มาต่อกระทู้ที่ 2 เรื่องการสมัครวีซ่าเชงเก้นกับสถานฑูตฝรั่งเศส (แต่ยื่นผ่านศูนย์วีซ่า TLS )
หลังจากได้วีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษแล้ว รีวิวการขอวีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษตามข้างล่างเลยคะ
http://pantip.com/topic/34023134
ก็ถึงเวลาขอวีซ่าเชงเก้น สำหรับไปเที่ยวปารีสต่อ เอกสารที่ใช้ก็คล้ายๆกับตอนไปยื่นของอังกฤษ แต่น้อยกว่า เพราะยื่นแต่เอกสารของเราเอง ของแฟนเอาแค่จดหมายแนะนำตัวว่าแฟนเป็นใคร และเราไปด้วยกัน พร้อมสำเนาพาสปอร์ตที่มีหน้าวีซ่าไทย + สำเนา work permit และหนังสือรับรองการทำงาน
เราขอเขียนสั้นๆน่ะค่ะ อาจจะไม่ละเอียดมาก เพราะเราจำขั้นตอนได้คร่าวๆ หรือจะเข้าไปดูลิงค์นี้ก็ได้ค่ะ บอกขั้นตอนทุกอย่างของ TLS ไว้ละเอียดมาก
https://www.tlscontact.com/th2fr/page.php?pid=procedure
ส่วนเราทำตามขั้นตอนข้างล่างนี้ค่ะ
1. เข้าไปสมัคร id account ที่เว๊ปนี้ค่ะ
https://www.tlscontact.com/th2fr/login.php?l=en
2. เริ่มกรอกข้อมูล ข้อมูลที่เค้าให้กรอกน้อยกว่าของอังกฤษมาก กรอกแป๊บเดียวเสร็จ แต่ควรจะจองโรงแรม (แบบยังไม่ชำระเงิน) ให้เรียบร้อย เพราะในใบสมัคร เค้าถามที่อยู่ในปารีสที่เราไปค่ะ
3. พริ้นท์ใบสมัครที่เรากรอกเรียบร้อยแล้ว และโทรไปที่ TLS เพื่อทำการนัดหมายยื่นเอกสารขอวีซ่า ตอนทำการนัดหมาย เจ้าหน้าที่จะถาม TLS reference number ที่ขึ้นต้นด้วย M หรือไม่ก็เลขพาสปอร์ตของเราเพื่อทำการนัด (ถ้ายังกรอก application ไม่เสร็จ ไม่สามารถทำการนัดหมายได้)
ของเราตอนแรกขอทำนัดโดยตรงกับสถาณฑูต ได้วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2015 ตอน 9 โมงเช้า (ถ้ายื่นกับสถาณฑูตโดยตรง เราก็จะเสียแค่ค่าวีซ่า 2,239 บาท แต่ถ้ายื่นผ่าน TLS ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมอีก 1,080 บาท)
แต่ตอนหลังเราขอเปลี่ยน เป็นยื่นผ่าน TLS และได้เลื่อนนัดมาเป็นวันที่ 6 สิงหาคม 2015 เวลา 9.30 น.
4. เริ่มเตรียมเอกสาร ตามเว๊ปนี้เลยค่ะ
https://www.tlscontact.com/th2fr/docs.php ของเรามีเอกสารดังต่อไปนี้
- ใบสมัครวีซ่าที่เรากรอกออนไลน์
- รูปถ่ายขนาด 3.5 cm x 4.5 cm 2 ใบ (ขนาดเดียวกับไปขอวีซ่าอังกฤษ แต่เอามาใช้กับเชงเก้นไม่ได้อ่ะค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่า หน้าเราใหญ่เกินไป ถ่ายใกล้เกินไป เลยต้องไปถ่ายใหม่ตอนอยู่ที่ TLS 250 บาท ได้ 4 รูป)
- พาสปอร์ตเล่มจริง ทั้งเล่มปัจจุบัน และเล่มเก่า + สำเนาทุกหน้าที่มีตราประทับ เซ็นรับรองทุกหน้า
- ใบจองตั๋วเครื่องบินไปกลับ ที่มีจุดหมายปลายทาง ออกจากไทย และกลับเข้าไทย
- สำเนาวีซ่าหรือเอกสารเดินทางที่ถูกต้องสำหรับจุดหมายปลายทางหลัก ของเราคือวีซ่าอังกฤษที่ได้มาก่อนหน้านี้ค่ะ
- สำเนาประกันภัยการเดินทาง ออกโดยบริษัทยุโรป หรือ บริษัทประกันภัยที่มีรายชื่อปรากฏตามเว๊ปนี้เท่านั้น ที่ได้รับการยอมรับจากสถานฑูต ของกลุมประเทศในเขตเชงเก้น โดยทุนประกันจะต้องมากกว่า 1.5 ล้านบาท หรือ 30,000 ยูโร
https://www.tlscontact.com/th2fr/upload/travel_health_insurance_th_2fr.th.pdf
- หนังสือรับรองการทำงานตัวจริงระบุตำแหน่ง วันเริ่มทำงาน เงินเดือน วันลา และเบอร์โทร+อีเมลติดต่อของผู้มีอำนาจเซ็น
- รายการเดินบัญชีออมทรัพย์ครอบคลุมระยะเวลา 3 เดือนล่าสุด เราพรินท์ออกมาจาก ibanking ของเรา เป็นภาษาอังกฤษ เลยไม่ต้องแปล เซ็นรับรองสำเนา และ หนังสือรับรองการเป็นเจ้าของบัญชีจากธนาคาร เราไปขอจากธนาคารที่เรามีบัญชีเงินเดือนด้วย ขอวันนี้ได้วันรุ่งขึ้น ค่าธรรมเนียม 100 บาท ในหนังสือจะระบุจำนวนเงินว่ากี่หลัก (สูง/กลาง/ต่ำ) เปิดบัญชีมาเมื่อไร ประมาณนี้ค่ะ
- สลิบเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน (อันนี้เราไม่ได้เตรียม เพราะบริษัทไม่ได้ให้สลิบเงินเดือนค่ะ โอนเงินเดือนเข้าบัญชีอย่างเดียว แต่เราก็ระบุไว้ในจดหมายแนะนำตัวด้วย ว่าบริษัทไม่มีให้น่ะ)
เอกสารที่เรายื่นเพิ่มนอกเหนือจากที่ทางสถานฑูตขอคือ
- จดหมายแนะนำตัว บอกว่าเราเป็นใคร ทำงานอะไร จะไปเที่ยววันไหนกับใคร และใครรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ลางานวันไหน จะกลับมาทำงานวันไหน เราไม่แหกกฏวีซ่าน่ะ บลาๆๆๆ ทำนองนี้ค่ะ
- ใบจองโรงแรมที่ยังไม่ได้ชำระเงิน เราจองโดยตรงกับเว๊ปไซด์โรงแรมเลย เลือกเรทที่ free cancellation
- แผนการเดินทาง + สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ (อันเดียวกันกับที่ยื่นขอวีซ่าอังกฤษ)
- สำเนาบัตรประชาชน + สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมคำแปล (เราแปลเอง+เซ็นรับรองคำแปลเอง)
- จดหมายแนะนำตัวจากแฟน + สำเนาพาสปอร์ตที่มีตราประทับทุกหน้า + สำเนา work permit ที่เมืองไทย เซ็นรับรองสำเนา + หนังสือรับรองการทำงานของแฟน
- สำเนาสมุดบัญชีที่ไทย ที่เปิดร่วมกับแฟน ตรงไหนที่เป็นภาษาไทย เราเขียนแปลเองและเซ็นรับรองคำแปลเอง
5. ถึงวันนัด ก็เดินทางไป TLS ตั้งอยู่ที่ตึก Sathorn City การเดินทางก็ไม่ยาก เรานั่งรถไฟฟ้าลงสถานีช่องนนทรี ทางออก 2 เดินมาตึก Sathorn City ไม่ถึง 5 นาทีค่ะ แลกบัตรตรง lobby และขึ้นไปที่ชั้น 12
ขั้นแรกเลย ต้องฝากอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคไว้กับเจ้าหน้าที่ข้างหน้า เสร็จแล้วต้องเดินผ่านเครื่องสแกน ใครมีกระเป๋า เจ้าหน้าที่จะขอตรวจด้วยค่ะ พอเข้าไปข้างใน ก็ทำการ check in กับเจ้าหน้าที่ โดยยื่นใบนัดให้เค้าค่ะ
Check in เสร็จ ก็เข้าไปรอเรียกชื่อด้านใน ถ้าเป็นฝรั่งเศสไปทางขวามือ สวิสเซอร์แลนด์ไปทางซ้ายมือ
พอถึงคิว ก็เข้าไปตรวจเอกสารกับเจ้าหน้าที่ ขั้นตอนนี้ง่าย เราเตรียมเอกสารไปค่อนข้างครบถ้วน เจ้าหน้าที่เลยไม่ถามอะไรมาก ถามหาแต่สลิบเงินเดือนอย่างเดียว และไม่คืนเอกสารอะไรเรามาเลย (ดี เพราะเราอยากยื่นทุกอย่างที่เตรียมมานั่นแหละ) มีติดขัดอย่างเดียวคือ รูปถ่ายที่เราเตรียมไปใช้ไม่ได้ เลยต้องถ่ายใหม่ เค้ามี photo booth อยู่ใน TLS ค่ะ
เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารและก็ให้ใบตรวจสอบการสมัครคืนให้เรา 1 ใบ เป็นใบที่บอกว่า เรายื่นเอกสารอะไรบ้าง และขาดเอกสารอะไรบ้าง และเป็นใบที่เราต้องเอามารับเล่มพาสปอร์ตด้วย และแจ้งว่าสถานฑูตจะใช้เวลาพิจารณา 10-15 วันทำการ
6. ยื่นเอกสารเสร็จ ก็ไปชำระค่าวีซ่า 2,239 บาท และค่าบริการของ TLS อีก 1,080 บาท
7. ชำระเงินเสร็จ นั่งรอเรียก เพื่อบันทึกข้อมูลทางชีวภาพ (ไบโอเมตริกซ์) ตรงนี้ล่ะค่ะ มีคำเตือน
** คำเตือน** สำหรับคนใส่ contact lens สี **
เค้ามีกฏว่า ห้ามมิให้ใส่คอนแทคเลนส์ ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะของดวงตา เช่น คอนแทคเลนส์สี คอนแทคเลนส์บิ๊กอายส์ ในระหว่างการทำการจัดบันทึกข้อมูลทางชีวภาพ (ไบโอเมตริกซ์)Note: Wearing contact lenses altering the appearance of your eye is strictly prohibited during the biometric data capture (color contact lenses, magnifying contact lenses).
เราพลาดตรงข้อนี้ค่ะ ไม่ได้อ่านคำเตือน และเราเป็นคนใส่คอนแทคสีอยู่แล้ว วันที่ไปยื่นก็ดันใส่ไป พอจะเข้าไปบันทึกข้อมูลทางชีวภาพ เจ้าหน้าที่ถามว่าใส่ colour contact lens มั้ย ก็ตอบตามจริงว่าใส่ เจ้าหน้าที่บอกไม่ได้ค่ะ ถอดออกด้วย แต่ที่นี่ไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย นอกจากน้ำยาล้างมือ + ทิชชู่
เราเลยต้องล้างมือ และถอดคอนแทคเลนส์ ออกและวางไว้บนทิชชู่ และทำการถ่ายรูป + สแกนนิ้วมืออย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะรีบใส่คอนแทคเลนส์ กลับอีกที (สายตาสั้นมาก ถ้าไม่ใส่เลย คงหาทางออกจาก TLS ไม่เจอ)
เสร็จแล้ว ก็เรียบร้อยค่ะ เดินออก และอย่าลืมไปเอาอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคที่เราฝากไว้น่ะค่ะ
ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 45 นาที ถือว่า โอเค ไม่ช้า ไม่เร็ว มีเวลากลับไปทำงานต่อ
หลังจากนั้น รอค่ะ แป๊บเดียวเอง วันที่ 11 สิงหาคม 2558 ได้รับอีเมลจาก TLS ว่าพาสปอร์ตคุณได้ส่งกลับมาที่ TLS เรียบร้อยแล้ว โหเร็วมากค่ะ ใช้เวลาแค่ 2 วันทำการ เราเลยเตรียมหนังสือมอบอำนาจให้พี่เมสเซ็นเจอร์ที่ออฟฟิสไปรับเอกสารแทนค่ะ อยากรู้มา
ก
ตอนบ่ายพี่เมสกลับมาพร้อมยื่นพาสปอร์ตให้ เรารับมาแกะดูอย่างตื่นเต้นอีกเช่นเคย โอเย่ๆๆๆๆ ได้มาแล้วจ้ะ วีซ่าเชงเก้นอันแรก สถานฑูตฝรั่งเศสใจดีมาก ให้แบบมัลติเพิล 1 ปีเลยคร่า
ขอบคุณน่ะค่ะที่ติดตาม เดี๋ยวเราไปเที่ยวแล้วจะมาเล่าให้ฟังน่ะค่ะ
[CR] Schengen Visa 2015
หลังจากได้วีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษแล้ว รีวิวการขอวีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษตามข้างล่างเลยคะ
http://pantip.com/topic/34023134
ก็ถึงเวลาขอวีซ่าเชงเก้น สำหรับไปเที่ยวปารีสต่อ เอกสารที่ใช้ก็คล้ายๆกับตอนไปยื่นของอังกฤษ แต่น้อยกว่า เพราะยื่นแต่เอกสารของเราเอง ของแฟนเอาแค่จดหมายแนะนำตัวว่าแฟนเป็นใคร และเราไปด้วยกัน พร้อมสำเนาพาสปอร์ตที่มีหน้าวีซ่าไทย + สำเนา work permit และหนังสือรับรองการทำงาน
เราขอเขียนสั้นๆน่ะค่ะ อาจจะไม่ละเอียดมาก เพราะเราจำขั้นตอนได้คร่าวๆ หรือจะเข้าไปดูลิงค์นี้ก็ได้ค่ะ บอกขั้นตอนทุกอย่างของ TLS ไว้ละเอียดมาก
https://www.tlscontact.com/th2fr/page.php?pid=procedure
ส่วนเราทำตามขั้นตอนข้างล่างนี้ค่ะ
1. เข้าไปสมัคร id account ที่เว๊ปนี้ค่ะ https://www.tlscontact.com/th2fr/login.php?l=en
2. เริ่มกรอกข้อมูล ข้อมูลที่เค้าให้กรอกน้อยกว่าของอังกฤษมาก กรอกแป๊บเดียวเสร็จ แต่ควรจะจองโรงแรม (แบบยังไม่ชำระเงิน) ให้เรียบร้อย เพราะในใบสมัคร เค้าถามที่อยู่ในปารีสที่เราไปค่ะ
3. พริ้นท์ใบสมัครที่เรากรอกเรียบร้อยแล้ว และโทรไปที่ TLS เพื่อทำการนัดหมายยื่นเอกสารขอวีซ่า ตอนทำการนัดหมาย เจ้าหน้าที่จะถาม TLS reference number ที่ขึ้นต้นด้วย M หรือไม่ก็เลขพาสปอร์ตของเราเพื่อทำการนัด (ถ้ายังกรอก application ไม่เสร็จ ไม่สามารถทำการนัดหมายได้)
ของเราตอนแรกขอทำนัดโดยตรงกับสถาณฑูต ได้วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2015 ตอน 9 โมงเช้า (ถ้ายื่นกับสถาณฑูตโดยตรง เราก็จะเสียแค่ค่าวีซ่า 2,239 บาท แต่ถ้ายื่นผ่าน TLS ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมอีก 1,080 บาท)
แต่ตอนหลังเราขอเปลี่ยน เป็นยื่นผ่าน TLS และได้เลื่อนนัดมาเป็นวันที่ 6 สิงหาคม 2015 เวลา 9.30 น.
4. เริ่มเตรียมเอกสาร ตามเว๊ปนี้เลยค่ะ https://www.tlscontact.com/th2fr/docs.php ของเรามีเอกสารดังต่อไปนี้
- ใบสมัครวีซ่าที่เรากรอกออนไลน์
- รูปถ่ายขนาด 3.5 cm x 4.5 cm 2 ใบ (ขนาดเดียวกับไปขอวีซ่าอังกฤษ แต่เอามาใช้กับเชงเก้นไม่ได้อ่ะค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่า หน้าเราใหญ่เกินไป ถ่ายใกล้เกินไป เลยต้องไปถ่ายใหม่ตอนอยู่ที่ TLS 250 บาท ได้ 4 รูป)
- พาสปอร์ตเล่มจริง ทั้งเล่มปัจจุบัน และเล่มเก่า + สำเนาทุกหน้าที่มีตราประทับ เซ็นรับรองทุกหน้า
- ใบจองตั๋วเครื่องบินไปกลับ ที่มีจุดหมายปลายทาง ออกจากไทย และกลับเข้าไทย
- สำเนาวีซ่าหรือเอกสารเดินทางที่ถูกต้องสำหรับจุดหมายปลายทางหลัก ของเราคือวีซ่าอังกฤษที่ได้มาก่อนหน้านี้ค่ะ
- สำเนาประกันภัยการเดินทาง ออกโดยบริษัทยุโรป หรือ บริษัทประกันภัยที่มีรายชื่อปรากฏตามเว๊ปนี้เท่านั้น ที่ได้รับการยอมรับจากสถานฑูต ของกลุมประเทศในเขตเชงเก้น โดยทุนประกันจะต้องมากกว่า 1.5 ล้านบาท หรือ 30,000 ยูโร
https://www.tlscontact.com/th2fr/upload/travel_health_insurance_th_2fr.th.pdf
- หนังสือรับรองการทำงานตัวจริงระบุตำแหน่ง วันเริ่มทำงาน เงินเดือน วันลา และเบอร์โทร+อีเมลติดต่อของผู้มีอำนาจเซ็น
- รายการเดินบัญชีออมทรัพย์ครอบคลุมระยะเวลา 3 เดือนล่าสุด เราพรินท์ออกมาจาก ibanking ของเรา เป็นภาษาอังกฤษ เลยไม่ต้องแปล เซ็นรับรองสำเนา และ หนังสือรับรองการเป็นเจ้าของบัญชีจากธนาคาร เราไปขอจากธนาคารที่เรามีบัญชีเงินเดือนด้วย ขอวันนี้ได้วันรุ่งขึ้น ค่าธรรมเนียม 100 บาท ในหนังสือจะระบุจำนวนเงินว่ากี่หลัก (สูง/กลาง/ต่ำ) เปิดบัญชีมาเมื่อไร ประมาณนี้ค่ะ
- สลิบเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน (อันนี้เราไม่ได้เตรียม เพราะบริษัทไม่ได้ให้สลิบเงินเดือนค่ะ โอนเงินเดือนเข้าบัญชีอย่างเดียว แต่เราก็ระบุไว้ในจดหมายแนะนำตัวด้วย ว่าบริษัทไม่มีให้น่ะ)
เอกสารที่เรายื่นเพิ่มนอกเหนือจากที่ทางสถานฑูตขอคือ
- จดหมายแนะนำตัว บอกว่าเราเป็นใคร ทำงานอะไร จะไปเที่ยววันไหนกับใคร และใครรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ลางานวันไหน จะกลับมาทำงานวันไหน เราไม่แหกกฏวีซ่าน่ะ บลาๆๆๆ ทำนองนี้ค่ะ
- ใบจองโรงแรมที่ยังไม่ได้ชำระเงิน เราจองโดยตรงกับเว๊ปไซด์โรงแรมเลย เลือกเรทที่ free cancellation
- แผนการเดินทาง + สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ (อันเดียวกันกับที่ยื่นขอวีซ่าอังกฤษ)
- สำเนาบัตรประชาชน + สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมคำแปล (เราแปลเอง+เซ็นรับรองคำแปลเอง)
- จดหมายแนะนำตัวจากแฟน + สำเนาพาสปอร์ตที่มีตราประทับทุกหน้า + สำเนา work permit ที่เมืองไทย เซ็นรับรองสำเนา + หนังสือรับรองการทำงานของแฟน
- สำเนาสมุดบัญชีที่ไทย ที่เปิดร่วมกับแฟน ตรงไหนที่เป็นภาษาไทย เราเขียนแปลเองและเซ็นรับรองคำแปลเอง
5. ถึงวันนัด ก็เดินทางไป TLS ตั้งอยู่ที่ตึก Sathorn City การเดินทางก็ไม่ยาก เรานั่งรถไฟฟ้าลงสถานีช่องนนทรี ทางออก 2 เดินมาตึก Sathorn City ไม่ถึง 5 นาทีค่ะ แลกบัตรตรง lobby และขึ้นไปที่ชั้น 12
ขั้นแรกเลย ต้องฝากอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคไว้กับเจ้าหน้าที่ข้างหน้า เสร็จแล้วต้องเดินผ่านเครื่องสแกน ใครมีกระเป๋า เจ้าหน้าที่จะขอตรวจด้วยค่ะ พอเข้าไปข้างใน ก็ทำการ check in กับเจ้าหน้าที่ โดยยื่นใบนัดให้เค้าค่ะ
Check in เสร็จ ก็เข้าไปรอเรียกชื่อด้านใน ถ้าเป็นฝรั่งเศสไปทางขวามือ สวิสเซอร์แลนด์ไปทางซ้ายมือ
พอถึงคิว ก็เข้าไปตรวจเอกสารกับเจ้าหน้าที่ ขั้นตอนนี้ง่าย เราเตรียมเอกสารไปค่อนข้างครบถ้วน เจ้าหน้าที่เลยไม่ถามอะไรมาก ถามหาแต่สลิบเงินเดือนอย่างเดียว และไม่คืนเอกสารอะไรเรามาเลย (ดี เพราะเราอยากยื่นทุกอย่างที่เตรียมมานั่นแหละ) มีติดขัดอย่างเดียวคือ รูปถ่ายที่เราเตรียมไปใช้ไม่ได้ เลยต้องถ่ายใหม่ เค้ามี photo booth อยู่ใน TLS ค่ะ
เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารและก็ให้ใบตรวจสอบการสมัครคืนให้เรา 1 ใบ เป็นใบที่บอกว่า เรายื่นเอกสารอะไรบ้าง และขาดเอกสารอะไรบ้าง และเป็นใบที่เราต้องเอามารับเล่มพาสปอร์ตด้วย และแจ้งว่าสถานฑูตจะใช้เวลาพิจารณา 10-15 วันทำการ
6. ยื่นเอกสารเสร็จ ก็ไปชำระค่าวีซ่า 2,239 บาท และค่าบริการของ TLS อีก 1,080 บาท
7. ชำระเงินเสร็จ นั่งรอเรียก เพื่อบันทึกข้อมูลทางชีวภาพ (ไบโอเมตริกซ์) ตรงนี้ล่ะค่ะ มีคำเตือน
เค้ามีกฏว่า ห้ามมิให้ใส่คอนแทคเลนส์ ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะของดวงตา เช่น คอนแทคเลนส์สี คอนแทคเลนส์บิ๊กอายส์ ในระหว่างการทำการจัดบันทึกข้อมูลทางชีวภาพ (ไบโอเมตริกซ์)Note: Wearing contact lenses altering the appearance of your eye is strictly prohibited during the biometric data capture (color contact lenses, magnifying contact lenses).
เราพลาดตรงข้อนี้ค่ะ ไม่ได้อ่านคำเตือน และเราเป็นคนใส่คอนแทคสีอยู่แล้ว วันที่ไปยื่นก็ดันใส่ไป พอจะเข้าไปบันทึกข้อมูลทางชีวภาพ เจ้าหน้าที่ถามว่าใส่ colour contact lens มั้ย ก็ตอบตามจริงว่าใส่ เจ้าหน้าที่บอกไม่ได้ค่ะ ถอดออกด้วย แต่ที่นี่ไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย นอกจากน้ำยาล้างมือ + ทิชชู่
เราเลยต้องล้างมือ และถอดคอนแทคเลนส์ ออกและวางไว้บนทิชชู่ และทำการถ่ายรูป + สแกนนิ้วมืออย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะรีบใส่คอนแทคเลนส์ กลับอีกที (สายตาสั้นมาก ถ้าไม่ใส่เลย คงหาทางออกจาก TLS ไม่เจอ)
เสร็จแล้ว ก็เรียบร้อยค่ะ เดินออก และอย่าลืมไปเอาอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคที่เราฝากไว้น่ะค่ะ
ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 45 นาที ถือว่า โอเค ไม่ช้า ไม่เร็ว มีเวลากลับไปทำงานต่อ
หลังจากนั้น รอค่ะ แป๊บเดียวเอง วันที่ 11 สิงหาคม 2558 ได้รับอีเมลจาก TLS ว่าพาสปอร์ตคุณได้ส่งกลับมาที่ TLS เรียบร้อยแล้ว โหเร็วมากค่ะ ใช้เวลาแค่ 2 วันทำการ เราเลยเตรียมหนังสือมอบอำนาจให้พี่เมสเซ็นเจอร์ที่ออฟฟิสไปรับเอกสารแทนค่ะ อยากรู้มา
ก
ตอนบ่ายพี่เมสกลับมาพร้อมยื่นพาสปอร์ตให้ เรารับมาแกะดูอย่างตื่นเต้นอีกเช่นเคย โอเย่ๆๆๆๆ ได้มาแล้วจ้ะ วีซ่าเชงเก้นอันแรก สถานฑูตฝรั่งเศสใจดีมาก ให้แบบมัลติเพิล 1 ปีเลยคร่า
ขอบคุณน่ะค่ะที่ติดตาม เดี๋ยวเราไปเที่ยวแล้วจะมาเล่าให้ฟังน่ะค่ะ