[CR] :: Day 2 :: อันยอง~ แทฮันมินกุก!! Trip 9 days 8 nights @ South Korea

ขอรีกระทู้อีกครั้งแยกเป็นตอนๆ เนื่องจากแอบดองไปนิด แหะๆ เริ่มกันใหม่แบบเป็นตอนๆ รัวๆกันไปเลยทีเดียวเอ้า!!!
ไม่พูดพร่ำเพรื่อยืดเยื้อมากมาย (?) เริ่มต้นวันแรกกันเลยดีกว่า

ส่วนสายการบินและที่พัก กลับไปดูที่ กระทู้นี้ >>> http://pantip.com/topic/33045560/ ประหลาดใจ

:: Day 1 :: http://pantip.com/topic/33213055
:: Day 2 :: http://pantip.com/topic/33213121
:: Day 3 :: http://pantip.com/topic/33213484


Day 2 : เคียงบกกุง ซัมซองดง บุกชอนฮันอก กวางฮวามุน ชองเกชอน


Gyeongbok Palace > Samcheongdong > BukchonHanok Village >Gwanghwamun Plaza >Cheonggye-Cheon

*****ภาพวันนี้นอยส์อาจจะเยอะหน่อยน้าาา T_T มือใหม่หัดถ่ายสุดๆ ฮ่าๆ*****
แถมวันนี้โปรแกรมแน่นสุดๆ ต้องแบ่ง part หน่อยย



            เริ่มต้นเช้าวันที่ 2 ด้วยการตื่นสาย... เบาๆ =_= ตามแผนที่วางไว้คือวันนี้เราจะไปเคียงบกกุง หรือพระราชวังเคียงบกประมาณ 9 โมงเช้า (ไม่ว่าจะทัวร์หรือแบกแพคเกอร์ก็ต้องมาเยือนกันซักครั้งแหละหน่า) จริงๆ ก็ไม่ได้สายมากค่ะ เพราะ 7 โมงกว่าเราก็ตื่นและเตรียมตัวออกจากที่พัก แต่เนื่องจากว่าเมื่อวานตอนกลางคืน พอเรากลับถึงที่พักน้องไข่เน่าดันใช้ไม่ได้ซะงั้น แบบขึ้นกระพริบจากสีเขียวเป็นสีแดง ตอนนั้นไม่รู้จะทำอย่างไร แล้วก็ไม่รู้ว่าถามใครได้ จำได้แต่ว่าเห็นร้าน olleh อยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่เราพักนี่เอง เลยจะลองไปถามกันในเช้าวันนี้

            เราเดินข้ามไปฝั่งมหาวิทยาลัยฮงอิกกันแต่เช้า ร้านรวงยังไม่ค่อยเปิดค่ะ แต่มีคนเดินออกมาทำกิจกรรมจำนวนมาก (ออกมาซื้ออาหารเช้า เปิดร้าน ตั้งบูธโฆษณา คือคึกคักค่ะ แต่ร้านต่างๆ ยังไม่เปิดให้บริการ) ร้าน olleh ก็ยังไม่เปิดค่ะ แต่มีพนักงานมาเปิดร้านแล้ว ต้องรอตอน 10 โมง เราก็เลยเดินหาอะไรกินกันก่อน เพราะตั้งแต่ออกมาจากที่พักก็ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย

            อย่างที่บอกว่ามันค่อนข้างเช้าแล้ว ก็จะมีแต่ร้านเบเกอร์รี่เปิดเช่น Dunkin donut, Starbuck, Burker แล้วก็ร้านอาหารที่อยู่ตามตรอกซอกซอย ไอเราก็ไม่อยากกิน สุดท้ายเดินไปเดินมา จบที่ร้าน bread&co. เพื่อรอร้าน olleh เปิด





            ขนมปังเขาน่าทานน้า อร่อยดีค่ะ >_< แล้วก็ลองสั่ง ice chocolate กับ espresso มา (เพื่อนไม่รู้จะสั่งชาอะไรดี เลยเอาเอสเพรซโซ่มา... สุดท้ายคือกินไม่ได้จ้า ขมเกิน T_T)



            โดยทั่วไปในเกาหลีจะพบกับร้านเบเกอร์รี่ที่ชื่อ Paris Baguette เบเกอร์รี่อร่อยดีค่ะ ชูครีมอร่อยมากกกก (ครีมเขาเบาๆ เนื้อเนียน หอม) เค้กก็อร่อยค่ะ สรุปอร่อยทุกอย่าง มีโลลิป๊อปด้วย ขอโปรดเลย 55 แต่ว่าหาไม่เจอค่ะ เลยเข้าร้าน bread&co. ก็อร่อยไม่แพ้กัน ไปลองกันได้ มีให้เลือกหลากหลายมาก เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปในร้านมาให้ดู จัดร้านสีโทนส้มค่ะ อบอุ่นๆ มีส่วน Out door ให้นั่งได้ เราก็ไปนั่งชิลๆ กันก่อนเลย

             พอถึงเวลาที่ร้าน olleh เปิด เราก็ออกจากร้านแล้วก็เดินกลับไปทางเดิมค่ะ (แต่แอบหลงก่อนรอบนึง ออกผิดทาง ฮาาาา) พอถึงร้าน คุยกับเขาว่าเรามีปัญหาแบบนี้ๆๆๆ ปรากฏว่าเขาทำไม่ได้จ้า ต้องกลับไปทำที่สนามบิน = = แต่ช้าก่อน...อย่าคิดว่าเราจะไม่มีเน็ตใช้ มันมีค่ะ คือพอออกมาจากเกสเฮ้าส์ซักพัก มันก็เริ่มใช้งานได้ปกติ แต่พอกลับไปที่เกสเฮ้าส์มันใช้ไม่ได้ T_T

            สุดท้ายก็ออกจากร้านโดยที่เราทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากเขาแนะนำให้เรากด Reset มัน (แน่นอนว่าเมื่อคืนกดไป 10 รอบ) ไหนๆ พอออกมาข้างนอกแล้วใช้ได้ก็โอเค เราจะมุ่งหน้าไปพระราชวังเคียงบกกันเลย



            *Tip*

          การเดินทางไปพระราชวังเคียงบก (ทุกการเดินทางขออิงตามที่เราไปนะคะ เช่น อันนี้ต้นทางเราคือสถานีฮงอิกค่ะ)

            Hongik University Station(239)>Sinchon>Ehwa Woman University >Ahyeon> Chung jeongno> City Hall >Euljiro 1 ga>Euljiro 3 ga (transfer from line 2 to line 3) Exit rightside 1st car 1st door>Euljiro 3 ga (Line3)>Jongno 3 ga>Anguk>Gyeongbokgung(327)Exit 5

Fare : 1,050 KRW / 28 minutes 10 Stations

          เดินไปเรื่อยๆ การเปลี่ยนสถานีบ้านเขาคล้ายๆ กับบ้านเราค่ะ ถ้าอย่างบ้านเราคงจะต้องนึกถึงจุดที่รถไฟฟ้าใต้ดินกับบนดินมาเจอกันซะมากกว่าการเปลี่ยนสถานีที่สยาม คือมันต้องเดินค่ะ เดินเยอะพอสมควรเพราะมันเหมือนเป็น 2 สถานีที่ตั้งติดกัน ใช้ชื่อเดียวกัน แต่ว่าต้องระวังสักนิด ตรงที่เราต้องดูดีๆ ว่าขบวนรถไฟต้องไปทางซ้ายหรือขวา เพราะมันมีทั้งสถานีที่ต้องขึ้นแยกฝั่งกันเลย (นึกภาพรถไฟฟ้า BTS) หรืออาจจะลงไปทางเดียวกัน แต่ไปแยกข้างล่าง (นึกภาพรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT))

            ในสถานีเองก็ตกแต่งให้รู้สึกถึงความเก่าด้วย (ไม่รู้คิดไปเองมั้ย ฮา) มีการใช้คอนกรีตมาเป็นส่วนประกอบหลักของสถานีนี้ เพื่อให้รู้สึกถึงความเก่าและอินไปกับสถานที่สำคัญด้านบน รวมถึงมีการตกแต่งซุ้มทางออกด้วย คือแกะสลักเป็นรูปนก (มั้ง) บอกตรงๆ ว่าไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร - -





            ทางเดินก็ทำเป็นลายหินค่ะ เหมือนการวางหินเป็นชั้นๆ ลงด้วยปูนเพื่อยึดติดมันไว้ (สร้างความรู้สึกว่าเรากำลังจะย้อนอดีตประมาณน้านนนนน) เดินตามทางไปเรื่อยๆ ดูป้ายชี้ออกไปทางไหนก็เดินตามไปค่ะ เห็นคนเดินไปเยอะๆ โดยเฉพาะชาวต่างชาติด้วยแล้ว ก็เดาได้ว่าทางนี้แน่นอน

            พอโผล่ขึ้นมาบนดินก็ถึงกับงง โผล่มาตรงไหนเนี่ย???? =_= แต่ได้ยินเสียงประกาศอยู่ไกลๆ เราก็เดินตามเสียงกับคนไป ตอนแรกกะไปให้ทันการแสดงทหารเปลี่ยนเวรยาม แต่ว่าไปถึงนี่ก็ 10 โมงกว่าแล้ว (การแสดงเริ่มตั้งแต่ 10:00 – 15:00) แต่รู้สึกว่าเวลาไม่ตรงกับที่ดูมานิดหน่อย พอวิ่งไปถึงด้านหน้าที่มีการขายตั๋วเพื่อเข้าชมพระราชวังก็เห็นคนใส่ชุดสีแดงสีน้ำเงิน (ชุดข้าหลวงสมัยนั้น) กำลังเดินออกไปหน้าประตู ก็เลยตัดสินใจไปถ่ายรูปด้านหน้ากันก่อนค่อยกลับเข้าไปเดินเล่นในพระราชวังแล้วออกมาดูตอนที่เขาเดินกันอีกรอบ





(ฝั่งตรงข้ามของเคียงบกกุงคือกวางฮวามุน เราจะกลับมาเดินกันตอนเย็นอีกรอบ)



            บัตรผ่านมีให้เลือกทั้งซื้อสำหรับเข้าที่นี่ที่เดียวกับแบบเหมารวม 5 พระราชวัง กับ 1 สวน หลังจากที่ลองคำนวณค่าใช้จ่ายแล้ว (เพราะเราจะไป 2 วัง 1 สวน) ซื้อแบบ 5 วังคุ้มกว่าในราคา 10,000 วอน ถ้าซื้อแยกจะแพงกว่านิดหน่อย นอกจากนี้เราก็ซื้อไกด์บุ๊คมาด้วย ถ้าจำไม่ผิด 500 วอนมั้ง



            เดินชมพระราชวังกันดีกว่า ชิวค่ะชิว อีกชั่วโมงกว่าถึงจะมีการแสดงอีกรอบ น่าจะเดินทัน นี่คือภาพแต่ละจุดที่เราเดินไปชมกันค่ะ ขอบรรยายสั้นๆ ละกัน ก็มีที่ประทับของพระเจ้าเซจง (บัลลังก์) มีอาคารต่างๆ เรือนยกสูงติดริมน้ำ เรือนกลางสระบัว แล้วก็เรือนไม้ที่อยู่ด้านใน

            น่าแปลกที่ไม่เห็นกรุ๊ปทัวร์คนไทยเลย มีแต่คนจีน คนญี่ปุ่น นักเรียนเกาหลี แล้วก็คนไทยที่เดินทางมาเที่ยวเอง ได้ยินภาษาไทยเป็นระยะๆ อบอุ่นเหมือนอยู่บ้านเลยทีเดียว =w=







ชมนก ชมไม้ไปตามเรื่องงงงงง แหงนมองดูโครงสร้างของอาคารแต่ละหลัง ความทรงจำตอนเรียน history of art นี่หลังไหลมาเลยทีเดียว สถาปัตยกรรมในยุค...บลาๆๆ (ตอนนี้ลืมแล้ว ฮ่าๆ)



ถึงจะไม่มีทัวร์ไทย แต่ก็มีคนไทยที่มาเที่ยวกันเองอยู่ไม่น้อย แจกยิ้มบ้าง ไม่ใช่อ่อยนะ ประมาณว่ารู้นะคุยไรกัน ฮ่าๆๆๆๆ





มันใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ปกติมากับทัวร์ก็ได้เดินนิดๆ แล้วก็พาเข้าพิพิธภัณฑ์ใกล้ๆ แต่คราวนี้เดินเอง เดินมันจนทั่ว ขานี่แทบลากไปที่อื่นไม่ไหวแล้ว ร้องไห้



จริงๆที่เดินทั่วไม่ใช่อะไรนะ หาพระตำหนักกลางน้ำเนี่ยแหละ =.,= เอาซะขาลากเลยทีเดียว เพื่อนพามาติ่งซีรี่ย์ (ถ้าจำไม่ผิดคืออิปาร์ค - -)
นี่งายยยยยย แต่ไม่ให้เดินไปถึงตัวตำหนักนะ เลยต้องถ่ายจากด้านนอกเท่านั้น



ส่วนตำหนักนี้โดยส่วนตัวคิดว่าสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกก ไม้ทั้งหลัง



            หลังจากเดินชมความงามอยู่พักใหญ่ มองนาฬิกาพบว่าใกล้เวลาเริ่มการแสดงแล้วเลยค่อยๆ เดินกลับกัน แต่ขอแวะเข้าห้องน้ำก่อนเพราะเหลือเวลาอีกตั้ง 15 นาที แต่พอเข้าห้องน้ำเสร็จก็ได้ยินเสียงประกาศแว่วมาไกลๆ พร้อมกับเสียงเครื่องดนตรี เหลือเวลาอีกตั้งนานนะกว่าจะถึงเวลาที่บอกไว้ในเว็บ ไหงเริ่มก่อนซะงั้นอ่า TOT ณ จุดนี้วิ่งกันอีกแล้วค่าาาาาาาาาาา วิ่งไปพ่วงเป้หนักๆ ไป ไหนจะกล้องที่ห้อยอยู่ที่คอ (ซึ่งแบตกำลังจะหมดลงเพราะลืมชาร์ตแบต -*-)

            วิ่งบวกเดินเร็ว (กับหอบรัวๆ) ไปจนถึงด้านหน้าประตูวังก็เห็นคนใส่ชุดแบบที่เห็นในซีรีย์เกาหลียืนอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ พร้อมกับคนที่ยืนมุงอยู่รอบนอกของเชือกที่กั้นไว้ ตรงไหนมีช่องว่างเราก็เข้าไปยืนเลยจ้า อาจจะมีแทรกๆ เบียดๆ นิดหน่อย

            บรรยายง่ายๆ ก็คงบอกได้ว่าเป็นกลุ่มคุณลุงไว้หนวดในชุดสีแตกต่างกัน มีของอยู่ในมือต่างกัน ทั้งของที่เป็นอาวุธ เครื่องดนตรีที่เล่นประกอบพิธี ยืนประกอบพิธี แล้วก็เดินเรียงแถวกันไปยังด้านหน้าประตูวัง คาดว่าจะออกไปยืนให้ถ่ายรูปเหมือนกับตอนแรกที่เรามาทันเห็น

บรรยายแย่ไปรึเปล่าน้าาาา ดูภาพกันเลยดีกว่า









ทิ้งท้ายครึ่งเช้าด้วยอปป้าชุดแดง แฮ่ๆ กว่าจะได้ขนาดนี้คงต้องฝึกกันหนักน่าดู แต่อปป้าไม่หล่อ บัยยยส์ เค้าล้อเล่น

ยังมีใครตามอ่านอยู่บ้างมั้ยน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ร้องไห้ ร้องไห้ ร้องไห้ ฮือๆๆ
ชื่อสินค้า:   South Korea
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่