ไปเที่ยวญี่ปุ่นทีไรก็มักจะมีเรื่องประทับใจกลับมาทุกที
เรื่องนี้ เป็นความประทับใจที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งล่าสุด เมื่อฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา
เหตุเกิดที่ร้านกาแฟ/ขนมเล็กๆร้านหนึ่ง แถวๆ Tachikawa
แถวนั้นแทบไม่มีนักท่องเที่ยวต่างถิ่น หรือคนต่างชาติ
ตรงแยกจากถนนหลักลงไปข้างทาง เป็นธารน้ำใส ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นซากุระที่กำลังบานสะพรั่ง
ภาพจากสถานที่จริง (สุนัขจำลอง)
หลังจากเดินเล่น ถ่ายรูปจนเริ่มเมื่อยขา และท้องเริ่มหิว
ผมมองเห็นร้านกาแฟเล็กๆอยู่ร้านหนึ่งข้างทาง จึงเดินเข้าไปในร้านหาที่นั่งพักหลบอากาศเย็นและกินอะไรรองท้อง
รูปจากสถานที่ในเหตุการณ์วันนั้น
ภายในร้านมีโอบะซัง(คุณป้า)ท่าทางใจดีสองคนช่วยกันอย่างขันแข็ง ในร้านที่เล็กๆแต่ดูอบอุ่นทีเดียว
ผมดูจากรูปภาพที่ติดฝาผนัง เห็นเมนูมีเครื่องดื่ม ชา กาแฟ และขนมโฮมเมดที่ทำจากธัญพีช
ณ ตอนนั้น มีผมเป็นแขกอยู่คนเดียว
เมื่อหาที่นั่งริมหน้าต่างเหมาะๆได้ผมก็สั่งกาแฟร้อน กับขนมเคกฟักทองตามภาพที่เห็นมาทาน
เมื่อหย่อนก้นเสร็จ ผมก็ก้มหน้าก้มตา ไล่ดูรูปในกล้องที่เพิ่งเดินถ่ายไปเมื่อสักครู่
โดยไม่ทันได้สังเกต ได้มีแขกหนุ่มสาวมายืนที่หน้าประตูร้าน
และโผล่หน้าเข้ามาพูดอะไรบางอย่างกับ คุณป้า เป็นภาษาญี่ปุ่น
จากนั้นคุณป้าก็เดินตรงเข้ามาที่ผม
" อาโหน่ ...&%&$%@%&% ..dog ...$$&%%@... dog ....."
คุณป้าพยายามถามอะไรสักอย่างกับผม ซึ่งน่าจะเกี่ยวกับหมาแน่ๆ แต่ผมหาได้ฟังเข้าใจไม่
ดังนั้นผมจึงแสดงภาษากายตอบปฏิเสธ ด้วยความอ่อนโยนราวกับ
"ยายยิ้ม กินหมากหนึ่งคำ ไม่ตอบอะไร ส่ายหัว!"
เกิดเรื่องตรงนี้แหละครับ
พอเห็นผมส่ายหน้าปฏิส่าย คุณป้าจึงรีบเดินไปที่ประตูด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
และพูดบางอย่างกับแขกที่รออยู่หน้าประตู ในลักษณะแสดงความเสียใจและขอโทษ
แล้วแขกหนุ่มสาวทั้งสอง(ที่ผมเพิ่งทันสังเกตตอนนั้นเองว่าเขาจูงหมามาด้วย)
กำลังทำท่าจะเดินจากไป
สมองอันมีรอยหยักน้อยๆของผมจึงประมวลผลอด้วยความรวดเร็วว่า อ้อ!
ตอนแรกแขกสองคนนั้นคงจะถามคุณป้าว่า ลูกค้าที่นั่งอยู่ในร้านจะรังเกียจมั๊ยถ้าจะพาหมาเข้ามาในร้านด้วย
คุณป้าก็เลยมาถามผมว่า ผมชอบหมาหรือไม่
เมื่อผมทำท่าส่ายหน้า คุณป้าเลยต้องไปบอกปฏิเสธลูกค้าที่กำลังรออยู่ว่าแขกด้านใน ไม่ชอบหมา
ไม่รอช้า ผมรีบออกไปที่หน้าร้านบอกกับแขกที่กำลังจะเดินไปจากร้านให้เข้ามาทันทีด้วยท่าทีขออภัย
ครับ คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิของผู้อื่นอย่างมาก
เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับตัวเองว่า
เนื่องจากเราไม่รู้ภาษาบ้านเขา ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไรอยุ่ที่ไหน
เราต้องพยายามสังเกตสิ่งแวดล้อม และปฏิกิริยาคนรอบข้างตลอดเวลา
ความผิดพลาดเล็กๆน้อยของเราก็อาจก่อให้คนอื่นเดือดร้อนได้โดยไม่รู้ตัว
เพื่อนๆที่อยากไปอุดหนุนขนมอร่อยๆของคุณป้า สอบถามเส้นทางเพิ่มเติมได้นะครับ
ร้านนี้อยู่ในที่ชมซากุระที่เงียบสงบและสวยงามมากๆ
มีเรื่องราวประทับใจเกิดขึ้นมากมายเมื่อเราออกเดินทาง
เช่น
รู้ไหม หน้าร้าน Starbuck ที่ญึ่ปุ่นมีอะไร
http://pantip.com/topic/33577688
เพื่อนๆที่อยากติดตามการเดินทางอันเรื่อยเปื่อยแต่ไม่เฉื่อยแฉะ ก็แวะไปพูดคุยกันได้นะครับ
https://www.facebook.com/pages/ลุงหมอขอพักร้อน/760679240696775?ref=hl
เรื่องราวดีๆยังมีไม่รู้จบ ตราบเท่าที่เรายังออกเดินทาง
ขอบคุณมากครับ
[CR] Good Story from Japan:เมื่อผมเกือบทำให้ชาวญี่ปุ่นถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าร้านกาแฟ เพราะความไม่เข้าใจภาษา กับหมาตัวหนึ่ง
เรื่องนี้ เป็นความประทับใจที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งล่าสุด เมื่อฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา
เหตุเกิดที่ร้านกาแฟ/ขนมเล็กๆร้านหนึ่ง แถวๆ Tachikawa
แถวนั้นแทบไม่มีนักท่องเที่ยวต่างถิ่น หรือคนต่างชาติ
ตรงแยกจากถนนหลักลงไปข้างทาง เป็นธารน้ำใส ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นซากุระที่กำลังบานสะพรั่ง
ภาพจากสถานที่จริง (สุนัขจำลอง)
หลังจากเดินเล่น ถ่ายรูปจนเริ่มเมื่อยขา และท้องเริ่มหิว
ผมมองเห็นร้านกาแฟเล็กๆอยู่ร้านหนึ่งข้างทาง จึงเดินเข้าไปในร้านหาที่นั่งพักหลบอากาศเย็นและกินอะไรรองท้อง
รูปจากสถานที่ในเหตุการณ์วันนั้น
ภายในร้านมีโอบะซัง(คุณป้า)ท่าทางใจดีสองคนช่วยกันอย่างขันแข็ง ในร้านที่เล็กๆแต่ดูอบอุ่นทีเดียว
ผมดูจากรูปภาพที่ติดฝาผนัง เห็นเมนูมีเครื่องดื่ม ชา กาแฟ และขนมโฮมเมดที่ทำจากธัญพีช
ณ ตอนนั้น มีผมเป็นแขกอยู่คนเดียว
เมื่อหาที่นั่งริมหน้าต่างเหมาะๆได้ผมก็สั่งกาแฟร้อน กับขนมเคกฟักทองตามภาพที่เห็นมาทาน
เมื่อหย่อนก้นเสร็จ ผมก็ก้มหน้าก้มตา ไล่ดูรูปในกล้องที่เพิ่งเดินถ่ายไปเมื่อสักครู่
โดยไม่ทันได้สังเกต ได้มีแขกหนุ่มสาวมายืนที่หน้าประตูร้าน
และโผล่หน้าเข้ามาพูดอะไรบางอย่างกับ คุณป้า เป็นภาษาญี่ปุ่น
จากนั้นคุณป้าก็เดินตรงเข้ามาที่ผม
" อาโหน่ ...&%&$%@%&% ..dog ...$$&%%@... dog ....."
คุณป้าพยายามถามอะไรสักอย่างกับผม ซึ่งน่าจะเกี่ยวกับหมาแน่ๆ แต่ผมหาได้ฟังเข้าใจไม่
ดังนั้นผมจึงแสดงภาษากายตอบปฏิเสธ ด้วยความอ่อนโยนราวกับ
"ยายยิ้ม กินหมากหนึ่งคำ ไม่ตอบอะไร ส่ายหัว!"
เกิดเรื่องตรงนี้แหละครับ
พอเห็นผมส่ายหน้าปฏิส่าย คุณป้าจึงรีบเดินไปที่ประตูด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
และพูดบางอย่างกับแขกที่รออยู่หน้าประตู ในลักษณะแสดงความเสียใจและขอโทษ
แล้วแขกหนุ่มสาวทั้งสอง(ที่ผมเพิ่งทันสังเกตตอนนั้นเองว่าเขาจูงหมามาด้วย)
กำลังทำท่าจะเดินจากไป
สมองอันมีรอยหยักน้อยๆของผมจึงประมวลผลอด้วยความรวดเร็วว่า อ้อ!
ตอนแรกแขกสองคนนั้นคงจะถามคุณป้าว่า ลูกค้าที่นั่งอยู่ในร้านจะรังเกียจมั๊ยถ้าจะพาหมาเข้ามาในร้านด้วย
คุณป้าก็เลยมาถามผมว่า ผมชอบหมาหรือไม่
เมื่อผมทำท่าส่ายหน้า คุณป้าเลยต้องไปบอกปฏิเสธลูกค้าที่กำลังรออยู่ว่าแขกด้านใน ไม่ชอบหมา
ไม่รอช้า ผมรีบออกไปที่หน้าร้านบอกกับแขกที่กำลังจะเดินไปจากร้านให้เข้ามาทันทีด้วยท่าทีขออภัย
ครับ คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิของผู้อื่นอย่างมาก
เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับตัวเองว่า
เนื่องจากเราไม่รู้ภาษาบ้านเขา ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไรอยุ่ที่ไหน
เราต้องพยายามสังเกตสิ่งแวดล้อม และปฏิกิริยาคนรอบข้างตลอดเวลา
ความผิดพลาดเล็กๆน้อยของเราก็อาจก่อให้คนอื่นเดือดร้อนได้โดยไม่รู้ตัว
เพื่อนๆที่อยากไปอุดหนุนขนมอร่อยๆของคุณป้า สอบถามเส้นทางเพิ่มเติมได้นะครับ
ร้านนี้อยู่ในที่ชมซากุระที่เงียบสงบและสวยงามมากๆ
มีเรื่องราวประทับใจเกิดขึ้นมากมายเมื่อเราออกเดินทาง
เช่น
รู้ไหม หน้าร้าน Starbuck ที่ญึ่ปุ่นมีอะไร
http://pantip.com/topic/33577688
เพื่อนๆที่อยากติดตามการเดินทางอันเรื่อยเปื่อยแต่ไม่เฉื่อยแฉะ ก็แวะไปพูดคุยกันได้นะครับ
https://www.facebook.com/pages/ลุงหมอขอพักร้อน/760679240696775?ref=hl
เรื่องราวดีๆยังมีไม่รู้จบ ตราบเท่าที่เรายังออกเดินทาง
ขอบคุณมากครับ