แบกเป้ตะลุย 4 เมือง 8 วัน (คุณหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่า) ตอนที่ 2
http://pantip.com/topic/34398954
แบกเป้ตะลุย 4 เมือง 8 วัน (คุณหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่า) ตอนที่ 3
http://pantip.com/topic/34408042
แบกเป้ตะลุย 4 เมือง 8 วัน (คุณหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่า) ตอนที่ 4
http://pantip.com/topic/34413680

เดินทางสู่ แชงกรีล่า กับ มิตรภาพไร้พรมแดน

แชงกรีล่า หรือ "จงเตี้ยน"คงเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของนักเดินทางทั่วโลก ที่อยากจะไปเห็นด้วยตาตัวเอง ว่ามันงดงามสมคำล่ำลือหรือไม่
เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่หลงรักแชงกรีล่า และคิดเสมอว่าสักวันหนึ่งจะต้องไปเยือนให้ได้

คุนหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่า เส้นทางธรรมดา ๆ ที่สร้างความประทับใจให้ กับแบ็คแพ็คมือใหม่จากลุ่มน้ำชี ครั้งแรกบนแผ่นดินมังกร
การเดินทางที่พาเราก้าวข้ามมายาคติ ในสิ่งที่คิดกับสิ่งที่เป็น หากรีวิวนี้จะยังพอมีความดีงามอยู่บ้าง ขอส่งผ่านมันไปให้เจ้าของกระทู้
อย่าง Amata_navama, puk ka bee, คุณดอกไม้ทะเลทราย, เจ้าของกระทู้ แชงกรีล่าตามหาฝัน, เที่ยวแบบอาหยีๆคุนหมิง ต้าหลี่ by mawanta, คุณneju2 และอื่นที่ไม่ได้กล่าวถึง ที่เป็นแรงบันดาลใจและข้อมูลในการเดินทางครั้งนี้ จขกท ขออนุญาตแทนตัวเองว่าเรา
รีวิวนี้ไม่ได้เน้นข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์ หรือวิธีการเดินทางอย่างละเอียดแต่อย่างใด ที่สำคัญไม่รับประกันความถูกต้องใดๆทั้งสิ้น แค่อัพเดทสถานการณ์ในปัจจุบัน เผื่ออาจเป็นประโยชน์ให้คนที่กำลังจะเดินทางไปในเร็ววันนี้
DAY 1 สนามบินนานาชาติฉางสุ่ย คุณหมิง

บรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนสุดๆ พื้นรันเวย์เหมือนถูกทำความสะอาดต้อนรับการเดินทางของเรา เฮ้ย ไม่ใช่ มรสุมเข้าต่างหากไม่เห็นแสงอาทิตย์ หรือฟ้าสีครามที่ใฝ่หาแม้แต่น้อย

และแล้วงานเข้าเต็มๆ กับการหารถเข้าเมือง เพราะบางรีวิวบอกมีรถบัสตรงจากสนามบินไปต้าหลี่ได้เลย ด้วยความสามารถอันน้อยนิด
เราจึงพบแต่ความว่างเปล่า 555 แผนจึงถูกเปลี่ยนเป็นเดินทางเข้าเมืองเพื่อไปขึ้นรถที่สถานีรถบัส สายตะวันตก ตามข้อมูลของนักเดินทางรุ่นพี่ ด้วยรถ Shutter Bus No.5 หากไปสถานีรถไฟ นั่งสาย 2 ขึ้นรถระหว่างประตู 3 กับ 4 ค่าตั๋วรถบัสราคา 25 หยวน

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

ที่สถานีรถบัส west bus station สายตะวันตก แทบจะหาคนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย เจอเคาน์เตอร์ขายตั๋ว 10 กว่าตู้!!!!!
เราถามตี๋น้อยด้วยภาษามือ ได้ความว่า "ลื้อเลือกเอาที่สบายใจเลย" เราจึงจัดไปช่อง 8 Rs เฮ่ย! ไม่ใช่ ไปที่มันเข้าคิวสั้นสุดนี่แหละ

นี่คือ โฉมหน้ารถที่จะพาเราไปต้าหลี่ สื่อสารกันอยู่นานกว่าจะรู้เรื่องว่าไปถึงต้าหลี่รึเปล่า? บรรยากาศระหว่างทางก็สวย แต่ถ่ายลำบากถ้าเทียบกับนั่งรถไฟเราว่า รถไฟดีกว่าเยอะ นั่งมาได้2-3 ชั่วโมงถึงจุดพักรถ ซึ่งถือว่าดีมาก มีอาหารขาย มีห้องน้ำที่ได้มาตรฐาน ซึ่งดีกว่าที่คิดไว้มากๆ

เดินทางต่ออีกเกือบ 2 ชั่วโมง ก็ถึงเมืองต้าหลี่แล้ว ซึ่งกล้าพูดไว้เต็มปากว่าถึงจริงๆ
ตามคำบอกเล่าของนักเดินทาง เมื่อคุณถึงต้าลี่คุณจะเจอ การต้อนรับจากบรรดาพี่ๆ แท็กซี่ ที่มองเห็นว่าเราเป็นประหนึ่งซุปตาร์จากฮอลลีวู๊ด ต่างเข้ามารุมล้อม พลางกล่าวคาถาดูดลูกค้าเป็นภาษาจีน ที่ไม่ต้องการคำตอบ หรือ ความเข้าใจใดๆจากผู้ฟัง เราบุ๊คที่พักไว้ที่เมืองเก่า จึงได้แค่ No I want to go to dali old town. พี่ๆ Taxi เสนอค่าเสียหายมา 100 หยวน! หนีสิ!! จะยืนรออะไร แต่เหมือนพรหมถูกลิขิตไว้แล้ว จะหนียังไงก็ไม่พ้น ฝนก็ดันมาตกปรอยๆยังกับมิวสิควีดีโอ ไม่มีเวลาให้คิดมากนัก พี่ที่ตื้อเรามาต้น คงจะห็นใจ ปิดการเจรจาด้วย ราคา20 หยวน เฮ้ย!! นี่มันลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ได้ขนาดนั้นเชียว เมื่อสมประโยชน์กัน การทำธุระกรรมจึงเกิดขึ้น OK ไปก็ไป (เป็นช่วงที่ไม่มีภาพประกอบเลย เพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับการเดินทาง)
แท็กซี่คันเล็ก พาเราลัดเลาะไปตามตรอก ซอย มืดๆเปลี่ยวๆ บรรยากาศหนังฆาตรกรรมชัดๆ ถนนวกไปวนมา ไฟทางนี่แทบจะมืดสนิท
ไม่มีความน่าไว้วางใจใดๆเลย ให้ตายเถอะ ทุกอย่างผ่านไปช้าๆ อย่างระทึก นี่จะพาเราไปไหนฟะ หาป้ายบอกทาง Dali old town ไม่เจอเลย อยากคุยทำลายบรรยากาศก็ไม่รู้จะใช้ภาษาอะไร (อังกฤษก็อ่อนแอ ภาษาจีนยิ่งไม่ได้เลย) และแล้วแท็กซี่ก็เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าสถานที่
ที่ดูคล้าย โรงแรม พี่คนขับแท็กซี่รีบยกกระเป๋าไปยังรถเมล์เก่าๆ ที่เปิดไฟริบหรี่รอในมุมมืด (อารมณ์ประมาณ นักล่าฝันบ้าน AF คุณไม่ได้
ไปต่อ เหมือนถูกทิ้งไว้กลางทาง) คนในรถก็ไม่สนใจอะไรกับคนแปลกหน้าสักนิด ดูจากสภาพแวดล้อมแล้ว คำตอบมันชัดว่า เราต้องนั่งรถเมล์ไปกันเอง ได้แต่ภาวนาว่าขอให้ปลายทางคือเมืองเก่าต้าหลี่ แล้วรถเมล์ที่ใกล้ปลดระวาง ก็พาเรามาถึงเมืองเก่าด้วยราคา 3 หยวน ต่อคน
แม้จะรู้สึกว่านานไปบ้าง แต่ก็คุ้มกับเงินในกระเป๋า ฮ่าๆๆ

ถึงเมืองเก่า ประมาณสามทุ่ม เรา walk in หาที่พักหน้างาน เนื่องจากตอนแรก แผนการเดินทางของเราคืนนี้คือนอนบนรถไฟ
แต่สุดท้าย แผนก็คือสิ่งที่สามารถปรับและยืดหยุ่นตามสถานการณ์ได้ ฮ่าๆ เรารีบมุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่บุ๊คกิ้งเอาไว้ เพื่อจองห้องพัก แต่คืนนี้ห้องเต็ม ที่เหลือก็มีแต่คืนละ 2000บาท up ซึ่งไม่ต้องคิดเราไม่เอาแน่นอน แต่ไหนๆก็มาแล้ว ช่วยหาที่พักคืนนี้ให้เราหน่อยได้มั้ย..สาวน้อยชาวจีนเจ้าหน้าที่ของโรงแรม "ไชน่า โอลด์ สตอรี่ อินน์ ออฟ ต้าหลี่" คุยโทรศัพท์ต่อรองราคาซักพักจึงพาเรามา ที่พักอีกที่ ซึ่งเราซึ้งใจมาก
ที่เธอเดินมาส่งถึงที่ ความผิดพลาดอีกอย่างนึงของเราคือการคอนเฟิร์มการเข้าพักกับเกตเฮาส์ก่อนไป 1 อาทิตย์ ตลอดทั้งทริป ที่พักเรามีการเปลี่ยนแปลงตลอด ได้ตามที่บุคกิ้งไว้แค่ 2 คืนเท่านั้น นี่คือที่พักสำหรับค่ำคืนแรกของเราในราคา 100 หยวน ภายใต้เงื่อนไขห้ามนอนเตียงใหญ่

เมื่อเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ลำดับต่อไปคือ หาของกิน ว้าววว น่ากินทั้งนั้น

ไม่ใช่พ่อค้านะที่น่ากิน แต่เป็นอันนี้

อาหารมื้อค่ำที่ต้าหลี่ มันถอดผสมเครื่องปรุงแบบจีน และ มาม่าจีนแบบสด ระหว่างรออาหารจากแม่ค้าชาวต้าหลี่ นี่ต้องกินอาหารอิตาเลี่ยนแอนด์มันพวกนี้จริงๆเหรอว่ะ คงจะนินทาแรงไปหน่อย Hey!! You from Thailand? เสียงใครไม่รู้ ถึงกับต้องหันหาตามเจ้าของเสียง เพราะตั้งแต่ลงเครื่องจากสนามบินชางสุ่ย เหมือนเราไม่ได้เจอพี่น้องจากลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาที่คุ้นชินกับการบริโภคผัดกระเพรา ส้มตำไก่ย่างเลยซักคน Yes I come from Thailand. Where you come from? บทสนทนา อังกฤษ ปนไทย ผสมการใช้มือ (ซึ่งมีประโยชน์มากขอบอก) ได้ใจความสำคัญว่า น้องมาจากพม่า อายุ 16 เธอมาเที่ยว เราได้แต่ชื่นชมในใจกับเด็ก 2 คน ที่ได้เดินทาง ใช้ชีวิตในช่วงอายุขนาดนี้ ในขณะที่เราต้องใช้เวลานานนับทศวรรษถึงก้าวข้ามความกลัวต่างๆมาเปิดโลกที่นี่ พูดคุยกันนิดหน่อยเราก็จากกันเพราะมันเริ่มดึกแล้ว ไม่อยากคิดว่าประวัติศาสตร์ บ้านเมืองเราเคยต่อสู้กันมา เราถูกสอนมาตลอดว่าพม่าคือผู้รุกรานแผ่นดินไทย เราเป็นศัตรูกัน ฯลฯ แต่สัมผัสกับน้องๆจากพม่า เราไม่รู้สึกถึงความอคติใดๆเลย กลับรู้สึกว่าน้องๆดีใจที่เจอเรา เหมือนพวกเธอเจอพี่ๆ ที่ไม่ได้พบกันมานาน ขอบคุณการเดินทางที่พาเราข้ามประวัติศาสตร์อันแสนเศร้าของทั้ง 2 แผ่นดิน มาพบกัน
DAY 2 เมืองต้าหลี่
เมื่อเดินออกมาถึงปากซอย จึงรู้ว่าโซนที่เราพักเต็มไปด้วยเกสเฮาส์ มีพื้นที่ร้าง แปลงผัก และร้านอาหารเพียบ

เห็นถนนโล่งแบบนี้ควรเดินอย่างระมัดระวังไว้ เพราะที่นี่ การขับขี่รถ skill driver ระดับ fast7 กันทีเดียว คือซอยเล็กๆ
ไม่รู้พี่ๆจะรีบไปไหน คนเดินหาทางหลบเอาเอง เป้าหมายแรกเช้านี้ที่ไปคือกำแพงเมืองต้าหลี่

กำแพงเมืองเก่าที่สร้างไว้ล้อมรอบหมู่บ้านในสมัยก่อนอย่างมั่นคง ปัจจุบันผันตัวเองเป็นแหล่งชอปปิ้งแบบ Slow life
เหมือนสายน้ำที่ไหลผ่านเมือง ให้แต่ละร้านได้ใช้สอย

เมืองต้าหลี่ แบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือเมืองเก่า กับเมืองใหม่ โดยมีทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ชื่อเอ๋อไห่คั่นกลาง มีประวัติศาสตร์มานานนับพัน
เป็นราชธานีของอาณาจักรน่านเจ้าที่เราเคยได้ยิน สามารถซื้อทัวร์รายวันได้ ซึ่งจะพาเราชมเที่ยวรอบๆทะเลสาบ

ช่วงบ่ายเราว่าจะไป Three pagoda tower แต่เมื่อถามราคาถึงกับเงิบ 80 หยวน เราจึงตัดสินใจเดินเล่นรอบกำแพงเมือง แต่เหมือนตอนนั้นมีพลังงานบางอย่างพาเราจนถึงที่นี่
เจดีย์สามองค์ที่คนไทยคุ้นชิน เอ่ยนามจริงๆ เรียกแบบคนตะวันตกว่า Tree pagoda tower เป็นแลนมาร์กที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกให้มาชื่มชม ด้วยภาษีบำรุงเจดีย์ 121 cyn ต่อคน (แทบกระอักเลือด เอา 6 คูณไปเลย)จ่ายทั้งทีก็ต้องถ่ายให้คุ้ม
[CR] แบกเป้ตะลุย 4 เมือง 8 วัน (คุณหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่า)
แบกเป้ตะลุย 4 เมือง 8 วัน (คุณหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่า) ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/34408042
แบกเป้ตะลุย 4 เมือง 8 วัน (คุณหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่า) ตอนที่ 4 http://pantip.com/topic/34413680
เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่หลงรักแชงกรีล่า และคิดเสมอว่าสักวันหนึ่งจะต้องไปเยือนให้ได้
คุนหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่า เส้นทางธรรมดา ๆ ที่สร้างความประทับใจให้ กับแบ็คแพ็คมือใหม่จากลุ่มน้ำชี ครั้งแรกบนแผ่นดินมังกร
การเดินทางที่พาเราก้าวข้ามมายาคติ ในสิ่งที่คิดกับสิ่งที่เป็น หากรีวิวนี้จะยังพอมีความดีงามอยู่บ้าง ขอส่งผ่านมันไปให้เจ้าของกระทู้
อย่าง Amata_navama, puk ka bee, คุณดอกไม้ทะเลทราย, เจ้าของกระทู้ แชงกรีล่าตามหาฝัน, เที่ยวแบบอาหยีๆคุนหมิง ต้าหลี่ by mawanta, คุณneju2 และอื่นที่ไม่ได้กล่าวถึง ที่เป็นแรงบันดาลใจและข้อมูลในการเดินทางครั้งนี้ จขกท ขออนุญาตแทนตัวเองว่าเรา
รีวิวนี้ไม่ได้เน้นข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์ หรือวิธีการเดินทางอย่างละเอียดแต่อย่างใด ที่สำคัญไม่รับประกันความถูกต้องใดๆทั้งสิ้น แค่อัพเดทสถานการณ์ในปัจจุบัน เผื่ออาจเป็นประโยชน์ให้คนที่กำลังจะเดินทางไปในเร็ววันนี้
DAY 1 สนามบินนานาชาติฉางสุ่ย คุณหมิง
บรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนสุดๆ พื้นรันเวย์เหมือนถูกทำความสะอาดต้อนรับการเดินทางของเรา เฮ้ย ไม่ใช่ มรสุมเข้าต่างหากไม่เห็นแสงอาทิตย์ หรือฟ้าสีครามที่ใฝ่หาแม้แต่น้อย
และแล้วงานเข้าเต็มๆ กับการหารถเข้าเมือง เพราะบางรีวิวบอกมีรถบัสตรงจากสนามบินไปต้าหลี่ได้เลย ด้วยความสามารถอันน้อยนิด
เราจึงพบแต่ความว่างเปล่า 555 แผนจึงถูกเปลี่ยนเป็นเดินทางเข้าเมืองเพื่อไปขึ้นรถที่สถานีรถบัส สายตะวันตก ตามข้อมูลของนักเดินทางรุ่นพี่ ด้วยรถ Shutter Bus No.5 หากไปสถานีรถไฟ นั่งสาย 2 ขึ้นรถระหว่างประตู 3 กับ 4 ค่าตั๋วรถบัสราคา 25 หยวน
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
ที่สถานีรถบัส west bus station สายตะวันตก แทบจะหาคนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย เจอเคาน์เตอร์ขายตั๋ว 10 กว่าตู้!!!!!
เราถามตี๋น้อยด้วยภาษามือ ได้ความว่า "ลื้อเลือกเอาที่สบายใจเลย" เราจึงจัดไปช่อง 8 Rs เฮ่ย! ไม่ใช่ ไปที่มันเข้าคิวสั้นสุดนี่แหละ
นี่คือ โฉมหน้ารถที่จะพาเราไปต้าหลี่ สื่อสารกันอยู่นานกว่าจะรู้เรื่องว่าไปถึงต้าหลี่รึเปล่า? บรรยากาศระหว่างทางก็สวย แต่ถ่ายลำบากถ้าเทียบกับนั่งรถไฟเราว่า รถไฟดีกว่าเยอะ นั่งมาได้2-3 ชั่วโมงถึงจุดพักรถ ซึ่งถือว่าดีมาก มีอาหารขาย มีห้องน้ำที่ได้มาตรฐาน ซึ่งดีกว่าที่คิดไว้มากๆ
เดินทางต่ออีกเกือบ 2 ชั่วโมง ก็ถึงเมืองต้าหลี่แล้ว ซึ่งกล้าพูดไว้เต็มปากว่าถึงจริงๆ
ตามคำบอกเล่าของนักเดินทาง เมื่อคุณถึงต้าลี่คุณจะเจอ การต้อนรับจากบรรดาพี่ๆ แท็กซี่ ที่มองเห็นว่าเราเป็นประหนึ่งซุปตาร์จากฮอลลีวู๊ด ต่างเข้ามารุมล้อม พลางกล่าวคาถาดูดลูกค้าเป็นภาษาจีน ที่ไม่ต้องการคำตอบ หรือ ความเข้าใจใดๆจากผู้ฟัง เราบุ๊คที่พักไว้ที่เมืองเก่า จึงได้แค่ No I want to go to dali old town. พี่ๆ Taxi เสนอค่าเสียหายมา 100 หยวน! หนีสิ!! จะยืนรออะไร แต่เหมือนพรหมถูกลิขิตไว้แล้ว จะหนียังไงก็ไม่พ้น ฝนก็ดันมาตกปรอยๆยังกับมิวสิควีดีโอ ไม่มีเวลาให้คิดมากนัก พี่ที่ตื้อเรามาต้น คงจะห็นใจ ปิดการเจรจาด้วย ราคา20 หยวน เฮ้ย!! นี่มันลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ได้ขนาดนั้นเชียว เมื่อสมประโยชน์กัน การทำธุระกรรมจึงเกิดขึ้น OK ไปก็ไป (เป็นช่วงที่ไม่มีภาพประกอบเลย เพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับการเดินทาง)
แท็กซี่คันเล็ก พาเราลัดเลาะไปตามตรอก ซอย มืดๆเปลี่ยวๆ บรรยากาศหนังฆาตรกรรมชัดๆ ถนนวกไปวนมา ไฟทางนี่แทบจะมืดสนิท
ไม่มีความน่าไว้วางใจใดๆเลย ให้ตายเถอะ ทุกอย่างผ่านไปช้าๆ อย่างระทึก นี่จะพาเราไปไหนฟะ หาป้ายบอกทาง Dali old town ไม่เจอเลย อยากคุยทำลายบรรยากาศก็ไม่รู้จะใช้ภาษาอะไร (อังกฤษก็อ่อนแอ ภาษาจีนยิ่งไม่ได้เลย) และแล้วแท็กซี่ก็เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าสถานที่
ที่ดูคล้าย โรงแรม พี่คนขับแท็กซี่รีบยกกระเป๋าไปยังรถเมล์เก่าๆ ที่เปิดไฟริบหรี่รอในมุมมืด (อารมณ์ประมาณ นักล่าฝันบ้าน AF คุณไม่ได้
ไปต่อ เหมือนถูกทิ้งไว้กลางทาง) คนในรถก็ไม่สนใจอะไรกับคนแปลกหน้าสักนิด ดูจากสภาพแวดล้อมแล้ว คำตอบมันชัดว่า เราต้องนั่งรถเมล์ไปกันเอง ได้แต่ภาวนาว่าขอให้ปลายทางคือเมืองเก่าต้าหลี่ แล้วรถเมล์ที่ใกล้ปลดระวาง ก็พาเรามาถึงเมืองเก่าด้วยราคา 3 หยวน ต่อคน
แม้จะรู้สึกว่านานไปบ้าง แต่ก็คุ้มกับเงินในกระเป๋า ฮ่าๆๆ
ถึงเมืองเก่า ประมาณสามทุ่ม เรา walk in หาที่พักหน้างาน เนื่องจากตอนแรก แผนการเดินทางของเราคืนนี้คือนอนบนรถไฟ
แต่สุดท้าย แผนก็คือสิ่งที่สามารถปรับและยืดหยุ่นตามสถานการณ์ได้ ฮ่าๆ เรารีบมุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่บุ๊คกิ้งเอาไว้ เพื่อจองห้องพัก แต่คืนนี้ห้องเต็ม ที่เหลือก็มีแต่คืนละ 2000บาท up ซึ่งไม่ต้องคิดเราไม่เอาแน่นอน แต่ไหนๆก็มาแล้ว ช่วยหาที่พักคืนนี้ให้เราหน่อยได้มั้ย..สาวน้อยชาวจีนเจ้าหน้าที่ของโรงแรม "ไชน่า โอลด์ สตอรี่ อินน์ ออฟ ต้าหลี่" คุยโทรศัพท์ต่อรองราคาซักพักจึงพาเรามา ที่พักอีกที่ ซึ่งเราซึ้งใจมาก
ที่เธอเดินมาส่งถึงที่ ความผิดพลาดอีกอย่างนึงของเราคือการคอนเฟิร์มการเข้าพักกับเกตเฮาส์ก่อนไป 1 อาทิตย์ ตลอดทั้งทริป ที่พักเรามีการเปลี่ยนแปลงตลอด ได้ตามที่บุคกิ้งไว้แค่ 2 คืนเท่านั้น นี่คือที่พักสำหรับค่ำคืนแรกของเราในราคา 100 หยวน ภายใต้เงื่อนไขห้ามนอนเตียงใหญ่
เมื่อเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ลำดับต่อไปคือ หาของกิน ว้าววว น่ากินทั้งนั้น
ไม่ใช่พ่อค้านะที่น่ากิน แต่เป็นอันนี้
อาหารมื้อค่ำที่ต้าหลี่ มันถอดผสมเครื่องปรุงแบบจีน และ มาม่าจีนแบบสด ระหว่างรออาหารจากแม่ค้าชาวต้าหลี่ นี่ต้องกินอาหารอิตาเลี่ยนแอนด์มันพวกนี้จริงๆเหรอว่ะ คงจะนินทาแรงไปหน่อย Hey!! You from Thailand? เสียงใครไม่รู้ ถึงกับต้องหันหาตามเจ้าของเสียง เพราะตั้งแต่ลงเครื่องจากสนามบินชางสุ่ย เหมือนเราไม่ได้เจอพี่น้องจากลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาที่คุ้นชินกับการบริโภคผัดกระเพรา ส้มตำไก่ย่างเลยซักคน Yes I come from Thailand. Where you come from? บทสนทนา อังกฤษ ปนไทย ผสมการใช้มือ (ซึ่งมีประโยชน์มากขอบอก) ได้ใจความสำคัญว่า น้องมาจากพม่า อายุ 16 เธอมาเที่ยว เราได้แต่ชื่นชมในใจกับเด็ก 2 คน ที่ได้เดินทาง ใช้ชีวิตในช่วงอายุขนาดนี้ ในขณะที่เราต้องใช้เวลานานนับทศวรรษถึงก้าวข้ามความกลัวต่างๆมาเปิดโลกที่นี่ พูดคุยกันนิดหน่อยเราก็จากกันเพราะมันเริ่มดึกแล้ว ไม่อยากคิดว่าประวัติศาสตร์ บ้านเมืองเราเคยต่อสู้กันมา เราถูกสอนมาตลอดว่าพม่าคือผู้รุกรานแผ่นดินไทย เราเป็นศัตรูกัน ฯลฯ แต่สัมผัสกับน้องๆจากพม่า เราไม่รู้สึกถึงความอคติใดๆเลย กลับรู้สึกว่าน้องๆดีใจที่เจอเรา เหมือนพวกเธอเจอพี่ๆ ที่ไม่ได้พบกันมานาน ขอบคุณการเดินทางที่พาเราข้ามประวัติศาสตร์อันแสนเศร้าของทั้ง 2 แผ่นดิน มาพบกัน
DAY 2 เมืองต้าหลี่
เมื่อเดินออกมาถึงปากซอย จึงรู้ว่าโซนที่เราพักเต็มไปด้วยเกสเฮาส์ มีพื้นที่ร้าง แปลงผัก และร้านอาหารเพียบ
เห็นถนนโล่งแบบนี้ควรเดินอย่างระมัดระวังไว้ เพราะที่นี่ การขับขี่รถ skill driver ระดับ fast7 กันทีเดียว คือซอยเล็กๆ
ไม่รู้พี่ๆจะรีบไปไหน คนเดินหาทางหลบเอาเอง เป้าหมายแรกเช้านี้ที่ไปคือกำแพงเมืองต้าหลี่
กำแพงเมืองเก่าที่สร้างไว้ล้อมรอบหมู่บ้านในสมัยก่อนอย่างมั่นคง ปัจจุบันผันตัวเองเป็นแหล่งชอปปิ้งแบบ Slow life
เหมือนสายน้ำที่ไหลผ่านเมือง ให้แต่ละร้านได้ใช้สอย
เมืองต้าหลี่ แบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือเมืองเก่า กับเมืองใหม่ โดยมีทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ชื่อเอ๋อไห่คั่นกลาง มีประวัติศาสตร์มานานนับพัน
เป็นราชธานีของอาณาจักรน่านเจ้าที่เราเคยได้ยิน สามารถซื้อทัวร์รายวันได้ ซึ่งจะพาเราชมเที่ยวรอบๆทะเลสาบ
ช่วงบ่ายเราว่าจะไป Three pagoda tower แต่เมื่อถามราคาถึงกับเงิบ 80 หยวน เราจึงตัดสินใจเดินเล่นรอบกำแพงเมือง แต่เหมือนตอนนั้นมีพลังงานบางอย่างพาเราจนถึงที่นี่
เจดีย์สามองค์ที่คนไทยคุ้นชิน เอ่ยนามจริงๆ เรียกแบบคนตะวันตกว่า Tree pagoda tower เป็นแลนมาร์กที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกให้มาชื่มชม ด้วยภาษีบำรุงเจดีย์ 121 cyn ต่อคน (แทบกระอักเลือด เอา 6 คูณไปเลย)จ่ายทั้งทีก็ต้องถ่ายให้คุ้ม