เรื่องเล่า ไม่เชิงรีวิว โตเกียว 11 วัน (ภาค1) http://pantip.com/topic/34052001
ความเดิมตอนที่แล้ว หลังจากเดินเล่นที่ Odaiba อย่าหน้ำใจแล้ว

เลยพาแก๊งไปต่อที่ Akihabara (รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ของผม)

เดินกันจนดึกดื่น แล้วก็ซ้อย กันดัม มา3 กล่อง (หารูปกล่องไม่เจอ เอารูปที่เสร็จมาให้ดู)

ขอบอก ขนกลับมายากมาก กล่องใหญ่ฟุดๆ ต้องซื้อกระเป๋าอีกใบเพื่อใส่กันดัมโดยเฉพาะเลย...เฮ้อ

Event เล็กๆ
และวันนี้เป็นวันย้ายโรงแรม (คนเดียว) เนื่องจากโรงแรมที่อยู่รวมกัน ห้องเต็ม เลยระเห็ดไปได้โรงแรมแถว สถานนี Minamisenju
ชื่อโรงแรม Palace Tokyo ตอนเดินทางก็ระถึกขวัญใช้ได้เลย เพราะตอนลงรถไฟที่สถานนี มีคนลง 2-3 คนเอง เงียบมากๆ
แล้วมันเหมือนเป็นสถานนีที่อยู่ใต้รางรถไฟอีกที พอเดินออกมา มันดูเหมือนตันๆ ยืนงงอยู่แป็บนึง จะถามใครก็ไม่มีใครให้ถาม
เปิด Google map เอาละกันฟะ ก็เดินตามแผนที่เลย ขึ้นสะพานลอยข้ามทางรถไฟอีกที อากาศหนาวมากกก แล้วทีนี้
ผมว่า ผมเดินอยู่คนเดียวนะ แต่ได้ยินเสียงฝีเท้ามาจากข้างหลัง คือถ้าเป็นคนญี่ปุ่นจริงๆ คงเดินแซงผมไปแล้ว แต่นี่ เดินตั้งนาน
ก็ยังเหมือนมีคนเดินตาม บรรยากาศเหมือนหนังลึกลับ สยองขวัญ เบย....

เดินมาเจอสี่แยก (ซะที) ค่อยดูมีอะไรหน่อย
ที่ Palace Tokyo เป็นโรงแรมแบบห้องน้ำรวม แต่ดูยังใหม่อยู่เลย ห้องนอนก็ยิ่งเล็กลงไปอีก เพราะตัดห้องน้ำออกไป

แอร์ที่นี่ เป็นแบบ 2 in 1 คือเป็นทั้งเครื่องทำความเย็น และ ฮีทเตอร์ ในเครื่องเดียวกัน (ทำไมถ่ายรีโมท ไม่ถ่ายตัวแอร์มาล่ะ)

ไม่แน่ใจว่า ผู้จัดการหรือเจ้าของโรงแรม มารับเช็คอิน เค้าพูดอังกฤษได้ดีเลย ถามเค้าไปว่า ถ้าเรียกแท๊กซี่ กลับไป Ueno แพงมั้ย
(ไม่อยากเดินกลับทางเดิมอะ) เค้าก็บอกน่าจะประมาณ พันกว่าเยน เดี๋ยวพรุ่งนี้เค้าจะเรียกให้ โอ......อาริกะโตะ
DAY 6
วันแห่ง event เลย เริ่มด้วยตอนเช้า เช็คเอ้าท แล้วคุณ ผจก. ก็เรียกแท๊กซี่ให้ ก็ไม่คิดว่ามันจะยุ่งยากขนาดนี้ คือพี่แท๊กซี่ จะขอเบอร์
โรงแรมที่จะไป เพื่อที่จะใส่ในเครื่อง GPS ของแก.....

ล่ะซิ ไม่มี ผมก็พยายาม อธิบายผ่าน ผจก. ว่า โรงแรมชื่อ คุนิยะ อยู่ตรง
ทางออก สถานนี Keisei Ueno (ผมว่าเค้าพึ่งเครื่อง GPS มากเกินไปหน่อย ทางไม่ไกล ย่านออกจะดัง น่าจะรู้ทางบ้างอะ) ที่นี้พี่แท๊กซี่ก็
อะ อะ ขึ้นมา ก็ขอบคุณ คุณ ผจก. บ๊ายบาย กันเรียบร้อย ทีนี้ ผมก็เปิด Google map ดูเส้นทางตามปกติ อะเดี๋ยวจะผ่านตรงนั้น ตรงนี้
แต่เอ่ะ เอะ ไม ไม่เลี้ยวตรงนี้ล่ะ สรุปว่าพาไปอ้อม สวนอุเอโนะซะหนึ่งรอบ จากพันกว่า กลายเป็น สองพันกว่าเลย
event ต่อไปคือ ... วันนี้ตั้งใจจะไป ดูฟูจิกัน ที่คาวากุจิโกะ วางแผนว่าจะไปตั้งต้นกันที่ สถานนี Shinjuku
ซึ่งเป็นสถานนีที่ผมกลัวที่สุด ตามที่อ่านมา เพราะใหญ่มาก จุดต่อรถไฟก็เยอะ ไม่คิดว่าของจริงจะยากกว่าที่อ่านมาซะอีก
เดินหาป้าย ทางที่จะต้องไปต่อรถ เหมือนจะไม่ได้ไปอะ เดินหานานมาก นานจนสงสารแม่เลย เพราะเค้าก็ต้องเดินตามเราอีกที
สุดท้าย ก็ตัดใจ ไม่ไปก็ได้ฟะ ก็เลยรวมหัวกันเปลี่ยนแผน โวทว่าจะทำอะไรกัน สรุปว่า
กิน กินให้หายเซ็ง น้องเสนอ
อยากกิน ชาบู ผมก็เปิดอากู๋เลย หา ชาบู ชินจูกุ - ได้ล่ะ ชื่อที่เราคุ้นเคย MoMo Paradise อยู่ในระยะที่เดินได้ ก็ไปกันเลย

เดิน

ผมชอบแนว city tour อยู่แล้ว (แต่ก็เสียดายฟูจิ) ตึกข้างหน้านี่แหละ

ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชั้น 8 นะ

รสชาดก็ไม่น่าจะหนีกันนะ
[CR] เรื่องเล่า ไม่เชิงรีวิว โตเกียว 11 วัน (ภาค2)
ความเดิมตอนที่แล้ว หลังจากเดินเล่นที่ Odaiba อย่าหน้ำใจแล้ว
เลยพาแก๊งไปต่อที่ Akihabara (รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ของผม)
เดินกันจนดึกดื่น แล้วก็ซ้อย กันดัม มา3 กล่อง (หารูปกล่องไม่เจอ เอารูปที่เสร็จมาให้ดู)
ขอบอก ขนกลับมายากมาก กล่องใหญ่ฟุดๆ ต้องซื้อกระเป๋าอีกใบเพื่อใส่กันดัมโดยเฉพาะเลย...เฮ้อ
Event เล็กๆ
และวันนี้เป็นวันย้ายโรงแรม (คนเดียว) เนื่องจากโรงแรมที่อยู่รวมกัน ห้องเต็ม เลยระเห็ดไปได้โรงแรมแถว สถานนี Minamisenju
ชื่อโรงแรม Palace Tokyo ตอนเดินทางก็ระถึกขวัญใช้ได้เลย เพราะตอนลงรถไฟที่สถานนี มีคนลง 2-3 คนเอง เงียบมากๆ
แล้วมันเหมือนเป็นสถานนีที่อยู่ใต้รางรถไฟอีกที พอเดินออกมา มันดูเหมือนตันๆ ยืนงงอยู่แป็บนึง จะถามใครก็ไม่มีใครให้ถาม
เปิด Google map เอาละกันฟะ ก็เดินตามแผนที่เลย ขึ้นสะพานลอยข้ามทางรถไฟอีกที อากาศหนาวมากกก แล้วทีนี้
ผมว่า ผมเดินอยู่คนเดียวนะ แต่ได้ยินเสียงฝีเท้ามาจากข้างหลัง คือถ้าเป็นคนญี่ปุ่นจริงๆ คงเดินแซงผมไปแล้ว แต่นี่ เดินตั้งนาน
ก็ยังเหมือนมีคนเดินตาม บรรยากาศเหมือนหนังลึกลับ สยองขวัญ เบย....
ที่ Palace Tokyo เป็นโรงแรมแบบห้องน้ำรวม แต่ดูยังใหม่อยู่เลย ห้องนอนก็ยิ่งเล็กลงไปอีก เพราะตัดห้องน้ำออกไป
แอร์ที่นี่ เป็นแบบ 2 in 1 คือเป็นทั้งเครื่องทำความเย็น และ ฮีทเตอร์ ในเครื่องเดียวกัน (ทำไมถ่ายรีโมท ไม่ถ่ายตัวแอร์มาล่ะ)
ไม่แน่ใจว่า ผู้จัดการหรือเจ้าของโรงแรม มารับเช็คอิน เค้าพูดอังกฤษได้ดีเลย ถามเค้าไปว่า ถ้าเรียกแท๊กซี่ กลับไป Ueno แพงมั้ย
(ไม่อยากเดินกลับทางเดิมอะ) เค้าก็บอกน่าจะประมาณ พันกว่าเยน เดี๋ยวพรุ่งนี้เค้าจะเรียกให้ โอ......อาริกะโตะ
DAY 6
วันแห่ง event เลย เริ่มด้วยตอนเช้า เช็คเอ้าท แล้วคุณ ผจก. ก็เรียกแท๊กซี่ให้ ก็ไม่คิดว่ามันจะยุ่งยากขนาดนี้ คือพี่แท๊กซี่ จะขอเบอร์
โรงแรมที่จะไป เพื่อที่จะใส่ในเครื่อง GPS ของแก.....
ทางออก สถานนี Keisei Ueno (ผมว่าเค้าพึ่งเครื่อง GPS มากเกินไปหน่อย ทางไม่ไกล ย่านออกจะดัง น่าจะรู้ทางบ้างอะ) ที่นี้พี่แท๊กซี่ก็
อะ อะ ขึ้นมา ก็ขอบคุณ คุณ ผจก. บ๊ายบาย กันเรียบร้อย ทีนี้ ผมก็เปิด Google map ดูเส้นทางตามปกติ อะเดี๋ยวจะผ่านตรงนั้น ตรงนี้
แต่เอ่ะ เอะ ไม ไม่เลี้ยวตรงนี้ล่ะ สรุปว่าพาไปอ้อม สวนอุเอโนะซะหนึ่งรอบ จากพันกว่า กลายเป็น สองพันกว่าเลย
event ต่อไปคือ ... วันนี้ตั้งใจจะไป ดูฟูจิกัน ที่คาวากุจิโกะ วางแผนว่าจะไปตั้งต้นกันที่ สถานนี Shinjuku
ซึ่งเป็นสถานนีที่ผมกลัวที่สุด ตามที่อ่านมา เพราะใหญ่มาก จุดต่อรถไฟก็เยอะ ไม่คิดว่าของจริงจะยากกว่าที่อ่านมาซะอีก
เดินหาป้าย ทางที่จะต้องไปต่อรถ เหมือนจะไม่ได้ไปอะ เดินหานานมาก นานจนสงสารแม่เลย เพราะเค้าก็ต้องเดินตามเราอีกที
สุดท้าย ก็ตัดใจ ไม่ไปก็ได้ฟะ ก็เลยรวมหัวกันเปลี่ยนแผน โวทว่าจะทำอะไรกัน สรุปว่า กิน กินให้หายเซ็ง น้องเสนอ
อยากกิน ชาบู ผมก็เปิดอากู๋เลย หา ชาบู ชินจูกุ - ได้ล่ะ ชื่อที่เราคุ้นเคย MoMo Paradise อยู่ในระยะที่เดินได้ ก็ไปกันเลย
เดิน
ผมชอบแนว city tour อยู่แล้ว (แต่ก็เสียดายฟูจิ) ตึกข้างหน้านี่แหละ
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชั้น 8 นะ
รสชาดก็ไม่น่าจะหนีกันนะ