่อมาก็ขอเตือนนิดนึง อารมณ์เหมือนกับคนต่างจังหวัดนั่ง taxi ในกรุงเทพ อย่าพูดภาษาบ้านเกิดในรถให้โจ่งแจ้งนัก แนะนำถ้าไปกันเยอะๆ ให้มีซักคนที่ทำเป็นรู้ทางทำเป็นเคยมาคอยชี้นั่นนี่ให้เพื่อนดูบ่อยๆ ไม่งั้นถ้าไปไหนไกลๆเช่นนั่งจากฝั่งมาเก๊าข้ามเกาะไปไทปาก็ระวังโดนพาไปอ้อมนิดๆหน่อยๆกันด้วย
ทะเลาะกับเมียอารมณ์ไม่ดี บลาๆๆ ที่ควรรู้ไว้อีกอย่างก็คือจะมีช่วงที่แทบไม่มีคันไหนจอดรับเลยก็คือช่วงเปลี่ยนกะนั่นเองเวลาประมาณ 17.00-19.00 น. และเวลายืนรอรถหรือโบกรถ taxi ให้ขึ้นจากทางซ้ายเท่านั้นในกรณีที่ไปกัน 2-3 คน ประตูรถด้านหลังซ้าย คนขับจะเปิดให้เองดีดออกเอง(ในบางจังหวะ) ส่วนถ้าขึ้นกันสี่ห้าคนก็รีบๆวิ่งขึ้นให้ไวที่สุด
ควรรู้อีกข้อ!! การบีบแตรยาวในมาเก๊าถือเป็นเรื่องปรกติ ไม่ได้โมโหคันหน้าหรือจะหาเรื่องกันแต่อย่างใด
เช่น ถอยรถเข้าซองช้าโดนบีบ จอดขนของลงช้าเกินโดนบีบ จอดให้คนลงช้าเกินโดนบีบ จอดรถรับคนถ้าช้าโดนบีบ ซึ่งเป็นการเร่งให้คันนั้นรู้ว่ารถเริ่มติดละนะเพราะเธอนะรู้ตัวมั้ย อิอิ
ขนส่งมวลชนสุดท้ายของเราคือ.....รถเมล์นั่นเองคงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วล่ะสิ
แต่รถเมล์ที่นี่ไม่มีกระเป๋ารถเมล์นะจ๊ะ ก่อนขึ้นควรเตรียมเงินให้พอดีหยอดลงกล่องซ้ายมือตอนขึ้นรถ ราคาแต่ละสายจะไม่เท่ากันราคาภายในเกาะมาเก๊าจะประมาณ 3.20 mop ราคาจะอยู่ราวๆนี้แต่ถ้าข้ามไปเกาะไทปาจะอยู่ที่ 4.20 mop และถ้ายาวไปถึงโคโลวานน่าจะ6 mop การขึ้นรถเมล์สายไหนไปไหน ก็ต้องทำการบ้านมากันดีๆก่อนขึ้นด้วยเพราะภาษาหลักที่ป้ายรถเมล์จะเป็นภาษาโปตุเกส โถ่ยากไปอีกกก ซึ่งตัวผมเองจำได้ไม่หมดแน่นอนเพราะมันมีเยอะมากและผมก็ขึ้นสายเดิมๆที่ใกล้ๆบ้านเท่านั้นไม่ค่อยได้ใช้งานบ่อยนัก
เดินนี่แหละฟินสุด
แต่ถ้าให้ผมแนะนำเวลาเที่ยวในเกาะมาเก๊าอยากให้เลือกที่จะเดินให้มาก เพราะเกาะมาเก๊า มีแค่ 9กิโลเมตรนิดๆ เดินชมเมืองไปชิวๆครับแล้วคุณจะเห็นพื้นทางเดินที่สวยสะดุดตา ตึกโบราณสถาณที่ราชการต่างๆบ้านทรงยุโรปสวยๆเต็มไปหมดที่ปะปนอย่างกลมกลืนกับบ้านของชาวจีนเพลินตามากครับถ่ายรูปรัวๆเลยทีเดียว
[CR] [CR]Review:: เที่ยวมาเก๊าเดี๋ยวเราบอก ตอนที่1.การเตรียมตัว
สวัสดีพี่น้องชาวพันทิปทุกท่านครับสืบเนื่องจากช่วงกลางเดือน พฤษภาคม 59 ผมได้ไปใช้ชีวิตในเมืองมาเก๊ามาเป็นระยะเวลาสั้นๆ จึงอยากจะมาแบ่งปันเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆรวมถึงการเตรียมตัวไปเที่ยวมาเก๊ากันครับ แน่นอนครับผมก็เหมือนคนส่วนใหญ่ทั่วไปถ้าพูดถึง ''มาเก๊า'' สิ่งแรกที่แว้บเข้ามาในหัวก็คงจะนึกถึงบ่อนคาสิโนเป็นสิ่งแรกใช่มั้ยล่ะครับ แต่เมื่อเอาเข้าจริงๆ ผมดันลืมไปเลยว่านี่มันเมืองแห่งคาสิโน เมืองที่มีโรงแรมหรูหราเยอะแยะมากมาย แต่กลับเจอสิ่งที่เรียกว่าความเรียบง่ายสบายๆมากกว่า กระทู้นี้ก็อย่างที่เกริ่นไว้จะเป็นการเสริมเกร็ดความรู้การเตรียมตัวก่อนจะมาเที่ยวมาเก๊า ยังไม่ได้รีวิวสถานที่กินที่เที่ยวแบบเจาะลึก ในส่วนรีวิวที่กิน ที่เที่ยวผมจะทำกระทู้รีวิวแยกไปอีก2กระทู้เพราะค่อนข้างละเอียดพอควร และจะพยามอัพเดทร้านอาหารอร่อยๆถูกปากคนไทย เรื่อยๆส่วนนี้คอยติดตามกันได้ครับ)
****เปิดเพจแล้วนะครับ https://www.facebook.com/thisismacau1/ เพจน่ารักๆเข้ามาพูดคุยสอบถามกันได้นะครับ****
pantip.com/topic/35280730/comment54 <<<อัพเดทเรื่องรถ Shuttle bus ฟรีของทุกโรงแรมเลยนะครับ 05/02/60
http://pantip.com/topic/35280730/comment36<<< อัพเดท The Parisian Macao เปิดให้บริการแล้นนน
โอเคเรามาเริ่มกันเลย...ก่อนอื่นเราต้องมารู้จักความเป็นมาของเมืองมาเก๊ากันคร่าวๆก่อนแรกเริ่มเดิมทีมาเก๊าเป็นเกาะเล็กๆเกาะนึงของประเทศจีนซึ่งไม่ได้โดดเด่นอะไรเลยเป็นพื้นที่ที่ชาวจีนหนีการรุกรานของมองโกมาด้วยซ้ำ ชื่ออย่างเป็นทางจริงๆออกเสียงว่า ''เอ้าเหมิน'' แบบไทยๆ ถ้าแบบจีนๆก็ ''อ๊อมึ้ง'' ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงล่ะ หลายคนก็คงสงสัยว่าชื่อมาเก๊านี้มาจากไหนชื่อนี้ย้อนไปเมื่อตอนนักสำรวจชาวโปตุเกสจอดเทียบท่าที่เกาะเป็นครั้งแรกในช่วงต้นปี ค.ศ. 1550 และได้พบชาวประมงแถวนั้นเข้า เลยตะโกนถามไปว่า '' ที่นี่คือที่ไหนชื่อว่าอะไร?? '' ประมาณนี้แต่ชาวประมงก็ไม่รู้ พูดไรมาก็ฟังไม่ออกเห็นชี้ๆมา พอดีแถวๆนั้นมีศาลเจ้าที่อยู่ติดกับท่าเรือก็เข้าใจว่าคนกลุ่มนั้นถามว่า ศาลเจ้านี้ชื่ออะไรก็เลยตอบไปว่าที่นี่คือ ศาลเจ้า ''A Maa Gok '' อามากอกๆๆๆ (ปัจจุบันศาลเจ้านี้ก็คือวัดอาม่าที่โด่งดันนั่นเอง) และชาวโปรตุเกสก็ใช้ชื่อนี้แต่ออกเสียงในสำเนียงตัวเองเรื่อยมาจนกลายมาเป็น '' Macau '' ในปัจจุบัน
เอาล่ะเข้าเรื่องการเตรียมตัวกันเลยดีกว่า สำหรับคนไทยที่จะไปฮ่องกง-มาเก๊า ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า สามารถเดินทางไปได้เลยและอยู่ได้ไม่เกิน 30 วันครับ ในส่วนของ pocket money ก็แล้วแต่จะใช้ครับเอาไปเยอะก็หมดเยอะครับเมืองช้อปปิ้งนี่หว่า มาเก๊าใช้เงิน Pataca ตัวย่อ mop 1mop = 3.9 บาทไทยโดยประมาณ สามารถใช้เงินฮ่องกง 1HKD=4.5บาทไทย ได้ในมาเก๊าในอัตรา 1 =1 ยกเว้นเหรียญ10 HKD ไม่สามารถใช้ได้ และในส่วนของการจองตั๋วสายการบินไหนอะไรยังไงก็แล้วแต่ชอบเลยครับ บางคนชอบถูกๆเน้นประหยัด บางคนชอบแพงกว่าชัวร์กว่าสบายใจกว่าก็แล้วแต่ชอบครับ สำหรับผมซึ่งทางเดินทางคนเดียวก็ครับ.....ต้องประหยัดไว้ก่อน ผมจองตั๋วช่วงโปรโมชั่นของสายการบิน HK EXPRESS (ฮ่องกงเอ็กซ์เพลช) ซึ่งบินตรงจากเชียงใหม่-ฮ่องกง ตัวผมอยู่เชียงใหม่ด้วยมันสดวกดีก็เลยเลือกสายการบินนี้ครับ ยิ่งราคาไปกลับแค่ 3พันกว่าบาท+VATต่างๆนาแล้วซึ่งถือว่าถูกจนน่ากังวนซะงั้น แต่ที่นั่งก็ถือว่าโอเคมีที่ให้เหยียดขาได้สบายๆ แต่ติดนิดนึงที่สายการบินนี้คนจีนจะเยอะบนเครื่องจะวุ่นวายช่วงขาขึ้น-ช่วงขาลงเครื่องเล็กน้อยตามประสาพี่จีนเค้าที่ชอบแย่งกันขึ้นแย่งกันลงประจำ
ผมลงที่สนามบินฮ่องกงและนั่งเรือข้ามไปมาเก๊าอีกทีนึงครับ ในส่วนของตั๋วเรือผมจะอธิบายสั้นๆตามภาพนี้นะครับ
วงกลมสีเหลืองคือราคาตั๋ว วงกลมสีน้ำเงินคือเวลาที่คุณควรมาถึงGATE วงกลมสีแดงคือเวลาที่เรือจะออก วงกลมสีเขียวคือจำนวนกระเป๋าที่โหลดจากเครื่องบิน ในกรณีที่โหลดประเป๋ามาจากไทยให้ยื่นตั๋วเครื่องบิน ให้พนักงานขายตั๋วเรือเลยเค้าจะจัดการประเป๋าของเราลงเรือให้เองและเราไปรอรับที่ท่าเรือมาเก๊าได้เลยครับ (ในส่วนการซื้อตั๋วเรือการเดินไปท่าเรือในสนามบินอ่องกงใครกลัวหลงหลังไมค์มาถามได้เลยนะครับไม่ต้องเกรงใจ)
เรื่องต่อมาก็คือ ตม.(ตรวจคนเข้าเมือง)
ตม.มาเก๊านั้นไม่ได้เคร่งเหมือน ตม.ฮ่องกงเท่าไหร่ เห็นว่าเป็น Passport ไทย ไม่นักท่องเที่ยวก็มาเล่นคาสิโนนั่นแหละ ยิ่งไปกันเยอะๆสบายไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ ต่อแถวช่อง visitor ยื่นพาสปอทให้ จนท. และส่งยิ้มไปหนึ่งที สำหรับผม 20 วิ เท่านั้นเอง แต่ต่อแถว 5นาที
และแล้วเราก็ออกมายืนในเมืองมาเก๊ากันแล้วแท่นแท๊นนนนนนนนนน!!!
พอถึงแล้วทำไงต่อ?? หารถไปที่พักสิ ใช่แล้วต่อไปเราจะพูดถึงขนส่งมวลชนกันซักหน่อย ขอเปรียบฮ่องกง-มาเก๊า เป็น กรุงเทพ-เชียงใหม่ได้มั้ย ซึ่งเอาจริงๆ มันคล้ายๆกันแบบนั้นเลย มาเก๊าจะ ไม่มีรถไฟฟ้าใต้ดินไม่มีทางเชื่อมไปโผล่นั่นนู่นนี่แบบฮ่องกง แต่ไม่ต้องน้อยใจหรือกังวลไปว่าจะไม่สดวกเพราะ มาเก๊ามี รถShuttle Busฟรีเยอะแยะเต็มไปหมด จากสนามบินไปโรงแรม จากท่าเรือไปโรงแรม จากแหล่งชอปปิ้งไปโรงแรม ไม่มีเงิน พูดจีนไม่เป็น ก็กลับที่พักได้สบายใจและพนักงานประจำจุดShuttle Busฟรีของทุกโรงแรมจะบริการคุณเสมือนคุณเป็นลูกค้าคนสำคัญเลยทีเดียว
จะอธิบายให้ละเอียดๆขึ้นมาหน่อยเรื่องรถShuttle Busฟรี ถ้าคุณออกสนามบินหรือท่าเรือแล้ว คุณจะเจอป้ายชื่อโรงแรมมากมายตรงทางออก คุณพักโรงแรมไหนเดินตรงไปต่อแถวตามป้ายได้เลย ยืนรอรถซักครู่เค้าจะเรียกให้ขึ้นก็เดินตามๆกันขึ้นรถไปเลยรถจะพาเราไปยังโรงแรมแบบชิวๆกันไป
และก็เหมือนกับตอนมาโรงแรมถ้าคุณอยากจะไปแหล่งชอปปิ้ง แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ก็ออกมาหน้าโรงแรมหาจุดขึ้นShuttle Bus ฟรีจะไปไหนก็ไปยืนช่องที่จะไป ยกตัวอย่าง San ma lo จากจุด Shuttle Busฟรีของโรงแรม Galaxy ก้จะพาเราไปส่งจุดShuttle Bus แถวๆ San ma lo ซึ่งผมใช้บริการบ่อยที่สุดรถจะมาทุกๆ10-15นาทีครับ และขากลับก็จำจุดที่เราลงเอาไว้นะครับ เวลาจะกลับก็กลับมาขึ้นที่จุดเดิม(จุดที่เราลงแถวๆ San ma lo) เพื่อกลับไปโรงแรมครับง่ายใช่มั้ยล่ะ เห็นมั้ยว่าไปกลับยังไม่เสียเงินซักเหรียญเลย
ควรรู้ !!! เซนนาโด้ สแควร์ สถาณที่เที่ยวสุดฮิตคนในพื้นที่จะรู้จักกันในชื่อ San ma lo ออกเสียงว่า ซาน ม๋า โหล่ว ดังนั้นถ้าขึ้นTaxi อย่าบอกว่าไป เซนนาโด้ Taxi บางคันคนขับมีอายุหน่อยจะไม่ รู้จักและจะไม่รับรู้ภาษาอังกฤษ ให้บอกว่า โฮย ซาน ม๋า โหล่ว (ไป เซน นา โด้) แทนน๊ะจ๊ะ
Taxi Meter อันนี้ไม่พูดถึงไม่ได้เลยเป็นสิ่งที่ทำให้หัวใจผมเต้นแรงที่สุดแล้ว
Taxi Macau จะหน้าตาแบบนี้ครับ ดำ-หลังคาขาว ที่เหลือคือป้ายโฆษณา Taxi ก็ไม่มีอะไรมากมันก็คือ taxi meter นั่นเอง ตอนนี้ สตาร์ทที่ 17 mop = ประมาณ 70 บาทไทย Taxi ที่นี่ขับไวดั่ง fast7 เร็วแรงแซงทุกอย่าง ใครกินข้าวอิ่มๆมาแนะนำให้เดินกลับโรงแรมชิวๆเอา ไม่งั้นพอลงรถที่กินมาคงได้เอาออก และที่สำคัญ ก็คือ Taxi บางคันไม่ค่อยจะรับรู้ภาษาอย่างอื่น ถ้าใครพอจะพูดจีนกวางตุ่งหรือจีนกลางได้จะดีมากแต่ถ้าใครพูดไม่ค่อยได้หรือไม่ค่อยมั่นใจการออกเสียงก็ขอให้ศึกษาชื่อเรียกของสถานที่ ที่จะไปให้ดีๆ บางคันถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องมีไล่ลง ต่อมาก็ขอเตือนนิดนึง อารมณ์เหมือนกับคนต่างจังหวัดนั่ง taxi ในกรุงเทพ อย่าพูดภาษาบ้านเกิดในรถให้โจ่งแจ้งนัก แนะนำถ้าไปกันเยอะๆ ให้มีซักคนที่ทำเป็นรู้ทางทำเป็นเคยมาคอยชี้นั่นนี่ให้เพื่อนดูบ่อยๆ ไม่งั้นถ้าไปไหนไกลๆเช่นนั่งจากฝั่งมาเก๊าข้ามเกาะไปไทปาก็ระวังโดนพาไปอ้อมนิดๆหน่อยๆกันด้วย
ควรรู้!!! เราสามารถโบก Taxi ได้ทุกจุดในมาเก๊าแต่จะมีบางคันที่อินดี้ไม่ยอมจอดรับ เช่น อยากกลับบ้าน เบื่อขับละ นัดเพื่อนไว้
ทะเลาะกับเมียอารมณ์ไม่ดี บลาๆๆ ที่ควรรู้ไว้อีกอย่างก็คือจะมีช่วงที่แทบไม่มีคันไหนจอดรับเลยก็คือช่วงเปลี่ยนกะนั่นเองเวลาประมาณ 17.00-19.00 น. และเวลายืนรอรถหรือโบกรถ taxi ให้ขึ้นจากทางซ้ายเท่านั้นในกรณีที่ไปกัน 2-3 คน ประตูรถด้านหลังซ้าย คนขับจะเปิดให้เองดีดออกเอง(ในบางจังหวะ) ส่วนถ้าขึ้นกันสี่ห้าคนก็รีบๆวิ่งขึ้นให้ไวที่สุด
ควรรู้อีกข้อ!! การบีบแตรยาวในมาเก๊าถือเป็นเรื่องปรกติ ไม่ได้โมโหคันหน้าหรือจะหาเรื่องกันแต่อย่างใด
เช่น ถอยรถเข้าซองช้าโดนบีบ จอดขนของลงช้าเกินโดนบีบ จอดให้คนลงช้าเกินโดนบีบ จอดรถรับคนถ้าช้าโดนบีบ ซึ่งเป็นการเร่งให้คันนั้นรู้ว่ารถเริ่มติดละนะเพราะเธอนะรู้ตัวมั้ย อิอิ
ขนส่งมวลชนสุดท้ายของเราคือ.....รถเมล์นั่นเองคงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วล่ะสิ
แต่รถเมล์ที่นี่ไม่มีกระเป๋ารถเมล์นะจ๊ะ ก่อนขึ้นควรเตรียมเงินให้พอดีหยอดลงกล่องซ้ายมือตอนขึ้นรถ ราคาแต่ละสายจะไม่เท่ากันราคาภายในเกาะมาเก๊าจะประมาณ 3.20 mop ราคาจะอยู่ราวๆนี้แต่ถ้าข้ามไปเกาะไทปาจะอยู่ที่ 4.20 mop และถ้ายาวไปถึงโคโลวานน่าจะ6 mop การขึ้นรถเมล์สายไหนไปไหน ก็ต้องทำการบ้านมากันดีๆก่อนขึ้นด้วยเพราะภาษาหลักที่ป้ายรถเมล์จะเป็นภาษาโปตุเกส โถ่ยากไปอีกกก ซึ่งตัวผมเองจำได้ไม่หมดแน่นอนเพราะมันมีเยอะมากและผมก็ขึ้นสายเดิมๆที่ใกล้ๆบ้านเท่านั้นไม่ค่อยได้ใช้งานบ่อยนัก
ควรรู้!!!! รถเมล์ทุกคันจะมีเลขบอกที่หน้ารถเช่น A28 ก็อ่านจากป้ายตามป้ายรถเมล์ดูเลยว่า A28 ผ่านที่ๆเราจะไปมั้ยถ้าไม่ผ่านก็ดูคันอื่นเช่น B3 ผ่านมั้ยก็ดูๆไป อาจจะยากสำหรับคนที่ไปครั้งแรกหรือคนที่ไม่ได้เตรียมตัวเรื่องเส้นทางมาก่อน แต่ถ้าศึกษามาดีๆและมีความมั่นใจว่าขึ้นถูกแน่นนอน รถเมล์จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดครับ ถูกสุดประหยัดเงินได้เยอะเลย แต่ยังไงก็ควรไปสัมผัสซักครั้งนะผมว่าบรรยากาศบนรถมันช่างสะท้อนอะไรได้หลายๆอย่าง ในเมืองที่มีแต่บ่อนมีแต่โรงแรม5ดาวเต็มไปหมด แต่บนรถเมล์กลับมีพวกๆป้าๆคุยกับคนขับเรื่องเศรษฐกิจไม่ดีนู่นนั่นนี่ มันเป็นอีกมุมที่เราคงคิดไม่ถึงเลยแหละ
เดินนี่แหละฟินสุด
แต่ถ้าให้ผมแนะนำเวลาเที่ยวในเกาะมาเก๊าอยากให้เลือกที่จะเดินให้มาก เพราะเกาะมาเก๊า มีแค่ 9กิโลเมตรนิดๆ เดินชมเมืองไปชิวๆครับแล้วคุณจะเห็นพื้นทางเดินที่สวยสะดุดตา ตึกโบราณสถาณที่ราชการต่างๆบ้านทรงยุโรปสวยๆเต็มไปหมดที่ปะปนอย่างกลมกลืนกับบ้านของชาวจีนเพลินตามากครับถ่ายรูปรัวๆเลยทีเดียว