สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เยอรมันเองมีข้อได้เปรียบญี่ปุ่นหลายอย่างครับ เอาแค่ภูมิศาสตร์นี่ก็เหนือกว่ามากแล้ว ญี่ปุ่นเป็นประเทศเกาะ การจะส่งออกสินค้าอะไรไปต่างประเทศต้องใช้เรือเป็นหลัก ในขณะที่เยอรมันเป็นภาคพื้นทวีป ขนส่งสินค้าไปขายในยุโรปได้ทั่ว
อีกประการคือนโยบาย ญี่ปุ่นแทบจะไม่ยอมรับผู้อพยพเข้าประเทศตนเลย ส่งผลให้เมื่อญี่ปุ่นมีเศรษฐกิจใหญ่โต ค่าครองชีพสูงขึ้น ก็หาคนญี่ปุ่นที่จะมาทำงานระดับล่างรวมไปถึงงานผลิตได้น้อยลง ในขณะที่เยอรมันรับคนอพยพเข้าไปตลอด แม้คนเยอรมันจะไม่ค่อยอยากทำงานระดับล่างๆเหมือนคนญี่ปุ่น แต่คนอพยพเหล่านี้ไม่ได้รังเกียจที่จะเป็นแรงงานระดับล่างตามไปด้วย แถมคนอพยพเหล่านี้ก็ไม่ได้มีค่านิยมการออมเงินเหมือนคนเยอรมันและญี่ปุ่น ต่างก็ใช้เงินกันตามปกติไม่ได้ประหยัดอะไรมากมาย ส่งผลให้การผลิตของเยอรมันดำเนินได้ไม่มีชะงัก และการใช้จ่ายหมุนเวียนเศรษฐกิจของเยอรมันก็ดำเนินไปได้ตลอดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้การมีแรงงานก็ส่งผลต่อการลงทุน ญี่ปุ่นประชากรลดลงและไม่อยากทำงานล่างๆ การจะจ้างคนญี่ปุ่นผลิตต่อไปมันก็เท่ากับเพิ่มต้นทุนในการผลิตสินค้าไปด้วย ทำให้หลังๆญี่ปุ่นต้องออกมาลงทุนนอกประเทศในประเทศที่ยากจนกว่าเป็นหลัก เพราะค่าแรงถูกและมีแรงงานเหลือเฟือ แม้ว่าดูๆอาจจะเป็นเรื่องดีที่ญี่ปุ่นสามารถนำเงินมาต่อเงิน ใช้เงินทำงานหาเงินมาเพิ่มให้เรื่อยๆ แต่รายได้ที่มาจากการลงทุนนอกประเทศนั้นก็ต้องแบ่งส่วนไปหลายฝ่าย ทั้งแรงงานต่างประเทศ ภาษีของประเทศที่ไปลงทุน งบประมาณการขยายกิจการต่างๆ ทำให้รายได้กำไรที่มาถึงประเทศแม่จริงๆไม่ได้มากมายอะไรเท่าใดนัก ในขณะที่เยอรมันยังลงทุนสร้างโรงงานและผลิตสินค้าในประเทศตัวเองเป็นหลัก ลงทุนในต่างประเทศน้อยกว่า แต่รายได้ที่กลับคืนมาก็ได้สู่เยอรมันเองแทบจะทั้งหมด
อีกประการคือนโยบาย ญี่ปุ่นแทบจะไม่ยอมรับผู้อพยพเข้าประเทศตนเลย ส่งผลให้เมื่อญี่ปุ่นมีเศรษฐกิจใหญ่โต ค่าครองชีพสูงขึ้น ก็หาคนญี่ปุ่นที่จะมาทำงานระดับล่างรวมไปถึงงานผลิตได้น้อยลง ในขณะที่เยอรมันรับคนอพยพเข้าไปตลอด แม้คนเยอรมันจะไม่ค่อยอยากทำงานระดับล่างๆเหมือนคนญี่ปุ่น แต่คนอพยพเหล่านี้ไม่ได้รังเกียจที่จะเป็นแรงงานระดับล่างตามไปด้วย แถมคนอพยพเหล่านี้ก็ไม่ได้มีค่านิยมการออมเงินเหมือนคนเยอรมันและญี่ปุ่น ต่างก็ใช้เงินกันตามปกติไม่ได้ประหยัดอะไรมากมาย ส่งผลให้การผลิตของเยอรมันดำเนินได้ไม่มีชะงัก และการใช้จ่ายหมุนเวียนเศรษฐกิจของเยอรมันก็ดำเนินไปได้ตลอดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้การมีแรงงานก็ส่งผลต่อการลงทุน ญี่ปุ่นประชากรลดลงและไม่อยากทำงานล่างๆ การจะจ้างคนญี่ปุ่นผลิตต่อไปมันก็เท่ากับเพิ่มต้นทุนในการผลิตสินค้าไปด้วย ทำให้หลังๆญี่ปุ่นต้องออกมาลงทุนนอกประเทศในประเทศที่ยากจนกว่าเป็นหลัก เพราะค่าแรงถูกและมีแรงงานเหลือเฟือ แม้ว่าดูๆอาจจะเป็นเรื่องดีที่ญี่ปุ่นสามารถนำเงินมาต่อเงิน ใช้เงินทำงานหาเงินมาเพิ่มให้เรื่อยๆ แต่รายได้ที่มาจากการลงทุนนอกประเทศนั้นก็ต้องแบ่งส่วนไปหลายฝ่าย ทั้งแรงงานต่างประเทศ ภาษีของประเทศที่ไปลงทุน งบประมาณการขยายกิจการต่างๆ ทำให้รายได้กำไรที่มาถึงประเทศแม่จริงๆไม่ได้มากมายอะไรเท่าใดนัก ในขณะที่เยอรมันยังลงทุนสร้างโรงงานและผลิตสินค้าในประเทศตัวเองเป็นหลัก ลงทุนในต่างประเทศน้อยกว่า แต่รายได้ที่กลับคืนมาก็ได้สู่เยอรมันเองแทบจะทั้งหมด
ความคิดเห็นที่ 5
ผมคือหนึ่งในผู้อพยพในคุณ zodiac แต่ต้องบอกผู้อพยพหรือคนเยอรมันเองก็ใช่ว่าจะมีเงินใช้จ่ายเพราะแค่ภาษีประจำปีก็
ปาเข้าไป47% แถมซื้อของสำหรับสินค้าฟุ้มเฟือยก็ปาไป 19%
จากการทำงานในประเทศเยอรมันนี สิ่งที่ผมเรียนรู้ว่าทำไมเศรษฐกิจเยอรมันนียังคงไปได้ดีและต้องไปอุ้มประเทศเพื่อนบ้านอย่างกรีซ
คือ อันดับแรกการได้เปรียบค่าเงินยูโรที่มีการรักษาไว้ในระดับที่ต่ำทำให้ประเทศเยอรมันนีซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกได้เปรียบ
เพราะสามารถส่งออกได้มาก ส่วนญี่ปุ่นรัฐบาลใหม่พยายามอย่างมากในการทำให้เงินเยนต่ำ แต่เหมือนจะช้าไปเพราะการเมืองของญี่ปุ่น
มีการเปลี่ยนรัฐบาลมาหลายรัฐบาลแต่ที่เยอรมันนีมีนายกหญิงเหล็กที่
คนเยอรมันเรียกชื่อเธอสั้นๆว่า แองจี้ และพรรคของเธออยู่มายาวนานติดต่อเป็นสมัยที่สามแล้ว
สอง ช่วงเศรษฐกิจ ตกต่ำมาก หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ รัฐบาล และสหภาพแรงงานมีความเข้มแข็ง มีการต่อรองกันที่จะให้มีการทำงานในเวลาที่ยืดหยุ่น
โดยยอมรับค่าจ้างน้อยลง แต่หลีกเลี่ยงการเชิญออกจากงาน จะไม่เหมือนกับประเทศอเมริกา หรือญี่ปุ่น ที่ช่วงเศรษฐกิจไม่ดีตัวเลข
คนตกงานเยอะมาก
สาม ระบบการศึกษาที่เข็มแข็ง เด็กนักเรียนมัธยมปลายสามารถไปเรียนสายอาชีพและทำงานเป็นนักศึกษาฝึกงาน โดยอยู่กับบริษัทใหญ่ โดยการรับรองจากกระทรวงศึกษา
โดยเด็กจบสายอาชีพพวกนี้มีทักษะที่ดีมาก และสามารถไต่เต้าเป็นผู้บริหารโดยไม่จำเป็นต้อง
มาจากมหาวิทยาลัย ทำให้ทักษะในฝีมือดี คุณภาพสินค้าก็ดี ตาม
สี่ เนื่องจากวัฒนธรรมของคนเยอรมันเอง ที่ค่อนข้างกลัวกับความไม่แน่นอน (คนเยอรมันทำประกันภัยเยอะมาก) เพราะจะเห็นว่ารัฐบาลและบริษัทใหญ่ๆ ช่วง
วิกฤตจะพยายามลดหนี้ ต่างจากประเทศอื่นๆ ที่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจโดย
ให้กู้มากขึ้น ระดับหนี้สินก็มากขึ้น
จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นทำให้ประเทศเยอรมันนียังคงมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจอยู่
ปาเข้าไป47% แถมซื้อของสำหรับสินค้าฟุ้มเฟือยก็ปาไป 19%
จากการทำงานในประเทศเยอรมันนี สิ่งที่ผมเรียนรู้ว่าทำไมเศรษฐกิจเยอรมันนียังคงไปได้ดีและต้องไปอุ้มประเทศเพื่อนบ้านอย่างกรีซ
คือ อันดับแรกการได้เปรียบค่าเงินยูโรที่มีการรักษาไว้ในระดับที่ต่ำทำให้ประเทศเยอรมันนีซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกได้เปรียบ
เพราะสามารถส่งออกได้มาก ส่วนญี่ปุ่นรัฐบาลใหม่พยายามอย่างมากในการทำให้เงินเยนต่ำ แต่เหมือนจะช้าไปเพราะการเมืองของญี่ปุ่น
มีการเปลี่ยนรัฐบาลมาหลายรัฐบาลแต่ที่เยอรมันนีมีนายกหญิงเหล็กที่
คนเยอรมันเรียกชื่อเธอสั้นๆว่า แองจี้ และพรรคของเธออยู่มายาวนานติดต่อเป็นสมัยที่สามแล้ว
สอง ช่วงเศรษฐกิจ ตกต่ำมาก หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ รัฐบาล และสหภาพแรงงานมีความเข้มแข็ง มีการต่อรองกันที่จะให้มีการทำงานในเวลาที่ยืดหยุ่น
โดยยอมรับค่าจ้างน้อยลง แต่หลีกเลี่ยงการเชิญออกจากงาน จะไม่เหมือนกับประเทศอเมริกา หรือญี่ปุ่น ที่ช่วงเศรษฐกิจไม่ดีตัวเลข
คนตกงานเยอะมาก
สาม ระบบการศึกษาที่เข็มแข็ง เด็กนักเรียนมัธยมปลายสามารถไปเรียนสายอาชีพและทำงานเป็นนักศึกษาฝึกงาน โดยอยู่กับบริษัทใหญ่ โดยการรับรองจากกระทรวงศึกษา
โดยเด็กจบสายอาชีพพวกนี้มีทักษะที่ดีมาก และสามารถไต่เต้าเป็นผู้บริหารโดยไม่จำเป็นต้อง
มาจากมหาวิทยาลัย ทำให้ทักษะในฝีมือดี คุณภาพสินค้าก็ดี ตาม
สี่ เนื่องจากวัฒนธรรมของคนเยอรมันเอง ที่ค่อนข้างกลัวกับความไม่แน่นอน (คนเยอรมันทำประกันภัยเยอะมาก) เพราะจะเห็นว่ารัฐบาลและบริษัทใหญ่ๆ ช่วง
วิกฤตจะพยายามลดหนี้ ต่างจากประเทศอื่นๆ ที่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจโดย
ให้กู้มากขึ้น ระดับหนี้สินก็มากขึ้น
จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นทำให้ประเทศเยอรมันนียังคงมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจอยู่
แสดงความคิดเห็น
ทำไมเยอรมันไม่เจอ "วิกฤติเงินออมเกินจำเป็น" เหมือนญี่ปุ่นครับ?
แต่ทำไมประเทศคู่แฝดอย่างเยอรมัน เป็นประเทศที่คนออมเงินเก่งเหมือนกัน ไม่ค่อยสุรุ่ยสุร่ายเหมือนกัน ( เยอรมันวันนี้แบก EU ทั้งกลุ่มไว้ ) ทำไมไม่เจอปัญหาเดียวกับญี่ปุ่นครับ