บุญบั้งไฟตะไลล้าน (บ้านกุดหว้า) Part IV (จบ)

ต่อจาก Part III นะครับ http://pantip.com/topic/33523557

เพื่อนเปี๊ยกยังเล่าให้ฟังอีกว่าลักษณะการขึ้นของตะไล ควรจะต้องขึ้นตรงเป็นแนวดิ่ง ไม่ควรจะขึ้นแล้วเอนไปด้านใดด้านหนึ่ง และควันที่ออกมาจากบั้งไฟก็บอกได้ว่าแต่ละทีมผสมดินปืนแบบใด ถ้าควันออกมาสีดำแสดงว่าเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ แต่ถ้าออกมาสีขาวก็แสดงว่าการเผาไหม้เป็นไปด้วยดี อันนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละทีมแต่ละค่ายว่าจะใช้อะไรสัดส่วนเท่าใด ต่างกันแล้วแต่วิธีการของแต่ละทีม

หลังจากร่มของตะไลล้านนี้ตกลงพื้นเราก็พากันกลับออกไปยังจุดที่ญาตินั่งชมอยู่ด้านนอก

เดินผ่านกลุ่มชาวบ้านที่รวมตัวกันเป็นกลุ่ม ในมือก็มีเงินอยู่หลายๆใบ ก็เป็นงานบุญงานประเพณีวิถีชาวบ้าน ก็ต้องมีบ้าง เพื่อเป็นสีสันและกำลังใจและเพิ่มความสนุกสนานให้กับงานมีสื่อหลายแหล่งตีข่าวพวกนี้ไปโดยที่ไม่รู้ว่านี่คือวิถีของคนท้องถิ่น จะให้เขาเลิกจะไปจับเขาคงไม่ได้ เราควรต้องให้เกียรติพวกเขา เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม จะทำตัวแตกแยกจะทำให้ทุกคนเป็นเหมือนในเมืองเหมือนอย่างที่เราเป็นไมได้ เพราะนี่คือสิ่งที่สืบทอดต่อๆ กันมา
ก็เหมือนกับการจะให้หวยใต้ดินหมดไปจากประเทศนี้ บอกได้คำเดียวว่าไม่มีทางที่จะทำได้ ฉันใดฉันนั้น

ก็เดินต่อไป พลันหันไปเห็นมีกลุ่มชาวบ้านกำลังมุงดูอะไรอยู่ อย่างเดียวที่คิดได้คือ ถ้าไม่โชว์งูก็อับดุลฯ เหมือนตามตลาดนัดหรืองานวัดงานบุญทั่วไป


แล้วก็จริงอย่างที่คิดไว้ มีโชว์งู ก็เหมือนกันเกือบทุกๆ ที่ กว่าจะได้ดูงูก็ยืนกันไปค่อนชั่วโมงครับ งูก็ยังไม่ออกสักที ยืนดูกันไปฟังกันไปนี่แหละ วิถีชาวบ้านต่างจังหวัดที่จะไม่เห็นได้จากเมืองใหญ่เมืองกรุง

ระหว่างเดินทางลัดทุ่งก็เหลือบไปเห็นแกนของบั้งไฟ ค่อนข้างจะใหญ่มาก สภาพที่เห็นคือเป็นสีดำเหมือนถูกเผาไฟ ไหม้เป็นทั่วทั้งอัน เพื่อนเปี๊ยกบอกว่าหลังจากจุดตะไลเสร็จแกนจะถูกเอามาวางกองไว้ เดี๋ยวจะมีรถมารับซื้อไป แกนเหล็กที่เห็นนี้เป็นแกนของตะไลล้านที่จุดไปเมื่อช่วงเช้า (การจุดตะไลของที่นี่ จะจุดตะไลเล็กสิบตะไล แล้วจึงจะจุดตะไลล้านหนึ่งตะไลสลับกันไป)

เพื่อนเปี๊ยกยังบอกอีกว่า ดูไม่ยากเพราะขนาดท่อใหญ่ขนาดนี้ (6”) ต้องเป็นตะไลล้านเท่านั้น จึงถามไปอีกว่า สามารถใช้ท่อที่ใหญ่กว่านี้ได้ไหม เพื่อนเปี๊ยกบอกว่าถ้ามีท่อที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ก็จะมีตะไลที่ใหญ่ตามไปด้วย แต่บ้านเราโดยทั่วไปจะมีท่อใหญ่สุดแค่ 6” เพราะในตลาดความจำเป็นที่จะต้องใช้ท่อขนาดนี้ไม่มี และท่อจำเป็นต้องเป็นท่อเหล็กดำ เหล็กเหนี่ยว เหล็กประเภทอื่นใช้ไม่ได้

อีกหนึ่งประการที่สงสัยคือตอนที่จุดตะไลนั้นมันขึ้นไปได้อย่างไร เพราะจุดที่ไฟมันพ่นออกจากท่อมันมีด้วยกัน 6 ช่องแล้วมันจะหมุนได้อย่างไร เพราะถ้าเกิดมันออกมาพร้อมๆ กันทั้ง 6 ช่องก็ไม่น่าจะทำให้ตะไลหมุนได้ เป็นอะไรที่ยังคงสงสัยจริงๆ ครับ


เพื่อนเปี๊ยกช่วยอธิบายว่า การที่ตะไลหมุนพาตัวมันเองลอยขึ้นไปได้ก็เพราะรูทั้ง  6 รู ที่พ่นไฟออกมานั่นแหละ เป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อนเปี๊ยกชี้ให้ดูที่รูตรงแกนกลางของตะไล ทั้ง 6 รูนี้  โดยระยะห่างของแต่ละรูจะเท่ากันทั้ง 6 รู แต่ตำแหน่งระดับที่เป็นรูจะไม่ตรงกัน คือต้องลองนึกภาพเอาเชือกมาขึงให้ตึงจากแกนซ้ายไปขวา ถ้ารูจะอยู่เท่ากันหมดจะต้องอยู่กลางที่เชือกลากผ่าน แต่ตะไลนี้ไม่ใช่ ตำแหน่งของรูแต่ละรูจะสูงต่ำไม่เท่ากัน ทั้ง 6 รูจะไม่อยู่ในระนาบเดียวกัน ห่างกันเพียงมิลลิเมตร ก็มีผลต่อการขึ้นของตะไลได้

แต่ตำแหน่งที่เริ่มต้นจะเป็นตำแหน่งใด และตำแหน่งถัดไปจะสูงหรือต่ำอันนี้ไม่แน่ใจ แต่คิดว่ามันคงไม่ได้อยู่ในระนาบเดียวกันแน่ๆ แต่โดยทั่วไปถ้าไม่ผิดพลาดน่าจะเป็นประมาณนี้ครับ

เสร็จแล้วก็พากันเดินกลับออกไปด้านนอกบริเวณที่ญาตินั่งอยู่ ออกไปพักสักครู่ แล้วก็ขออนุญาตที่บ้านกลับเข้ามาข้างในบริเวณงานกับเพื่อนเปี๊ยกอีกครั้งรอบนี้อยากได้มุมกว้าง ๆ เพราะเมื่อครู่นี้ที่เก็บภาพตะไลล้านอยู่ใกล้มากเลยไม่มีภาพจังหวะที่ขึ้นในมุมกว้าง แต่ก็ไม่ได้มีตะไลทุกอันที่จะขึ้นไปจนสุดแล้วแตกออกมา บางตะไลอันยังขึ้นไปไม่ถึงสุดก็โค้งตัวลงมาอย่างภาพด้านล่าง ก่อนที่จะแตกตัวแล้วร่มจะกางเสียอีก


เพื่อนเปี๊ยกบอกว่าลักษณะนี้แสดงว่าส่วนผสมบางอย่างยังเผาไหม้ไม่เต็มที่ทำให้การทะยานขึ้นไปยังไม่ถึงที่สุด ช่วงที่กำลังตกลงมานี้ก็ยังเผาไหม้อยู่ อาจเป็นที่ส่วนผสมหรือขั้นตอนการประจุดินปืน

จากนั้นก็เดินไปดูซุ้มที่กำลังเตรียมตะไลล้าน สำหรับรอคิวจุดถัดไป แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงคิวจุด เพราะต้องจุดตะไลเล็กๆ ไปให้ครบสิบตะไลก่อน ตอนนี้ทีมงานกำลังวุ่นอยู่กับการติดร่ม แรกเลยก็สงสัยอยู่ว่าเค้าเอาร่มใส่ไปข้างในได้ยังไง พอมาเห็นขั้นตอนการทำถึงรู้ได้ว่าร่มนี้ติดทีหลัง สวนขั้นตอนการติดร่ม
นี้ก็ไม่ได้ง่ายเลย ทุกขั้นตอนต้องละเอียดและพิถีพิถันเป็นอย่างมาก


เพื่อนเปี๊ยกบอกว่าร่มนี้ก็ต้องทำพิเศษให้ช่างตัดเย็บเฉพาะ ขนาดร่มก็ตามขนาดตะไล ตะไลเล็กร่มก็เล็ก ตะไลใหญ่ร่มก็ใหญ่ ก็เพียงพอที่จะชะลอการหล่นของตะไลได้ ช่วงที่ทีมงานนี้กำลังเร่งมือติดตั้งอยู่ เห็นมีทีมงานอีกทีมได้เข้ามาช่วยด้วย ถามเพื่อนเปี๊ยกว่าไม่เป็นอะไรเหรอต่างทีมกัน เพื่อนเปี๊ยกบอกว่าไม่เป็นไร ทีมไหนทำเสร็จก็มาช่วยอีกทีมได้

ยืนดูอยู่สักพักก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จเห็นพับร่มเสร็จแล้วเอามาประกอบไว้ข้างบนแกนตะไลเรียบร้อยแต่ก็ยังไม่เสร็จเท่านั้น ต้องเอาสลิงมาวัดระยะ เพื่อใช้ยึดกับตัวตะไลที่จะหล่นลงมา อีกทั้งยังต้องเตรียมสายชนวนที่ใช้สำหรับระเบิดร่มอีก ขั้นตอนนี้ละเอียดมากๆ



ผู้ไม่เกี่ยวข้องก็ยืนดูและให้กำลังใจอยู่รอบๆ ส่วนเสื้อสีส้มที่เห็นมุมขวาก็เป็นอีกทีมงานนึงที่เข้ามาช่วยการประกอบร่มและมัดสลิง

บริเวณนี้เป็นตะไลที่มีขนาดใหญ่ เป็นตะไลล้าน ฉะนั้นรอบๆ บริเวณนี้จะต้องปราศจากไฟหรือวัตถุไวไฟ ผู้ที่สูบบุหรี่จะต้องออกไปให้พ้นจากพื้นที่นี้ แต่วันที่ไปก็เห็นมีอยู่สองคนที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ใกล้ๆ หันไปถามเพื่อนเปี๊ยกว่ามายืนสูบบุหรี่ตรงนี้ไม่เป็นอะไรหรือ ใจก็ยังคิดหวาดๆ อยู่ เพื่อนเปี๊ยกบอกว่าเค้าห้าม คนส่วนมาก คนแถวนี้ ทีมงานหรือผู้ที่มากับทีมงานจะรู้แต่คนจากที่อื่น ต่างถิ่นที่ไม่ใช่ทีมงานนั่นแหละที่ไม่รู้ ที่มักจะมายืนดูและสูบบุหรี่อยู่ใกล้ๆ

สักพักก็ได้ยินเสียงจากทีมงานตะโกนออกมาว่าผู้ใดที่สูบยาให้ออกไปจากพื้นที่อย่าเข้ามาใกล้บริเวณนี้ (กลิ่นควันบุหรี่ทำให้ทีมงานได้กลิ่นเลยต้องรีบตะโกนบอก)

หันไปดูในเต้นท้ข้างๆ ทีมงานบางส่วนก็เริ่มหมดสภาพไปตามๆ กัน


ยืนดูมาพักใหญ่ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าทีมนี้จะติดตั้งเสร็จ ชวนเพื่อนเปี๊ยกไปเก็บภาพตะไลเล็กแทน เพื่อนเปี๊ยกบอกให้ไปกลางทุ่งนาน่าจะได้มุมที่ดี เพราะตรงนั้นมีคนยืนถ่ายวีดีโออยู่ด้วย ว่าแล้วจึงพากันลงไปกลางทุ่งนา


บริเวณนี้เป็นกึ่งกลางระหว่างจุดที่ให้นั่งชมและจุดที่กันไว้สำหรับจุดตะไล เป็นทุ่งนากว้างๆ น่าจะมองเห็นตะไลเล็กได้ โดยที่ไม่ต้องเข้าไปใกล้ๆ เหมือนตอนเข้าไปถ่ายตะไลล้าน

หันกลับมา แอบตกใจเล็กน้อย เจอเด็กแนว แนวมากๆ เป็นสิ่งที่จะเห็นได้ทั่วไปในบริเวณงาน “มนุษย์โคลน” เหมือนอย่างที่เพื่อนเปี๊ยกโดนไป แต่ดูแล้วก็น่าจะช่วยให้คลายร้อนได้บ้าง เพราะด้วยโคลนที่เกาะตามร่างกายก็น่าจะทำให้ผิวเย็นได้

นี่แหละครับท้องทุ่งท้องนาบ้านนอกคอกนาก็แบบนี้แหละครับ เป็นอะไรที่บ่งบอกได้ถึงชีวิตที่เรียบง่าย สนุกสนานเฮฮา เท่าที่เห็นส่วนมากๆทุกๆคนที่เล่นโคลนก็ไม่เห็นจะมีคนไหนเลยที่จะไม่ชอบ ทุกคนล้วนเต็มใจที่จะคลุกโคลนและเล่นกับโคลน ได้เห็นสีหน้าและรอยยิ้ม เห็นแล้วก็พลอยมีความสุขไปด้วย



นึกขึ้นได้ว่านี่จุดมาหลายตะไลแล้วใกล้ถึงตะไลที่สิบแล้วที่จะเป็นตะไลล้าน ยังไม่ทันขาดคำ เสียงตะไลล้านก็ดังสนั่นพุ่งตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่เมื่อมองจนจุดที่ขึ้นสุดและระเบิดออกปรากฏว่าร่มไม่กลาง เหมือนจะเป็นตะไลล้านที่ยืนดูอยู่เมื่อครู่ที่ผ่านมานั้น นี่แหละข้อดีของการมีร่ม ทำให้สังเกตง่ายสำหรับคนที่พลาดสายตาไปจากท้องฟ้าเพียงเสี้ยววินาทีก็จะยังเห็นอยู่ว่าอยู่จุดไหนแล้ว และโชคดีอีกที่ตะไลล้านไม่ได้ตกลงมาบริเวณที่จุดและบริเวณที่ชาวบ้านนั่งชมอยู่



เพื่อนเปี๊ยกบอกว่าน่าจะเป็นขั้นตอนที่ประกอบร่มเข้าไปอาจผิดพลาดอะไรบางอย่างหรือเป็นที่ชนวนขณะที่ตะไลระเบิด ชนวนอาจไปไม่ถึงก็เลยทำให้ร่มไม่กางออก

ดูเวลาก็น่าจะได้เวลากลับสักที ป่านนี้ญาติๆ คงรอกันนานแล้ว (คงมีบ่นแน่ๆ ) ระหว่างเดินกลับก็หันไปเห็นถ้วยรางวัลตั้งเรียงรายอยู่ เลยถือโอกาสเก็บมาฝากสักหน่อย แม้จะไม่มีค่ามีราคามากมาย แต่ก็เป็นความภาคภูมิใจของผู้ร่วมงาน
ยังนึกอยู่ว่าวันนี้ยังขาดภาพอะไรอีก นึกไปนึกมาก็หันไปเก็บภาพตะไลที่กำลังขึ้นอีกครั้ง นั่นคือตอนวินาทีที่ตะไลระเบิดแล้วร่มกางออก จังหวะนี้เองที่เรายังไม่ได้เก็บภาพ



และในที่สุดเราก็ได้มา จังหวะที่ตะไลแตกตัวระเบิดออก โชคดีจริงๆได้มาพอดิบพอดี ก็คิดว่าน่าจะครบหมดทุกอย่างแล้วสำหรับการมาเที่ยวงานบุญบั้งไฟตะไลล้านนี้ เสียงตะไลยังถูกจุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ก็หันไปมองพร้อมหยิบกล้องที่อยู่ในมือ แล้วสิ่งที่คิดว่าไม่น่ามีก็ดันมี ... คือตะไลตกลงมาพร้อมร่มที่ไม่กาง แต่ไม่ใช่ไม่กางอย่างเดียว สริงที่ผูกไว้ที่ร่มกับตัวตะไลได้ขาดออกจากกันทำให้ตัวตะไลทิ้งดิ่งลงสู่พื้นเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว ส่วนร่มก็ค่อยๆ ตกตามมาอย่างช้าๆ



และแล้วก็หมดไปอีกหนึ่งภาระกิจของทริปนี้ สามชั่วโมงที่ล้ำค่าจริงๆ

การได้มาเห็น และสัมผัสวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีพื้นบ้านที่สืบทอดต่อๆกันมา มันเป็นอะไรที่พิเศษสุด เป็นสิ่งที่ไม่มีในตำราเรียน ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง เรื่องราวของบั้งไฟตะไลล้าน ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีของคนที่นี่ และมิตรภาพที่ดีสำหรับเจ้าบ้านที่มีให้ มันคงเป็นความประทับใจที่มีไปอีกนานแสนนาน

หวังว่าเรื่องราวที่ได้นำมาเล่าสู่กันฟังนี้ คงจะพอทำให้ใครหลายๆ คนคงเห็นภาพตาม และขอให้ทุกๆ คนช่วยกันรักษาวัฒนธรรมขบนธรรมเนียมประเพณีเหล่านี้ไว้ให้ลูกหลานในวันข้างหน้า ได้มีโอกาสได้เห็นและเรียนรู้

หากข้อมูลที่นำเสนอมานี้ผิดพลาดประการใด ทางผู้เขียนขออภัยมา ณ ที่นี้

ขอขอบคุณที่ติดตาม
สวัสดี
เข้ามาดู

หรือดูในรูปแบบอีบุ๊ค -> http://issuu.com/sattahip/docs/travel_photograph_magazine_vol.4
บุญบั้งไฟตะไลล้าน (บ้านกุดหว้า) Part I  http://pantip.com/topic/33519022
บุญบั้งไฟตะไลล้าน (บ้านกุดหว้า) Part II  http://pantip.com/topic/33519152
บุญบั้งไฟตะไลล้าน (บ้านกุดหว้า) Part III (วันจุด) http://pantip.com/topic/33523557
บุญบั้งไฟตะไลล้าน (บ้านกุดหว้า) Part IV http://pantip.com/topic/33523856
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่