+++++++บันทึกการเดินทาง สองคน...สาม สี่ ก้าวว อ้าววว ไป Tokyo ภาค 2 ...+++++++++
By Back couple

จากการเดินทางของผมกับภรรยามาเป็นบันทึกครับ
หลังจากผม เริ่มเขียนบันทึกการเดินทางของผมและภรรยา ในโตเกียว ไปแล้วนะครับ วันนี้ผมจะมาเล่าต่อกันเลย ตามกระทู้ได้ที่
วันนี้เริ่มต้นด้วย อาหารฟิวชั่น ที่เราเลือกสรรมาอย่างดีครับ บะหมี่ นิชชิน รสต้มยำกุ้ง 555 และนี้คือบรรยากาศห้องนั่งเล่นของ โรงแรม KAOSAN TOKYO KABUKI ที่เราพักกันนะครับ ดีมากๆเลย โรงแรมมี บริการ wifi มี อุปกรณ์ เครื่องครัวให้หมดเลย มีตู้เย็นให้แช่อาหาร น้ำร้อน กาแฟ มีหนังสือให้อ่าน มีเกมส์ให้เล่นด้วยครับ เยี่ยมมากๆ
บรรยากาศมุมหนึ่งครับ
อันนี้บรรยากาศคนกิน ครับ ฮ่าๆ พร้อมออกเดินทางแล้ววววว
ตามบันทึกการกิน เฮ้ยยยยยยย!!!!! การเดินทางกันต่อเลยนะครับบบบบ.......



หลังจากเมื่อวานเราเดินทางมาถึงโตเกียวแล้วก็เดินเล่นเที่ยวตามย่าน ASAKUSA ที่เราพักกัน วันนี้ผมมี แพลนที่คุยกับคุณภรรยาว่า เราจะไปเที่ยวแถวย่าน Shibuya ,Harajuku , Shinjuku กันนะครับ โดยวันนี้เราได้ติดต่อเช่า pocket wifi กับทางโรงแรมไว้นะครับ แต่ Staff บอกว่าที่นี่ไม่มี (อะอ่าว 55) แต่เขาโทรไปถาม โรงแรมในเครือ สาขา KAOSAN TOKYO LABORATORY ซึ่งจะอยู่เลยจากปากซอยโรงแรมเรา แค่ ประมาณ 500 เมตรได้ครับ วันนี้ฝนตก ครับ แต่ทางโรงแรมจะมีร่มให้ยืมครับ ดีมากๆเลย
นี่ครับ เราเดินเรียบถนนใหญ่ออกมาแป๊บเดียวก็เจอแยกนี้ครับ โรงแรม KAOSAN TOKYO LABORATORY ที่เราจะมารับ Pocket wifi จะอยู่ในซอยด้านขวามือที่เห็นเลยครับ
อันนี้ภาพหน้าโรงแรมนะครับ Credit จาก
http://www.khaosan-tokyo.com/en/laboratory/access/index.html
ราคาค่าเช่า POCKET WIFI อยู่ที่ 500 YEN ต่อ วันนะครับ มีค่าประกัน 10,000 YEN ครับ ผมเช่า 2 วันครับ
**แนะนำนะครับ STAFF เค้าแนะนำว่า ถ้าเราเดินข้ามสะพานที่จะไปตึก ASAHI ไป ทางขวามือ จะเจอ เป็น Tourist information ของทางภาครัฐ เขามีให้ยืม ฟรีๆ เลย แต่ผม ไม่ได้ไปนะครับ เพราะผมคำนวนดูแล้วคงเอาไปคืนไม่ทัน เพราะเขาให้คืน ก่อน 6 โมงเย็นวันเสาร์ เพราะว่าเขาปิดวันอาทิตย์ เลยยอมเสียเงินเช่าของทางโรงแรมดีกว่า อิอิ**
ประมาณ 10 โมงครับ เริ่มเดินทางการเลยนะครับ วันนี้ จุดหมายแรก ที่ผมจะพาคุณภรรยาไป คือ Shibuya ครับ คือเท่าที่ผมดูเส้นทางรถไฟใต้ดินแล้ว เรานั่ง สายสีส้ม GINZA LINE ไปจนสุดสายที่ SHIBUYA น่าจะง่ายที่สุดครับ ฮ่าๆ คือกลัวหลงครับ เดียวโดน ภรรยา สาป อิอิ
ชิวไปครับ บรรยากาศในรถไฟ เราต้องเดินทางไปอีก ร่วมๆ 45 นาทีครับ
หลังจากนั้นสักพักครับ เราถึงกันแล้ววววววว ชิบูย่าาาาาาาาา และมนุษย์ร่มมมมม อีกมากมายยย ฮ่าๆ และนั้นแหละครับ อย่างแรกที่ผมทำเมื่อไปถึงคือ กินครับฮ่าๆๆๆ กินอีกแล้ววววว ขอขึ้นไปกินกาแฟ สตาบั๊คแล้ว ถ่ายรูปสวยๆ ตรงมุมร้านชั้นบนหน่อยสิ๊ !!!
แต่ ดู สิ ดูครับบบบ ท่านผู้ชมมมม คนเยอะมากกกกกกกกกกกกกก !!!!!
แต่เราก็ ไม่ยอมแพ้ครับ แทรกตัวเข้าไปนั่งจนได้และนั่งจิบกาแฟชิวๆ มุมนี้ คุณภรรยา รีเควสสสสส
ราคากาแฟ อยู่ที่ 490 YEN ครับ (140 บาท)
แต่ส่วนผมสนุกกับการดู มนุษย์ ร่มครับบ ฮ่าๆ สนุกดี ผมชอบดูการใช้ชีวิตของผู้คนตามที่ต่างๆ มัน สนุกครับ
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรมาก เราเดินออกจาก Starbucks เราก็เดินไปเรื่อยๆ ทางขวา คุณภรรยา ก็ ช๊อปปิ้งไป ผมก็ถ่ายรูปเล่นไป และ ภาระกิจต่อไปของเราสองคน กินครับ ฮ่าๆๆๆ ใช่ครับ กินอีกแล้ว(บันทึกกินเดินทาง หรือการเดินทางกันแน่ 55555)
ร้านราเมง Shibu Tora
นี่เลยครับ เราเดินไปเรื่อยๆจนไปสะดุดอยู่ที่ร้านนี้ หน้าร้านดูดี ฝนเริ่มตกหนัก เลยรีบเข้าเลยครับ ร้านราเมงร้านนี้เป็นแบบบบบ หยอดเหรียญสั่งอีกแล้ว ผมสองคนชอบลุ้นครับ ว่าที่กดๆ ไปคืออะไร ฮ่า ๆ
และนี่ครับ หน้าตาอาหาร โอ๊ โหหหหหห ราเมงคนละชามครับ ข้าวหน้าหมูอีกแล้ว และ เกี๊ยวซ่าครับ ข้าวหน้าหมูร้านนี้ฉ่ำมาก อร่อยมากครับ ผมชอบอันนี้มากกว่า ..........เอ้อออ ผมลืมบอกไปตั้งแต่ กระทู้ที่แล้ว ร้านอาหารในญี่ปุ่น ส่วนมาก เขาจะบริการ น้ำ เปล่า หรือ ชาเขียวให้ฟรีนะครับ
เป็นไงหละครับ ตามอ่านไปเรื่อยๆ ผมบอกแล้ว ผมมากินนนครับบบบบ ฮ่าๆๆๆๆ
ราคาอาหารมื้อนี้ คือ ราเมง ของภรรยา 800 YEN
ราเมง ของผม 660 YEN
ข้าวหน้าหมู + เกี๊ยวซ่า 520 YEN
รวม 1980 YEN (550 บาท )
[CR] {ภาคต่อมาแล้วครับ :))} **ก้าวที่ 2.......**สองคน...สาม สี่ ก้าวว อ้าววว ไป Tokyo II ...By Backcouple
By Back couple
วันนี้เริ่มต้นด้วย อาหารฟิวชั่น ที่เราเลือกสรรมาอย่างดีครับ บะหมี่ นิชชิน รสต้มยำกุ้ง 555 และนี้คือบรรยากาศห้องนั่งเล่นของ โรงแรม KAOSAN TOKYO KABUKI ที่เราพักกันนะครับ ดีมากๆเลย โรงแรมมี บริการ wifi มี อุปกรณ์ เครื่องครัวให้หมดเลย มีตู้เย็นให้แช่อาหาร น้ำร้อน กาแฟ มีหนังสือให้อ่าน มีเกมส์ให้เล่นด้วยครับ เยี่ยมมากๆ
บรรยากาศมุมหนึ่งครับ
อันนี้บรรยากาศคนกิน ครับ ฮ่าๆ พร้อมออกเดินทางแล้ววววว
ตามบันทึกการกิน เฮ้ยยยยยยย!!!!! การเดินทางกันต่อเลยนะครับบบบบ.......
นี่ครับ เราเดินเรียบถนนใหญ่ออกมาแป๊บเดียวก็เจอแยกนี้ครับ โรงแรม KAOSAN TOKYO LABORATORY ที่เราจะมารับ Pocket wifi จะอยู่ในซอยด้านขวามือที่เห็นเลยครับ
อันนี้ภาพหน้าโรงแรมนะครับ Credit จาก http://www.khaosan-tokyo.com/en/laboratory/access/index.html
ราคาค่าเช่า POCKET WIFI อยู่ที่ 500 YEN ต่อ วันนะครับ มีค่าประกัน 10,000 YEN ครับ ผมเช่า 2 วันครับ
**แนะนำนะครับ STAFF เค้าแนะนำว่า ถ้าเราเดินข้ามสะพานที่จะไปตึก ASAHI ไป ทางขวามือ จะเจอ เป็น Tourist information ของทางภาครัฐ เขามีให้ยืม ฟรีๆ เลย แต่ผม ไม่ได้ไปนะครับ เพราะผมคำนวนดูแล้วคงเอาไปคืนไม่ทัน เพราะเขาให้คืน ก่อน 6 โมงเย็นวันเสาร์ เพราะว่าเขาปิดวันอาทิตย์ เลยยอมเสียเงินเช่าของทางโรงแรมดีกว่า อิอิ**
ประมาณ 10 โมงครับ เริ่มเดินทางการเลยนะครับ วันนี้ จุดหมายแรก ที่ผมจะพาคุณภรรยาไป คือ Shibuya ครับ คือเท่าที่ผมดูเส้นทางรถไฟใต้ดินแล้ว เรานั่ง สายสีส้ม GINZA LINE ไปจนสุดสายที่ SHIBUYA น่าจะง่ายที่สุดครับ ฮ่าๆ คือกลัวหลงครับ เดียวโดน ภรรยา สาป อิอิ
ชิวไปครับ บรรยากาศในรถไฟ เราต้องเดินทางไปอีก ร่วมๆ 45 นาทีครับ
หลังจากนั้นสักพักครับ เราถึงกันแล้ววววววว ชิบูย่าาาาาาาาา และมนุษย์ร่มมมมม อีกมากมายยย ฮ่าๆ และนั้นแหละครับ อย่างแรกที่ผมทำเมื่อไปถึงคือ กินครับฮ่าๆๆๆ กินอีกแล้ววววว ขอขึ้นไปกินกาแฟ สตาบั๊คแล้ว ถ่ายรูปสวยๆ ตรงมุมร้านชั้นบนหน่อยสิ๊ !!!
แต่ ดู สิ ดูครับบบบ ท่านผู้ชมมมม คนเยอะมากกกกกกกกกกกกกก !!!!!
แต่เราก็ ไม่ยอมแพ้ครับ แทรกตัวเข้าไปนั่งจนได้และนั่งจิบกาแฟชิวๆ มุมนี้ คุณภรรยา รีเควสสสสส
ราคากาแฟ อยู่ที่ 490 YEN ครับ (140 บาท)
แต่ส่วนผมสนุกกับการดู มนุษย์ ร่มครับบ ฮ่าๆ สนุกดี ผมชอบดูการใช้ชีวิตของผู้คนตามที่ต่างๆ มัน สนุกครับ
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรมาก เราเดินออกจาก Starbucks เราก็เดินไปเรื่อยๆ ทางขวา คุณภรรยา ก็ ช๊อปปิ้งไป ผมก็ถ่ายรูปเล่นไป และ ภาระกิจต่อไปของเราสองคน กินครับ ฮ่าๆๆๆ ใช่ครับ กินอีกแล้ว(บันทึกกินเดินทาง หรือการเดินทางกันแน่ 55555)
ร้านราเมง Shibu Tora
นี่เลยครับ เราเดินไปเรื่อยๆจนไปสะดุดอยู่ที่ร้านนี้ หน้าร้านดูดี ฝนเริ่มตกหนัก เลยรีบเข้าเลยครับ ร้านราเมงร้านนี้เป็นแบบบบบ หยอดเหรียญสั่งอีกแล้ว ผมสองคนชอบลุ้นครับ ว่าที่กดๆ ไปคืออะไร ฮ่า ๆ
และนี่ครับ หน้าตาอาหาร โอ๊ โหหหหหห ราเมงคนละชามครับ ข้าวหน้าหมูอีกแล้ว และ เกี๊ยวซ่าครับ ข้าวหน้าหมูร้านนี้ฉ่ำมาก อร่อยมากครับ ผมชอบอันนี้มากกว่า ..........เอ้อออ ผมลืมบอกไปตั้งแต่ กระทู้ที่แล้ว ร้านอาหารในญี่ปุ่น ส่วนมาก เขาจะบริการ น้ำ เปล่า หรือ ชาเขียวให้ฟรีนะครับ
เป็นไงหละครับ ตามอ่านไปเรื่อยๆ ผมบอกแล้ว ผมมากินนนครับบบบบ ฮ่าๆๆๆๆ
ราคาอาหารมื้อนี้ คือ ราเมง ของภรรยา 800 YEN
ราเมง ของผม 660 YEN
ข้าวหน้าหมู + เกี๊ยวซ่า 520 YEN
รวม 1980 YEN (550 บาท )