ตอนอื่น ๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/33957462
ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/33962097
ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/33975284
ตอนที่ 4 http://pantip.com/topic/33984105
เพียงสองเรา
ตอนที่ 5 ก้าวสู่วงการบันเทิง
ณ ตึกสูงใจกลางเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสื่อบันเทิง ไม่ว่าจะหนัง เพลง ละครทีวี หนังสือ วิทยุ ฯลฯ และที่ ๆ กรต้องมาบันทึกเสียง
“สวัสดีครับพี่” กรและบอล ไหว้พี่โต
“วันนี้พี่ฝากด้วยนะกร ...ส่วนบอลพี่ฝากดูเพลงด้วย”
“ครับพี่”
กรใช้เวลาในการอัดเสียงตั้งแต่เช้าจนเกือบจะถึงบ่าย หลังอัดเสียงเสร็จ กร บอล และโต กำลังจะออกไปกินข้าวกันข้างนอก ในขณะนั้นก็เดินไปพบเสี่ยธนาซึ่งเป็นประธานบริษัทและเจ้าของตึกนี้
“นี่คุณธนา” พี่โตแนะนำให้กรและบอลให้รู้จัก
“สวัสดีครับ” ทั้งสองยกมือขึ้นไหว้
“นี่กรครับ เป็นคนแต่งเพลงและร้องเพลงประกอบหนังเรื่องใหม่ครับ ส่วนนี่บอลครับมาช่วยโปรดิวฯ”
“ยังไงเฮียฝากกร กับ บอลด้วยนะ”
“ครับ” ทั้งสองรับคำ
“แล้วนี่กำลังจะไปไหนกัน”
“พวกผมพึ่งอัดเพลงกันเสร็จกำลังจะไปหาข้าวกินกันนะครับ” โตตอบเสี่ยธนา
“พอดีเลยเฮียก็กำลังจะไปกินข้าวเดี๋ยวไปพร้อมกันหมดเนี่ยแหละ”
ทั้งสามได้นั่งรถตู้ของเสี่ยธนามาที่ร้านอาหารจีนชื่อดัง เสี่ยธนาเดินนำหน้าไปที่โต๊ะที่เขาได้ให้เลขาจองไว้ ที่โต๊ะมีหญิงสาวสวยวัยไล่เลี่ยกับกรนั่งรออยู่
“นี่ลูกสาวเฮีย ตอนนี้เฮียให้มาช่วยงานที่บริษัท” เสี่ยธนาแนะนำลูกสาว
“ส่วนนั้นบอลมาช่วยโปรดิวฯเพลง แล้วก็กรคนแต่งเพลงที่ป๋าเคยให้น้ำฟัง”
“สวัสดีค่ะ อัจจิมา เรียกน้ำก็ได้...เพลงคุณกรน้ำชอบมาก”
“ขอบคุณครับ แต่เรียกกรเฉย ๆ ก็ได้ครับคุณน้ำ”
“งั้นกรก็ต้องเรียกน้ำ เฉย ๆ นะ”
“ครับ”
“เอ้ากิน ๆ คงหิวกันแล้ว” เสี่ยธนาชวนทุกคนทานข้าว
“พี่โตน้ำว่ามิวสิควีดีโอให้ทำไว้ 2 แบบก็ดีนะคะ แบบแรกก็ตัดเอาจากภาพยนตร์ อีกแบบก็ถ่ายกรไว้ด้วย”
“เฮียก็ว่าดีนะกรหน้าตาก็ดี ถ่ายเผื่อไว้เลย”
“ครับเฮีย”
หลังออกจากร้านอาหาร บอลและกรก็ลาเฮียกลับออฟฟิศ
“จะดังใหญ่แล้วนะเรา ดังแล้วอย่าลืมพี่ล่ะ”
“ไม่หรอกพี่ ดังอะไร แต่ยังไงผมก็ขอบคุณพี่อีกครั้งนะครับที่ทำให้ฝันของผมเป็นจริง”
กรไม่เคยหวังว่าเพลงของเขาจะดัง เขาแค่หวังให้เพลงของเขาได้เผยแพร่ออกสู่สาธารณะเขาก็ดีใจอย่างที่สุดแล้ว
วันนี้เป็นวันที่กรภูมิใจอีกวันหนึ่ง นั้นคือวันรับปริญญาของเขา โดยมี พ่อ แม่ และเพื่อน ๆ มาร่วมแสดงความยินดี วันนี้ก็เป็นวันที่เขาถ่ายรูปเยอะที่สุดในชีวิต และยิ่งต้องถ่ายรูปเยอะขึ้นเป็นพิเศษ เป็นผลมาจากเพลงที่เขาแต่ง และร้องประกอบภาพยนตร์ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายมาก เลยมีหลาย ๆ คนเข้ามาขอถ่ายรูปไม่ขาด
ขณะที่เขานั่งอยู่กับเพื่อนในซุ้มของคณะก็มีหญิงสาวหน้าตาดีหอบดอกไม้ช่อใหญ่เดินเข้ามาหาเขา
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ” น้ำยื่นดอกไม้แสดงความยินดีให้กร
“ขอบคุณครับ น้ำ”
“ส่วนอันนี้คุณพ่อฝากมาค่ะ ลองแกะดูสิชอบไหม”
กรแกะกล่องข้างในเป็นนาฬิกาหรู
“ชอบครับ ฝากขอบคุณ คุณพ่อน้ำด้วยนะ”
น้ำยิ้มดีใจที่กรชอบของชิ้นนี้เพราะเป็นเธอเลือกเอง
กรยืนคุยกับน้ำอยู่สักพัก ก็มีเสียงเรียกชื่อเขามาแต่ไกล เขามองไปด้วยสายตาที่อมยิ้ม ภาพที่เห็นเป็นหญิงสาวหัวกระเซิงวิ่งมาในชุดที่ออกจะแปลกกว่าชาวบ้าน
“พี่กร”
“ชุดอะไรเนี่ย แล้วทำไมหัวถึงกระเซิงมาแบบนี้” กรหัวเราะพร้อมลูบผมที่กระเซิงของเธอให้เรียบลง
“แพรเลิกงานเสร็จก็รีบนั่งมอไซด์มาเลย กลัวไม่ทันชุดก็เลยยังไม่ได้เปลี่ยน”
“congratulation ค่ะ” เธอยื่นกล่องของขวัญให้กับเขา
กรรับมาและแกะออกดู เป็นนาฬิกาแนวสปอร์ต ราคาไม่กี่พันบาท เขาหยิบนาฬิกาขึ้นมาสวมที่ข้อมือ ระหว่างนั้นน้ำยืนอยู่ข้าง ๆ เธอรู้สึกเสียใจที่เห็นเขาสวมนาฬิกาเรือนนั้นแทนที่จะเป็นเรือนของเธอ
“แพรนี่น้ำ ที่พี่ไปร้องเพลงประกอบหนังของคุณพ่อของน้ำ”
“สวัสดีค่ะคุณน้ำ” แพรยกมือไหว้
“เรียกพี่น้ำก็ได้จ๊ะ” น้ำรับไหว้
“ค่ะพี่น้ำ”
“ส่วนนี่แพรแฟนผม”
เมื่อน้ำได้ยินคำว่า ‘ แฟนผม ’ เธอยิ่งรู้สึกเจ็บแปลบเข้าไปข้างใน ‘ เขามีแฟนแล้ว ‘ เสียงนี้ดังก้องในหัวของเธอ
“เดี๋ยวน้ำขอตัวกลับก่อนนะ” น้ำขอตัวกลับก่อนเธอรู้สึกอยากออกจากความอึดอัดที่อยู่ในใจเธอขณะนี้
“ครับ ยังไงขอบคุณน้ำมากนะที่มา”
หลังจากน้ำจากไป กรก็หันกับมามองที่แพรที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อีกครั้ง เธอยังอยู่ในชุดแซกสีเงินสะท้อนแสง
“มาชุดแปลกกว่าชาวบ้านเขาเลยนะเรา”
“งั้นเดี๋ยวแพรไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ”
“อย่าพึ่งมาถ่ายรูปกับพี่ก่อน จะได้เอาไว้ให้ลูกเราดูว่าเมื่อก่อนแม่เพี้ยนขนาดไหน ฮ่าฮ่าฮ่า”
“พี่กร!?” เธอยิ้มอาย ๆ
“แพร”
“พี่โจ้ สวัสดีค่ะ”
“มาชุดซะเด่นเลย มามะ มาถ่ายรูปกับพี่ก่อน”
"รอฉันก่อน" จอยรีบวิ่งมาสมทบ
ทั้ง 4 คนถ่ายรูปร่วมกันอย่างสนุกสนานในบรรยากาศของบัณฑิตจบใหม่
“แพรเดี๋ยวเปลี่ยนชุดเสร็จเจอพี่ที่นี่นะ พี่จะพาไปเจอพ่อกับแม่พี่”
แพรเดินไปเปลี่ยนชุดด้วยอาการตื่นเต้นที่อีกเดี๋ยวจะได้พบพ่อ และแม่ของกร หลังจากแพรเปลี่ยนชุดออก กรก็พาแพรไปพบพ่อกับแม่ ที่นั่งพักอยู่ในโรงอาหาร
“แพร นี่พ่อกับแม่พี่”
“สวัสดีค่ะ คุณลุงคุณป้า” แพรยกมือไหว้พ่อแม่ของกร
“พ่อครับแม่ครับ นี่แพรว่าที่ลูกสะใภ้”
แพรหน้าแดง ที่กรแนะนำเธอกับพ่อแม่แบบนั้น
“ไหน ๆ แพรมาหาแม่ใกล้ ๆ หน่อย”
แพรเดินเขาไปใกล้
“ไอ้กรร้อยวันพันปีไม่เคยพูดถึงผู้หญิงคนไหน เล่นโผล่มาเปิดตัวในงานรับปริญญาเลยนะ สวยกว่าแม่อีกพ่อไม่ยอมนะ”
“พ่อ!”
“อย่าไปสนใจสองหนุ่มนั้นเลยจ๊ะ พ่อลูกคู่นี้เขาก็เพี้ยน ๆ แบบนี้แหละ”
“ค่ะ คุณป้า”
“ไม่ต้องเรียกลุงป้าแล้วหนูเรียกพ่อกับแม่ดีกว่า ว่าที่ลูกสะใภ้ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” พ่อกรหัวเราะชอบใจ
เพียงสองเรา ตอนที่ 5 ก้าวสู่วงการบันเทิง
ณ ตึกสูงใจกลางเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสื่อบันเทิง ไม่ว่าจะหนัง เพลง ละครทีวี หนังสือ วิทยุ ฯลฯ และที่ ๆ กรต้องมาบันทึกเสียง
“สวัสดีครับพี่” กรและบอล ไหว้พี่โต
“วันนี้พี่ฝากด้วยนะกร ...ส่วนบอลพี่ฝากดูเพลงด้วย”
“ครับพี่”
กรใช้เวลาในการอัดเสียงตั้งแต่เช้าจนเกือบจะถึงบ่าย หลังอัดเสียงเสร็จ กร บอล และโต กำลังจะออกไปกินข้าวกันข้างนอก ในขณะนั้นก็เดินไปพบเสี่ยธนาซึ่งเป็นประธานบริษัทและเจ้าของตึกนี้
“นี่คุณธนา” พี่โตแนะนำให้กรและบอลให้รู้จัก
“สวัสดีครับ” ทั้งสองยกมือขึ้นไหว้
“นี่กรครับ เป็นคนแต่งเพลงและร้องเพลงประกอบหนังเรื่องใหม่ครับ ส่วนนี่บอลครับมาช่วยโปรดิวฯ”
“ยังไงเฮียฝากกร กับ บอลด้วยนะ”
“ครับ” ทั้งสองรับคำ
“แล้วนี่กำลังจะไปไหนกัน”
“พวกผมพึ่งอัดเพลงกันเสร็จกำลังจะไปหาข้าวกินกันนะครับ” โตตอบเสี่ยธนา
“พอดีเลยเฮียก็กำลังจะไปกินข้าวเดี๋ยวไปพร้อมกันหมดเนี่ยแหละ”
ทั้งสามได้นั่งรถตู้ของเสี่ยธนามาที่ร้านอาหารจีนชื่อดัง เสี่ยธนาเดินนำหน้าไปที่โต๊ะที่เขาได้ให้เลขาจองไว้ ที่โต๊ะมีหญิงสาวสวยวัยไล่เลี่ยกับกรนั่งรออยู่
“นี่ลูกสาวเฮีย ตอนนี้เฮียให้มาช่วยงานที่บริษัท” เสี่ยธนาแนะนำลูกสาว
“ส่วนนั้นบอลมาช่วยโปรดิวฯเพลง แล้วก็กรคนแต่งเพลงที่ป๋าเคยให้น้ำฟัง”
“สวัสดีค่ะ อัจจิมา เรียกน้ำก็ได้...เพลงคุณกรน้ำชอบมาก”
“ขอบคุณครับ แต่เรียกกรเฉย ๆ ก็ได้ครับคุณน้ำ”
“งั้นกรก็ต้องเรียกน้ำ เฉย ๆ นะ”
“ครับ”
“เอ้ากิน ๆ คงหิวกันแล้ว” เสี่ยธนาชวนทุกคนทานข้าว
“พี่โตน้ำว่ามิวสิควีดีโอให้ทำไว้ 2 แบบก็ดีนะคะ แบบแรกก็ตัดเอาจากภาพยนตร์ อีกแบบก็ถ่ายกรไว้ด้วย”
“เฮียก็ว่าดีนะกรหน้าตาก็ดี ถ่ายเผื่อไว้เลย”
“ครับเฮีย”
หลังออกจากร้านอาหาร บอลและกรก็ลาเฮียกลับออฟฟิศ
“จะดังใหญ่แล้วนะเรา ดังแล้วอย่าลืมพี่ล่ะ”
“ไม่หรอกพี่ ดังอะไร แต่ยังไงผมก็ขอบคุณพี่อีกครั้งนะครับที่ทำให้ฝันของผมเป็นจริง”
กรไม่เคยหวังว่าเพลงของเขาจะดัง เขาแค่หวังให้เพลงของเขาได้เผยแพร่ออกสู่สาธารณะเขาก็ดีใจอย่างที่สุดแล้ว
วันนี้เป็นวันที่กรภูมิใจอีกวันหนึ่ง นั้นคือวันรับปริญญาของเขา โดยมี พ่อ แม่ และเพื่อน ๆ มาร่วมแสดงความยินดี วันนี้ก็เป็นวันที่เขาถ่ายรูปเยอะที่สุดในชีวิต และยิ่งต้องถ่ายรูปเยอะขึ้นเป็นพิเศษ เป็นผลมาจากเพลงที่เขาแต่ง และร้องประกอบภาพยนตร์ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายมาก เลยมีหลาย ๆ คนเข้ามาขอถ่ายรูปไม่ขาด
ขณะที่เขานั่งอยู่กับเพื่อนในซุ้มของคณะก็มีหญิงสาวหน้าตาดีหอบดอกไม้ช่อใหญ่เดินเข้ามาหาเขา
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ” น้ำยื่นดอกไม้แสดงความยินดีให้กร
“ขอบคุณครับ น้ำ”
“ส่วนอันนี้คุณพ่อฝากมาค่ะ ลองแกะดูสิชอบไหม”
กรแกะกล่องข้างในเป็นนาฬิกาหรู
“ชอบครับ ฝากขอบคุณ คุณพ่อน้ำด้วยนะ”
น้ำยิ้มดีใจที่กรชอบของชิ้นนี้เพราะเป็นเธอเลือกเอง
กรยืนคุยกับน้ำอยู่สักพัก ก็มีเสียงเรียกชื่อเขามาแต่ไกล เขามองไปด้วยสายตาที่อมยิ้ม ภาพที่เห็นเป็นหญิงสาวหัวกระเซิงวิ่งมาในชุดที่ออกจะแปลกกว่าชาวบ้าน
“พี่กร”
“ชุดอะไรเนี่ย แล้วทำไมหัวถึงกระเซิงมาแบบนี้” กรหัวเราะพร้อมลูบผมที่กระเซิงของเธอให้เรียบลง
“แพรเลิกงานเสร็จก็รีบนั่งมอไซด์มาเลย กลัวไม่ทันชุดก็เลยยังไม่ได้เปลี่ยน”
“congratulation ค่ะ” เธอยื่นกล่องของขวัญให้กับเขา
กรรับมาและแกะออกดู เป็นนาฬิกาแนวสปอร์ต ราคาไม่กี่พันบาท เขาหยิบนาฬิกาขึ้นมาสวมที่ข้อมือ ระหว่างนั้นน้ำยืนอยู่ข้าง ๆ เธอรู้สึกเสียใจที่เห็นเขาสวมนาฬิกาเรือนนั้นแทนที่จะเป็นเรือนของเธอ
“แพรนี่น้ำ ที่พี่ไปร้องเพลงประกอบหนังของคุณพ่อของน้ำ”
“สวัสดีค่ะคุณน้ำ” แพรยกมือไหว้
“เรียกพี่น้ำก็ได้จ๊ะ” น้ำรับไหว้
“ค่ะพี่น้ำ”
“ส่วนนี่แพรแฟนผม”
เมื่อน้ำได้ยินคำว่า ‘ แฟนผม ’ เธอยิ่งรู้สึกเจ็บแปลบเข้าไปข้างใน ‘ เขามีแฟนแล้ว ‘ เสียงนี้ดังก้องในหัวของเธอ
“เดี๋ยวน้ำขอตัวกลับก่อนนะ” น้ำขอตัวกลับก่อนเธอรู้สึกอยากออกจากความอึดอัดที่อยู่ในใจเธอขณะนี้
“ครับ ยังไงขอบคุณน้ำมากนะที่มา”
หลังจากน้ำจากไป กรก็หันกับมามองที่แพรที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อีกครั้ง เธอยังอยู่ในชุดแซกสีเงินสะท้อนแสง
“มาชุดแปลกกว่าชาวบ้านเขาเลยนะเรา”
“งั้นเดี๋ยวแพรไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ”
“อย่าพึ่งมาถ่ายรูปกับพี่ก่อน จะได้เอาไว้ให้ลูกเราดูว่าเมื่อก่อนแม่เพี้ยนขนาดไหน ฮ่าฮ่าฮ่า”
“พี่กร!?” เธอยิ้มอาย ๆ
“แพร”
“พี่โจ้ สวัสดีค่ะ”
“มาชุดซะเด่นเลย มามะ มาถ่ายรูปกับพี่ก่อน”
"รอฉันก่อน" จอยรีบวิ่งมาสมทบ
ทั้ง 4 คนถ่ายรูปร่วมกันอย่างสนุกสนานในบรรยากาศของบัณฑิตจบใหม่
“แพรเดี๋ยวเปลี่ยนชุดเสร็จเจอพี่ที่นี่นะ พี่จะพาไปเจอพ่อกับแม่พี่”
แพรเดินไปเปลี่ยนชุดด้วยอาการตื่นเต้นที่อีกเดี๋ยวจะได้พบพ่อ และแม่ของกร หลังจากแพรเปลี่ยนชุดออก กรก็พาแพรไปพบพ่อกับแม่ ที่นั่งพักอยู่ในโรงอาหาร
“แพร นี่พ่อกับแม่พี่”
“สวัสดีค่ะ คุณลุงคุณป้า” แพรยกมือไหว้พ่อแม่ของกร
“พ่อครับแม่ครับ นี่แพรว่าที่ลูกสะใภ้”
แพรหน้าแดง ที่กรแนะนำเธอกับพ่อแม่แบบนั้น
“ไหน ๆ แพรมาหาแม่ใกล้ ๆ หน่อย”
แพรเดินเขาไปใกล้
“ไอ้กรร้อยวันพันปีไม่เคยพูดถึงผู้หญิงคนไหน เล่นโผล่มาเปิดตัวในงานรับปริญญาเลยนะ สวยกว่าแม่อีกพ่อไม่ยอมนะ”
“พ่อ!”
“อย่าไปสนใจสองหนุ่มนั้นเลยจ๊ะ พ่อลูกคู่นี้เขาก็เพี้ยน ๆ แบบนี้แหละ”
“ค่ะ คุณป้า”
“ไม่ต้องเรียกลุงป้าแล้วหนูเรียกพ่อกับแม่ดีกว่า ว่าที่ลูกสะใภ้ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” พ่อกรหัวเราะชอบใจ