Update ตอนที่ 2 (Nara-Umeda) >>
http://pantip.com/topic/33558642
คือจริงๆก็เห็นประเทศญี่ปุ่นเป็นกระแสมานานแล้วแหละ ทั้งเรื่องระเบียบ อาหาร แต่สิ่งนึงที่เพิ่งมารู้คือ
อุตสาหกรรมเพลงเค้าใหญ่มาก
หลังจากได้สะสม CD ของศิลปินตะวันตกมาพักนึง เลยรู้ว่าถ้าเป็นแผ่น Japanese Edition จะมี obi เพิ่มมา มี bonus track แถมบางทีก็จะมีอะไรเล็กๆน้อยๆอย่างเช่น sticker สอดมาในแผ่นด้วย แต่ก็แลกกับแผ่นนึงราคาประมาณ 600-700 บาท อาจจะเพราะเค้ายอมจ่ายราคาแพงหน่อย เพื่อแลกกับการได้ track เพลงในอัลบัมที่ดีที่สุด แต่ก็รู้ๆกันอยู่ว่าคนญี่ปุ่นเค้าอุดหนุนของลิขสิทธิ์กันตลอด ศิลปินนั้นๆเลยทำรายได้จากประเทศญี่ปุ่นประเทศกว่า 10% จากยอดขายทั้งหมดด้วยซ้ำ แถมเวลาศิลปินออกทัวร์ก็จะมาญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกๆ เผลอๆลัดคิวฝั่งเมกามาเลย มาโปรโมตอัลบัมทางทีวี ฯลฯ
ทริปนี้วางแผนประมาณต้นปีได้ เพิ่งมาเห็นกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/32805331 แล้วก็คิดว่าเราก็ต้องไปได้ดิ อายุมากกว่าเค้าด้วยซ้ำ 5555 ก็เลยบอกพ่อ สรุปก็ได้ไปกัน 4 คน มีพ่อกับน้อง 2 คน หลังจากนั้นก็หาโปรฯเดินทางถูกๆช่วงนั้นก็เจอ AirAsia ที่ว่าต้องจองโรงแรมไปด้วย แต่ปรากฏว่าหาช่วงเดินทางยากจริงๆ เลยไปลงเอยกับ Japan Great Attraction ของ Cathay Pacific รวมแล้วราคา 150xx บินไปคันไซ บินกลับนาริตะ แต่ต้องไปเปลี่ยนเครื่องฮ่องกง
เลยถือโอกาสแวบออกไปเที่ยวหน่อย (เปลี่ยนเครื่อง 6 ชม.) แต่ตอนหลังมาเจอของการบินไทยราคาพอๆกันแถมบินตรงเลย :/ + เวลาบินแอบแย่หน่อย แต่ก็ช่างมัน ไว้ค่อยแก้ตัวคราวหน้า
หลังจากนั้นก็อ่านพวกกระทู้ในนี้ / ตามเพจต่างๆ จนมาแพลนจริงๆคือไม่ถึง 1 เดือนก่อนออกเดินทาง คร่าวๆคือ
15 เมษา ออกเดินทางเช้า เปลี่ยนเครื่องฮ่องกง แวบออกไป
แพลนคร่าวๆ (ฝั่งคันไซ 3 วัน โตเกียว 3 วัน)
แบบเต็มตามนี้นะ เผื่อใครสนใจ
https://drive.google.com/file/d/0B6duwPiMYWK2WnBTN0JFY1dIWFU/view?usp=sharing
ปล. แอบยัดมาเยอะไปหน่อย แต่ทำไงได้ =3= ได้เที่ยวแค่ 6 วันเอง อยากไปหลายอย่างมาก
อันนี้ขอเกริ่นก่อนนะ เดี๋ยวค่อยลงรูปแยกทีเดียวเลย
เรื่อง Pass สรุปแล้วที่ใช้ก็..
1. มาลองๆคำนวนดูแต่ละเส้นทางใน 3 วันแรกที่ไป ตามเว็ป Hyperdia ปรากฏว่าตก 33xx เยนเอง ถ้าซื้อ Kansai area pass 3 days 5xxx เยนก็ไม่คุ้มอีก เลยใช้ ICOCA ปกตินี่แหละ (ซื้อแบบพ่วงฮารุกะไม่ได้อีก ไม่มีรถไฟเที่ยวดึกๆ T T) แถมยังใช้เป็นบัตรเติมเงินซื้อของได้ด้วย (ร้านสะดวกซื้อรองรับเกือบหมดเลย สะดวกมาก ไม่ต้องคอยนับเหรียญ แถมเติมเงินในร้านได้เลย) แต่ถ้าจะแลกคืน แลกได้แค่ในเขตคันไซนะ
2. Osaka Amazing Pass 2 days ตอนแรกกะจะไม่ซื้อแต่ลองคำนวณดูคร่าวๆ พวก attraction ที่จะไป + รถไฟใต้ดินได้อีก ก็ถือว่าคุ้มแล้ว
3. บัตร The Disney Resort Line เอาไว้ใช้ตอนเดินทางภายในนั้น
อันนี้จากประสบการณ์นะ
1. ซื้อ Pocket WiFi วันละ 179 บาทของ Samurai มา ถือว่าคุ้มนะ อันนี้แชร์กัน 4 คน แบตอยู่ได้ราวๆ ครึ่งวันกว่า แถม data ตลอดทั้งทริปเล่นได้ 10 Gb น่าจะพออยู่แล้วแหละ โรงแรมส่วนใหญ่ก็มี WiFi ให้อยู่ด้วย
2. ตอนแรกคิดว่าต้องใช้ดูแผนที่ด้วย เน็ตอาจจะไม่พอ เลยไปซื้อ b-mobile VISITOR SIM (
http://www.bmobile.ne.jp/english/product.html) ที่โน่นเพิ่ม ราคาประมาณ 1000 บาท แต่ดันพลาดไปซื้อแบบ 1 Gb มา แถมที่โน่นมันมีกฎหมายว่าห้ามใช้เกิน 350 mb ใน 3 วัน ไม่งั้นจะติด FUP 1xx kbps ทางที่ดีที่จะใช้ซิม ซื้อแบบ 14 วัน ความเร็ว 300 kbps จะดีกว่า
3. Google Maps ได้ใช้แน่นอน ก่อนไปก็อาจจะ mark จุดไว้ (ต้อง login ก่อนนะ) มันจะขึ้นเป็นรูปดาวสีเหลือง พอจะไปที่นั้นๆก็เปิดแอพมาเดินตามได้เลย สะดวกมากๆ
4. Google Translate เดี๋ยวนี้แปลภาษาญี่ปุ่นจากรูปได้แล้วนะ โอเคเลยเพราะบางที่มันมีแต่ภาษาญี่ปุ่นจริงๆ ไม่มีอังกฤษแทรกมาเลย ก็ใช้นี่นี่แหละแปลว่ามันหมายถึงอะไร ส่วนอีกอันคือแปลด้วยเสียง function นี้อยู่ในแอพเดียวกันเลย เวลาใช้ก็กดปุ่มกลางแล้วพูดใส่ มันจะ detect ว่าภาษาไหน พร้อมแปลเป็นอีกภาษาให้อัตโนมัติเลย คล้ายๆวุ้นแปลภาษาในเรื่องโดเรมอน เวลาจะคุยกับคนที่นู่นอาจจะลองใช้ดูก็ได้ แต่เค้าอาจจะงงหน่อยตอนให้พูดใส่โทรศัพท์เรา
5. ศึกษาอะไรมาเองก่อนเลยจะดีมาก เพราะการไปสื่อสารกับคนญี่ปุ่นอาจจะยากหน่อย
6. ตู้กดบัตร/เติมเงิน ใช้งานง่ายมากอยู่แล้ว เพราะมีภาษาอังกฤษด้วย
7. ตอนก่อนไปก็แอบกังวลนะ ตอนไปซื้อบัตรที่คนขายอะไรงี้จะยากไหม แต่พอเอาเข้าจริงก็แค่บอกปลายทาง จำนวนคนแล้วก็จ่ายเงินได้เลย บัตรแบบเที่ยวเดียวเวลาผ่าน gate ก็แค่ใส่ช่อง ด้านไหนก็ได้ ตอนขึ้นรถบัสก็เหมือนกัน ขึ้นหน้ารถ-กลางรถ ตามคนส่วนใหญ่เลย ไม่มีปัญหา
8. ร้านสะดวกซื้อจะมี Microwave ให้เราใช้เอง ซื้อเสร็จค่อยเอาไปเวฟ
9. เวลา checkout โรงแรม เหมือนเค้าจะเชื่อใจเราอะว่าไม่ได้ขโมยของอะไรไป ตอน checkout ก็แค่ยื่นกุญแจให้เค้า แล้วก็เดินออกได้เลย (ไม่รู้ที่อื่นเป็นรึเปล่า เพราะให้พ่อแม่ทำตลอด 55555)
10. ที่นี่ให้ถุงสิ้นเปลืองมากมาย เวลาซื้อของฝาก 4 ชิ้นเค้าจะให้ถุงใหญ่มาแล้วก็ใส่ของมั้ง 4 ชิ้นนั้นลงไปรวมทั้งใส่ถุงเล็กๆสำหรับแต่ละชิ้นลงไปด้วย (คงเอาไว้เอาไปฝากคนอื่นอีกที)
11. เวลาขึ้นบันไดเลื่อนนี่เป็นระเบียบจริงๆอย่างที่เคยอ่านมา มันเป็นภาพที่สวยงามมากอะ ฝั่งนึงยืนนิ่ง อีกฝั่งเดินขึ้นไป
12. เวลารอรถไฟเหมือนเค้าจะต่อแถวตรงประตูเลย พอรถมาจริงๆค่อยแยกไปด้านข้าง คือมันโอเคมาก บางที่ก็อาจจะทำแถวให้เอียงไปหน่อย จะได้ให้คนมาต่อได้เยอะขึ้น
13. อย่างที่รู้กันว่าที่นี่เค้าบริการดีมาก พนักงาน information เต็มที่จริงๆ
14. ของแพงมาก แต่ก็มาเที่ยวนี่เนอะ ใช้ๆเงินไปเถอะ เหมือนราคาข้าวมื้อนึงจะตกอยู่ที่ 800 เยน (ตามร้าน)
15. สรุปแล้วพักที่ Toyoko-inn นี่แหละ เห็นใน pantip มีแต่คนแนะนำ พักห้องคู่ตกคนละ 1000 กว่าบาทต่อคืน มีอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นให้ 7.00-9.30 น. ห้องอาจจะแคบไปหน่อยนึง แต่รับรองว่าพื้นที่จัดสรรได้ดีมาก ห้องน้ำนี่เหมือนยกชุดห้องน้ำมาเลย ใช้พื้นที่คุ้มมาก
16. ตอนไปนี่ช่วงกลางเมษาเลยโชคดีหน่อย คนไม่เยอะมาก แต่ก็ถือว่าเยอะอยู่นะ คนญี่ปุ่นก็ยังแวะเวียนมาเที่ยวสวนสนุกอยู่เรื่อยๆ
ที่นี้ก็เริ่มเดินทางเลยละกัน เดี๋ยวรายละเอียดจะเอาไปแทรกในแต่ละวันเลย
ถ้ารูปเยอะจะแยกกระทู้เป็นวันๆนะ น่าจะดีกว่า
ปล. ถ่ายด้วย iPhone 6 ทั้งหมด แล้วก็แต่งมากสุดแค่ auto-enhance แหละ ไม่ได้ใส่ credit ไว้เพราะขี้เกียจ + ภาพไม่ได้สวยอะไรมาก
[CR] ตามไปติ่งถึงญี่ปุ่น ฉบับ Pocket WiFi + iPhone + Google (เกริ่น)
คือจริงๆก็เห็นประเทศญี่ปุ่นเป็นกระแสมานานแล้วแหละ ทั้งเรื่องระเบียบ อาหาร แต่สิ่งนึงที่เพิ่งมารู้คืออุตสาหกรรมเพลงเค้าใหญ่มาก
หลังจากได้สะสม CD ของศิลปินตะวันตกมาพักนึง เลยรู้ว่าถ้าเป็นแผ่น Japanese Edition จะมี obi เพิ่มมา มี bonus track แถมบางทีก็จะมีอะไรเล็กๆน้อยๆอย่างเช่น sticker สอดมาในแผ่นด้วย แต่ก็แลกกับแผ่นนึงราคาประมาณ 600-700 บาท อาจจะเพราะเค้ายอมจ่ายราคาแพงหน่อย เพื่อแลกกับการได้ track เพลงในอัลบัมที่ดีที่สุด แต่ก็รู้ๆกันอยู่ว่าคนญี่ปุ่นเค้าอุดหนุนของลิขสิทธิ์กันตลอด ศิลปินนั้นๆเลยทำรายได้จากประเทศญี่ปุ่นประเทศกว่า 10% จากยอดขายทั้งหมดด้วยซ้ำ แถมเวลาศิลปินออกทัวร์ก็จะมาญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกๆ เผลอๆลัดคิวฝั่งเมกามาเลย มาโปรโมตอัลบัมทางทีวี ฯลฯ
ทริปนี้วางแผนประมาณต้นปีได้ เพิ่งมาเห็นกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/32805331 แล้วก็คิดว่าเราก็ต้องไปได้ดิ อายุมากกว่าเค้าด้วยซ้ำ 5555 ก็เลยบอกพ่อ สรุปก็ได้ไปกัน 4 คน มีพ่อกับน้อง 2 คน หลังจากนั้นก็หาโปรฯเดินทางถูกๆช่วงนั้นก็เจอ AirAsia ที่ว่าต้องจองโรงแรมไปด้วย แต่ปรากฏว่าหาช่วงเดินทางยากจริงๆ เลยไปลงเอยกับ Japan Great Attraction ของ Cathay Pacific รวมแล้วราคา 150xx บินไปคันไซ บินกลับนาริตะ แต่ต้องไปเปลี่ยนเครื่องฮ่องกง
เลยถือโอกาสแวบออกไปเที่ยวหน่อย (เปลี่ยนเครื่อง 6 ชม.) แต่ตอนหลังมาเจอของการบินไทยราคาพอๆกันแถมบินตรงเลย :/ + เวลาบินแอบแย่หน่อย แต่ก็ช่างมัน ไว้ค่อยแก้ตัวคราวหน้า
หลังจากนั้นก็อ่านพวกกระทู้ในนี้ / ตามเพจต่างๆ จนมาแพลนจริงๆคือไม่ถึง 1 เดือนก่อนออกเดินทาง คร่าวๆคือ
15 เมษา ออกเดินทางเช้า เปลี่ยนเครื่องฮ่องกง แวบออกไป
แพลนคร่าวๆ (ฝั่งคันไซ 3 วัน โตเกียว 3 วัน)
แบบเต็มตามนี้นะ เผื่อใครสนใจ https://drive.google.com/file/d/0B6duwPiMYWK2WnBTN0JFY1dIWFU/view?usp=sharing
ปล. แอบยัดมาเยอะไปหน่อย แต่ทำไงได้ =3= ได้เที่ยวแค่ 6 วันเอง อยากไปหลายอย่างมาก
อันนี้ขอเกริ่นก่อนนะ เดี๋ยวค่อยลงรูปแยกทีเดียวเลย
เรื่อง Pass สรุปแล้วที่ใช้ก็..
1. มาลองๆคำนวนดูแต่ละเส้นทางใน 3 วันแรกที่ไป ตามเว็ป Hyperdia ปรากฏว่าตก 33xx เยนเอง ถ้าซื้อ Kansai area pass 3 days 5xxx เยนก็ไม่คุ้มอีก เลยใช้ ICOCA ปกตินี่แหละ (ซื้อแบบพ่วงฮารุกะไม่ได้อีก ไม่มีรถไฟเที่ยวดึกๆ T T) แถมยังใช้เป็นบัตรเติมเงินซื้อของได้ด้วย (ร้านสะดวกซื้อรองรับเกือบหมดเลย สะดวกมาก ไม่ต้องคอยนับเหรียญ แถมเติมเงินในร้านได้เลย) แต่ถ้าจะแลกคืน แลกได้แค่ในเขตคันไซนะ
2. Osaka Amazing Pass 2 days ตอนแรกกะจะไม่ซื้อแต่ลองคำนวณดูคร่าวๆ พวก attraction ที่จะไป + รถไฟใต้ดินได้อีก ก็ถือว่าคุ้มแล้ว
3. บัตร The Disney Resort Line เอาไว้ใช้ตอนเดินทางภายในนั้น
อันนี้จากประสบการณ์นะ
1. ซื้อ Pocket WiFi วันละ 179 บาทของ Samurai มา ถือว่าคุ้มนะ อันนี้แชร์กัน 4 คน แบตอยู่ได้ราวๆ ครึ่งวันกว่า แถม data ตลอดทั้งทริปเล่นได้ 10 Gb น่าจะพออยู่แล้วแหละ โรงแรมส่วนใหญ่ก็มี WiFi ให้อยู่ด้วย
2. ตอนแรกคิดว่าต้องใช้ดูแผนที่ด้วย เน็ตอาจจะไม่พอ เลยไปซื้อ b-mobile VISITOR SIM (http://www.bmobile.ne.jp/english/product.html) ที่โน่นเพิ่ม ราคาประมาณ 1000 บาท แต่ดันพลาดไปซื้อแบบ 1 Gb มา แถมที่โน่นมันมีกฎหมายว่าห้ามใช้เกิน 350 mb ใน 3 วัน ไม่งั้นจะติด FUP 1xx kbps ทางที่ดีที่จะใช้ซิม ซื้อแบบ 14 วัน ความเร็ว 300 kbps จะดีกว่า
3. Google Maps ได้ใช้แน่นอน ก่อนไปก็อาจจะ mark จุดไว้ (ต้อง login ก่อนนะ) มันจะขึ้นเป็นรูปดาวสีเหลือง พอจะไปที่นั้นๆก็เปิดแอพมาเดินตามได้เลย สะดวกมากๆ
4. Google Translate เดี๋ยวนี้แปลภาษาญี่ปุ่นจากรูปได้แล้วนะ โอเคเลยเพราะบางที่มันมีแต่ภาษาญี่ปุ่นจริงๆ ไม่มีอังกฤษแทรกมาเลย ก็ใช้นี่นี่แหละแปลว่ามันหมายถึงอะไร ส่วนอีกอันคือแปลด้วยเสียง function นี้อยู่ในแอพเดียวกันเลย เวลาใช้ก็กดปุ่มกลางแล้วพูดใส่ มันจะ detect ว่าภาษาไหน พร้อมแปลเป็นอีกภาษาให้อัตโนมัติเลย คล้ายๆวุ้นแปลภาษาในเรื่องโดเรมอน เวลาจะคุยกับคนที่นู่นอาจจะลองใช้ดูก็ได้ แต่เค้าอาจจะงงหน่อยตอนให้พูดใส่โทรศัพท์เรา
5. ศึกษาอะไรมาเองก่อนเลยจะดีมาก เพราะการไปสื่อสารกับคนญี่ปุ่นอาจจะยากหน่อย
6. ตู้กดบัตร/เติมเงิน ใช้งานง่ายมากอยู่แล้ว เพราะมีภาษาอังกฤษด้วย
7. ตอนก่อนไปก็แอบกังวลนะ ตอนไปซื้อบัตรที่คนขายอะไรงี้จะยากไหม แต่พอเอาเข้าจริงก็แค่บอกปลายทาง จำนวนคนแล้วก็จ่ายเงินได้เลย บัตรแบบเที่ยวเดียวเวลาผ่าน gate ก็แค่ใส่ช่อง ด้านไหนก็ได้ ตอนขึ้นรถบัสก็เหมือนกัน ขึ้นหน้ารถ-กลางรถ ตามคนส่วนใหญ่เลย ไม่มีปัญหา
8. ร้านสะดวกซื้อจะมี Microwave ให้เราใช้เอง ซื้อเสร็จค่อยเอาไปเวฟ
9. เวลา checkout โรงแรม เหมือนเค้าจะเชื่อใจเราอะว่าไม่ได้ขโมยของอะไรไป ตอน checkout ก็แค่ยื่นกุญแจให้เค้า แล้วก็เดินออกได้เลย (ไม่รู้ที่อื่นเป็นรึเปล่า เพราะให้พ่อแม่ทำตลอด 55555)
10. ที่นี่ให้ถุงสิ้นเปลืองมากมาย เวลาซื้อของฝาก 4 ชิ้นเค้าจะให้ถุงใหญ่มาแล้วก็ใส่ของมั้ง 4 ชิ้นนั้นลงไปรวมทั้งใส่ถุงเล็กๆสำหรับแต่ละชิ้นลงไปด้วย (คงเอาไว้เอาไปฝากคนอื่นอีกที)
11. เวลาขึ้นบันไดเลื่อนนี่เป็นระเบียบจริงๆอย่างที่เคยอ่านมา มันเป็นภาพที่สวยงามมากอะ ฝั่งนึงยืนนิ่ง อีกฝั่งเดินขึ้นไป
12. เวลารอรถไฟเหมือนเค้าจะต่อแถวตรงประตูเลย พอรถมาจริงๆค่อยแยกไปด้านข้าง คือมันโอเคมาก บางที่ก็อาจจะทำแถวให้เอียงไปหน่อย จะได้ให้คนมาต่อได้เยอะขึ้น
13. อย่างที่รู้กันว่าที่นี่เค้าบริการดีมาก พนักงาน information เต็มที่จริงๆ
14. ของแพงมาก แต่ก็มาเที่ยวนี่เนอะ ใช้ๆเงินไปเถอะ เหมือนราคาข้าวมื้อนึงจะตกอยู่ที่ 800 เยน (ตามร้าน)
15. สรุปแล้วพักที่ Toyoko-inn นี่แหละ เห็นใน pantip มีแต่คนแนะนำ พักห้องคู่ตกคนละ 1000 กว่าบาทต่อคืน มีอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นให้ 7.00-9.30 น. ห้องอาจจะแคบไปหน่อยนึง แต่รับรองว่าพื้นที่จัดสรรได้ดีมาก ห้องน้ำนี่เหมือนยกชุดห้องน้ำมาเลย ใช้พื้นที่คุ้มมาก
16. ตอนไปนี่ช่วงกลางเมษาเลยโชคดีหน่อย คนไม่เยอะมาก แต่ก็ถือว่าเยอะอยู่นะ คนญี่ปุ่นก็ยังแวะเวียนมาเที่ยวสวนสนุกอยู่เรื่อยๆ
ที่นี้ก็เริ่มเดินทางเลยละกัน เดี๋ยวรายละเอียดจะเอาไปแทรกในแต่ละวันเลย
ถ้ารูปเยอะจะแยกกระทู้เป็นวันๆนะ น่าจะดีกว่า
ปล. ถ่ายด้วย iPhone 6 ทั้งหมด แล้วก็แต่งมากสุดแค่ auto-enhance แหละ ไม่ได้ใส่ credit ไว้เพราะขี้เกียจ + ภาพไม่ได้สวยอะไรมาก