ความเดิม
...หากค้นดูกระทู้เก่าของผม ผมไม่นึกเลยว่าจะกลายมาเป็นคนที่มีความเห็นตรงกันข้ามกับวัดพระธรรมกาย ตั้งแต่ครั้งรัฐบาลเก่าที่ให้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานออกคำสั่งให้ครูทั่วประเทศเข้าอบรมธรรมะกับวัดพระธรรมกาย ครั้งนั้นผมไม่ไปเข้าการอบรม และด้วยความแค้นใจไปเปลี่ยนบัตรประชาชนใหม่แบบไม่ระบุศาสนาเพื่อว่าหากผมถูก สพฐ. หรือหน่วยงานเหนือขึ้นไปบังคับไปอบรมกับลัทธิธรรมกายอีกจะได้แสดงหลักฐานว่าผมไม่ได้ระบุศาสนาไว้ในกฎหมาย ผมจึงกลายเป็นคนต่อต้านลัทธิธรรมกายนับตั้งแต่วันนั้นมา และแล้วจนเล่าผมก็หนีไม่พ้น ภายในปีเดียวกัน ผมเจอสาวคบเป็นแฟนกันอย่างจริงจัง หลายคนอาจมีความรู้สึกว่ากระทู้ผมเป็นกระทู้แต่งขึ้นอย่างไม่น่าเป็นจริงไปได้
ในกระทู้...
“เมื่อผมเป็นแฟนกับสาวลัทธิธรรมกาย" (ตอนที่ 1)
http://pantip.com/topic/31958312
“เมื่อผมเป็นแฟนกับสาวลัทธิธรรมกาย ตอนที่ 2”
http://pantip.com/topic/34486064
———————————————————————————————————————————
...ผมเข้าไปรู้จักกับแม่และญาติของแฟนผมมาปีกว่าแล้ว (แต่คบกับเธอมาสองปีกว่า) และเดินเข้าออกบ้านของแฟนผม ขณะที่ทีวีช่อง DMC ก็เปิดอยู่เกือบตลอดทั้งวัน บางครั้งผมก็เหลือบตาไปมอง บริเวณบ้านส่วนหนึ่งก็จัดเป็นบ้านกัลยาณมิตรในส่วนรับแขก ผมคิดอยู่บ่อยๆ ว่า อะไรหนอที่ต้องทำให้ผมต้องเข้ามาอยู่ในแวดล้อมของคนธรรมกาย ทั้งแฟนผมและครอบครัวเครื่อญาติ ต่างก็เป็นคนที่ศรัทธาต่อวัดพระธรรมกาย ส่วนตัวผมก็ดันเป็นคนละขั้วกับลัทธิธรรมกายมาโดยตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเป็นอยู่ในขณะนี้และได้รับก็คือความรักที่มีให้กันระหว่างผมกับแฟนรวมทั้งครอบครังเครือญาติของแฟนที่ดีต่อผม เมื่อผมขับรถไปกับแฟน มีบางครั้งที่เราจะคุยกันเรื่องนี้ ผมระวัง เธอก็ระวังมิ ต่างคนต่างระวังมิให้เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างสองความเชื่อ แม้จะเป็นพุทธด้วยกัน
…ครั้งหนึ่งเร็วๆ นี้เธอพูดถึงเหตุการณ์ของการแต่งตั้งสมเด็จพระสังราชในขณะนี้ (ซึ่งแน่นอนว่ามีสายสัมพันธ์กับวัดธรรมกายอย่างแนบแน่น) ว่าทำไมถึงได้วุ่นวาย ผมสรุปแบบนิ่มนวลว่า “หากมหาเถรสมาคมกางพระวินัย อยู่ในพระวินัยกันจริงๆ คงจะไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายแบบนี้...ฯลฯ ” ผมหมายถึงว่าหากเถรสมาคมเคร่งครัดต่อพระวินัย เช่น ไม่สะสมทรัพย์สมบัติ สะสมเงินทอง ไม่มีบัญชีธนาคาร ฯลฯ ก็จะเป็นที่เคารพของภิกษุอื่นๆ ทั่วประเทศ ...เธอเงียบไป ที่จริงเธออาจจะอยากเถียงต่อ แต่อาจด้วยความเกรงใจกันเธอจึงอาจเงียบก็ได้ (เมื่อผมพบกับแฟนใหม่ๆ เธอยอมรับว่ากลัวผมจะร้องยี้ หากรู้ว่าเธอเป็นคนของวัดพระธรรมกาย อดีตเธอเคยไปถือศิลที่วัดพระธรรมกายมาแล้วเป็นเวลาประมาณสองปี และยังเป็นอาสาสมัครหาคนไปบวชที่วัดพระธรรมกายอีกด้วย)
…เรื่องที่เราคุยต่อมา ก็คือผมสรุปรวมๆ ว่า ความเชื่อในเรื่องของนิพพาน ในปัจจุบันแตกออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือ นิพพานแบบดับไม่เหลือ กลุ่มที่สองคือ มีเมืองนิพพานรออยู่ข้างหน้า หรือนิพพานเป็นอัตตา เช่นวัด....(ไม่ขอเอ่ยนามเดี๋ยวยุ่ง) กับวัดพระธรรมกาย ซึ่งทำให้น่าคิดกับประโยคที่ว่า " สัพเพ ธัมมา อนัตตา" [แต่พระท่านหนึ่งของวัดพระธรรมกายใช้ตรรกะว่า หากสิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตา นิพพานก็ต้องเป็นอัตตา ตรงนี้ผมเคยบอกให้เธอฟังว่า พระท่านหนึ่ง (ที่จริงผมระบุชื่อ แต่ที่ต้องเขียนแบบนี้ไม่อยากพาดพิงใครมากเกิน) ของวัดพระธรรมกายใช้ตรรกะแบบนี้ *ติดตามอ่านใน กรณีธรรมกาย โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)]
…อีกเรื่องหนึ่งที่เราคุยกันก็คือ ในเมื่อพระพุทธเจ้าตรัสว่า สังสารวัฎหาจุดเริ่มไม่ได้ ทำไมจึงมี พระพุทธเจ้าองค์ปฐม เกิดขึ้น เราก็ต่างคนต่างงงกัน ในส่วนนี้เธอกับผมเห็นพ้องต้องกัน
…ผมแสดงจุดยืนเสมอว่า หากผมจะพูด ก็จะขอพูดหรือแย้งเฉพาะในเรื่องพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แย้งในฐานะผู้ศึกษาธรรมด้วยกัน ที่ทางวัดพระธรรมกายได้ขัดแย้งกับคัมภีร์ของเถรวาท หรือพระไตรปิฏก ผมคิดว่า เธอก็ยังยืนยันความคิดที่ว่า “วิชชาธรรมกาย” เป็นคัมภีร์ที่สูญหายไปจากพุทธศาสนา และพระไตรปิฎกอาจมีความไม่สมบูรณ์ อาจมีการตกๆ หล่นๆ แบบที่ผมเคยกล่าวในตอนก่อนๆ
…สิ่งหนึ่งที่เธอบ่นแบบไม่สบายใจกับผมจัดว่าบ่อยก็คือ ญาติของเธอซึ่งเป็นน้า ชอบโจมตีวัดพระธรรมกายโดยส่งรูปตัดต่อล้อเลียนของหลวงพ่อธัมมชโยมาให้ดู และไม่ค่อยสบายใจที่มีคนเรียกหลวงพ่อธัมมชโยว่า ธัมมี่ การที่ผมมารับรู้จุดนี้ ทำให้ผมรู้เลยทันทีว่า
....”หากจะแสดงความขัดแย้งทางความคิดกับทางวัดพระธรรมกาย หากแสดงทีท่าการเหน็บแนม กระแนะกระแหน ส่อเสียด ฯลฯ สไตล์แบบนี้กลับจะยิ่งทำให้มีผู้คนยิ่งสงสารเห็นใจหลวงพ่อธัมมชโย หรือต่อวัดพระธรรมกาย เรียกว่า เรียกคะแนนจากคนขี้สงสาร จากคนดีๆ (แต่อาจจะยังศึกษาไม่ทั่วถึงพอที่จะรู้ว่าลัทธิธรรมกายบิดเบือนพุทธไปแบบไหน) ได้อีกเยอะล่ะครับ”
“เมื่อผมเป็นแฟนกับสาวลัทธิธรรมกาย ตอนที่ 3 "
...หากค้นดูกระทู้เก่าของผม ผมไม่นึกเลยว่าจะกลายมาเป็นคนที่มีความเห็นตรงกันข้ามกับวัดพระธรรมกาย ตั้งแต่ครั้งรัฐบาลเก่าที่ให้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานออกคำสั่งให้ครูทั่วประเทศเข้าอบรมธรรมะกับวัดพระธรรมกาย ครั้งนั้นผมไม่ไปเข้าการอบรม และด้วยความแค้นใจไปเปลี่ยนบัตรประชาชนใหม่แบบไม่ระบุศาสนาเพื่อว่าหากผมถูก สพฐ. หรือหน่วยงานเหนือขึ้นไปบังคับไปอบรมกับลัทธิธรรมกายอีกจะได้แสดงหลักฐานว่าผมไม่ได้ระบุศาสนาไว้ในกฎหมาย ผมจึงกลายเป็นคนต่อต้านลัทธิธรรมกายนับตั้งแต่วันนั้นมา และแล้วจนเล่าผมก็หนีไม่พ้น ภายในปีเดียวกัน ผมเจอสาวคบเป็นแฟนกันอย่างจริงจัง หลายคนอาจมีความรู้สึกว่ากระทู้ผมเป็นกระทู้แต่งขึ้นอย่างไม่น่าเป็นจริงไปได้
ในกระทู้...
“เมื่อผมเป็นแฟนกับสาวลัทธิธรรมกาย" (ตอนที่ 1)
http://pantip.com/topic/31958312
“เมื่อผมเป็นแฟนกับสาวลัทธิธรรมกาย ตอนที่ 2”
http://pantip.com/topic/34486064
———————————————————————————————————————————
...ผมเข้าไปรู้จักกับแม่และญาติของแฟนผมมาปีกว่าแล้ว (แต่คบกับเธอมาสองปีกว่า) และเดินเข้าออกบ้านของแฟนผม ขณะที่ทีวีช่อง DMC ก็เปิดอยู่เกือบตลอดทั้งวัน บางครั้งผมก็เหลือบตาไปมอง บริเวณบ้านส่วนหนึ่งก็จัดเป็นบ้านกัลยาณมิตรในส่วนรับแขก ผมคิดอยู่บ่อยๆ ว่า อะไรหนอที่ต้องทำให้ผมต้องเข้ามาอยู่ในแวดล้อมของคนธรรมกาย ทั้งแฟนผมและครอบครัวเครื่อญาติ ต่างก็เป็นคนที่ศรัทธาต่อวัดพระธรรมกาย ส่วนตัวผมก็ดันเป็นคนละขั้วกับลัทธิธรรมกายมาโดยตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเป็นอยู่ในขณะนี้และได้รับก็คือความรักที่มีให้กันระหว่างผมกับแฟนรวมทั้งครอบครังเครือญาติของแฟนที่ดีต่อผม เมื่อผมขับรถไปกับแฟน มีบางครั้งที่เราจะคุยกันเรื่องนี้ ผมระวัง เธอก็ระวังมิ ต่างคนต่างระวังมิให้เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างสองความเชื่อ แม้จะเป็นพุทธด้วยกัน
…ครั้งหนึ่งเร็วๆ นี้เธอพูดถึงเหตุการณ์ของการแต่งตั้งสมเด็จพระสังราชในขณะนี้ (ซึ่งแน่นอนว่ามีสายสัมพันธ์กับวัดธรรมกายอย่างแนบแน่น) ว่าทำไมถึงได้วุ่นวาย ผมสรุปแบบนิ่มนวลว่า “หากมหาเถรสมาคมกางพระวินัย อยู่ในพระวินัยกันจริงๆ คงจะไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายแบบนี้...ฯลฯ ” ผมหมายถึงว่าหากเถรสมาคมเคร่งครัดต่อพระวินัย เช่น ไม่สะสมทรัพย์สมบัติ สะสมเงินทอง ไม่มีบัญชีธนาคาร ฯลฯ ก็จะเป็นที่เคารพของภิกษุอื่นๆ ทั่วประเทศ ...เธอเงียบไป ที่จริงเธออาจจะอยากเถียงต่อ แต่อาจด้วยความเกรงใจกันเธอจึงอาจเงียบก็ได้ (เมื่อผมพบกับแฟนใหม่ๆ เธอยอมรับว่ากลัวผมจะร้องยี้ หากรู้ว่าเธอเป็นคนของวัดพระธรรมกาย อดีตเธอเคยไปถือศิลที่วัดพระธรรมกายมาแล้วเป็นเวลาประมาณสองปี และยังเป็นอาสาสมัครหาคนไปบวชที่วัดพระธรรมกายอีกด้วย)
…เรื่องที่เราคุยต่อมา ก็คือผมสรุปรวมๆ ว่า ความเชื่อในเรื่องของนิพพาน ในปัจจุบันแตกออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือ นิพพานแบบดับไม่เหลือ กลุ่มที่สองคือ มีเมืองนิพพานรออยู่ข้างหน้า หรือนิพพานเป็นอัตตา เช่นวัด....(ไม่ขอเอ่ยนามเดี๋ยวยุ่ง) กับวัดพระธรรมกาย ซึ่งทำให้น่าคิดกับประโยคที่ว่า " สัพเพ ธัมมา อนัตตา" [แต่พระท่านหนึ่งของวัดพระธรรมกายใช้ตรรกะว่า หากสิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตา นิพพานก็ต้องเป็นอัตตา ตรงนี้ผมเคยบอกให้เธอฟังว่า พระท่านหนึ่ง (ที่จริงผมระบุชื่อ แต่ที่ต้องเขียนแบบนี้ไม่อยากพาดพิงใครมากเกิน) ของวัดพระธรรมกายใช้ตรรกะแบบนี้ *ติดตามอ่านใน กรณีธรรมกาย โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)]
…อีกเรื่องหนึ่งที่เราคุยกันก็คือ ในเมื่อพระพุทธเจ้าตรัสว่า สังสารวัฎหาจุดเริ่มไม่ได้ ทำไมจึงมี พระพุทธเจ้าองค์ปฐม เกิดขึ้น เราก็ต่างคนต่างงงกัน ในส่วนนี้เธอกับผมเห็นพ้องต้องกัน
…ผมแสดงจุดยืนเสมอว่า หากผมจะพูด ก็จะขอพูดหรือแย้งเฉพาะในเรื่องพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แย้งในฐานะผู้ศึกษาธรรมด้วยกัน ที่ทางวัดพระธรรมกายได้ขัดแย้งกับคัมภีร์ของเถรวาท หรือพระไตรปิฏก ผมคิดว่า เธอก็ยังยืนยันความคิดที่ว่า “วิชชาธรรมกาย” เป็นคัมภีร์ที่สูญหายไปจากพุทธศาสนา และพระไตรปิฎกอาจมีความไม่สมบูรณ์ อาจมีการตกๆ หล่นๆ แบบที่ผมเคยกล่าวในตอนก่อนๆ
…สิ่งหนึ่งที่เธอบ่นแบบไม่สบายใจกับผมจัดว่าบ่อยก็คือ ญาติของเธอซึ่งเป็นน้า ชอบโจมตีวัดพระธรรมกายโดยส่งรูปตัดต่อล้อเลียนของหลวงพ่อธัมมชโยมาให้ดู และไม่ค่อยสบายใจที่มีคนเรียกหลวงพ่อธัมมชโยว่า ธัมมี่ การที่ผมมารับรู้จุดนี้ ทำให้ผมรู้เลยทันทีว่า
....”หากจะแสดงความขัดแย้งทางความคิดกับทางวัดพระธรรมกาย หากแสดงทีท่าการเหน็บแนม กระแนะกระแหน ส่อเสียด ฯลฯ สไตล์แบบนี้กลับจะยิ่งทำให้มีผู้คนยิ่งสงสารเห็นใจหลวงพ่อธัมมชโย หรือต่อวัดพระธรรมกาย เรียกว่า เรียกคะแนนจากคนขี้สงสาร จากคนดีๆ (แต่อาจจะยังศึกษาไม่ทั่วถึงพอที่จะรู้ว่าลัทธิธรรมกายบิดเบือนพุทธไปแบบไหน) ได้อีกเยอะล่ะครับ”