🚗🚙🛻
ว่ากันว่า "อวัยวะ" ชิ้นสำคัญที่ช่วยให้นักขาย "หาเงินได้อย่างสนุก" ก็ต้องเป็นยานพาหนะชั้นดีที่พาคุณไปล่าเงินหรือเจอลูกค้า เงื่อนไขของรถยนต์ที่ดีจะต้องมีส่วนประกอบหลักๆ คือ "สมรรถนะที่ดี ความปลอดภัย ภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ" ที่สำคัญต้องลดรายจ่ายและ "ค่าเสียเวลา" ของนักขายให้มากที่สุด และนี่คือรถที่ผมคัดมาแล้วแบบเน้นๆ ดังนี้ครับ
1. Toyota Camry หรือ Honda Accord (รุ่น Hybrid)
สาย: "มืออาชีพ ข้ามจังหวัด ความน่าเชื่อถือสูง"
ทำไมต้องรุ่นนี้ นี่คือรถ "เครื่องแบบ" ของนักขายระดับ Senior หรือ Key Account Manager ไปจนถึง Sales Manager เลยก็ว่าได้ครับ นอกจากภาพลักษณ์ดูเป็นผู้ใหญ่ มั่นคง และเป็นมืออาชีพทันทีที่ขับเข้าออฟฟิศลูกค้า
จุดเด่นคือ ระบบ Hybrid ยุคใหม่ที่ประหยัดน้ำมันมาก (20-25 กม./ลิตร) แถมยังทนทานกว่าไฮบริดยุโรป วิ่งทางไกลสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องที่ชาร์จ แรงสั่งได้ และราคาขายต่อดีเยี่ยม
เหมาะกับนักขาย B2B ที่ต้องเข้าพบผู้บริหารระดับสูง หรือต้องวิ่งรอกกรุงเทพฯ-ระยอง-ชลบุรี บ่อยๆ
2. Honda Civic e:HEV หรือ Toyota Altis HEV
สาย: "คล่องตัว ทันสมัย วัยรุ่นเซลล์ร้อยล้าน"
ทำไมต้องรุ่นนี้ เพราะเป็นรถที่ดูโฉบเฉี่ยว กระฉับกระเฉง สะท้อนบุคลิกนักขายที่กระตือรือร้น อายุประมาณ 25-30 กำลังดี พื้นที่ใช้สอยภายในกว้างขวางเกินคาด ขับหล่อๆ ภูมิฐานสุดๆ
จุดเด่นคือ แรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้เร่งแซงไปหาลูกค้าได้ทันใจ ระบบความปลอดภัย Honda SENSING และ Toyota Safety Sense ช่วยลดความเหนื่อยล้าเวลาขับรถนานๆ ซ่อมง่าย อะไหล่ถูก ศูนย์เยอะ ขายต่อดี รถหาเงินชัดๆ
เหมาะกับ: เซลล์สาย Tech, IT, การตลาด, เอเจนซี่ ฯลฯ หรือเซลล์ที่ต้องทำยอดในเมืองที่จราจรติดขัดเป็นหลัก
3. BYD Seal หรือ Tesla Model 3 (EV 100%)
สาย: "ประหยัดค่าใช้จ่าย เน้นกำไรสุทธิ"
ทำไมต้องรุ่นนี้เพราะถ้าคุณมีที่ชาร์จที่บ้านและต้องวิ่งวันละ 100-200 กม. รถ EV จะเปลี่ยนจาก "ค่าใช้จ่าย" เป็น "เงินออม" ทันที เพราะค่าชาร์จถูกกว่าค่าน้ำมัน 3-4 เท่า (แถมอาจจะได้กำไรจากค่าน้ำมันที่บริษัทให้มาเป็นงบฯ ด้วย) ถ้าเป็น Fleet Card ก็หมดสิทธ์ (ฮา)
จุดเด่นคือภาพลักษณ์ที่ดูเป็นคนล้ำสมัย เข้ากับยุค Green Energy และได้พักผ่อนในรถเปิดแอร์นอนรอพบลูกค้าได้โดยไม่มีเสียงเครื่องยนต์รบกวนและไม่เปลืองน้ำมัน แรงสุดๆ ที่สำคัญคือ BYD Seal ค่าตัวถูกมาก
เหมาะกับ เซลล์ที่วิ่งงานในพื้นที่ประจำที่มีระยะทางแน่นอน เซลล์ไอทีโซลูชั่น และต้องการเปลี่ยนค่าเดินทางเป็นเงินเก็บ ที่สำคัญคือควรได้ค่าน้ำมันเป็นงวดที่โอนมาพร้อมเงินเดือนก็จะทำให้คุณกำไรมากครับ
4. Toyota Corolla Cross HEV หรือ Honda HRV HEV
สาย: "ลุยทุกไซส์งาน ขนของเก่ง"
ทำไมต้องรุ่นนี้เพราะเป็นรถ SUV ไซส์คอมแพ็คที่ทนทานและอเนกประสงค์ที่สุด เหมาะกับเซลล์ที่ต้องมีตัวอย่างสินค้าเดโม่หรือเอกสารจำนวนมากติดรถ ขนถุงกอล์ฟได้ด้วย
จุดเด่นคือ ทัศนวิสัยดี ขับง่าย ลุยน้ำท่วมรอการระบายในกรุงเทพฯ ได้ดีกว่ารถเก๋ง และประหยัดน้ำมันระดับเทพด้วยเครื่องยนต์ Hybrid ของ Toyota กับ Honda ทนทาน ใช้งานง่าย ขายต่อดี
เหมาะกับ: เซลล์ขายวัสดุก่อสร้าง เอนจิเนียริ่น เซลล์ยา หรือเซลล์ที่ต้องเข้าหน้างานโปรเจกต์บ่อยๆ
5. Toyota Yaris Ativ (รุ่นท็อป)
สาย: "เริ่มต้นอย่างฉลาด คุ้มค่าทุกบาท"
ทำไมต้องรุ่นนี้ สำหรับเซลล์มือใหม่ที่ไม่อยากแบกภาระงวดรถหนักเกินไป Ativ ให้ Option ภายในที่ดู "แพง" เกินราคา ช่วยเสริมภาพลักษณ์ได้ดีในราคาประหยัด ไอ้ตัวเนี้ย คุ้มและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดแล้ว
จุดเด่นคือ ภาษีและค่าบำรุงรักษาต่ำมาก อะไหล่หาง่ายทั่วประเทศ ทำให้คุณเหลือเงินไปใช้ในการสร้างสายสัมพันธ์ เก็บเงินสร้างตัวหรือเอนเตอร์เทนลูกค้าได้มากขึ้น
เหมาะกับ: เซลล์จบใหม่ หรือนักขายที่เน้นความคุ้มค่าและต้องการรถที่ไว้ใจได้ไม่จุกจิก
6. Isuzu D-Max และ Toyota Hilux Revo
สาย: "บรรทุก/ลุยหน้างาน/ออกต่างจังหวัด"
ทำไมต้องรุ่นนี้: ราชาแห่งความคุ้มค่า อะไหล่หาง่ายทุกอำเภอ ศูนย์บริการเยอะที่สุด และที่สำคัญ "ราคาขายต่อ" ดีจนน่าตกใจ
เหมาะกับ: เซลล์ที่ต้องวิ่งงานหนักทั่วประเทศ ประหยัดน้ำมัน และต้องการรถที่ซ่อมง่ายไม่จุกจิก
7. Toyota Fortuner (รุ่น Leader หรือ Legender)
สาย: "บารมีเซลล์ข้ามจังหวัด"
ทำไมต้องรุ่นนี้ เพราะเป็นรถที่ลูกค้าเห็นแล้ว "เกรงใจ" ที่สุดรุ่นหนึ่ง (ฮา) ได้บารมีระดับเจ้าของบริษัทเลยด้วยซ้ำ ขับไปหน้างานก่อสร้างหรือไปหาเจ้าของโรงงานดูมีพาวเวอร์มาก เครื่องยนต์ดีเซลทนทานหายห่วง
จุดเด่น: ราคาขายต่อแข็งแกร่งที่สุดในตลาด อะไหล่หาง่ายทุกอำเภอ พื้นที่เก็บของมหาศาลถ้าพับเบาะหลัง ทนมือทนตีน แรง คุ้กกี้เสี่ยงทาย (ฮา)
เหมาะกับ: เซลล์ขายโปรเจกต์ใหญ่, เซลล์วัสดุก่อสร้าง หรือเซลล์ที่ต้องเดินทางไกลทั่วไทย ไปจนถึงเจ้าของบริษัท ผู้จัดการ ผู้บริหาร ใช้ได้ทุกระดับเลย (ระวังเรื่องเงินผ่อนด้วย)
8. Honda CR-V e:HEV (Hybrid)
สาย: "ภาพลักษณ์หรูหรา นุ่มนวลระดับผู้บริหาร"
ทำไมต้องรุ่นนี้เพราะให้ความรู้สึกกึ่งรถยุโรป ดูเป็นนักขายที่มีคลาสและประสบความสำเร็จ ระบบ Hybrid ของ Honda ทำงานเงียบและนุ่มนวลมาก แรงกำลังดี ดูน่าเชื่อถือ
จุดเด่น: ภายในกว้างขวางและนั่งสบายที่สุดในกลุ่ม ช่วยลดความเหนื่อยล้าเวลาต้องขับรถไปหาลูกค้าหลายเจ้าในวันเดียว ภาพลักษณ์ดีมาก
เหมาะกับ: เซลล์เครื่องมือแพทย์ เซลล์อสังหาริมทรัพย์หรู หรือนักขายที่ต้องไปพบลูกค้าในออฟฟิศระดับเกรด A
9. Mitsubishi Pajero Sport
สาย: "Option ล้น คุ้มค่าทุกบาทที่จ่าย"
ทำไมต้องรุ่นนี้เพราะเมื่อเทียบราคากับคู่แข่ง Pajero ให้ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีมาเยอะที่สุด ช่วยให้ชีวิตบนรถง่ายขึ้นมาก เซฟเงินได้เยอะเมื่อเทียบกับฟอร์จูเนอร์
จุดเด่น: ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่เกาะถนนเยี่ยม (Super Select 4WD-II) และหน้าจอความบันเทิงหลังที่อาจใช้ "มัดใจ" ลูกค้าเวลาต้องไปรับไปส่งหรือพาไปทานข้าวได้
เหมาะกับ: เซลล์ที่เน้นความคุ้มค่าและต้องการเทคโนโลยีช่วยขับขี่ที่จัดเต็ม กลุ่มเดียวกับฟอร์จูเนอร์
10. Isuzu MU-X (รุ่น RS หรือ Ultimate)
สาย: "ประหยัดทนทาน งานขายไม่สะดุด"
ทำไมต้องรุ่นนี้: เป็นรถที่ "ซ่อมจบ" และไม่จุกจิกที่สุดในกลุ่ม PPV ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล เทียบชั้นโตโยต้าคุ้กกี้สบายครับ แถมค่าตัวยังประหยัดกว่า บารมีห่างกันไม่มาก
จุดเด่น: ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย และภาพลักษณ์ที่ดูเป็นคนทำงานหนัก (Hard Working) ที่มีความมั่นคง และไม่โชว์ออฟเท่าฟอร์จูเนอร์
เหมาะกับ: เซลล์ที่วิ่งงานต่างจังหวัดหนัก ๆ วันละหลายร้อยกิโลเมตร และต้องการรถที่ไว้ใจได้ 100%
สรุปการเลือก SUV สำหรับเซลล์แมน:
ถ้าเน้น "ภาพลักษณ์ความรวยและบารมี" เลือก Fortuner หรือ CR-V
ถ้าเน้น "ประหยัดน้ำมันและค่าซ่อม" เลือก Corolla Cross หรือ MU-X
ถ้าเน้น "ความสูง ลุยน้ำ ลุยหน้างาน" ให้มองกลุ่ม PPV (Fortuner, MU-X, Pajero) จะตอบโจทย์กว่ากลุ่ม SUV ขนาดเล็กครับ
CR
https://www.facebook.com/share/1B3BiNEVBw/?mibextid=wwXIfr
10 รถเซลล์แมน “ตัวท็อป” ประจำปี 2025 (ใช้แล้วคุ้ม ล่าเงินได้อย่างสนุก)
ว่ากันว่า "อวัยวะ" ชิ้นสำคัญที่ช่วยให้นักขาย "หาเงินได้อย่างสนุก" ก็ต้องเป็นยานพาหนะชั้นดีที่พาคุณไปล่าเงินหรือเจอลูกค้า เงื่อนไขของรถยนต์ที่ดีจะต้องมีส่วนประกอบหลักๆ คือ "สมรรถนะที่ดี ความปลอดภัย ภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ" ที่สำคัญต้องลดรายจ่ายและ "ค่าเสียเวลา" ของนักขายให้มากที่สุด และนี่คือรถที่ผมคัดมาแล้วแบบเน้นๆ ดังนี้ครับ
1. Toyota Camry หรือ Honda Accord (รุ่น Hybrid)
สาย: "มืออาชีพ ข้ามจังหวัด ความน่าเชื่อถือสูง"
ทำไมต้องรุ่นนี้ นี่คือรถ "เครื่องแบบ" ของนักขายระดับ Senior หรือ Key Account Manager ไปจนถึง Sales Manager เลยก็ว่าได้ครับ นอกจากภาพลักษณ์ดูเป็นผู้ใหญ่ มั่นคง และเป็นมืออาชีพทันทีที่ขับเข้าออฟฟิศลูกค้า
จุดเด่นคือ ระบบ Hybrid ยุคใหม่ที่ประหยัดน้ำมันมาก (20-25 กม./ลิตร) แถมยังทนทานกว่าไฮบริดยุโรป วิ่งทางไกลสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องที่ชาร์จ แรงสั่งได้ และราคาขายต่อดีเยี่ยม
เหมาะกับนักขาย B2B ที่ต้องเข้าพบผู้บริหารระดับสูง หรือต้องวิ่งรอกกรุงเทพฯ-ระยอง-ชลบุรี บ่อยๆ
2. Honda Civic e:HEV หรือ Toyota Altis HEV
สาย: "คล่องตัว ทันสมัย วัยรุ่นเซลล์ร้อยล้าน"
ทำไมต้องรุ่นนี้ เพราะเป็นรถที่ดูโฉบเฉี่ยว กระฉับกระเฉง สะท้อนบุคลิกนักขายที่กระตือรือร้น อายุประมาณ 25-30 กำลังดี พื้นที่ใช้สอยภายในกว้างขวางเกินคาด ขับหล่อๆ ภูมิฐานสุดๆ
จุดเด่นคือ แรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้เร่งแซงไปหาลูกค้าได้ทันใจ ระบบความปลอดภัย Honda SENSING และ Toyota Safety Sense ช่วยลดความเหนื่อยล้าเวลาขับรถนานๆ ซ่อมง่าย อะไหล่ถูก ศูนย์เยอะ ขายต่อดี รถหาเงินชัดๆ
เหมาะกับ: เซลล์สาย Tech, IT, การตลาด, เอเจนซี่ ฯลฯ หรือเซลล์ที่ต้องทำยอดในเมืองที่จราจรติดขัดเป็นหลัก
3. BYD Seal หรือ Tesla Model 3 (EV 100%)
สาย: "ประหยัดค่าใช้จ่าย เน้นกำไรสุทธิ"
ทำไมต้องรุ่นนี้เพราะถ้าคุณมีที่ชาร์จที่บ้านและต้องวิ่งวันละ 100-200 กม. รถ EV จะเปลี่ยนจาก "ค่าใช้จ่าย" เป็น "เงินออม" ทันที เพราะค่าชาร์จถูกกว่าค่าน้ำมัน 3-4 เท่า (แถมอาจจะได้กำไรจากค่าน้ำมันที่บริษัทให้มาเป็นงบฯ ด้วย) ถ้าเป็น Fleet Card ก็หมดสิทธ์ (ฮา)
จุดเด่นคือภาพลักษณ์ที่ดูเป็นคนล้ำสมัย เข้ากับยุค Green Energy และได้พักผ่อนในรถเปิดแอร์นอนรอพบลูกค้าได้โดยไม่มีเสียงเครื่องยนต์รบกวนและไม่เปลืองน้ำมัน แรงสุดๆ ที่สำคัญคือ BYD Seal ค่าตัวถูกมาก
เหมาะกับ เซลล์ที่วิ่งงานในพื้นที่ประจำที่มีระยะทางแน่นอน เซลล์ไอทีโซลูชั่น และต้องการเปลี่ยนค่าเดินทางเป็นเงินเก็บ ที่สำคัญคือควรได้ค่าน้ำมันเป็นงวดที่โอนมาพร้อมเงินเดือนก็จะทำให้คุณกำไรมากครับ
4. Toyota Corolla Cross HEV หรือ Honda HRV HEV
สาย: "ลุยทุกไซส์งาน ขนของเก่ง"
ทำไมต้องรุ่นนี้เพราะเป็นรถ SUV ไซส์คอมแพ็คที่ทนทานและอเนกประสงค์ที่สุด เหมาะกับเซลล์ที่ต้องมีตัวอย่างสินค้าเดโม่หรือเอกสารจำนวนมากติดรถ ขนถุงกอล์ฟได้ด้วย
จุดเด่นคือ ทัศนวิสัยดี ขับง่าย ลุยน้ำท่วมรอการระบายในกรุงเทพฯ ได้ดีกว่ารถเก๋ง และประหยัดน้ำมันระดับเทพด้วยเครื่องยนต์ Hybrid ของ Toyota กับ Honda ทนทาน ใช้งานง่าย ขายต่อดี
เหมาะกับ: เซลล์ขายวัสดุก่อสร้าง เอนจิเนียริ่น เซลล์ยา หรือเซลล์ที่ต้องเข้าหน้างานโปรเจกต์บ่อยๆ
5. Toyota Yaris Ativ (รุ่นท็อป)
สาย: "เริ่มต้นอย่างฉลาด คุ้มค่าทุกบาท"
ทำไมต้องรุ่นนี้ สำหรับเซลล์มือใหม่ที่ไม่อยากแบกภาระงวดรถหนักเกินไป Ativ ให้ Option ภายในที่ดู "แพง" เกินราคา ช่วยเสริมภาพลักษณ์ได้ดีในราคาประหยัด ไอ้ตัวเนี้ย คุ้มและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดแล้ว
จุดเด่นคือ ภาษีและค่าบำรุงรักษาต่ำมาก อะไหล่หาง่ายทั่วประเทศ ทำให้คุณเหลือเงินไปใช้ในการสร้างสายสัมพันธ์ เก็บเงินสร้างตัวหรือเอนเตอร์เทนลูกค้าได้มากขึ้น
เหมาะกับ: เซลล์จบใหม่ หรือนักขายที่เน้นความคุ้มค่าและต้องการรถที่ไว้ใจได้ไม่จุกจิก
6. Isuzu D-Max และ Toyota Hilux Revo
สาย: "บรรทุก/ลุยหน้างาน/ออกต่างจังหวัด"
ทำไมต้องรุ่นนี้: ราชาแห่งความคุ้มค่า อะไหล่หาง่ายทุกอำเภอ ศูนย์บริการเยอะที่สุด และที่สำคัญ "ราคาขายต่อ" ดีจนน่าตกใจ
เหมาะกับ: เซลล์ที่ต้องวิ่งงานหนักทั่วประเทศ ประหยัดน้ำมัน และต้องการรถที่ซ่อมง่ายไม่จุกจิก
7. Toyota Fortuner (รุ่น Leader หรือ Legender)
สาย: "บารมีเซลล์ข้ามจังหวัด"
ทำไมต้องรุ่นนี้ เพราะเป็นรถที่ลูกค้าเห็นแล้ว "เกรงใจ" ที่สุดรุ่นหนึ่ง (ฮา) ได้บารมีระดับเจ้าของบริษัทเลยด้วยซ้ำ ขับไปหน้างานก่อสร้างหรือไปหาเจ้าของโรงงานดูมีพาวเวอร์มาก เครื่องยนต์ดีเซลทนทานหายห่วง
จุดเด่น: ราคาขายต่อแข็งแกร่งที่สุดในตลาด อะไหล่หาง่ายทุกอำเภอ พื้นที่เก็บของมหาศาลถ้าพับเบาะหลัง ทนมือทนตีน แรง คุ้กกี้เสี่ยงทาย (ฮา)
เหมาะกับ: เซลล์ขายโปรเจกต์ใหญ่, เซลล์วัสดุก่อสร้าง หรือเซลล์ที่ต้องเดินทางไกลทั่วไทย ไปจนถึงเจ้าของบริษัท ผู้จัดการ ผู้บริหาร ใช้ได้ทุกระดับเลย (ระวังเรื่องเงินผ่อนด้วย)
8. Honda CR-V e:HEV (Hybrid)
สาย: "ภาพลักษณ์หรูหรา นุ่มนวลระดับผู้บริหาร"
ทำไมต้องรุ่นนี้เพราะให้ความรู้สึกกึ่งรถยุโรป ดูเป็นนักขายที่มีคลาสและประสบความสำเร็จ ระบบ Hybrid ของ Honda ทำงานเงียบและนุ่มนวลมาก แรงกำลังดี ดูน่าเชื่อถือ
จุดเด่น: ภายในกว้างขวางและนั่งสบายที่สุดในกลุ่ม ช่วยลดความเหนื่อยล้าเวลาต้องขับรถไปหาลูกค้าหลายเจ้าในวันเดียว ภาพลักษณ์ดีมาก
เหมาะกับ: เซลล์เครื่องมือแพทย์ เซลล์อสังหาริมทรัพย์หรู หรือนักขายที่ต้องไปพบลูกค้าในออฟฟิศระดับเกรด A
9. Mitsubishi Pajero Sport
สาย: "Option ล้น คุ้มค่าทุกบาทที่จ่าย"
ทำไมต้องรุ่นนี้เพราะเมื่อเทียบราคากับคู่แข่ง Pajero ให้ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีมาเยอะที่สุด ช่วยให้ชีวิตบนรถง่ายขึ้นมาก เซฟเงินได้เยอะเมื่อเทียบกับฟอร์จูเนอร์
จุดเด่น: ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่เกาะถนนเยี่ยม (Super Select 4WD-II) และหน้าจอความบันเทิงหลังที่อาจใช้ "มัดใจ" ลูกค้าเวลาต้องไปรับไปส่งหรือพาไปทานข้าวได้
เหมาะกับ: เซลล์ที่เน้นความคุ้มค่าและต้องการเทคโนโลยีช่วยขับขี่ที่จัดเต็ม กลุ่มเดียวกับฟอร์จูเนอร์
10. Isuzu MU-X (รุ่น RS หรือ Ultimate)
สาย: "ประหยัดทนทาน งานขายไม่สะดุด"
ทำไมต้องรุ่นนี้: เป็นรถที่ "ซ่อมจบ" และไม่จุกจิกที่สุดในกลุ่ม PPV ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล เทียบชั้นโตโยต้าคุ้กกี้สบายครับ แถมค่าตัวยังประหยัดกว่า บารมีห่างกันไม่มาก
จุดเด่น: ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย และภาพลักษณ์ที่ดูเป็นคนทำงานหนัก (Hard Working) ที่มีความมั่นคง และไม่โชว์ออฟเท่าฟอร์จูเนอร์
เหมาะกับ: เซลล์ที่วิ่งงานต่างจังหวัดหนัก ๆ วันละหลายร้อยกิโลเมตร และต้องการรถที่ไว้ใจได้ 100%
สรุปการเลือก SUV สำหรับเซลล์แมน:
ถ้าเน้น "ภาพลักษณ์ความรวยและบารมี" เลือก Fortuner หรือ CR-V
ถ้าเน้น "ประหยัดน้ำมันและค่าซ่อม" เลือก Corolla Cross หรือ MU-X
ถ้าเน้น "ความสูง ลุยน้ำ ลุยหน้างาน" ให้มองกลุ่ม PPV (Fortuner, MU-X, Pajero) จะตอบโจทย์กว่ากลุ่ม SUV ขนาดเล็กครับ
CR https://www.facebook.com/share/1B3BiNEVBw/?mibextid=wwXIfr